บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 264 ดอกไม้ใบไม้ผลิชิวเยวี่ย พี่หญิงใหญ่ธารหยก
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 264 ดอกไม้ใบไม้ผลิชิวเยวี่ย พี่หญิงใหญ่ธารหยก
บทที่ 264 ดอกไม้ใบไม้ผลิชิวเยวี่ย พี่หญิงใหญ่ธารหยก!
เมื่อหอคอยเทพสงครามมาเยือนเทพสวรรค์ หลายวันต่อมาคนก็หลั่งไหลกันเข้ามา
มีศิษย์ ผู้อาวุโส ไปจนกระทั่งเจ้าสำนักจากแดนเทวาแดนผาสุกมากันไม่ขาดสาย
แดนผาสุกแดนเทวาพวกนี้ล้วนเป็นสำนักที่ติดกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก นับเป็นเมืองขึ้น
ภาพเหตุการณ์ ‘หมื่นเซียนมาคารวะ’ เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มานานมากแล้ว
ในหลายปีที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตกต่ำ แดนผาสุกแดนเทวาพวกนี้ย่อมไม่กล้าต่อต้าน แต่ก็ยังมีแอบดูแคลนไม่น้อย
จวบจนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จางหลงหยวนเข้ารับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ด้านหนึ่งคือระดับพลังพุ่งพรวด ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะด้วยความเร็วที่ทำให้ผู้คนตื่นตกใจ
อีกด้านหนึ่งคือกลยุทธ์ด้านการทูตและการปฏิบัติตัวในสังคม ผูกมิตรกับแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกและเสียงอัสนีเป็นต้น ขณะเดียวกันยังเชือดไก่ให้ลิงดูสร้างความหวาดหวั่นกับใต้หล้า
ดังนั้นถึงได้ยับยั้งความคิดบุ่มบ่ามของแดนเทวาแดนผาสุกพวกนั้นได้อย่างมั่นคง
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ในแดนเทวาแดนผาสุกพวกนั้นก็ยังมีความมุ่งหมายไม่น้อย กระทั่งแอบผูกมิตรกับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงและดาวเหนือ
ความจริงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็รู้เรื่องพวกนี้คร่าวๆ แม้จะไม่มีข้อมูลก็ยังคาดเดาได้บ้าง
ถึงอย่างไรสำหรับฝ่ายเซียนแล้ว ผลประโยชน์ต่างหากคือราชธรรมตลอดกาล
ช่วงที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตกต่ำลงเพราะบทต้องห้ามหายสาบสูญ ก็อย่าโทษว่าขุมอำนาจใต้บัญชามีใจไม่ภักดีเลย
จนกระทั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนหาบทต้องห้ามเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์ในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีกลับมา ถึงได้แก้สถานการณ์นี้ได้จากต้นตอ
หลังจากข่าวเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์กลับคืนสู่เทพสวรรค์กระจายออกไป ความไม่สงบเรียบร้อยต่างๆ ภายในเขตปกครองของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ย่อมสงบลงสี่ส่วนขึ้นไป
ความวุ่นวายสี่ส่วนนี้เกิดขึ้นเพราะเหตุใด แค่คิดดูก็รู้แล้ว
ต่อให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนจะเก่งกาจเพียงใดก็เป็นเพียงตัวคนเดียว
แต่สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ความสำคัญของมรดกสะท้านโลกส่วนเดียวย่อมสำคัญกว่าตัวบุคคลเดียว
แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่มีคัมภีร์จักรพรรดิฉบับสมบูรณ์ถึงจะถือว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่แท้จริง เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ชำเลืองตามองห้าดินแดน!
……
หากบอกว่าเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์มอบความหวังให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
เช่นนั้นหอคอยเทพสงครามก็มอบความเป็นไปได้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเหนือกว่าจุดสูงสุดให้!
ยอดฝีมือที่มีสติปัญญาอยู่บ้างจะรู้ว่าคัมภีร์มากมายดั่งมหาสมุทรในหอคอยเทพสงครามสำคัญกับแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงใด
และแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ได้รับการยอมรับจากหอคอยเทพสงคราม จินตนาการได้เลยว่าอนาคตจะแข็งแกร่งเพียงใด
หากไม่อาศัยโอกาสนี้กอดต้นขาไว้ ภายภาคหน้าจะต้องเสียใจจนสุดแสนแน่
ภายในสามวันสั้นๆ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนต้อนรับเจ้าสำนักและผู้อาวุโสจำนวนมากจากหกแดนเทวาใหญ่และสิบสองแดนผาสุก
ระหว่างขุมอำนาจทุกฝ่ายกลมเกลียวกัน ย่อมมีการแลกเปลี่ยนกันไม่น้อย
ผลคือหลายวันมานี้สายฟ้าประกายเซียนของจางหลงหยวนไม่เคยสงบนิ่งเลย กระทั่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตฉู่หรงเหอยังกระชุ่มกระชวยไม่น้อยตลอดหลายวันมานี้
ถึงอย่างไรยิ่งคนมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากเท่าไร เขาก็ยิ่งจับปลาน้ำขุ่นได้ง่ายมากเท่านั้น
หลอกทั้งทางมืดและทางสว่าง ได้ศิลาวิญญาณมาไม่น้อยเลย
จุดนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนมองว่า ‘เทียนเอ๋อร์คือสิ่งมงคลของแดนศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!’
ในสำนักมีบุตรแห่งโชคคุ้มหัวอยู่ เยี่ยมจริงๆ!
………
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมาถึงแล้ว!”
มีเสียงรายงานของศิษย์ดังมาจากทางเข้าโลกเล็กเทพสวรรค์
เมื่อเสียงรายงานดังขึ้น ยังมีเสียงปี่ดังตามมา ไพเราะดั่งบทเพลงสวรรค์
ผู้บรรเลงปี่คือหญิงวัยแรกแย้มสวมชุดชาววัง ทุกคนมีร่างอรชรอ้อนแอ้นเปล่งประกายแสงไปรอบๆ พวกนางเดินหนึ่งก้าว ตอนที่เหยียบพื้นจะมีพลังวิญญาณปกคลุมอย่างหนาทึบ เหมือนกับแสงเรืองรอง และยังเหมือนกับดอกบัว คล้ายกับเดินออกมาจากภาพวาด
หญิงพวกนี้ล้อมรถศึกคันหนึ่งไว้ตรงกลาง
รถศึกเปล่งประกายแวววาวทุกส่วน ประหนึ่งแกะสลักขึ้นจากหยกเซียน มีฝีมือประณีตเหนือธรรมดา
ข้างหน้ารถศึกมีนกขาว นกเขียว นกดำ ปลาฟ้า มังกรชาด พยัคฆ์ลายจุดเหลืองและกิเลนทองสัตว์แปลกเจ็ดชนิดลากรถ
ขณะที่ล้อรถเคลื่อน มวลอากาศยังส่งเสียงดังราวกับเกิดฟ้าผ่าบนที่ราบ ทั้งศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม
ทันทีที่รถศึกปรากฏขึ้น พลังจิตของผู้แข็งแกร่งทุกคนในระยะโดยรอบหลายร้อยลี้มารวมกันที่รถศึก
ผู้แข็งแกร่งบำเพ็ญเซียนแต่ละคนรีบมาต้อนรับจากแดนไกล กลัวว่าหากเมินเฉยหญิงสูงศักดิ์คนนี้จะสร้างหายนะของผู้บริสุทธิ์ให้กับตน
ถึงอย่างไรก็ล่วงเกินสตรีคนนี้ไม่ได้
สตรีที่แข็งแกร่งล่วงเกินไม่ได้ แต่สตรีที่แข็งแกร่งทั้งกลุ่มล่วงเกินไม่ได้ยิ่งกว่า!
“ขอคารวะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!”
“ขอคารวะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!”
“ขอคารวะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!”
……
“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี”
มีเสียงเย็นเยือกดังเนิบนาบมาจากรถศึกธารหยก
มองผ่านม่านบางจะเห็นร่างอรชรร่างหนึ่งรางๆ
นางแค่นั่งเรียบร้อยอยู่ตรงนั้นก็ทำให้ใจคนโบยบิน จินตนาการไปไกล
แต่ต่อให้เฝ้าใฝ่หาในใจมากเท่าไร ยามยืนอยู่ตรงหน้านางจริงๆ แล้วกลับไม่กล้าคิดโสมม
ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพก็ยังไม่กล้าเสียมารยาทแม้แต่น้อย
นี่…ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!
หนึ่งในสตรีสูงวัยไม่กี่คน…ที่มีอำนาจมากที่สุดในห้าดินแดน
แน่นอน แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกจะมีอายุมากกว่าพันปี จัดอยู่ในหญิงสูงวัยจริงๆ
แต่สำหรับผู้อริยะ ขอแค่ไม่เจอเคราะห์ภัย การมีชีวิตเป็นแปดพันเป็นหมื่นปีก็ไม่ได้ยากมากนัก อายุพันปีกว่าถือว่าวัยกำลังรุ่งโรจน์
หากได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกจริงๆ อย่างน้อยก็ประหยัดเวลาฝึกฝนไปพันปี ก็จะเดินสู่จุดสูงสุดได้เลย
น่าเสียดายก็แต่แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกจะมีอายุพันปีกว่า แต่นางไม่เคยแต่งงานเลย
จากข่าวลือบอกว่าเหมือนจะเป็นเพราะตอนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกยังเยาว์วัยนางเติบโตในย่านเริงรมย์ เจอกับบุรุษที่ทรยศความรักมามากมาย ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ดีกับบุรุษมาตั้งแต่เล็ก ชอบอยู่กับสตรีเพศมากกว่า
แน่นอนว่าข่าวลือนี้เป็นจริงหรือไม่ ไม่มีใครตรวจสอบได้มานานแล้ว
ต่อให้มีคนรู้จริงๆ ก็ไม่กล้าปากพล่อย
ถึงอย่างไรนั่นก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก
…….
ม่านรถศึกดึงออกช้าๆ ร่างหญิงคนหนึ่งปรากฏตรงหน้าทุกคน
รอบตัวนางปกคลุมด้วยประกายเซียนดั่งเมฆเรืองรอง มองเห็นใบหน้าไม่ชัด รู้สึกแค่เหมือนชมดอกไม้ในม่านหมอก มีความลึกลับไม่มีที่สิ้นสุด
ข้างหลังนางยังมีอาวุธวิเศษลักษณะจันทร์เต็มดวงลอยอยู่อันหนึ่ง ส่องสะท้อนแสงจันทร์อ่อนๆ ส่องไปที่ใดทุกคนจะรู้สึกจิตใจใสสะอาดอย่างยิ่ง
ไม่ธรรมดาสมกับเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก ไม่ธรรมดาจริงๆ!
“ไม่รู้ว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกจะมาเยือน ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับจากแดนไกล หวังว่าจะไม่ถือสา”
ปรากฏประตูมิติขึ้นกลางอากาศ ก่อนมีร่างคนที่คลุมด้วยประกายเซียนก้าวออกมาจากในจุดที่มีสายฟ้ากระจาย หากไม่ใช่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้วจะเป็นใครได้
ทางด้านข้างเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตที่แบกกระบองเทพทองคำข้างหลัง ตอนนี้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกแล้วก็ยิ้มมีความสุขมาก
“โอ้ว นี่ไม่ใช่น้องหญิงชุนฮวาหรือ! จะว่าไปก็ไม่ได้เจอกันมาหลายร้อยปี ไฉนเจ้าถึงเรียนวิชาเล่นกลเอาไอเซียนมาปิดหน้ากับเขาด้วยล่ะ…”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังเอ่ยไม่จบก็พบว่าประกายเซียนเมฆเรืองรองบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสั่นไหวอย่างรุนแรง
เสียงเย็นชาไร้อารมณ์ดังมาจากประกายเซียนเมฆเรืองรอง “ข้อหนึ่ง ข้าไม่ได้ชื่อน้องชุนฮวา ขอให้เรียกข้าว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก หรือท่านเซียนชิวเยวี่ย!
ข้อสอง ข้าไม่ได้ฝึกวิชาเล่นกล แต่เป็นคัมภีร์จักรพรรดิธารหยก คนเสเพลเช่นเจ้าอย่ามาดูหมิ่นจะดีกว่า
ข้อสาม เศษสวะที่ทำให้ศิษย์น้องหญิงตันอู่ผิดหวังอย่างเจ้าอย่ามาทำสนิทสนมกับข้า หากไม่ใช่เพราะมีแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คุ้มกะลาหัว ข้าจะตอนเจ้า!”
คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเหยาชิวเยวี่ยทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรู้สึกแผ่นหลังเย็นวาบ
ส่วนผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ข้างกายนางหน้าแดงเรื่อขึ้นมาด้วยความเร็วระดับที่สายตามองทัน
สมกับเป็นพี่หญิงใหญ่ธารหยก ร้ายกาจ!
………………………………