บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 254 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อิจฉามาก
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 254 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อิจฉามาก
บทที่ 254 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อิจฉามาก!
“เทียนเอ๋อร์ การฝึกฝนสนามรบบรรพกาลเป็นอย่างไรบ้าง”
เสียงเฉยชาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดังมาจากสายฟ้าประกายเซียน ฟังดูแล้วเหมือนไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ
ทว่าเนื้อความในคำพูดกลับเป็นห่วงมาก เสิ่นเทียนได้ฟังแล้วยังรู้สึกอบอุ่นในใจ
เขาโค้งตัวกล่าว “ขอบคุณที่อาจารย์เป็นห่วง การฝึกครั้งนี้ราบรื่นทุกอย่าง”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ย “ได้ยินว่าการฝึกครั้งนี้เจ้าพบศิษย์ลัทธิวิญญาณร้ายคนแรกสุด อีกทั้งยังทำลายแผนการคืนชีพวิญญาณร้ายของพวกเขาด้วยรึ
สะดวกบอกอาจารย์ว่าเจ้าทำลายแผนการพวกเขาอย่างไรได้หรือไม่ หากไม่สะดวกก็ไม่ต้องบอก ถึงอย่างไรในใจคนหนุ่มสาวก็มีความลับกันอยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องปกติมาก อาจารย์เข้าใจ”
เสิ่นเทียนอึ้งไป ก่อนจะตัดสินใจคิดหาข้ออ้างตีเนียนผ่านไป
เขาตอบกลับว่า “ในเมื่ออาจารย์ถาม ศิษย์ก็จะบอกทุกอย่างที่รู้ ครั้งนี้พบสาวกลัทธิวิญญาณร้าย ความจริงไม่ใช่คุณความดีของศิษย์ แต่ตอนศิษย์น้องจางซานฝึกฝนได้ถูกสาวกวิญญาณร้ายปิดล้อมไว้
ก่อนพวกเขาถูกจับได้ส่งกระแสจิตติดต่อกับศิษย์น้องอวิ๋นตี๋ นี่ถึงได้ติดต่อมาให้ศิษย์ออกมือช่วย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “เจ้าทำได้ดีมาก จากรายงานตอนนี้ สาวกวิญญาณร้ายพวกนั้นแอบเข้าไปในสนามรบบรรพกาล เป้าหมายก็เพื่อคืนชีพวิญญาณร้ายคนนั้นในสนามรบ
นั่นคือวิญญาณร้ายทรงพลังระดับเตรียมเซียน หากถูกปล่อยออกมา ทั้งดินแดนบูรพาได้มอดไหม้เพราะมันแน่ ดีที่เทียนเอ๋อร์เจ้าพบทันเวลา ถึงได้ทำให้ดินแดนบูรพาของเรารอดจากเคราะห์โลหิตนองเป็นสายน้ำได้ เพียงแค่ร่วมการฝึกฝนก็เปิดโปงแผนการร้ายเช่นนี้ของสาวกวิญญาณร้ายได้
เทียนเอ๋อร์ เจ้าคือบุตรแห่งโชคที่สวรรค์มอบให้แดนศักดิ์สิทธิ์เราจริงๆ อาจารย์ปลื้มใจมาก!”
เสิ่นเทียนหน้าแดงเล็กน้อย “อาจารย์ชมเกินไปแล้ว นี่…เป็นเพราะอาจารย์สั่งสอนมาดี”
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมขึ้นมาเบาๆ “อยู่ต่อหน้าอาจารย์ เจ้าไม่ต้องถ่อมตัวเลย
ส่วนผู้ดูแลกับศิษย์ลัทธิวิญญาณร้ายพวกนั้น ช่วงที่ผ่านมานี้ศิษย์น้องหญิงบัวขาวกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ได้สอบสวนแล้ว เพียงแต่ในสมองสาวกลัทธิวิญญาณร้ายทุกคนมีผนึกความทรงจำแบบพิเศษอยู่ หากไปแตะโดนความจริงสำคัญจริงๆ ก็จะส่งพลังจิตมาให้ระเบิดตัวเอง
ดังนั้นผลจากการสอบสวนจึงไม่ได้อะไรมาก แค่รู้เขตฐานสาวกวิญญาณร้ายขนาดเล็กสิบกว่าแห่งเท่านั้น ในนั้นมีเขตฐานหนึ่งอยู่อาณาจักรต้าเหยียนพวกเจ้า เขตฐานย่อยพวกนั้นมีศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเฝ้าจับตาดูอยู่ หากไม่ใช่เพราะกลัวแหวกหญ้าให้งูตื่น สองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ก็พร้อมจะปิดล้อมพวกมันทุกเมื่อ”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์หลักแหลม ต่อต้านลัทธิวิญญาณร้ายเพื่อทุกคน แล้วศิษย์พอจะทำอะไรได้บ้าง”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ ว่า “หาคนที่มีใจปราบมารพิทักษ์คุณธรรมเช่นเจ้าได้ยากมาก แต่ตอนนี้ระดับพลังของเจ้ายังอ่อนแอไปหน่อย
สาวกวิญญาณร้ายคงไม่มาคุยเรื่อง ‘ตัดสินอย่างยุติธรรม’ หรือ ‘เกียรติของผู้แข็งแกร่ง’ อะไร โลกของพวกเขามีเพียงปลาใหญ่กินปลาเล็ก ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงในดินแดนบูรพามากพอแล้ว เป็นที่สนใจของลัทธิวิญญาณร้ายแล้ว เป็นไปได้สูงที่อาจจะมีผู้อริยะมาเล่นงานเจ้า
ดังนั้นก่อนที่ศักยภาพจะถึงระดับที่มั่นคง เทียนเอ๋อร์เจ้าต้องระวังตัว ห้ามไปเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด จะให้ดีที่สุดก็ซ่อนเร้นความสามารถ ซ่อนคมในเงามืด อย่าแสดงให้โดดเด่นมากเกินไป ตอนนั้นอาจารย์ก็ซ่อนเร้นความสามารถเช่นกันถึงได้เติบใหญ่ขึ้นมาได้ ไม่อย่างนั้นบางทีอาจจะโดนกลุ่มผู้อริยะปิดล้อมโจมตีเอาได้”
จะส่งผู้อริยะมาเล่นงานข้าเลยหรือ
เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย จะหน้าด้านอะไรเช่นนี้
ตอนนี้ข้าเพิ่งมีระดับพลังแค่กายทอง ถึงจะสู้กับระดับดวงจิตดรุณส่วนใหญ่ได้ แต่ส่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพมาลอบโจมตีข้าก็พอแล้วกระมัง แบบนี้ข้ายังหนีได้
บางทีอาจจะเจอโชคลิขิตระหว่างการหลบหนี และยังอาจจะสวนกลับได้
แต่เชิญผู้อริยะลงมือ นี่ไม่เรียกว่าเอาปืนใหญ่มายิงใส่มดรึ!
อย่ามองว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนหนีรอดจากประมุขชุดคลุมโลหิตได้ แต่นั่นเป็นเพราะโชคช่วยทั้งหมด หากประมุขชุดคลุมโลหิตไม่ประมาท คิดจับเสิ่นเทียนล้างสมองสมองเข้าพวกและโจมตีอย่างสุดกำลังในตอนแรกสุด
เช่นนั้นเสิ่นเทียนจะเป็นอันตรายอย่างมาก อาจจะไม่มีเวลาให้มุดดินหนีด้วยซ้ำ
ตอนนี้ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอจริงๆ ต้องระวังหน่อย
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พูดอย่างระมัดระวัง “ศิษย์จะจำคำสอนของอาจารย์ไว้ในใจ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียนด้วยความปลื้มใจ “แน่นอน เรื่องพวกนี้มาจากประสบการณ์ของอาจารย์ สำหรับโอรสสวรรค์ธรรมดา การซ่อนเร้นความสามารถย่อมเป็นวิธีที่ค่อนข้างเหมาะสม แต่เทียนเอ๋อร์คือบุตรแห่งโชคที่สวรรค์ปกป้อง
ดังนั้นหากเจ้าไม่ชอบซ่อนเร้นความสามารถก็บุกฝ่าไปสี่ทิศได้ ไม่ต้องกังวลศัตรูผู้แข็งแกร่งในเงามืดอะไรเลย เชื่อมั่นหน่อย ขอแค่ดวงชะตาเจ้าแกร่งพอ ต่อให้อยู่ในสถานการณ์อันตรายกว่านี้ก็ไม่เป็นไร สวรรค์จะปกป้องเจ้าเอง”
เมื่อเห็นจางหลงหยวนที่ประกายเซียนกระเพื่อมทั้งตัวไม่หยุดแล้ว เสิ่นเทียนก็จนปัญญา
ต้องให้ข้าบอกอีกกี่รอบ ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ!
ช่างเถอะ จากนี้ออกไปข้างนอกจะต้องระวังให้มากที่สุด!
ไม่อย่างนั้นเกิดถูกผู้อริยะสักคนตบตาย นั่นก็อนาถแล้ว
เสิ่นเทียนพูดด้วยความเคารพ “อาจารย์ตั้งใจเรียกศิษย์มาแค่เพราะเรื่องนี้รึ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ไม่ใช่แน่นอน เทียนเอ๋อร์ ข้าอยากรู้รายละเอียดว่าเจ้าหาราชามารวิญญาณมืดเจอได้อย่างไร ข้าสืบสวนพวกประมุขชุดคลุมโลหิตมาแล้ว บางทีอาจจะมีประโยชน์อย่างมาก เจ้าสะดวกจะเปิดเผยหรือไม่”
รายละเอียดว่าหาราชามารวิญญาณมืดเจอได้อย่างไรหรือ
เสิ่นเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่ก็แค่ผลพลอยได้จากการที่เขาได้ถาดวัฏจักรหกมรรคมาไม่ใช่รึ!
คำถามนี้ตอบยาก!
เสิ่นเทียนครุ่นคิดในใจ “ไม่เป็นไร ศิษย์เองก็ไม่กล้าปิดบังอาจารย์ ความจริงแล้วศิษย์มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง สามารถรู้สึกถึงสมบัติที่อยู่ใกล้ตัวได้ ความสามารถสัมผัสนี้คล้ายๆ กับลางสังหรณ์ อัตราสัมผัสไม่สูง แต่มีอัตราความแม่นยำสูงมาก แทบจะไม่เคยพลาดเลย
เมื่อก่อนตอนที่ศิษย์หาน้ำมวลหนักปฐมกาลพบ หาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานพบ หาทองคำเซียนปีกปักษาพบ ก็เพราะอาศัยความสามารถสัมผัสพิเศษตรงนี้
ก่อนหน้านี้ในสนามรบ ศิษย์รู้สึกว่ามีสมบัติอยู่ในที่ราบเงามืดลับนั้น ถึงได้เดินทางไปตรวจสอบ แต่ศิษย์โดนพลังแห่งเงามืดลับรุนแรงขวางไว้รอบนอกที่ราบ จึงไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปตรวจสอบ
ต่อมาศิษย์ได้รับการยอมรับจากหอคอยเทพสงคราม จึงมีความมั่นใจพอถึงได้ไปตรวจสอบดูอีกครั้ง ก็พบว่าราชามารวิญญาณมืดถูกผนึกอยู่ตรงกลางที่ราบ”
ซี้ด ความสามารถพิเศษที่สัมผัสได้ถึงโชคลิขิตสมบัติใกล้ๆ หรือ
ไม่อยากเชื่อว่าในตัวเทียนเอ๋อร์จะมีพรสวรรค์น่าเหลือเชื่อเช่นนี้!
อีกทั้ง เทียนเอ๋อร์ยังไม่ปิดบังความลับยิ่งใหญ่นี้ แต่บอกมันกับข้ารึ
เมื่อฟังคำอธิบายจบ ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซาบซึ้งใจ ข้าซาบซึ้งใจจริงๆ!
ข้าอ่านตำนานของบุตรแห่งโชคมาไม่น้อย ในนั้นมีบุตรแห่งโชคจำนวนมากที่มีความสามารถพิเศษ พวกเขาบางคนโดนผู้แข็งแกร่งยึดร่างและไปเกิดใหม่เป็นคนธรรมดา ก่อนจะเปิดชีวิตตำนานบทใหม่
บางคนได้อาวุธเทพสูงสุด อาศัยพลังแห่งอาวุธเทพผงาดขึ้นจากจุดเล็กๆ
บางคนมีคนใหญ่คนโตติดตัวมา คอยทุ่มเทชี้แนะการฝึกบำเพ็ญให้
……
สรุปก็คือ บุตรแห่งโชคส่วนใหญ่จะมีความสามารถพิเศษของตัวเอง ปกติจะไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด
ความสามารถพิเศษของเทียนเอ๋อร์แกร่งกว่าบุตรแห่งโชคพวกนั้น ไม่อยากเชื่อว่าจะสัมผัสได้ถึงโชคลิขิตรอบตัว!
ในเวลาไม่กี่เดือนสั้นๆ เทียนเอ๋อร์อาศัยความสามารถตรงนี้รวมสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินปัญจธาตุครบ
นี่คือพรสวรรค์สูงสุดระดับใด นี่ทำให้คนริษยาจนบ้าคลั่งได้
อีกทั้งความลับยิ่งใหญ่เช่นนี้ เทียนเอ๋อร์กลับบอกข้า นี่ต้องไว้ใจระดับใด
ที่แท้ข้าในใจเทียนเอ๋อร์ก็เป็นอาจารย์ดีที่เขาไว้ใจเช่นนี้เชียวหรือ ซาบซึ้งใจยิ่งนัก
ตอนนี้สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง อัตราการสั่นไหวเพิ่มขึ้นมาเท่าๆ กับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงสงบลง
เขาจ้องเสิ่นเทียนอย่างจริงจังและพูดด้วยความเคร่งขรึม “นอกจากข้าแล้วยังมีใครรู้ความสามารถนี้ของเจ้าอีกหรือไม่”
เสิ่นเทียนส่ายหน้า “ไม่มี”
ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ที่เขาหลอกคนอื่น ก็หลอกว่าเขาทำนายความลับสวรรค์ได้
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็จะใช้เหตุผลนี้มาตบตาไม่ได้จริงๆ จึงต้องสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาก่อน ทว่าในใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไม่คิดเช่นนี้เลย
นี่ข้ารู้เป็นคนแรกหรือ
ขนาดบิดาและพี่ชายเทียนเอ๋อร์ยังไม่บอกความสามารถนี้เลย แต่บอกข้ารึ
สายฟ้าประกายเซียนที่เดิมทีสงบลงก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “ศิษย์เข้าใจ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “ต่อให้ภายภาคหน้าอวิ๋นซีแต่งเป็นภรรยาเจ้าแล้ว ก็อย่าบอกจะดีที่สุด”
เสิ่นเทียนพูดไม่ออก
เขาเทียนพูดขึ้นว่า “ท่านอาจารย์ ศิษย์จะไม่บอกบุคคลที่สามอย่างแน่นอน”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ “ดีมาก ต่อไปเจ้าตามข้ามา ไปเจอพวกสาวกวิญญาณร้ายพวกนั้นหน่อยเถอะ!
อีกร้อยปีข้าจะออกจากตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด ไม่ใช่แค่ในด้านพลังบำเพ็ญ แต่ยังมีการวางแผนจัดการด้านการเมืองต่างๆ วันนี้เป็นโอกาสเรียนรู้ที่ดีสำหรับเจ้ามาก”
เมื่อเอ่ยจบแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ประสานมุทราและสร้างประตูมิติขึ้นมา
สองคนก้าวเข้าไปก่อนมาปรากฏในโลกที่สร้างขึ้นจากสายฟ้าทั้งหมด
ตรงเขตใจกลางโลกนี้มีชายสวมชุดคลุมโลหิตคนหนึ่งลอยอยู่ ถูกตรวนล่ามเอาไว้
ตรวนพวกนี้ทำขึ้นจากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าที่บริสุทธิ์ที่สุด แข็งแรงทนทาน เป็นปฏิปักษ์ต่อสาวกลัทธิวิญญาณร้ายที่สุด
อีกทั้งผิวกายประมุขชุดคลุมโลหิตยังมีอักขระสีทองขยับแสง เป็นการผนึกระดับพลังของผู้อริยะหนึ่งด่านเคราะห์ของเขาอย่างสมบูรณ์
เห็นได้ชัดว่าการเป็นผู้อริยะสูงศักดิ์ทำให้เสวี่ยซาได้รับการปฏิบัติในห้องส่วนตัวแบบแขกพิเศษ
จัดการได้อย่างเรียบร้อย
จะมีแส้สายฟ้าฟาดมาตลอดเวลา เสียงดังชัดเจนยิ่ง!
……..
ตอนนี้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเสิ่นเทียนปรากฏตัวขึ้น ประมุขชุดคลุมโลหิตก็ยิ้มเยาะ “ไม่ต้องเปลืองคารมหรอก ข้าจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ฟ้าดินเป็นพยานความภักดีของข้าต่อลัทธิศักดิ์สิทธิ์ได้ ต่อให้เจ้าเฆี่ยนตีข้าอีกสามพันที ข้าก็จะ…จะไม่พูดเด็ดขาด มีการลงโทษเหี้ยมโหดอะไรก็…ก็เอาออกมาได้เลย!”
เมื่อเห็นประมุขชุดคลุมโลหิตที่โดนแส้สายฟ้าเฆี่ยนตีดังเพียะๆ แล้ว เสิ่นเทียนถึงกับพูดไม่ออก
เจ้านี่ฝึกวิชาชั่วร้ายอะไรกันแน่
การสอบสวนแบบนี้จะได้ผลอะไรออกมาจริงๆ หรือ
……………………………..……