บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนบอกว่ายินดีจะสอนตน ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับผงะไป
จากนั้น ดวงตาที่ตอนแรกเบิกโตเหมือนกระดิ่งทองแดงออกสีแดงเล็กน้อย ตาชื้นแล้ว
รู้กันดีว่าแม้แต่ตอนที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมารดาของฉินอวิ๋นตี๋ตัดขาดเลิกให้เงินเขา เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจและแบ่งปันอย่างไม่ขี้เหนียวแม้แต่นิด ทำให้เขากลับหลั่งน้ำตา
หลายปีมานี้ในที่สุดก็มีคนรู้ใจเข้าใจข้าสักที ทั้งยังยินดีแบ่งปันสุดยอดทักษะเช่นนี้ให้กับเขา!
ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนกำราบฉินอวิ๋นตี๋อยู่หมัดจริงๆ
ตอนแรกได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มีวาสนาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายในใจฉินอวิ๋นตี๋ยังมีความสงสัย ถึงอย่างไรในแดนศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ก็มีอัจฉริยะมากมาย ใครบ้างไม่ใช่คนหยิ่งยโส
การนำบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิกลับมาสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิทธิ์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้านั่งตำแหน่งนี้จะกำราบทุกคนได้หรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเลือกในรอบหนึ่งร้อยปี ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะผลัดเปลี่ยนในรอบพันปี
ถ้าไม่มีกำลังรบกับเสน่ห์เลิศล้ำมากพอจะทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้ แม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำนาจแค่ร้อยปีเท่านั้น ท้ายที่สุดไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
ศิษย์สายตรงอย่างฉินอวิ๋นตี๋มีผู้อาวุโสสูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพหนุนหลังอยู่ เลยไม่ค่อยยำเกรงบุตรศักดิ์สิทธิ์เท่าไร
ในทางตรงกันข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้แย่งชิงสิบท่านที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับต้องดึงตัวศิษย์สายตรงพวกนี้ไป
……..
เรื่องที่เสิ่นเทียนรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้กระจายไปทั่ววงในศิษย์สายตรงแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นแค่วัตถุมงคลประดับไว้เท่านั้น
แต่ตอนนี้ฉินอวิ๋นตี๋ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ยินดีจะยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์
ถึงอย่างไร…ก็ได้ประโยชน์จากเขา
ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยสีหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่ ได้จริงๆ รึ”
เสิ่นเทียนกระอักกระอ่วน ก่อนจะเริ่มอธิบายให้ฉินอวิ๋นตี๋ฟัง “ได้แน่นอน เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”
เขาวนลูกประคำ ให้จิ่วเอ๋อร์เรียกมวลน้ำเล็กออกมาอีก
เสิ่นเทียนชี้ไปที่มวลน้ำนี้ “ศิษย์น้อง น้ำนี่รวมขึ้นจากอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนสองสิ่ง”
แม้ฉินอวิ๋นตี๋จะฟังไม่เข้าใจแต่ก็ยังพยักหน้า “อืม ต้นกำเนิดหยินและหยาง”
เสิ่นเทียนกล่าว “สายฟ้าจะแยกน้ำเป็นอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนใหม่”
ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “สายฟ้าแยกน้ำเป็นต้นกำเนิดหยินหยางรึ”
ฉินอวิ๋นตี๋สามารถปรับแก้ยันต์ระเบิดอัสนีโดยไม่มีใครชี้แนะได้ นี่ต้องเป็นคนฉลาดระดับใด แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดหยินและหยางที่ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอกคืออะไรกันแน่
แต่ถ้าคิดในมุมการฝึกบำเพ็ญเซียนแล้ว หากเกี่ยวโยงถึงหยินหยางจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ!
อ้อ มิน่าจู่ๆ ค่ายกลยันต์ระเบิดอัสนีของข้าครั้งก่อนถึงมีอานุภาพสูงขึ้น
ฉินอวิ๋นตี๋เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ได้เปิดโลกในพริบตาเลย
ที่แท้ข้าก็เคยก้าวข้ามไปมหามรรคหยินหยางโดยไม่รู้ตัวนี่เอง!
…..
ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจแล้ว! มันคือการใช้วิธีลับกระตุ้นต้นกำเนิดหยินและหยางก็จะผสานหยินและหยางได้ และระเบิดเป็นอานุภาพที่แข็งแกร่งใช่หรือไม่”
ต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยาง หยินหยางผสานกัน
เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย เขาพูดอะไรออกมากัน
แต่ถ้าตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย ฟังดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร!
นำไฮโดรเจนและออกซิเจนผสมกันในปริมาตรสองต่อหนึ่งแล้วจุดระเบิด มันก็คือไฮโดรเจนและออกซิเจนผสานกันนั่นแหละ!
คิดๆ แล้ว ถ้าจะต้องแก้ไขอธิบายให้ชัดเจน ก็อาจจะต้องให้ฉินอวิ๋นตี๋เรียนเคมีเสริมทั้งวัน
ด้วยความจนปัญญา เสิ่นเทียนเลยตัดสินใจขอโทษอาจารย์เคมี “ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่ไม่ต้องใช้วิธีลับกระตุ้น แค่ใช้เพลิงอัสนีจุดนิดเดียวก็พอ อันนี้ข้าเองก็ค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจตอนฝึกวิชาอัสนีธาตุน้ำเช่นกัน”
ฉินอวิ๋นตี๋พยักหน้า “สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีมหาโชคอยู่กับตัวจริงๆ ศิษย์น้องละอายใจ มุมานะบากบั่นศึกษามาหลายเดือน ก็ยังไม่พบความลึกลับของต้นกำเนิดหยินหยางเลย
ศิษย์พี่แค่ฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ตระหนักหลักการอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ เช่นนี้ได้เลย ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำมีประโยชน์กับทุกสรรพสิ่งและไม่แก่งแย่ง รูปร่างมันเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากของทุกสรรพสิ่ง แก่นรากของทุกสรรพสิ่งให้กำเนิดหยินหยาง
ดังนั้นน้ำจึงเป็นโครงสร้างของต้นกำเนิดหยินและหยาง สามารถกลายเป็นหยินหยาง ละเอียดลึกซึ้ง ละเอียดลึกซึ้งยิ่ง! ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านเหมือนจะเจอมหามรรคเป็นเอกแห่งยุคแล้ว!
บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิหยินหยางทวนวารีที่ไม่เคยมีมาก่อน!”
เห็นฉินอวิ๋นตี๋ยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหงื่อแตกอย่างบ้าคลั่ง
ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำดั่งไร้ขีดจำกัด ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากทุกสรรพสิ่ง แก่นรากทุกสรรพสิ่งแบ่งเป็นหยินหยาง ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจากไฟฟ้าแยกสังเคราะห์น้ำก็คือต้นกำเนิดหยินและต้นกำเนิดหยาง
เวร ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ แม้แต่ข้าคงเชื่อไปแล้ว
จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า ฉิน ลาวัวซีเย[1] อวิ๋นตี๋!
เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกบำเพ็ญเซียน!
……
ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพลันรู้สึกสบายไปทั้งตัว
เขามีสีหน้าดีใจ รีบควักกระจกจากอกเสื้อมาส่องไปที่ศีรษะ
เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วงรัศมีเดิมทีมีเพียงแสงสีเขียวอ่อนๆ วนเวียนอยู่ ตอนนี้แสงสว่างจ้าขึ้นมาก
แสงสีเขียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วนเวียนตามวงรัศมีและย้อมสีมันไปด้วย
ไม่นานวงรัศมีของเสิ่นเทียนก็มีลวดลายสีเขียวอ่อนเพิ่มมา ส่วนเขารู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนเช่นกัน
เป็นคนโชคดีสบายกว่าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าใช้มันสมองเอาความรู้ที่คืนอาจารย์ไปแล้วกลับมา
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนจู่ๆ ก็เอากระจกออกมาส่อง ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับงุนงงเล็กน้อย ศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไรกัน
หรือจะเตือนข้าว่าอย่าลุ่มหลงเพราะสิ่งที่ได้มาชั่วครู่
ให้หากระจกมา กล้ามองข้อเสียและจุดบกพร่องตรงๆ คิดทบทวนถึงจุดที่ต้องแก้ไขหรือ
ซี้ด สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!
ฉินอวิ๋นตี๋ทำใจสงบลง “ศิษย์พี่ให้อภัยด้วย ข้าตื่นเต้นมากเกินไป”
เสิ่นเทียนดูกระจกพลางพูดแบบขอไปที “ช่วยไม่ได้ ศิษย์น้องตื่นเต้นก็ดี”
ฉินอวิ๋นตี๋ใช้สายฟ้าแยกน้ำไปพลางถามด้วยความแปลกใจไปพลาง “ศิษย์พี่ ท่านตั้งชื่อกระบวนท่านี้แล้วรึยัง”
เสิ่นเทียนขบคิดแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อไฟฟ้าแยกน้ำทำให้เกิดอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ถ้าอย่างนั้นก็ชื่ออัสนีเทพไฮดรอกไซด์แล้วกัน!”
ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “อัสนีเทพหยินหยางรึ ก็ได้ จะได้เนียนคล้ายๆ กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างได้ง่ายๆ”
เสิ่นเทียนงุนงง
เสิ่นเทียนถอนหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ
ช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมา ตัดสินใจว่าเพิ่มดวงชะตาเสร็จแล้วจะกลับนั้น
ฉินอวิ๋นตี๋พลันมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์พี่ รับข้าไปด้วยเถอะ!”
อะไรนะ
เสิ่นเทียนสะดุ้งแล้ว “จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ภายภาคหน้าจะต้องก่อตั้งกองกำลังหลักเฉพาะ อวิ๋นตี๋ยินดีที่จะติดตามศิษย์พี่ ขอแค่ศิษย์พี่ประคับประคองอวิ๋นตี๋บ้าง สอนพื้นฐานของมหามรรคหยินหยางทวนวารีให้อวิ๋นตี๋บ้างก็พอ เห็นแก่ที่เราลุ่มหลงในศิลปะเหมือนกัน ศิษย์พี่ท่านรับข้าไปด้วยเถอะ!”
สารภาพตามตรง พอเห็นความจริงใจของฉินอวิ๋นตี๋แล้ว เสิ่นเทียนใจอ่อน
เป็นศิษย์สายตรงผู้ยิ่งใหญ่กลับลดตัวต่ำลงมาเช่นนี้…
ก็ได้!
ไอ้พวกนั้นโกหกทั้งเพ ความจริงคือเสิ่นเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งในใจ
ถ้าข้าชี้แนะฉินอวิ๋นตี๋ให้พัฒนาไปในแนวทาง ‘ระเบิดมือ’ ‘ปืนกลสายฟ้า’ หรือ ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กพลังงานวิญญาณ’
เช่นนั้นก่อนที่ฉินอวิ๋นตี๋จะค้นพบสิ่งเหล่านี้จะเห็นภาพโชคลิขิตก่อนหรือไม่
ไม่พบโชคลิขิต ข้าก็จะลองสร้างโชคลิขิตขึ้นเอง
ซี้ด อันนี้ลองดูได้!
…………………………………
[1] ลาวัวซีเย มาจากชื่อ อ็องตวน ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์เคมีชาวฝรั่งเศส