บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 946 รู้สึกเหมือนนางอยากจะคลอดแล้ว
เรื่องของหยู่เหวินจุนกับฉู่หมิงหยางมอบหมายให้เจ้าห้า หยวนชิงหลิงก็ไม่สนใจแล้ว
ตอนนี้อายุครรภ์มากขึ้น หยวนชิงหลิงก็ไม่ยอมนอนอยู่กับเตียงเพื่อพักผ่อน ถ้ายืนหยัดอดทนได้ก็จะออกไปเดินเล่น
ทุกวันหลังกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว เดินเล่นในลานบ้าน กลางวันก็เดินเล่น กลางคืนรอเจ้าห้ากลับมาแล้ว ก็เล่นกับพวกลูกๆในลานบ้านอีกชั่วครู่
แม่นมสี่ได้เตรียมการเรื่องนางผดุงครรภ์และแม่นมไว้แล้ว แต่ว่า มีคุณย่าหยวนอยู่ด้วย ทางด้านนางดุงครรภ์ไม่ต้องเป็นกังวลมาก เพียงแค่มีไว้เป็นผู้ช่วยเท่านั้น
ที่จริงแม่นมสี่กังวลมากว่าจะเหมือนครรภ์แรกที่ต้องผ่าตัด ช่างน่าตกใจจริงๆ แต่ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าแตะต้องมีดผ่าตัดแล้ว จะทำอย่างไร
ยังดี เมื่อถามพระชายารัชทายาทแล้ว พระชายารัชทายาทบอกว่าสามารถคลอดโดยธรรมชาติได้ ทำให้นางวางใจได้บ้าง แต่ก็จะสะเพร่าไม่ได้ ทุกครั้งที่มีเวลาว่างก็จะคอยอยู่ข้างกาย
ตอนนี้หยวนชิงหลิงยังสามารถพยุงท้องอันใหญ่โตเข้าวังได้ ไปพูดคุยอยู่เป็นเพื่อนไท่ซ่างหวง
ฉางกงกงตอนนี้สามารถเดินได้หลายก้าวแล้ว แต่ว่าเวลาส่วนมากยังคงนิ่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น บางครั้งไท่ซ่างหวงจะเข็นเขาไปเดินเล่นในลานบ้าน
หลังจากโสวฝู่ลงจากตำแหน่งแล้ว วันเวลาที่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนข้างกายก็มากขึ้น บวกกับเซียวเหยากงที่มาเสริมบรรยากาศสอดแทรกบทตลกอยู่เสมอ ชีวิตในตำหนักฉินคุนมีความสุขขึ้นมาก
วันนี้หยวนชิงหลิงเข้าวัง ก็เห็นตาเฒ่าทั้งหลายกำลังเล่นการพนันกัน นี่เป็นเรื่องที่แปลกใหม่
แต่ว่า เมื่อสอบถามชัดเจนแล้วก็ทำหน้าไม่ถูก พวกเขาเอาท้องของนางมาท้าพนันกัน เซียวเหยากงบอกหนึ่งคน ไท่ซ่างหวงบอกสองคน โสวฝู่จึงบอกว่าสามคน เดิมพันด้วยเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึง ร่ำรวยกันจริง
เซียวเหยากงแอบถามหยวนชิงหลิง “กี่คนกันแน่”
หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “เซียวเหยากง ข้าพูดได้แค่ว่า ท่านมีโอกาสชนะสามในสิบ”
“นั่นเท่ากับไม่ได้พูด”เซียวเหยากงรู้สึกเบื่อมาก
หยวนชิงหลิงอยู่กินอาหารกลางวันในตำหนัก ทันใดนั้นไท่ซ่างหวงก็พูดขึ้นมาว่า “สองวันก่อนอ๋องชินเฟิงอันได้สั่งให้คนส่งจดหมายมา บอกว่ารอให้เจ้าคลอดแล้ว จะส่งลูกเสือน้อยมาให้”
หยวนชิงหลิงหลุดหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง “จวนอ๋องฉู่จะเปิดสวนสัตว์แล้ว”
ไท่ซ่างหวงพยักหน้า “ถูกต้อง ไทเฮาหลงของแคว้นต้าโจวก็บอกแล้ว ถ้าหากเจ้ามีท้องที่สาม ลูกหงส์ของนางก็คงจะออกจากรังได้แล้ว ”
หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมา “จริงหรือ จะเป็นการน่าขำไปหน่อยหรือไม่ หงส์ก็ออกมาแล้ว ข้าไม่เคยเห็นหงส์มาก่อนเลย”
เซียวเหยากงไม่เข้าใจ “ทำไปไทเฮาหลงของแคว้นต้าโจวต้องมอบให้นางด้วย”
“ข้าไม่ใช่นางเสียหน่อย จะไปรู้ได้อย่างไรว่าทำไมต้องมอบให้”ไท่ซ่างหวงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉยแวบหนึ่ง และพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงเอ่ยยิ้มๆว่า “ข้าไม่มีทางคลอดทั้งที่สามแล้ว ลำบากมามากเกินพอแล้ว”
โสวฝู่ดื่มน้ำแกง เอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “สามารถให้กำเนิดได้ทำไมไม่ให้กำเนิด ถ้าหากข้าให้กำเนิดได้ แน่นอนว่าต้องไม่มีวันหยุดแน่”
“ถุย”เซียวเหยากงได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกว่าโสวฝู่ไม่รู้จักอายเสียจริง
หัวเราะเบิกบานอยู่ในวังเป็นเวลาครึ่งวัน หยวนชิงหลิงก็ออกจากวัง แต่ก็รู้สึกรอคอยลูกเสือน้อยอยู่บ้าง
ตกกลางคืนก็เล่าให้หยู่เหวินเห้าฟัง หยู่เหวินเห้ารู้สึกหดหู่มาก “ตอนที่ข้าเกิด ก็ไม่เห็นมีใครมอบหมาป่าหิมะมอบเสือให้ แม้แต่คนก็ไม่กลับมาดูสักครั้ง ลำเอียงจริงๆ”
“นี่ท่านต้องหึงหวงแม้แต่กับลูกตัวเองเชียวหรือ ”หยวนชิงหลิงไม่อยากเห็นท่าทีหวงก้างของเขา ราวกับเด็กที่แย่งขนมไม่ได้
“ไม่ได้หึงหวง ก็แค่เด็กน้อยไร้เดียงสา มีดีอะไรกัน”
“ลูกสาวท่านได้ลูกชาย ท่านไม่ดีใจหรือ”หยวนชิงหลิงถามยิ้มๆ
หยู่เหวินเห้าตอนนี้ก็ไม่กล้าจะมั่นใจนัก “ต้องเป็นลูกสาวจึงจะดี”
“บางทีอาจเป็นไปได้ อย่างไรเสียก็มีความหวังครึ่งหนึ่ง”หยวนชิงหลิงถอนหายใจ เห็นท่านพี่ซิ่วกับพี่หญิงเป่าแล้ว ก็อยากจะให้กำเนิดไหลฝูเสียจริง
“ใช่แล้ว เรื่องของหยู่เหวินจุนเป็นอย่างไรบ้าง”หยวนชิงหลิงนึกขึ้นมาได้กะทันหัน
หยู่เหวินเห้าบอกว่า “ได้ควบคุมตัวไว้ก่อน ให้คนจับตาดูเอาไว้ ดูสิว่ามีจุดที่น่าสงสัยหรือไม่ และอยากจะเห็นว่าผู้ชายที่เหมือนกับข้าราวกับแกะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไหนกันแน่ ถ้าหากเรื่องนี้มีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง คนคนนี้ต้องปรากฏตัวออกมาแน่”
หลังจากกินอาหารค่ำ หยวนชิงหลิงรู้สึกร่างกายเหนื่อยล้า จึงไม่ได้ออกไปเดินเล่น นอนตั้งแต่หัวค่ำ
อากาศค่อยๆหนาวเย็นลงแล้ว วันนี้ตอนตื่นนอนขึ้นมามีหิมะตก หิมะได้ปูเป็นพรมบางๆไปทั่วลานบ้าน แม้จะไม่ได้ประดับให้สวยงามดูบริสุทธิ์ที่สุดแต่ก็มีความงดงามของตัวมันเอง
แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยง ในวังก็ส่งข่าวมา บอกว่าไท่ซ่างหวงได้หกล้มในลานบ้านพร้อมกันกับฉางกงกง ไท่ซ่างหวงได้รับบาดเจ็บที่ขา หยวนชิงหลิงจึงให้คนเตรียมรถม้า จะเข้าไปในวัง
เพราะท้องที่ใหญ่มากแล้ว ฉะนั้น แม่นมสี่ หมันเอ๋อ อะซี่ทั้งสามคนก็ออกไปพร้อมกันด้วย เพิ่งจะถึงหน้าประตู หรงเยว่กับฮูหยินเหยาก็มาถึง ได้ยินว่าไท่ซ่างหวงเกิดเรื่องขึ้น ทั้งสองก็ตามเข้าวังไปพร้อมกันด้วย
ยังดี บาดแผลของไท่ซ่างหวงกับฉางกงกงไม่รุนแรงนัก ฉางกงกงหกล้มได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ถลอกไปเล็กน้อย มีเลือดไหลนิดหน่อย หมอหลวงได้จัดการเรียบร้อยแล้ว
ไท่ซ่างหวงขาแพลง ข้อเท้าบวมขึ้นมา หยวนชิงหลิงตรวจดูชั่วครู่ กระดูกไม่มีการแตกหัก แต่ว่าการได้รับบาดเจ็บที่เอ็นและกระดูกต้องใช้เวลารักษานาน โดยเฉพาะการหกล้มในคนแก่ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ฉะนั้น หยวนชิงหลิงมีคำสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดว่าช่วงนี้ห้ามลงจากเตียงเพื่อเดินเหิน
ไท่ซ่างหวงมองเห็นฮูหยินเหยา ก็มีท่าทีเป็นห่วงขึ้นมาเล็กน้อย“สบายดีหรือไม่”
ฮูหยินเหยาน้ำตารื้นขึ้นมา คุกเข่าอยู่กับพื้น “ด้วยบุญวาสนาของไท่ซ่างหวง ทุกอย่างล้วนดีมาก”
“ก็ดีแล้ว ลุกขึ้นเถอะ”ไท่ซ่างหวงถอนหายใจเบาๆแทบจะไม่ได้ยิน
ฮูหยินเหยาลุกขึ้นมา “เพคะ ไท่ซ่างหวงรักษาตัวด้วย”
ไท่ซ่างหวงพึมพำ “หิมะแรกนี้ เป็นนิมิตหมายอันดี”
“ใช่แล้ว ถ้าหากท่านระวังซะหน่อย นิมิตหมายที่ดีของหิมะแรกนี้ก็ยังคงมีอยู่”หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆ
นางลุกขึ้นมา ค่อยๆทุบไปที่เอวทีหนึ่ง
“ทำไม่ ไม่สบายหรือ”หรงเยว่เดินเข้าไปประคองนางเอาไว้ “เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่”
“เมื่อยเอวเล็กน้อย”หยวนชิงหลิงบิดเอวเบาๆหนึ้งครั้ง “คาดว่าคงเป็นเพราะเมื่อครู่ก้มเอวนานไปหน่อย รู้สึกหนักอึ้งถ่วงลงมา”
ไท่ซ่างหวงเห็นเช่นนี้ ก็พูดว่า “เจ้าพักผ่อนสักครู่ก่อน อย่าเพิ่งรีบออกจากวัง ค่ำหน่อยให้เจ้าห้าเข้าวังมารับเจ้า”
“ได้ รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ”หยวนชิงหลิงนวดที่เอว กระดูกสันหลังส่วนเอวรู้สึกหนักอึ้งปวดเมื่อยมาก
ตั้งแต่ฉางกงกงไม่สบายเป็นต้นมา ในตำหนักฉินคุนก็มีเต๋อกงกงคอยกำกับดูแล เขาพาหยวนชิงหลิงไปยังตำหนักด้านข้างด้วยตนเอง ให้หยวนชิงหลิงพักผ่อนในนี้
แม่นมสี่เองก็รู้ทุกซอกทุกมุมในที่นี้ราวกับฝ่ามือตนเอง รู้จักจัดการด้วยตนเอง ส่งหยวนชิงหลิงเข้าแล้วก็ให้นางนอนลง แล้วก็เตรียมของกินให้นาง
หรงเยว่กับฮูหยินเหยาย่อมอยู่เป็นเพื่อนข้างกายนาง วันนี้มีหิมะแรกตกลงมา อารมณ์ของทุกคนต่างก็ดีนัก โดยเฉพาะฮูหยินเหยาที่ไม่ได้เข้าวังมานานแล้ว ในใจย่อมรู้สึกทอดถอนใจ
อาหารการกินของตำหนักฉินคุนประณีตมาก เพราะว่าปกติแล้วไท่ซ่างหวงไม่ค่อยอยากอาหารเสียเท่าไหร่ ฉะนั้นอาหารและของว่างที่ทำในตำหนักล้วนกลั่นมาจากความคิดทั้งหมดที่มีเพื่อให้ถูกปากไท่ซ่างหวง หลังจากกินข้าวแล้วก็ดื่มรังนก นั่นเรียกว่าความชุ่มชื้น
หยวนชิงหลิงนอนอยู่ชั่วครู่ ก็ลุกขึ้นมา “ข้าจะไปห้องน้ำ”
“ข้าจะไปกับท่าน”แม่นมสี่ยื่นมือออกไปประคองนาง หมันเอ๋อเอารองเท้ามาให้นางใส่ หยวนชิงหลิงรู้สึกทรุดโทรมมาก “ตอนนี้ข้าเหมือนคนไร้ประโยชน์ แม้แต่รองเท้าก็ใส่เองไม่ได้แล้ว”
“ข้าก็อยากจะเป็นคนไร้ประโยชน์เช่นนี้”หรงเยว่เอ่ยอย่างหดหู่
คนที่อยู่ด้วยต่างก็หัวเราะฮ่าฮ่า หยวนชิงหลิงมองใบหน้าของนางที่งดงามที่สุดและยังมีสีหน้าหดหู่ที่สุด หัวเราะจนท้องปวดเมื่อยขึ้นมา คลึงผ้าห่มและมีแม่นมสี่กับหมันเอ๋อประคองออกไป
ฮูหยินเหยานวดที่ใบหน้า มองแผ่นหลังที่ดูงุ่มง่ามของหยวนชิงหลิง “ทำไมข้าจึงรู้สึกเหมือนนางใกล้จะคลอดแล้ว”