บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 191 บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ…ก็ร้าวเช่นกัน
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 191 บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ…ก็ร้าวเช่นกัน
บทที่ 191 บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ…ก็ร้าวเช่นกัน!
บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเห็นเสิ่นเทียนแล้ว
ตอนนี้เสิ่นเทียนถูกทุกคนล้อมไว้เพราะสังหารผู้สูงศักดิ์ยุงโลหิตได้
คนหนุ่มสาวรอบๆ มองเสิ่นเทียน ดวงตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส ผู้หญิงมากมายมองส่งด้วยแววตาหยาดเยิ้ม
ทันใดนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือปวดร้าวแล้ว
เกียรติยศและความเลื่อมใสนี้ เดิมทีควรจะเป็นของเขา!
เพราะข้ามาช้าไปครู่เดียว โอกาสในการรูดบารมีจึงหายไปหรือ
เจ้าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ฝึกบำเพ็ญในฝ่ายตนดีๆ แต่จู่ๆ มาทำอะไรในถิ่นของแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกัน
ยามนี้ จิตอาฆาตในใจบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือไหลเชี่ยวกราก
จิ่วเอ๋อร์ข้างกายเสิ่นเทียนสั่นไหวเล็กน้อย “นายท่าน ผู้แข็งแกร่งคนนั้นมีจิตอาฆาตหนักมาก”
จิตอาฆาตรึ
เสิ่นเทียนมองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ มุมปากกระตุกทีหนึ่ง
ขับรถม้าชนยอดค่ายกลของข้า ข้าไม่เรียกร้องเอาเงินก็ถือว่าดีแล้ว
เจ้ายังมีจิตอาฆาตอีกรึ
ทว่าเมื่อเห็นวงสีทองที่ออกสีแดงเหนือศีรษะบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือแล้ว เสิ่นเทียนคิดว่าตนควรจะวางมาดให้ดูดีหน่อย ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้านี่ดีกว่า
ไปยั่วยุสร้างความคับแค้นอะไรนั่น อ่อนหัดเกินไป
เอาผลประโยชน์แล้วหนี ฟาร์มเงียบๆ สิคือราชธรรม!
ตอนนี้แก้วิกฤติในเมืองภูเขาดำแล้ว ได้คัมภีร์ในมือผู้สูงศักดิ์ยุงโลหิตมาแล้ว
ขณะเสิ่นเทียนกำลังจะไปนั้นพลันตาเป็นสมาธิ ไปเห็นร่างอ่อนแอร่างหนึ่งพุ่งไปหาบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ
“ไอ้สารเลว ตอนแรกก็แก้วิกฤติได้แล้ว แต่เจ้ามาชนยอดค่ายกลพัง! ไอ้สารชั่วไร้ยางอาย เจ้าคืนชีวิตท่านแม่ข้ามานะ!”
นั่นเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานตอนต้น อายุยังไม่มาก
ในเมืองภูเขาดำก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะบำเพ็ญเซียนที่พานพบได้ยากในร้อยปี
พรสวรรค์ไม่ด้อยไปกว่าเสิ่นเอ้าเท่าไร
น่าเสียดายก็แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานตัวเล็กๆ เล็กจ้อยเกินไปจริงๆ!
นัยน์ตาบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเผยประกายเหี้ยมโหด
ข้าเพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณ อยู่ในช่วงอารมณ์ไม่มั่นคงที่สุด ก่อนหน้านี้ก็โดนเสิ่นเทียนกระตุ้นมาอย่างหนักครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้โดนเสิ่นเทียนแย่งรูดชื่อเสียงบารมีไปก่อน ทั้งยังรถคว่ำ
บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกำลังคับอกคับใจ!
จิตมารใกล้จะออกมาแล้ว
ตอนนี้ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานตัวเล็กๆ ยังกล้าลงมือกับเขา ยั่วยุเขาหรือ
ไม่รู้จักเป็นตายจริงๆ คิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าคนรึ
โทสะพุ่งขึ้นมาในใจ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือยกมือขวาขึ้นช้าๆ และชี้ไปยังชายหนุ่มคนนั้น
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่ตอนแรกขี่กระบี่บินพุ่งมาทางบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็โดนพลังไร้รูปพันธนาการไว้กลางอากาศ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือดีดนิ้วไปอย่างเฉยชา ไอกระบี่ประกายแสงดาราสายหนึ่งพุ่งออกไปทันที
ไอกระบี่นี้พุ่งไปยังจุดตันเถียนของชายหนุ่ม ถ้าโดนยิง แม้จะรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ตันเถียนแตกก็กลายเป็นคนพิการเช่นกัน
ชายหนุ่มจ้องบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ ม่านตาจะปริแตก ไม่เกรงกลัวความตายแม้แต่น้อย
เขากับมารดาต่างประคับประคองชีวิตกันมา กว่าจะได้โชคลิขิตก้าวบนเส้นทางบำเพ็ญเซียนไม่ใช่ง่ายๆ เฝ้ารอจะให้มารดามีชีวิตที่ดี
ปรากฏว่ากลับเจอเหตุการณ์ยุงโลหิตบุกเมือง ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มก็ใช้กระบี่บินสังหารศัตรูอยู่บนหอเมืองสุดชีวิตมาตลอด กว่าจะยืนหยัดจนท่านเซียนจับผู้สูงศักดิ์ยุงโลหิตได้ไม่ใช่ง่ายๆ
ขณะจะแก้วิกฤติได้แล้วนั้นกลับมีไอ้โง่คนหนึ่งจู่ๆ โผล่มา ควบรถชนยอดค่ายกลมังกรเขียวเทพสวรรค์ ทำให้ฝูงยุงโลหิตบุกเข้ามา!
มารดาของชายหนุ่มก็อยู่ใกล้ๆ หอเมืองเช่นกัน จึงโดนยุงโลหิตตัวหนึ่งสูบโลหิตบริสุทธิ์ไปมากกว่าครึ่ง เมื่อเห็นมารดาหายใจรวยรินช่วยกลับไม่ได้แล้วนั้น
ชายหนุ่มหมดอาลัยตายอยาก จะไปทนไหวได้อย่างไร
ตายก็ตายสิ!
น่าเสียดายก็แต่ข้าเหลียงเฉินไร้ความสามารถ ระบายความแค้นให้มารดาไม่ได้!
หากมีภพหน้า ข้าสาบานว่าจะล้างแค้นนี้!
เหลียงเฉินหลับตาลงช้าๆ ทว่าความเจ็บปวดที่คาดคิดไว้กลับมาช้าเหลือเกิน
สายฟ้าสีทองสายหนึ่งขยับวูบผ่านตรงหน้าเหลียงเฉิน ทำลายไอกระบี่ดาราที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือดีดออกมาแตกกระจาย
เสิ่นเทียนสวมเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร ใบหน้ายิ้มอ่อนโยน “บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ ไม่ต้องลงมือโหดขนาดนี้ก็ได้กระมัง!”
เฉินจงเทียนมีสีหน้าเป็นสมาธิเล็กน้อย กระบวนท่าเล็กๆ อย่างกุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนเมื่อครู่นี้ออกมือได้แม่นยำมาก ถึงอย่างไรการจะสกัดไอกระบี่ฉับพลันได้กลางอากาศก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างน้อยต้องมีความสามารถในการคาดการณ์ที่แข็งแกร่ง!
บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือพูดอย่างเฉยชา “คนนี้กระทำความผิดกับข้า โจมตีข้า หรือว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะปกป้องคนนี้กัน”
เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย “คนนี้เจ็บปวดจากการเสียมารดาไป โกรธแค้นก็พอจะให้อภัยได้ ศิษย์พี่เฉินไว้หน้าแซ่เสิ่น ไว้ชีวิตเขาได้หรือไม่”
สารภาพตามตรง สภาพจิตใจของคนใหญ่คนโตเช่นนี้ของเฉินจงเทียนพบเห็นได้บ่อยมากไม่ว่าในโลกใดก็ตาม สำหรับคนใหญ่คนโตแล้ว คนธรรมดาระดับล่างไม่จำเป็นต้องสนใจเลย
แต่เสิ่นเทียนทะลุมิติมาไม่นาน จึงมีทัศนคติสามอย่างต่างกับเฉินจงเทียน แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลคือวงรัศมีของเจ้าเด็กเหลียงเฉินนี่เป็นสีแดงอมแสงสีเขียว
แม้สำหรับเสิ่นเทียนในตอนนี้ วงรัศมีเช่นนี้จะไม่ถือว่าเป็นบุตรแห่งโชคแล้ว แต่ช่วยๆ ไว้ก็ผูกวาสนาดีได้ ไม่จำเป็นต้องปล่อยไปเลย!
เสิ่นเทียนยื่นเถากลืนกินเซียนออกมาจากมือขวาก่อนดึงเหลียงเฉินกลับมาจากอากาศ แก้พันธนาการให้
จากนั้นเสิ่นเทียนถาม “ไม่ทราบว่าน้องชายมีชื่อว่าอะไร มารดาเจ้ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ บางทีข้าอาจจะลองรักษาดูได้”
เหลียงเฉินซาบซึ้งจนกระบอกตาร้อนผ่าว “ท่านเซียน ท่านแม่ยังมีลมหายใจอยู่ หากท่านเซียนช่วยท่านแม่ข้าได้ เหลียงเฉินจะยินดีเป็นวัวเป็นม้า ตอบแทนบุญคุณยิ่งใหญ่ของท่านเซียน!”
เสิ่นเทียนเก็บชุดเกราะ จากนั้นตามเหลียงเฉินลงจากกำแพงเมือง จนมาพบหญิงชราคนหนึ่งนอนอยู่ริมกำแพงเมือง อายุราวห้าสิบปีขึ้นไป ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
บนตัวนางมีบาดแผลชัดเจนแห่งหนึ่ง แทบจะทะลวงทั้งร่าง แต่กลับมีโลหิตไหลออกมาน้อยมาก เพราะโลหิตจำนวนมากโดนยุงโลหิตที่ทำให้นางบาดเจ็บสาหัสดูดไปแล้ว
หญิงชราหายใจรวยรินจะขาดใจได้ทุกเมื่อ
เสิ่นเทียนสะเทือนใจเล็กน้อย จึงรีบมาข้างๆ หญิงชราและส่งพลังวิญญาณเข้าไปปรับเสถียรภาพลมหายใจของนางให้มั่นคง
เหลียงเฉินมองเสิ่นเทียนกับหญิงชราด้วยความตึงเครียด เขารู้ว่ามารดาตนเสียเลือดมากเกินไป ต่อให้ส่งพลังวิญญาณเข้าไปตลอด อย่างมากก็ยื้อชีวิตมารดาไว้ได้ในช่วงสั้นๆ เท่านั้น
ถ้าจะช่วยมารดาไว้จริงๆ ต้องใช้สมุนไพรวิญญาณล้ำค่า แต่สมุนไพรวิญญาณระดับนั้น เหลียงเฉินจะหามาได้ในเวลาเพียงชั่วครู่หรือ
ตอนนี้ได้แต่ดูที่วิธีของท่านเซียนแล้ว
เสิ่นเทียนส่งพลังวิญญาณเข้าไปในร่างหญิงชรา หลังจากแก้อาการบาดเจ็บแบบหยาบๆ ไว้ก่อนแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก
ปากของยุงโลหิตทะลวงร่างหญิงชรา สำหรับคนธรรมดาแล้วนี่เป็นอาการบาดเจ็บที่มากถึงแก่ชีวิต แต่สำหรับเสิ่นเทียนมันไม่ได้แก้ยากเลย
เขาหยิบขวดหยกเล็กมาจากอกเสื้อ ปิดฝาออกและเทของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานออกมาหยดหนึ่ง จากนั้นป้อนของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานใส่ปากหญิงชราภายใต้สายตาสงสัยในชีวิตของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ
ทันใดนั้นหญิงชราเปล่งแสงสีเขียวสว่างจ้าทั้งตัว บาดแผลน่าสยดสยองในตอนแรกสมานตัวอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน
ส่วนใบหน้าซีดขาวปานกระดาษนั้นก็กลับมามีเลือดฝาดอย่างรวดเร็วยิ่ง มีโลหิตใหม่กำเนิดขึ้นอย่างเร็วไว กระทั่งเส้นผมขาวดอกเลาของนางตอนนี้ยังเป็นสีดำขึ้นมา
นางดูเหมือนสาวขึ้นยี่สิบปีในเวลาเพียงครู่เดียว!
…….
เหลียงเฉินมีสีหน้าดีใจใหญ่ ก่อนคุกเข่าตรงหน้าเสิ่นเทียนจะโขกศีรษะ “ขอยคุณที่ท่านเซียนช่วยชีวิต! จากนี้เหลียงเฉินยินดีเป็นวัวเป็นม้าตอบแทนท่านเซียน!”
เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มบางๆ “เจ้าเด็กโง่ เพราะใจกตัญญูของเจ้าทำให้ข้าซึ้งใจต่างหาก จะขอบคุณก็ขอบคุณตัวเจ้าเองเถอะ! ทุกอย่างคือชะตา บางทีอาจเป็นเพราะเจ้ามีชะตากับข้าก็ได้!”
ขณะพูดอยู่นั้น เสิ่นเทียนยังแผ่พลังไร้รูปออกมาดันร่างเหลียงเฉินที่คุกเข่าอยู่ขึ้น
จะว่าไป ความรู้สึกของผู้สูงส่งนอกโลกนี่ก็เยี่ยมเลยจริงๆ ยกนิ้วโป้งเลย!
ทว่าตอนนี้เอง เสียงทุกข์ใจของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือดังขึ้นบนฟ้า “ศิษย์พี่เสิ่น นี่คือของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานที่ได้มาจากผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์บรรลุนิพพาน เจ้ากลับป้อนให้คนธรรมดาคนเดียวรึ”
เสิ่นเทียนมองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเหมือนมองคนโง่ “ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานคือยา ยาไม่ใช่ไว้รักษารึ”
แววตาคุ้นเคย คำพูดคุ้นหู และการกดให้จมดินอันคุ้นเคย
ตอนนี้ สมองของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือปรากฏภาพที่เห็นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีกครั้ง เขารู้สึกว่าสมองบวมขึ้นจนเจ็บนิดๆ ดวงจิตดรุณเหมือนจะแตก!
บุตรแห่งโชคสมควรตายนี่ เอาแต่ใจตัวเองมาก ริษยามาก!
ทันใดนั้นก็มีคนเฮโลกันมาทางเสิ่นเทียนมากขึ้นเรื่อยๆ คุกเข่าตรงหน้าเสิ่นเทียนพร้อมกัน
“ขอให้ท่านเซียนเมตตาช่วยบิดาข้าด้วย ข้ายอมเป็นวัวเป็นม้าเป็นทาสเป็นคนใช้ทดแทนคุณท่านเซียน”
“ให้ข้าก่อน ลูกสาวข้าหายใจร่อแร่แล้ว ขอให้ท่านเซียนช่วยด้วย ข้าน้อยยินดีใช้ชีวิตของข้าแลกกับชีวิตของลูกสาวข้า!”
“ท่านเซียน ขอร้องท่านช่วยสุนัขของข้าด้วย มันรับการโจมตีแทนข้า!”
…..
เสิ่นเทียนถอนหายใจ สารภาพตามตรง โดนคนคุกเข่าอ้อนวอนเยอะขนาดนี้ เขาก็ใจอ่อนแล้ว
ช่างเถอะ ไม่ได้สิ้นเปลืองของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเท่าไร ถือว่าเอาบุญกุศล
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงดีดขวดหยกเบาๆ ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานก้อนเล็กก็ถูกตีแตกยิงออกไป หลั่งไหลเข้าในร่างผู้บาดเจ็บทุกคน
คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองตอนที่ยุงโลหิตบุกเมืองได้ ไม่เป็นนักรบที่สู้กับยุงโลหิตก็คนในครอบครัวของนักรบ เสิ่นเทียนคิดว่าสิ้นเปลืองของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่นี้ช่วยคนได้ แม้จะขาดทุน แต่ก็ไม่ได้ทำสิ่งที่น่าละอายใจ!
ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานไหลเข้าไปในร่างบาดเจ็บของทุกคนภายใต้การควบคุมด้วยพลังจิตของเสิ่นเทียน ก่อนจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บขึ้นมา
กระทั่งยังมีพลังงานที่เปี่ยมล้นด้วยชีวิตเหลืออยู่ ทำให้ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ผลประโยชน์ครั้งใหญ่ เวลานี้เสียงซาบซึ้งในบุญคุณดังไม่ขาดสาย
“สมกับเป็นท่านเซียนจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ มีจิตใจโอบอ้อมอารีจริงๆ!”
“ไม่ๆๆ เมื่อครู่พวกเจ้าไม่ได้ยินรึ ท่านเซียนคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไอ้คนที่ควบม้าพังยอดค่ายกลนั่นต่างหากบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ!”
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ หรือก็คือท่านเซียนไม่ใช่คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ แต่ก็ยังลำบากมาปราบปีศาจให้พวกเรา เสียสมบัติล้ำค่าไปมากขนาดนั้นโดยไม่เสียดายเลยน่ะหรือ”
“น่าซึ้งใจ น่าซึ้งใจยิ่งนัก! แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีจิตใจดีงามในหมู่แดนศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ไม่เหมือนบางฝักฝ่ายเลยสักนิด!”
“ใช่ๆ ยุงโลหิตบุกเมืองครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะท่านเซียนผ่านทางมาโดยบังเอิญ กว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือจะมาถึง ศพของเราก็คงเย็นหมดแล้วล่ะ!”
…….
นอกจากซาบซึ้งในบุญคุณเสิ่นเทียนแล้ว ยังมีคนแอบพูดซุบซิบเสียดสีบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเต็มไปหมด
“นี่ประชดจริงๆ นะ! เราจ่ายภาษีมากกว่าครึ่งให้เมืองศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือทุกปี พอเกิดเรื่องจริงๆ กลับหวังพึ่งไม่ได้เลย”
“ตลกชะมัดที่ไปเชื่อดาวเหนือ!”
“ครั้งนี้หากบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือไม่ชนยอดค่ายกลพัง ก็คงไม่มีใครตายสักคน!”
“สงสารโหรวเอ๋อร์ของข้า โดนยุงโลหิตดูดเลือดไปหมดตัว แม้แต่ท่านเซียนยังช่วยรักษาไม่ทัน! ข้าจะไปร้องทุกข์ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์!”
“ไปด้วย! ข้าได้ยินอาจารย์พูดมานานแล้วว่าตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเป็นคนไร้ความสามารถ วันๆ เอาแต่ตามตูดบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง ทำแดนศักดิ์สิทธิ์ขายหน้า!”
“ไร้ความสามารถไม่เท่าไร แต่ยังมาสร้างปัญหานี่สิ คนที่สละชีพในเมืองครั้งนี้มากกว่าครึ่งเป็นเพราะเขา!”
“ใช่ ตัวตลกก่อแต่เรื่อง! บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หน้าตาหล่อเหลาปานเซียนลงมาเยือน ตอนเข้าเมืองยังเดินผ่านประตูเมือง แต่เจ้านี่ควบรถเข้ามาเลย”
“เจ้านี่มันน่าโมโหชะมัด เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน เหตุใดบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเราถึงสุดจะทนเช่นนี้กัน!”
“ลูกเมียตายไปแล้ว ชีวิตข้าไม่มีความหมายอะไรแล้ว!”
“ข้าจะไปประกาศเรื่องในวันนี้ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ สนับสนุนศิษย์สายตรงคนอื่นๆ ในแดนศักดิ์สิทธิ์ เอาไอ้บุตรศักดิ์สิทธิ์ตัวตลกไร้ความสามารถนี่ออกไป!”
“ไปด้วย!”
“ไปด้วย!”
“ไปด้วย!”
……
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไปตามอารมณ์ได้ง่ายมาก
ตอนนี้เกิดการบาดเจ็บล้มตายกันไม่น้อยในเมืองเพราะยุงโลหิตพังค่ายกล และต้นเหตุของเรื่องอย่างผู้สูงศักดิ์ยุงโลหิตตายไปแล้ว
เพลิงโทสะที่เหลือย่อมมาลงที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือทั้งหมด
ญาติพี่น้องคนสนิทมากมายถูกยุงโลหิตจู่โจมบาดเจ็บ คนที่เสิ่นเทียนช่วยไม่ทันจึงโกรธแค้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ
แม้คนส่วนใหญ่จะกล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด ทว่าก็ยังมีหลายคนเตรียมคิดหาทางแก้แค้นแล้ว!
พวกเขาจะประกาศเรื่องในวันนี้ออกไปเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ให้ผู้คนได้รู้เรื่องมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือมากขึ้น
ถึงจะให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือชดใช้อะไรไม่ได้มาก ก็ต้องประจานเขาให้เละ!
ทุกแห่งหนในเมืองภูเขาดำมีแต่คนซุบซิบ บ้างชมเสิ่นเทียน บ้างด่าประณามบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ
พวกเขาคิดว่าตนแค่ด่าว่าส่วนตัวเท่านั้น แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือมีพลังระดับใด
นั่นคือผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณ กำลังวังชาพุ่งขึ้นสูง สัมผัสทั้งห้าแข็งแกร่งเพียงใด
เขาแค่อยากรู้อยากเห็นนิดๆ จึงเร่งรัดพลังจิตฟัง ก็ได้ยินเสียงด่าประณามตนที่ทนฟังไม่ได้จากคนมากมาย
อะไรคือ ‘เจ้าโง่’ ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์ตัวตลก’ ‘ไม่ได้เรื่อง’ ‘สุนัขรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง’ …
อะไรไม่รื่นหูก็ด่าอันนั้น อะไรน่ารังเกียจก็ด่าอันนั้น อีกทั้งยิ่งด่ายิ่งมีความสุข
บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือโมโหจนตัวสั่นไปหมด โลหิตทะลักออกมาจากปาก!
จากนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง เพราะเขารู้สึกว่าดวงจิตดรุณที่เดิมทีไม่มั่นคงของตนกำลังสั่นกระเพื่อมยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเกิดรอยร้าวขึ้น
ใช่ ดวงจิตดรุณของเฉินจงเทียนก็ร้าวเช่นกัน!
เอ่อ เหตุใดถึงพูดว่า ‘เช่นกัน’ ..
“ศิษย์พี่เสิ่น แซ่เฉินมีธุระขอตัวก่อน วันหลังหากมีโอกาสค่อยมาต้อนรับศิษย์พี่เสิ่นแล้วกัน”
ดวงจิตดรุณร้าวไม่ใช่เรื่องเล็ก อย่างเบาก็จิตมารพันกายทำให้จิตแตกกระจาย อย่างหนักก็เป็นตายมรรคสลาย สิ้นชีพลง
เขาต้องหาที่ปลอดภัยปิดด่านบำเพ็ญปรับสภาพจิตใจให้เสถียรภาพ คิดหาทางฟื้นฟูรอยร้าว
อย่างน้อยก็ต้องรับประกันว่ามันจะไม่แตกร้าวต่อไป
บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรีบบอกลาเสิ่นเทียนก่อนขี่กระบี่เจ็ดดาวเหนือบินไกลออกไปเหมือนกับหนี
…..
เสิ่นเทียนมองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเฉินจงเทียนที่บินไปอย่างเร็วด้วยแววตาหยั่งลึก
เขามั่นใจได้เลยว่าคนที่โดนเขาแย่งโชคลิขิตจะมีดวงชะตาลดลงจริงๆ อีกทั้งเมื่อดวงชะตาลดลง คนนั้นจะเจอกับเรื่องซวยในเร็วๆ นั้นเลย
ฉินเกาก็เช่นกัน ฟางฉางก็เช่นกัน ตอนนี้เฉินจงเทียนก็เช่นกัน
สิ่งที่เสิ่นเทียนแปลกใจคือหากตนมอบคัมภีร์เทพโลหิตให้เฉินจงเทียนส่วนหนึ่ง ดวงชะตาเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
แต่ถ้าเสิ่นเทียนไม่ให้คัมภีร์เทพโลหิตกับเฉินจงเทียนล่ะ!
ต่อไปจะเป็นอย่างไร
เฉินจงเทียนจะซวยต่อไป หรือค่อยๆ ฟื้นกลับมา
อืม นี่เป็นหัวข้อวิจัยสำคัญอันใหม่
การทดลองยังดำเนินต่อไป เสิ่นเทียนคิดว่าภายภาคหน้าจะให้หลี่อวิ๋นเฟิงสังเกตเรื่องนินทาบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเยอะๆ หน่อยเหมือนกัน
……
แน่นอน พวกนี้คือเรื่องหลังจากนี้
ภารกิจสำคัญในตอนนี้คือหาคัมภีร์เทพโลหิตส่วนที่เหลือนั้นมาให้เร็วที่สุด
ถึงอย่างไรวิชาลับนี่ก็สามารถแยกดวงวิญญาณกับโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกบำเพ็ญออกและสร้างบุตรเทพโลหิตของปลอมขึ้นมาได้
สำหรับเสิ่นเทียนที่จะไปสนามรบบรรพกาลแล้ว นี่ค่อนข้างมีประโยชน์เลย!
…………………….