บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 297 ปัญหาที่ตกทอดมาจากอดีตของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 297 ปัญหาที่ตกทอดมาจากอดีตของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต
บทที่ 297 ปัญหาที่ตกทอดมาจากอดีตของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต
หอเสียงสวรรค์สร้างขึ้นจากปะการังยักษ์ ตรงกลางเป็นเวทีมหึมา รอบๆ เป็นห้องพิเศษที่ปรับแก้จากปะการังหลากสี
ห้องพิเศษของพวกเสิ่นเทียนวางในตำแหน่งที่ดีมาก ตรงข้ามกับเวทียังมีระเบียงเปิดโล่งอีกแห่ง เป็นจุดชมที่ดีมากจริงๆ
นั่งในห้องพิเศษ ทุกคนจะเห็นหญิงงามเผ่าทะเลร่ายระบำบนเวที พลางพูดคุยร่ำสุราไป
ด้วยความที่เป็นแขกประจำของหอเสียงสวรรค์ คุณชายเซี่ยจึงแนะนำให้เสิ่นเทียนอย่างกระตือรือร้น
“สหายเสิ่น สหายฉี องค์ชายเจ็ด พวกท่านอาจจะเพิ่งเคยมาที่ดีๆ เช่นหอเสียงสวรรค์เป็นครั้งแรก ข้าจะแนะนำให้ทุกคนสักเล็กน้อย ตอนนี้คนที่กำลังแสดงบนเวทีคือหญิงงามของเผ่าเทพธิดาหอย รายการชื่อว่า ‘ระบำเมฆเทพธิดาหอย’
หญิงงามของเผ่าเทพธิดาหอยแบ่งเป็นสองประเภท หนึ่งคือเทพธิดาหอยรอบนอกที่แต่งชุดสีชมพูอยู่รอบนอกเวที พวกนางยินดีที่จะออกจากเวที
อีกประเภทคือเทพธิดาหอยชุดขาวสี่คนนั้นบนเวที พวกนางคือธิดาสวรรค์ของเผ่าหอย ฐานะไม่ธรรมดา สถานการณ์ส่วนใหญ่ เทพธิดาหอยชุดขาวพวกนี้ขายแต่ศิลปะไม่ขายเรือนร่าง ไม่ออกจากเวทีเด็ดขาด”
เสิ่นเทียนพิจารณามองเวทีตามที่คุณชายเซี่ยแนะนำอย่างละเอียด พบว่าเป็นอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ
เทพธิดาหอยชุดสีชมพูสิบกว่าคนบนเวทีนั้นต่างล้อมรอบเทพธิดาหอยชุดขาวสี่คน ฐานะต่ำต้อยกว่าอย่างชัดเจน
เอ๋าอูมองเทพธิดาหอยพวกนั้นด้วยความแปลกใจ “ออกเวทีหมายความว่าอย่างไรรึ อีกอย่าง เหตุใดพี่สาวชุดชมพูบางคนถึงสวมไข่มุกที่ศีรษะ แต่พี่สาวบางคนไม่มีล่ะ”
คุณชายไป๋ยิ้ม “องค์ชายไม่รู้หรอก ไข่มุกพวกนั้นคือไข่มุกหอยของเผ่าเทพธิดาหอย หรือก็คือผงตุ๊กแก[1]ของพวกนาง เทพธิดาหอยที่เป็นสาวพรหมจรรย์จะซ่อนไข่มุกไว้ในกาย ไม่ให้ใครเห็น ส่วนเทพธิดาหอยที่สวมไข่มุกหมายถึงเคยผ่านมือชายมาแล้ว เป็นโสเภณีหอยที่มีประสบการณ์โชกโชน
เทพธิดาหอยสองประเภทต่างมีประเพณีของตน ขอไม่พูดมากแล้วกัน จากนี้องค์ชายมาหาประสบการณ์สักสองสามครั้งก็จะเข้าใจเอง”
เสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนถึงกับพูดไม่ออก
ไอ้สารเลวพวกนี้ สอนอะไรเด็กน้อยอย่างนั้นกัน!
คุณชายเซี่ยเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อ พูดเสริมว่า “นอกจากนี้ หากมีคนได้รับความชื่นชอบจากเทพธิดาหอยชุดขาวพวกนั้น ได้รับหัวใจนางอย่างลับๆ เช่นนั้นเทพธิดาหอยชุดขาวจะมอบไข่มุกของตนให้ หมายความว่า ‘มีใจให้เขา มอบไข่มุกแสดงความรัก’
น่าเสียดายก็แต่เผ่าเทพธิดาหอยงดงามสูงส่งและบริสุทธิ์ ‘การมอบไข่มุก’ จึงพบเห็นได้น้อยมากในหอเสียงสวรรค์ แขกที่มาหอเสียงสวรรค์ ปกติจะจ่ายเงินหาความสุข ไถ่ตัวเทพธิดาหอยพรหมจรรย์บางคนที่ถูกใจมากที่สุด
ส่วนจะให้ธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอยพวกนั้นลดความโอหังลง มอบไข่มุกต่อหน้าทุกคนนั้น ยากมากจริงๆ ปกติแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลย”
ขณะพูดอยู่นั้น คุณชายเซี่ยทำหน้าเฝ้าใฝ่ฝัน
หากได้รับความสนใจจากธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอย แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเฝ้าใฝ่หาที่แผ่มาจากแววตาของคุณชายไป๋กับคุณชายเซี่ยแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับมุมปากกระตุก
โอรสสวรรค์เผ่าทะเลพวกนี้ เต็มไปด้วยรสชาติของทะเลจริงๆ!
…….
เสิ่นเทียนเดินมาตรงหน้าระเบียงเปิด มองเทพธิดาหอยที่ร่ายระบำบนเวทีพวกนั้น แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมที่บริสุทธิ์ที่สุด
สารภาพตามตรง การระบำของเทพธิดาหอยพวกนั้นใช้ได้เลย ระหว่างที่อาภรณ์และพัดขนนกปลิวไสว ยังดูเหนือธรรมดาราวกับแดนเซียนปุยเมฆ
แต่เมื่อนึกได้ว่าส่วนใหญ่ในเทพธิดาหอยพวกนี้ไม่อาจกุมชะตาชีวิตตัวเองได้แล้ว เวลานี้เสิ่นเทียนเกิดความเห็นใจนิดๆ ทั้งยังมีความสงสารหน่อยๆ
โลกนี้คงไม่มีใครสบาย!
ด้วยศักยภาพของปีศาจหอยส่วนใหญ่ หากไม่อาศัยขุมอำนาจอย่างหอเสียงสวรรค์ก็คงตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนายิ่งกว่านี้
ถึงอย่างไรในทะเลก็มีอยู่หมื่นเผ่าพันธุ์ กฎการดำรงชีพโหดร้ายยิ่งกว่ามนุษย์มาก หากไม่มีขุมอำนาจปกป้องก็อาจจะกลายเป็นอาหารเครื่องเซ่นได้ในทันที
‘ในกลียุคแห่งนี้ บุรุษรูปงามเช่นข้าต้องแข็งแกร่งให้มากพอเท่านั้นถึงจะกุมชะตาตัวเองได้!’
เสิ่นเทียนถอนหายใจ ความคิดที่จะแข็งแกร่งขึ้นในใจแน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม
ทันใดนั้นเอง ‘ระบำเมฆเทพธิดาหอย’ บนเวทีก็มาถึงช่วงท้าย เทพธิดาหอยชุดสีชมพูเริ่มตั้งท่าทาง
ปกติ ตอนนี้เทพธิดาหอยชุดขาวสี่คนนั้นน่าจะเริ่มจบงาน เตรียมลงเวทีแล้ว แต่ตอนนี้เทพธิดาหอยสี่คนกลับไม่ได้จบการระบำท่ามกลางสายตาของทุกคน
พวกนางมองหน้ากัน ริมฝีปากแดงเปิดขึ้นเบาๆ ก่อนจะพ่นไข่มุกเซียนสีสันแวววาวเม็ดหนึ่งออกมาพร้อมกัน จากนั้นเทพธิดาหอยชุดขาวสี่คนกระโดดขึ้นจากเวที ลอยมาทางระเบียงของห้องพิเศษบางแห่งบนชั้นสอง
อาภรณ์ของเทพธิดาหอยสี่คนลอยล่องตามลม อ่อนช้อยงดงามราวกับลงมาจากสวรรค์ มือถือไข่มุกสีสันแวววาว ดูเหมือนจะแข่งขันว่าใครไปถึงก่อนหลังกันนิดๆ
สุดท้าย ภายใต้สายตาตะลึงงันของคนมากมาย
เทพธิดาหอยสี่คนหยุดอยู่หน้าระเบียงแห่งหนึ่งพร้อมกัน มองบุรุษคนหนึ่งด้วยความเขินอาย
ธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอยสี่คนถูกใจบุรุษคนเดียวกัน อีกทั้งยังแย่งกันมอบไข่มุกให้เขาท่ามกลางสายตาของทุกคน
เวลานี้ ทั้งหอเสียงสวรรค์มีแต่เสียงสูดลมหายใจเย็นๆ
สถานการณ์เช่นนี้ยากจะพบได้ในพันปีในหอเสียงสวรรค์ ทำให้คนอิจฉาจนฟันร่วงจริงๆ ใครกันที่ทำให้เทพธิดาหอยสี่คนเสียอาการพร้อมกันได้ ทุกคนมองไปทางบุรุษคนนั้น
…….
หลังจากพวกเขาเห็นใบหน้าบุรุษคนนั้นชัดเจน จากแววตาไม่ยอมและสงสัยก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตกตะลึง ปล่อยวางรวมถึงตื่นตกใจลึกๆ
ไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้จะมีบุรุษรูปงามเหนือธรรมดาเช่นนี้!
มิน่าแม้แต่เทพธิดาเผ่าหอยพวกนั้นยังอดใจมอบไข่มุกให้พร้อมกันไม่ได้
บุรุษที่ยืนบนระเบียงอย่างโอหังคนนั้นสวมชุดผ้าไหมมังกรขาว เส้นผมยาวพาดบ่า ตรงระหว่างดวงตามีความองอาจผึ่งผายอยู่เหนือผู้อื่น
โดยเฉพาะดวงตาเขา ขณะกะพริบตายังเหมือนมีทะเลดาราลอยขึ้น วัฏจักรหกมรรคทำให้คนถูกดึงดูดดำดิ่งลงไป
ใช่ คนนี้ก็คือเสิ่นเทียน
สารภาพตามตรง ตอนนี้เขางุนงงอยู่ในใจ
จะว่าไปเพราะข้าไม่ชอบปัญหาถึงได้ออกมาทำให้ใจปลอดโปร่ง
ปรากฏว่ากว่าจะสลัดหญิงให้ท่าพวกนั้นในห้องพิเศษได้ไม่ใช่ง่ายๆ กลับต้องเข้าปากเสืออีกแล้วหรือ
เมื่อเห็นเทพธิดาหอยที่ลอยล่องดั่งเซียนชุดขาวสี่คนมองตนด้วยแววตาเร่าร้อนเหมือนพร้อมจะกินเขาทุกเมื่อแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับหนาวสั่น
ผัดเปลือกหอยอะไรนี่ สารภาพตามตรง เขาข้ามผ่านปราการนั้นในใจไม่ได้ และยิ่งข้ามผ่านปราการตรวจสอบนั้นไม่ได้!
ไฉนบทถึงออกมาเป็นเช่นนี้ ขี่รถหอยรึ
“ทะ…เทพธิดาทั้งสี่ท่านระบำได้เยี่ยมมาก ทำให้วันนี้แซ่เสิ่นได้เปิดโลกกว้าง”
เสิ่นเทียนฉุกคิดขึ้นมาได้ “ข้ากับเทพธิดาทั้งสี่พบกันครั้งแรกก็เหมือนรู้จักกันมานาน เช่นนั้นก็เป็นสหาย เป็นพี่น้องต่างเพศกันดีหรือไม่”
ธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอยสี่คนงุนงง
ข้าล่ะอยากจะทุบเจ้า เจ้าจะมาเป็นพี่น้องอะไรกับข้ากัน
ภายในห้องพิเศษ คุณชายทั้งสี่กับฉีเซ่าเสวียนและเอ๋าอูได้ยินเสียงดังแล้วก็เดินมาที่ระเบียง
เมื่อเห็นเทพธิดาหอยสี่คนมอบไข่มุกให้ แต่เสิ่นเทียนเสนอให้เป็นพี่น้องกันนั้น ทุกคนต่างเป็นบ้ากันขึ้นมา
เป็นพี่น้องบ้าอะไร!
นั่นคือธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอย วีรบุรุษเผ่าทะเลตั้งเท่าไรที่ฝันอยากจะได้ครองหนึ่งในนั้น ต่อให้จ่ายหมดตัวก็ยอม
แต่เจ้าบอกว่าจะเป็นพี่น้อง นี่เจ้าคิดออกมาได้อย่างไร
หน้าตาดีแล้วจะทำอะไรตามใจก็ได้รึ
………
เวลานี้ทั้งหอเสียงสวรรค์เงียบกริบ เหลือเพียงเทพธิดาหอยสี่คนที่มองเสิ่นเทียนอย่างคับอกคับใจ
แน่นอนว่าเสิ่นเทียนทำเป็นมองไม่เห็น
ตลก ภัยดอกท้อในตัวข้ามีมากพอแล้ว
เหลียนเอ๋อร์ หลิงเอ๋อร์ ศิษย์พี่หญิงจางอวิ๋นซี และยังมีข่งเมิ่งกับเอ๋าปิง ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรแล้ว!
จู่ๆ มีปัญหาเพิ่มมาถึงสี่คน ทำไม ไปๆ มาๆ จะรังแกคนอื่นที่หน้าตาดีรึ! นี่จะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!
ใครกำหนดว่าสตรีชอบข้าแล้วข้าต้องชอบตอบกัน คิดจะเอาเปรียบข้ารึ จัดการกับองค์หญิงเผ่ามังกรเอ๋าปิงให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ไม่เช่นนั้น เสิ่นเทียนกังวลว่าหอยน้อยสี่คนนี้จะโดนหญิงมังกรฉุนเฉียวนั่นจับไปเสียบไม้~
อืม ไม่ผิด นี่ข้ากำลังหวังดีกับหอยน้อยพวกนี้อยู่!
อยากจะสานสัมพันธ์กันจริงๆ ต้องแอบติดต่อมา
ทำอย่างเอิกเกริกเช่นนี้อันตรายเกินไป จะโดนริษยาเอาได้ง่ายๆ
ขณะที่เสิ่นเทียนกำลังพูดกับตัวเองในใจไม่หยุดนั้น คุณชายไป๋โอรสสวรรค์ปลาหมึกยักษ์ด้านข้างกลอกตาไปมา
เอ๋าอูไม่ได้บอกฐานะแท้จริงของเสิ่นเทียนกับสี่คุณชายแห่งทะเลเหนือ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณชายไป๋จะไม่รู้จากช่องทางอื่น
ความจริง ตอนที่พบเสิ่นเทียนครั้งแรก คุณชายไป๋ก็เข้าใจเกี่ยวกับเสิ่นเทียนรอบด้านแล้ว
ในระดับบางอย่าง ต่อให้เป็นฉีเซ่าเสวียนก็อาจจะเทียบเขาไม่ได้
ถึงอย่างไร ศิษย์น้องหลี่ที่ปิดปากดั่งขวดบางคนก็ซุบซิบนินทากับคุณชายไป๋ไม่น้อย และเสิ่นเทียนคือตัวเอก
ได้ยินว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนเป็นของหวงของราชกุมารีเอ๋าปิงของเผ่ามังกรเมื่อหมื่นปีก่อน ถ้านางรู้ว่ามีเทพธิดาหอยสี่คนมอบไข่มุกให้เขา
ซี้ด~
คุณชายไป๋ตัวสั่นขึ้นมา ถึงเขาจะไม่รู้จักเอ๋าปิง แต่ก็เคยอ่านเจอปาฏิหาริย์มากมายในคัมภีร์โบราณ
หากเอ๋าปิงรู้ว่าพวกเขาพาเสิ่นเทียนมาสถานเริงรมย์เช่นนี้ ทั้งยังไม่ชัดเจนกับปีศาจน้อยเทพธิดาหอยสี่คนต่อหน้าทุกคนอีก
เช่นนั้นผลสุดท้าย แค่คิดก็กลัวแล้ว!
เมื่อคิดได้ดังนั้น คุณชายไป๋จึงเดินหนึ่งก้าวอย่างแน่วแน่
เขาป้องมือให้กับธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอยสี่คนนั้น หนวดหมึกยังตีใส่น้ำ “เทพธิดาทั้งสี่เข้าใจผิดแล้ว สหายเสิ่นมีความรักกับองค์หญิงมังกรท่านหนึ่งแล้ว ไม่อาจรับความหวังดีจากเทพธิดาทั้งสี่ได้จริงๆ ขอให้เปลี่ยนเป็นคุณชายท่านอื่นเถอะ!”
คุณชายไป๋ทำหน้า ‘ไม่ยี่หระ’ “ตอนนี้แซ่ไป๋ยังไม่แต่งงาน หากเทพธิดาทั้งสี่ไม่รังเกียจ ข้ายินดีจะครองคู่กับเทพธิดาไปชั่วนิรันดร์”
เทพธิดาหอยทั้งสี่เงียบ
เจ้าปลาแปดหนวดนี่โผล่มาจากที่ใดกัน อัปลักษณ์มาก!
ไฉนต้องขวางข้ามองบุรุษรูปงาม อยากจะฉีดน้ำใส่หน้ามันสักที!
แต่บุรุษเผ่ามนุษย์รูปงามคนนี้เป็นพระราชบุตรเขยของเผ่ามังกรจริงๆ รึ น่าเสียดายมากจริงๆ
ถึงอย่างไรเผ่ามังกรดำก็มีชื่อเสียงเรื่องอำนาจสูงส่งในทั้งทะเลเหนือ การแย่งบุรุษกับองค์หญิงเผ่ามังกร พวกนางไม่มีสิทธิ์จริงๆ
อย่างน้อยก็จะแย่งกับเผ่ามังกรต่อหน้าทุกคนในโถงใหญ่ไม่ได้
“คุณชาย รบกวนแล้ว”
เทพธิดาหอยทั้งสี่เก็บไข่มุกกลับไปเงียบๆ ดูคับอกคับใจกันนิดๆ
แต่เหมือนนึกอะไรได้ เทพธิดาหอยหนึ่งในนั้นนำหมายเลขหอยออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยัดใส่ในอ้อมอกเสิ่นเทียน
นางมองเสิ่นเทียนอย่างมีความหมายแฝง “พี่เสิ่นไม่รังเกียจ ยินดีเป็นพี่น้องกับน้องเล็ก น้องเล็กก็ยินดีจะรับพี่ชายดีๆ เช่นท่าน หากภายภาคหน้าพี่ชายอยากเจอน้อง ก็ให้เป่าหมายเลขหอยนี้ ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียว น้องจะรีบไปอย่างแน่นอน”
เทพธิดาหอยอีกสามคนเห็นดังนั้น ความคับแค้นใจบนใบหน้าพลันหายไป
พวกนางต่างหยิบหมายเลขหอยออกมาจากอกเสื้อและยัดใส่อ้อมอกเสิ่นเทียน “มีข้าด้วย ข้าก็เช่นกัน!”
เมื่อยัดหมายเลขหอยให้แล้ว เทพธิดาหอยทั้งสี่ก็มองเสิ่นเทียนด้วยความเขินอายทีหนึ่ง ก่อนจะบินกลับไปบนเวทีพร้อมกัน ไม่นานก็หายไปข้างหลังม่านใหญ่
ทิ้งเสิ่นเทียนที่ยังไม่ทันตั้งตัวกับปีศาจมะนาวนับไม่ถ้วน
“บ้าจริง ใครกันที่บอกว่าธิดาสวรรค์เผ่าเทพธิดาหอยเย็นชาสูงส่งดั่งหิมะ ออกมา ข้ารับรองว่าจะไม่ทุบตีเจ้าให้ตาย!”
“หลังมอบไข่มุกโดนปฏิเสธแล้ว ไม่ควรจะเกิดความแค้นเพราะรักหรือ ไฉนถึงยังยินดีรับพี่ชายดีๆ คนนี้ไว้ และยังไว้พบกันภายหลังอีก!”
“เผ่ามนุษย์คนนี้ไม่รู้จักดีชั่ว น้องเทพธิดาหอยไม่คิดถึงข้าบ้างล่ะ ข้าเป็นปลาซื่อตรงนะ!”
“เจ็บปวดๆ คนที่มีใบหน้าธรรมดาอย่างข้า ไม่เข้าใจเลยว่าปีศาจหญิงจะรุกหนักเช่นนี้!”
“หน้าตาดีแล้วคิดว่าเจ๋งรึ หน้าตาหล่อเหลา ก็คิดว่าจะเล่นกับความรู้สึกของเหล่าเทพธิดาได้รึ”
“เอ่อ เหมือนว่าโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์คนนั้นจะไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ไม่ถือว่าเล่นหรอกกระมัง!”
“ไม่ฟังๆ ไอ้พวกบุรุษหน้าตาหล่อเหลาล้วนสมควรตาย!”
……
ภายในกลุ่มคนมีสายตามองเสิ่นเทียนด้วยความคับแค้นใจมากมาย
ตอนนี้เสิ่นเทียนขนหัวลุกแล้ว เขารู้สึกได้ว่าในหอเสียงสวรรค์มีกลิ่นอายสังหาร!
ประมาทไปแล้วจริงๆ ก่อนออกจากบ้านน่าจะสวมหน้ากากขนหงส์ อยู่เงียบๆ ไว้ก็ดีแล้ว
เฮ้อ ใครจะไปคิดว่ารสนิยมของหญิงเผ่าทะเลที่นี่จะเหมือนกับผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนบนบก! อีกทั้งยังใจกว้างกว่าเผ่ามนุษย์อีก~
ทั้งยังทิ้งหมายเลขหอยไว้ติดต่อกันภายหลัง เจ้ามองว่าข้าเป็นราชาทะเลแบบนั้นรึ นี่มันจะหยามกันไปแล้ว!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงเก็บหมายเลขหอยสี่อันเข้าไปในแหวนเวหาเงียบๆ
อืม เขาแค่เก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น จะไม่โทรเด็ดขาด!
ความคับแค้นในกลุ่มคนเหมือนจะเพิ่มพูนถึงขีดสุด บุรุษเผ่าปีศาจทะเลกลุ่มหนึ่งกระโดดออกมาจากอีกห้องพิเศษ
พวกเขามองห้องพิเศษที่เสิ่นเทียนอยู่ด้วยแววตาปานสายฟ้า “เหอะๆ ผู้ฝึกบำเพ็ญเผ่ามนุษย์จากที่ใดกัน ถึงกล้ามาก่อกวนเมืองแห่งสุขาวดีของเผ่าทะเลเรา”
“หากมีความสามารถก็ลงมาประชันกันสักหน่อย!”
บุรุษพวกนี้แผ่กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งมาก โอรสสวรรค์หลายคนที่แกร่งที่สุดไม่ด้อยไปกว่าฉีเซ่าเสวียนเลย
“นั่นโอรสสวรรค์ของเผ่าเทพจระเข้จักรพรรดิ เผ่าเทพอสรพิษดำแล้วก็เผ่าเทพปลาดาว!”
“จิ๊ๆ ดูท่าคงมีอะไรสนุกๆ ดูแล้ว โอรสสวรรค์พวกนี้เป็นผู้คลั่งไคล้ของท่านหญิงเทพธิดาหอยพวกนั้น!”
“ถึงเผ่ามนุษย์น้อยนั่นจะเป็นสหายขององค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ด แต่เจ้าชายจระเข้จักรพรรดิกับเจ้าชายอสรพิษดำทะลวงระดับอสูรสูงศักดิ์แล้ว ก็ไม่แน่ว่าอาจจะสู้ไหว”
“ใครจะสน! เจ้าหนูนี่หน้าตาดีเช่นนี้ มองทีแรกก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร จะต้องเป็นพวกเจ้าชู้ระดับสุดยอดแน่!”
“ใช่ ให้พวกเจ้าชายจระเข้จักรพรรดิสั่งสอนเจ้าหนูนี่สักหน่อย”
“เทพธิดาเผ่าทะเลก็ต้องให้เผ่าทะเลอย่างเราปกป้อง!”
…….
เผ่าปีศาจชอบต่อสู้อยู่แล้ว และจะเคารพผู้แข็งแกร่งโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดของเผ่ามังกรดำ มีฐานะสูงส่งยิ่งในทะเลเหนือ
แต่สำหรับตอนนี้แล้วในการประชันของรุ่นเยาว์ ยังไม่อาจเทียบกับโอรสสวรรค์ที่มีชื่อเสียงพวกนั้นได้
อย่างเช่นเผ่าเทพจระเข้จักรพรรดิกับเผ่าอสรพิษดำทะเลมรกต ในทะเลเหนือเดิมทีก็เป็นเผ่าใหญ่สูงสุดภายใต้เผ่ามังกร ช่วงจุดสูงสุดยังเคยปรากฏมหาจักรพรรดิ
ผนวกกับเกือบหมื่นปีมานี้เผ่ามังกรอยู่อย่างเงียบเชียบมาก ดังนั้นบางเผ่าจึงไม่เคารพเผ่ามังกรขนาดนั้นอีก
ในนั้น โดยเฉพาะเผ่าเทพปลาวาฬดึกดำบรรพ์ เผ่าเทพมังกรเขียวและเผ่าเทพจระเข้จักรพรรดิเป็นแกนนำ
ในแดนลับมากมายของทะเลเหนือ เผ่าระดับสูงสุดพวกนี้ยังเคยร่วมมือกับกดขี่เผ่ามังกรมาก่อน
จากในระดับบางอย่าง ไม่มีใครถูกใครผิด ได้แต่บอกว่าโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กเช่นนี้ มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นรากฐาน!
ก็เหมือนกับตอนนี้ที่พวกเจ้าชายเผ่าจระเข้จักรพรรดิไม่พอใจพวกเสิ่นเทียนและบุกมายังห้องของพวกเขา
เหตุผลง่ายมาก เพราะเอ๋าอูในห้องอยู่ระดับกายทอง
ศาสตร์หลอมปราณเผ่ามนุษย์แบ่งเป็น หลอมปราณ สร้างฐาน แก่นพลังทอง ดวงจิตดรุณ หลอมรวมเทพ ฝ่าด่านเคราะห์
แต่เผ่าปีศาจสืบทอดศาสตร์ฝึกบำเพ็ญเป็นหลอมกายมากกว่า หลอมกาย เหนือสามัญ กายทอง นิพพาน ผ่านเทวะ ฝ่าด่านเคราะห์
เจ้าชายจระเข้จักรพรรดิกับเจ้าชายอสรพิษดำเป็นโอรสสวรรค์ที่มีชื่อเสียงในทะเลเหนือมาหลายร้อยปี เมื่อหลายปีก่อนก็ทะลวงระดับนิพพาน มีศักยภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
สารภาพตามตรง พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าหนุ่มน้อยข้างกายองค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดจะสู้ตนได้
แม้สี่คุณชายแห่งทะเลเหนือทุกคนจะเป็นผู้โดดเด่นในระดับกายทอง สามารถสู้ข้ามระดับพลังได้ง่ายดาย
แต่อย่าลืมว่าเจ้าชายจระเข้จักรพรรดิกับเจ้าชายอสรพิษดำก็เป็นโอรสสวรรค์ที่แท้จริงเช่นกัน มีความสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้เช่นกัน
การจะใช้ระดับแก่นพลังทอง ระดับกายทองสู้ข้ามขั้นกับอสูรสูงศักดิ์ระดับโอรสสวรรค์พวกนี้ค่อนข้างไม่ง่าย หรืออาจจะบอกว่าแทบไม่มีทาง!
ใบหน้าเยาว์วัยของเอ๋าอูดูย่ำแย่แล้ว เจ้าพวกนี้มาหาเรื่องอีกแล้ว!
ตามจริงแล้ว เป็นองค์รัชทายาทเผ่ามังกรลำดับเจ็ดอย่างเขา ก็จะเรียกผู้อาวุโสออกมาไล่เจ้าพวกนี้ไปได้ตลอด แต่สำหรับเผ่าปีศาจแล้ว การกระทำที่สู้ไม่ได้ก็เรียกผู้ปกครองออกมาเช่นนี้เป็นเรื่องไร้เกียรติมาก เรื่องของคนหนุ่มก็ให้คนหนุ่มจัดการ
หากไม่ใช่เพราะพี่หกอายุเกินห้าร้อยปีแล้ว ข้าจะเรียกพี่หกออกมาทุบตีพวกเจ้าให้ตายเลย!
เอ๋าอูกัดฟันอยู่ในใจ ก่อนจะออกมาขวางหน้าเสิ่นเทียนช้าๆ “เอ้อทงเทียน ปี้เสวียนชิง พวกเจ้าคิดจะทำอะไร”
……..
บุรุษชุดคลุมเขียว รูปร่างผอมแห้งคนหนึ่งเดินออกมาจากในเผ่าปีศาจ
เขามีคางแหลม มีใบหน้าเป็นปีศาจงู มองไปดูชั่วร้ายมาก “นี่ไม่ใช่องค์ชายเจ็ดเผ่ามังกรรึ! เจ้าวางใจเถอะ เราไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่ทะเลเหนือเราไม่มีเผ่ามนุษย์ให้เห็นมานานมาก ก็เลยอยากจะทักทายกันบ้าง!
ข้าปี้เสวียนชิง เจ้าชายเผ่าอสรพิษดำทะเลมรกต ขอคารวะทั้งสองท่าน”
เมื่อเอ่ยจบ ปี้เสวียนขิงก็มองเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้ว่าทั้งสองท่านมีนามว่าอะไรกัน”
ฉีเซ่าเสวียนมองปี้เสวียนชิงอย่างเฉยชา “บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงฉีเซ่าเสวียน ดำรงตำแหน่งพันธมิตรแห่งเกาะมังกรดำ สหายปี้มีอะไรจะชี้แนะรึ”
ปี้เสวียนชิงมองเสิ่นเทียนอีกครั้ง “อ้อ แล้วสหายท่านนี้ล่ะ!”
เสิ่นเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน เป็นพันธมิตรแห่งเกาะมังกรดำเช่นกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าปี้เสวียนชิงแข็งค้างทีละนิด ดวงตาอสรพิษจ้องเสิ่นเทียนเขม็ง “ผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหอถูเป็นอะไรกับเจ้า”
เสิ่นเทียนอึ้งงัน “ผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหอถูรึ”
ปี้เสวียนชิงครุ่นคิด ก่อนแค่นเสียงขึ้นจมูก “ผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหอถูเป็นนามแฝง ได้ยินว่านามจริงของเขาคือฉู่หรงเหอ”
เสิ่นเทียนเข้าใจแจ้มแจ้งแล้ว “อาจารย์ลุงบัวมรกตรึ สหายปี้เคยได้ฟังเรื่องราวของอาจารย์ลุงบัวมรกตหรือ”
เดี๋ยวนะ อาจารย์ลุงบัวมรกตมีชื่อเสียงในทะเลเหนือมากอย่างนั้นหรือ ชื่อเสียงอะไรกัน
เสิ่นเทียนพลันหนาวสั่นขึ้นมานิดๆ รู้สึกว่า…
ไม่น่าจะใช่ชื่อเสียงที่ดีอะไร!
เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นแล้ว!
…….
ศิษย์หลานของผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหอถู?
เวลานี้ มีสายตาเคียดแค้นมองมาจากทั้งหอเสียงสวรรค์
ปี้เสวียนชิงแค่นยิ้ม “ที่แท้ก็ศิษย์หลานของไอ้ชั่วแก่หงำเหงือกนั่น เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์ลุงของเจ้าเคยทำอะไรไว้ เมื่อพันปีก่อน ไอ้ชั่วนั่นปลอมชื่อเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหอถูมาที่เผ่าข้า ใช้วิธีต่ำทรามหลอกเอาความรักจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์ชิงหมิงของเผ่าข้า
จากนั้นก็ให้ท่านป้าชิงหมิงช่วยให้ลอบเข้าไปในเผ่าข้า ไปชิงไฟศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดเพลิงสวรรค์ทะเลมรกตของเผ่าข้า ทำให้ต้นกำเนิดไฟศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าข้าเสียพลังปราณเดิมไปอย่างหนัก!”
ระหว่างพูดอยู่นั้น กลิ่นอายพลังในตัวปี้เสวียนชิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ กดดันเสิ่นเข้าไปตรงๆ “อีกทั้ง ไม่ใช่แค่เผ่าข้าที่เสียหายเพราะเขา!
เผ่าเทพปีศาจทุกเผ่าในทะเลเหนือ เจ้าลองไปถามดูว่ามีใครบ้างที่ไม่มีความแค้นกับไอ้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สารเลวนี่
เหอะๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะกล้ามาทะเลเหนือจริงๆ!”
เมื่อเอ่ยจบ ปี้เสวียนชิงก็เผยเจตนาออกมา!
“เจ้าไม่กลัวตายรึ”
……………………………………………………………
[1] ผงตุ๊กแก เป็นสิ่งใช้พิสูจน์พรหมจารีของสตรีในราชวงศ์ฮั่น