CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (1)

  1. Home
  2. บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
  3. บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (1)

ข่าวการปรากฏเกาะมหานทีเผยเงื่อนงำมาครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว

นี่คือเกาะเทพที่ตั้งของสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทอง หลายหมื่นปีมานี้ซ่อนอยู่ในทะเลอุดรมาตลอด ไม่เคยปรากฏขึ้น

ตอนนี้เกาะเทพมังกรปรากฏ ย่อมดึงดูดความสนใจของขุมอำนาจใหญ่มากมายในช่วงเวลาอันสั้นที่สุด ไม่รู้ว่าเกิดการช่วงชิงกันอย่างลับๆ มาเท่าไรแล้ว

ความสำคัญของโชคลิขิตอย่างสุสานจักรพรรดิคงไม่ต้องบอกก็รู้ หลังจากข่าวแพร่งพรายออกไป ย่อมไม่ได้มีแค่ขุมอำนาจเดียวที่ได้ครอบครองอีก ไม่เช่นนั้นได้ล่วงเกินขุมอำนาจอื่นให้เข้ามาเพ่งเล็งกันอย่างบ้าคลั่งแน่

ต่อให้ศักยภาพของเผ่าอสูรทะเลอุดรจะแข็งแกร่งยิ่ง ก็ต้องแบ่งน้ำแกงไปถ้วยหนึ่ง ร่วมมือกับขุมอำนาจจากดินแดนอื่น

และขุมอำนาจที่เป็นพันธมิตรกับเผ่าอสูรทะเลอุดรย่อมอยู่ในขอบเขตการถูกดึงตัวมาร่วมมือต้านแรงกดดันจากขุมอำนาจแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น

คนที่แบ่งขนมเค้กคือสหาย เตะคนที่จะมาแย่งเค้กด้วยกันออกไป นี่คือกฎเกณฑ์ลับๆ ที่เป็นที่ยอมรับโดยนัยของห้าดินแดน

หลังจากแบ่งรายนามขุมอำนาจที่จะบุกเกาะมหานทีแล้ว ผู้แข็งแกร่งสุดยอดจากทุกขุมอำนาจก็เริ่มฝ่าผนึกรอบนอกเกาะมหานที

เกาะมหานทีเป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญของมหามหาจักรพรรดิอีกาทอง สุดตะวันออกยาวไปถึงตะวันตกของเกาะมีระยะทางหลายหมื่นลี้ ซ่อนแดนลับไว้มากมาย

ทั้งเกาะแทบจะเทียบเท่าแผ่นดินใหญ่ โชควาสนาในนั้นไม่อาจประมาณการได้

อันตรายในนั้นไม่ต้องบอกก็รู้

ต่อให้ผู้อริยะระดับสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ ใช้สุดยอดอาวุธเปิดทาง ก็ต้องจ่ายไปอย่างมหาศาลกว่าจะทำลายผนึกรอบนอกหมู่เกาะพวกนั้นได้

และนี่ ยังมีสาเหตุที่ยิ่งเวลาผ่านไป พลังฤทธิ์ของค่ายกลยิ่งอ่อนกำลังลงส่วนหนึ่งด้วย

หากไม่เช่นนั้น คงเข้าใกล้สุสานจักรพรรดิได้ยาก!

ถึงอย่างไรห้าดินแดนโลกข้างล่างนี้ มหาจักรพรรดิคือผู้ไร้พ่ายที่สุด

ต่อให้เซียนจากโลกข้างบนลงมา เมื่ออยู่ต่อหน้ามหาจักรพรรดิก็ยังเป็นเพียงมดปลวกที่แข็งแกร่งอยู่บ้างเท่านั้น

แค่พลิกฝ่ามือก็ทำลายล้างได้!

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “อาจารย์ ถึงอย่างไรเกาะมหานทีก็เป็นที่ตั้งของสุสานมหาจักรพรรดิ หากศิษย์ฝ่ายเราเข้าไปกันเยอะเกิน เกิดเจออันตรายอะไรขึ้นมา เกรงว่าคงจัดการได้ยาก”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย “เจ้าคิดได้เช่นนี้ หมายความว่ามีมุมมองภาพรวมของผู้นำส่วนหนึ่งแล้ว ดีมาก”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ ก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอ่ยอย่างเฉยชา “แต่โชควาสนาทุกอย่างบนเกาะมหานทีคือมหาโชคลิขิตที่อาจจะไม่พบอีกเป็นครั้งที่สองในชีวิตของศิษย์ส่วนใหญ่

ไม่มีใครอยากพลาดโชคลิขิตเช่นนี้ไป ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต รอถึงเกาะมหานทีเมื่อไรข้าจะแบ่งศิษย์กับผู้อาวุโสเป็นสามกลุ่ม ให้ผู้อาวุโสแบ่งพวกลูกศิษย์เข้าไปผจญภัยในเกาะมหานที

รับรองได้ว่าศิษย์ทุกคนจะไม่ได้เข้าเกาะมหานทีพร้อมกัน ต่อให้เจออันตราย เวลาช่วยเหลือพวกเจ้าก็จะลดแรงกดดันลงได้บ้าง”

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะพูดอย่างเฉยชา แต่เวลาพูดยังมีความหวาดกลัวและระมัดระวังต่อเกาะมหานทีอย่างชัดเจนมาก

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญของมหาจักรพรรดิ ต่อให้เป็นผู้อริยะยังไม่กล้ารับรองว่าตนจะไม่มีอันตราย

พูดให้ไม่น่าฟังก็ โชคลิขิตกับความตายอาจจะห่างกันแค่เฉียดไหล่เท่านั้น

ต่อให้ทำใจทิ้งโชคลิขิตพวกนั้นไม่ลงกว่านี้ ก็จะเอาต้นทุนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาทุ่มไปในนั้นไม่ได้

เสิ่นเทียนเข้าใจวิธีการของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างมาก เขาพยักหน้าเล็กน้อย “ศิษย์เข้าใจ เช่นนั้นเมื่อศิษย์เข้าเกาะมหานทีแล้ว ก็น่าจะตามผู้อาวุโสสักท่านไปใช่หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มในทันที “เจ้า อวิ๋นซี อวิ๋นถิงแล้วก็ฟางฉาง ไม่อยู่ในขอบเขตจำกัด ด้วยดวงชะตาของพวกเจ้าเทียนเอ๋อร์ ต่อให้บนเกาะจะมีอันตรายอะไรจริงๆ ก็คงไม่คุกคามถึงความปลอดภัยของพวกเจ้า ขอแค่ระวังหน่อยก็พอ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตข้างกายรีบพูด “ศิษย์น้อง พวกเขาสี่คนคือความหวังในอนาคตของเรา จะให้เด็กสี่คนไปเสี่ยงอันตรายตามลำพังได้อย่างไร!

ข้าจะตามพวกเทียนเอ๋อร์ไปเอง คุ้มกันพวกเขา ถึงจะทำให้ข้าเสียเวลาตามหาโชคลิขิตเองก็เถอะ แต่ข้ายินดีสละตัวเองเพื่ออนาคตของฝ่ายเรา”

อาจารย์ลุงบัวมรกตจะตามข้าไปรึ

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองเหนือศีรษะของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเงียบๆ วงรัศมีจุดสีดำตัดสลับขาวนั่นทำให้เขามุมปากกระตุกเล็กน้อย

นักพรตชรานี่ หนึ่งปีมานี้เกาะโชคลิขิตที่เสิ่นเทียนเอากลับมาไม่น้อย อย่างเช่นเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์ หอคอยเทพสงคราม ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเป็นต้น ปกติจะมีส่วนของนักพรตชราด้วย

อาศัยดวงชะตาที่มากับโชคลิขิตพวกนี้ ทำให้วงรัศมีสีดำสนิทของเขามีสีขาวขึ้นมาไม่น้อย แต่ปัญหาคือถึงจะเป็นอย่างนั้น เจ้านี่ก็ยังเป็นผีดวงซวยอยู่ดี!

คนธรรมดาที่ขายเนื้อหมูตรงประตูทางเข้ายังมีดวงชะตาแกร่งกว่านักพรตชราไม่น้อย

แล้วจะให้นักพรตชราตามไปบนเกาะมหานทีที่มีอันตรายอยู่ทุกที่นี่หรือ เสิ่นเทียนรู้สึกว่าถ้ามีผู้คุ้มกันข้างกายเช่นนี้ก็ช่างมันเถอะ!

เสิ่นเทียนหนาวสั่นขึ้นมา รีบพูด “อาจารย์ ช่างเถอะ! อาจารย์ลุงบัวมรกตมีศักยภาพแข็งแกร่ง ตามศิษย์มาเป็นการเสียเวลาเขาจริงๆ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างเฉยชา เข้าใจแผนการของศิษย์พี่ตนดี “ศิษย์พี่ ถึงตอนนั้นข้าจะมีภารกิจให้ท่าน ส่วนภารกิจคุ้มกันพวกเทียนเอ๋อร์ ถึงตอนนี้จะมีคนรับผิดชอบเอง ไม่รบกวนศิษย์พี่หรอก”

……

ขณะเอ่ยอยู่นั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ค่ายกลรอบนอกเกาะมหานทีถูกทำลาย ทุกขุมอำนาจต่างกำหนดระเบียบแบบแผนไว้แล้ว

ผู้แข็งแกร่งเหนือกว่าผู้อริยะร่วมมือกันทำลายผนึกในส่วนลึกยิ่งกว่าบนเกาะ เพื่อให้สุสานจักรพรรดิปรากฏขึ้นมาโดยเร็ว

ส่วนผู้ฝึกบำเพ็ญระดับต่ำกว่าผู้อริยะจะตามหาโชคลิขิตอย่างอิสระบนเกาะ จะได้อะไรก็อยู่ที่ดวงชะตาของตน

ต้องรู้ว่าเกาะมหานทีตัดขาดจากโลกภายนอกมาหลายหมื่นปี ได้รับการบ่มเพาะจากค่ายกลรวมวิญญาณที่มหามหาจักรพรรดิอีกาทองวางไว้มาตลอด บนเกาะย่อมมีสมบัติล้ำค่าไม่น้อย

หากดวงดีก็จะเจอมรดกสำคัญที่มหามหาจักรพรรดิอีกาทองทิ้งเอาไว้ในตอนแรก ได้พลิกฟ้าปกครองหนึ่งดินแดนก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

แน่นอน การจะได้ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่เพียงใดในแดนลับแห่งนี้ บางครั้งศักยภาพก็ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดจริงๆ

ดวงชะตาสูงต่างหากคือราชธรรม!

ในมุมมองของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นี่คือสนามเจ้าถิ่นอันสมบูรณ์แบบของเทียนเอ๋อร์!

ขอแค่ฟางฉาง อวิ๋นซีและอวิ๋นถิงกอดต้นขาเทียนเอ๋อร์ไว้ให้แน่น ต้องได้ผลประโยชน์ในการผจญภัยครั้งนี้ไม่น้อยแน่นอน

อืม คนหนึ่งกอดขาข้างหนึ่งก็พอแล้ว!

ความจริงแล้วเมื่อหลายวันก่อน กองกำลังของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้บุกเกาะมหานทีไปก่อนแล้ว

เพียงแต่เพราะเสิ่นเทียนยังไม่ออกด่านบำเพ็ญ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจึงอยู่รอก่อน ถึงอย่างไรโชคลิขิตรอบนอกก็ไม่ได้มีแรงดึงดูดต่อพวกเขามากนัก

ความรู้สึกดีของเทียนเอ๋อร์สำคัญกว่า~

ตอนนี้เสิ่นเทียนออกด่านบำเพ็ญ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จึงสำแดงวิชาฉีกอากาศ สร้างประตูมิติขึ้น สามคนก้าวเข้าไปในประตูมิติและเดินทางไปยังตำแหน่งของเกาะมหานที

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือทุกครั้งที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้ามผ่านมิติ เสิ่นเทียนจะไม่รู้สึกถึงการขยับไหวของมิติ

แต่หลังจากได้บุปผาฟากฝั่งกับวิชาคุนเผิงมาแล้ว เสิ่นเทียนมีความรู้สึกต่อมิติมากขึ้น รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของมิติได้รางๆ กระทั่งเขายังมีลางสังหรณ์ในใจว่าหากตนยินดี ก็เหมือนจะลองเคลื่อนย้ายผ่านมิติแบบง่ายได้

แน่นอนว่าในตอนนี้ ด้านระยะทางยังไม่อาจเทียบกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้

ราวครึ่งชั่วยามต่อมา เสิ่นเทียนรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของพลังมิติเริ่มอ่อนกำลังลง

นี่ จะลงสถานีแล้วรึ

เสิ่นเทียนเพิ่งเกิดความคิดนี้ก็เห็นมิติตรงหน้าฉีกออกช้าๆ

แสงสว่างสีแดงฉานพร่างพราวยิ่งส่องสะท้อนบนตัวเสิ่นเทียน ตามมาด้วยเสียงคลื่นทะเลโหมซัดสาด

เสิ่นเทียนก้าวออกมาจากช่องทางมิติ พบว่าตนมาอยู่บนชายหาดสีแดงฉานมหึมาแห่งหนึ่ง ในมวลอากาศเต็มไปด้วยพลังวิญญาณธาตุไฟเข้มข้นอย่างยิ่ง

เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเกาะทะเล แต่กลับเหมือนภูเขาไฟ ร้อนแรงอย่างยิ่ง!

…….

นี่คือเกาะมหานทีรึ

เสิ่นเทียนกางปีกทองข้างหลัง บินฉวัดเฉวียนบนเมฆสูง มองหมู่เกาะตรงหน้า

สุดสายตาแทบจะเป็นสีแดงทั้งหมด ชายหาดสีแดง หินผาสีแดง วัชพืชและต้นไม้ต่างๆ สีแดง

ทุกอย่างที่นี่เหมือนเต็มไปด้วยส่วนประกอบธาตุไฟ หากผู้ฝึกบำเพ็ญที่ฝึกวิชาธาตุไฟอยู่เกาะนี้ตลอดทั้งปี ระดับพลังจะต้องพุ่งพรวดหนึ่งวันเท่ากับพันลี้แน่นอน

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแค่รอบนอกเกาะ แต่ระดับพลังเข้มข้นของพลังวิญญาณธาตุไฟกลับเทียบได้กับเขตแกนกลางของแดนศักดิ์สิทธิ์

หากเข้าไปลึกกว่านี้ ระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณธาตุไฟจะเกินจริงไปเพียงใด ยากจะจินตนาการได้!

นอกจากนี้แล้ว ระดับความเสถียรภาพของมวลอากาศบนเกาะมหานทียังเหนือกว่าโลกข้างนอกไปไกลโข

หากบอกว่ามวลอากาศของอาณาจักรโลกมนุษย์เหมือนหน้าต่างกระดาษ มวลอากาศของแดนศักดิ์สิทธิ์เหมือนกระจก เช่นนั้นมวลอากาศของเกาะมหานทีก็เหมือนกับกระจกเหนียว ระดับความเสถียรภาพแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า

สถานที่ที่มีระดับความเสถียรภาพของมวลอากาศสูงสุดเช่นนี้ ไม่ว่าจะพื้นที่ขอบเขตจิตสัมผัส ความเร็วหรือพลังทำลายล้างจะถูกจำกัดไว้อย่างถึงที่สุด

พูดอย่างไม่เกินจริงคือบนเกาะมหานทีแห่งนี้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ที่อ่อนแอบางส่วนยังไม่อาจฉีกมวลอากาศที่นี่ได้

“สมกับเป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญของมหาจักรพรรดิ ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เสิ่นเทียนลงบนชายหาดช้าๆ กำหมัดและชกใส่มวลอากาศทีหนึ่ง

ทันใดนั้น อานุภาพหมัดมหาศาลรวมถึงจุดสูงสุด พลังอานุภาพผ่านไปที่ใดจะมีเสียงคำรามมังกรน่าเกรงขามดังขึ้น

มวลอากาศแตกเป็นรูหนึ่ง เผยรอยร้าวมิติสีดำเหมือนใยแมงมุม แผ่กลิ่นอายน่าพรั่นพรึง ก่อนจะกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เห็นการโจมตีของเสิ่นเทียนแล้วก็พยักหน้าช้าๆ “เทียนเอ๋อร์เจ้ามีป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์อยู่ ในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์มีพลังการโจมตีของข้าสามครั้ง ในสถานการณ์ปกติ ก็ไม่น่าเจออันตรายถึงแก่ชีวิต แต่หากเจอจริงๆ อย่าตระหนก ข้าจะรีบไปหาเจ้าทันที”

เมื่อเอ่ยจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็จากไปพร้อมกัน

ตนเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในเกาะมหานที พวกเขาเองก็มีภารกิจทำลายผนึกเช่นกัน จะมัวเสียเวลาไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาแบ่งผลประโยชน์ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเสียเปรียบ!

ตอนนี้เอง คนอื่นจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนจะได้ข่าวว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเสิ่นเทียนมาถึงแล้ว จึงรีบพากันเข้ามา

คนที่นำหน้ามาย่อมเป็นฟางฉาง จางอวิ๋นถิง จางอวิ๋นซีและจ้าวเฮ่า สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์

ฟางฉางในนั้นก้าวหน้าไปอีกขั้น ทุบแก่นเป็นดรุณ จางอวิ๋นถิงก็รวมดรุณตามไปติดๆ

ส่วนจางอวิ๋นซี หลังได้ชาตระหนักรู้ช่วยก็บรรลุขีดจำกัดของแก่นพลังทองเก้ารอบ ห่างจากแก่นพลังทองสิบรอบแค่ก้าวเดียว

เห็นทีว่าคงมีแต่เดินก้าวนี้ได้เท่านั้น นางถึงจะใคร่ครวญทะลวงระดับดวงจิตดรุณ!

ถึงอย่างไรคู่ต่อสู้ของนางก็น่ารังเกียจเกินไปจริงๆ!

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือจ้าวเฮ่า โอรสสวรรค์หนุ่มที่เคยโดนเหยียดหยามถอนหมั้นในอดีต มีพรสวรรค์ถือว่าใช้ได้ หลังจากเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ได้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้ากระบี่สุริยะฟ้าช่วยกันชี้แนะ ทำให้ระดับพลังของจ้าวเฮ่าเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

การขัดเกลาลุ่มๆ ดอนๆ ในชีวิตคนทำให้กำลังวังชาและระดับพลังของจ้าวเฮ่าเหนือกว่าคนอายุเท่ากันไปไกล วิชาลับอัคคีกระบี่เก้ารอบทำให้กายเนื้อและพลังฤทธิ์ได้รับการหล่อหลอมพร้อมกัน

จ้าวเฮ่าเพิ่งรวมแก่นพลังทองก็บรรลุแก่นพลังทองหกรอบที่มีคุณภาพสูงสุด กระทั่งโดดเด่นกว่าฟางฉางในตอนนั้น

ตอนนี้ผ่านการฝึกบำเพ็ญอย่างหนักมาหลายเดือน ประกอบกับได้ชาตระหนักรู้ช่วย จ้าวเฮ่าจึงยกระดับพลังไปถึงจุดสูงสุดกายทองแปดรอบแล้ว

อย่างน้อยในยอดฝีมือรุ่นเยาว์ของดินแดนบูรพา ชื่อเสียงของจ้าวเฮ่าก็ไม่เป็นรองศิษย์แกนหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์บางส่วนแล้ว

ผักกุยช่ายต้นนี้ เติบโตได้เหนือความคาดหมายมาก!

……………………..

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์