บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ
- Home
- บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
- บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ
บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!
ครั้นเห็นนักพรตชรากับเสิ่นเทียนต่อราคากันเหมือนซื้อผักในตลาดแล้ว คนอื่นๆ ในตำหนักไร้พรมแดนถึงกับตาค้างไปแล้ว วันนี้โลกทัศน์กับโลกทัศน์เซียนของพวกเขาพังทลายลงราวกับนิวเคลียร์ล้างโลก
หากรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ตบแต่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ คนผู้นี้จะเดินสู่จุดสูงสุดของแดนบูรพา
สวัสดิการดีๆ เช่นนี้ โอรสสวรรค์สู้สุดชีวิตกันตั้งเท่าไรยังไม่ได้มา แต่เสิ่นเทียนกลับอยากจะผลักตัวเองออกสุดชีวิต
และที่สำคัญกว่านั้นคือเห็นๆ อยู่ว่าเขาไม่ต้องการ แต่ผู้อาวุโสทรงพลังแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ท่านนั้นกลับมาขอให้เขารับไว้
อมิตาพุทธหาที่สิ้นสุดมิได้ แดนศักดิ์สิทธิ์นอบน้อมสุภาพเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน องค์ชายสิบสามแห่งอาณาจักรต้าเหยียนเป็นผู้วิเศษแบบใดกันแน่!
ทางด้านเสิ่นเซี่ยวมองเสิ่นเทียนด้วยแววตารักเอ็นดูอย่างยิ่ง แม้ไม่รู้ว่าเทียนเอ๋อร์ทำได้อย่างไร แต่เขาในวันนี้ แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังยื่นหน้ามาเชิญให้เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์
‘ภายภาคหน้าในแดนบูรพาแห่งนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะถูกใครรังแกอีกแล้ว
หลานเอ๋อร์หากเจ้าเห็นอยู่บนสวรรค์ก็น่าจะตายตาหลับเช่นกัน’
……
เมื่อเห็นในที่สุดเสิ่นเทียนก็ตอบตกลง นักพรตชราจึงตัดสินใจจัดการงานให้เรียบร้อยหนึ่งวันแล้วกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทันที
หลี่เหลียนเอ๋อร์เทินเมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติเข้ามาใกล้ๆ “พี่อวิ๋นซี พาเหลียนเอ๋อร์ไปด้วยได้หรือไม่”
บนหน้าผากจางอวิ๋นซีลากเป็นเส้นสีดำเส้นหนึ่ง “เจ้าไม่กลับแดนเทวาดาวประกายพรึก ไปอยู่กับท่านพ่อเจ้ารึ”
หลี่เหลียนเอ๋อร์บ่นพึมพำ “กว่าจะหนีออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ สักหน่อย ข้าไม่กลับ!”
พูดจบนางก็ขยับไปข้างๆ เสิ่นเทียน “พี่เสิ่นสาบานว่าหากไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงาน อันนี้จัดการยากนิดๆ นะ! แต่ตอนนี้พี่เสิ่นเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว คงจะทะลวงระดับดวงจิตดรุณได้เร็วมาก
เหลียนเอ๋อร์ตามพี่เสิ่นไปแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ เรามาพยายามฝึกฝนด้วยกันเถอะ!”
จางอวิ๋นซีเอ่ย “บ้านเจ้าไม่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ รีบกลับบ้านไป!”
หลี่เหลียนเอ๋อร์ทำปากจู๋ “ไม่ ไม่ เหลียนเอ๋อร์ไปอยู่กับอารองก็ได้!”
หลี่ชิงเหออารองของหลี่เหลียนเอ๋อร์ก็คือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสใหญ่ระดับหลอมรวมเทพยุคนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
หากหลี่เหลียนเอ๋อร์จะไปหาญาติที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จางอวิ๋นซีก็คิดหาเหตุผลอะไรมาห้ามไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้เองมีแสงสว่างสีม่วงพุ่งมาแต่ไกล มันพุ่งเข้ามากลางตำหนักไร้พรมแดนแล้วก็ม้วนเอาหลี่เหลียนเอ๋อร์กับเสิ่นเอ้าหมุนตัวหนีไป
เสิ่นเทียนเหมือนเห็นรางๆ ว่าในกลุ่มแสงสีม่วงนั้นมีร่างคนสีขาวอยู่
…..
ใช่ แสงสว่างสีม่วงนี้ก็คือผู้สูงศักดิ์จื่อหยางที่ไปแล้วย้อนกลับมาอีก เขารับคำสั่งจากหลี่ชางหลันให้มาพาเสิ่นเทียนกลับแดนเทวาดาวประกายพรึก
ปรากฏว่าไม่ใช่แค่ทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่ยังทำป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ของศิษย์พี่หาย ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแทบจะคาดการณ์ได้เลยว่ากลับแดนเทวาดาวประกายพรึกครั้งนี้แล้วตนจะอนาถาเพียงใด
กลยุทธ์ในตอนนี้มีเพียงสร้างคุณูปการทดแทนโทษเพื่อให้ศิษย์พี่ระบายโทสะออกบ้าง
หลี่เหลียนเอ๋อร์แอบหนีออกจากแดนเทวาดาวประกายพรึก นั่นคือความผิดของศิษย์อารักขา
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับนางกลับไป นี่คือคุณูปการแรก
เสิ่นเทียนเป็นต้นตอความโกรธของศิษย์พี่ แต่ถ้าจับเสิ่นเทียน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับสตรีศักดิ์สิทธิ์จางอวิ๋นซีไม่ยอมแน่
ดังนั้นผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเลยได้แต่ถอยมาเรื่องรอง จับเสิ่นเอ้าพี่ชายแท้ๆ ของเสิ่นเทียนมาสมทบให้ครบจำนวน ถึงอย่างไรคนที่ศิษย์พี่โกรธก็ชื่อเสิ่นเอ้าเทียน เสิ่นเอ้าก็พอจะเอามาใช้แทนได้กระมัง!
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับเขากลับไป นี่คือคุณูปการที่สอง
ศิษย์เอ๋ย ครั้งนี้กลับไปกับอาจารย์เกรงว่าคงต้องให้เจ้ากล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมหลายเดือนเลย
แต่กระบี่ล้ำค่าคมจากการลับ กลิ่นหอมดอกเหมยมาจากความขม ขอแค่เจ้าฝึกฝนในระดับความแกร่งของอาจารย์ลุงธารนิรันดร์ได้ ภายภาคหน้าผู้ฝึกบำเพ็ญกระบี่สูงสุดในรุ่นเยาว์แห่งแดนบูรพาจะต้องมีที่ยืนของเจ้าแน่นอน แน่นอนเลย!
…….
“พี่เสิ่น เดี๋ยวเหลียนเอ๋อร์จะไปหาท่านที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นะ รอเหลียนเอ๋อร์ด้วย!”
ผมชี้หย่อมหนึ่งตั้งตรงกลางสายลมในแสงสว่างสีม่วง ก่อนเสียงเด็กสาวจะค่อยๆ ไกลออกไป
ในที่สุดจางอวิ๋นซีก็พ่นลมหายใจขุ่นยาวๆ สายฟ้าบนผิวกายค่อยๆ สงบลง
อีกเดี๋ยวต้องไปเสนอให้ผู้สูงศักดิ์ธารนิรันดร์จับตาดูลูกสาวดีๆ แล้ว เห็นผู้ชายไม่ได้ก็จะหนีออกจากบ้านตามเขาไป ไม่มีความสำรวมของผู้หญิงเลยสักนิด!
พอนึกถึงตรงนี้ จางอวิ๋นซีก็เผยรอยยิ้มชัยชนะ
………….
กลางดึก จางอวิ๋นซีกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพักในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียนคืนหนึ่ง
ข่าวที่เสิ่นเทียนไปกับแดนศักดิ์แพร่งพรายออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
คืนนี้ลิขิตไว้ว่าเป็นคืนที่ไม่เงียบสงบ
คนมากมายพากันตื่นตกใจเพราะข่าวนี้ แต่เจ้าเรื่องอย่างเสิ่นเทียนกลับนอนหลับสบายกว่าใคร แม้จะถูกบังคับให้รับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อะไรนั่น
แต่ก็มีความโชคดีในความโชคร้าย นั่นคือหาเหตุผลหลีกหนีงานแต่งงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนี้หากมีสตรีศักดิ์สิทธิ์เซียนท่านใดมารังควานใบหน้าหล่อเหลาของข้า คิดจะพัวพันข้าละก็
ข้าก็จะเอากฎ ‘ข้าเคยสาบานว่าจะตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงานเด็ดขาด’ มาตอบกลับไป
ในโลกบำเพ็ญเซียนที่มองเรื่องการสาบานสำคัญอย่างยิ่งนี้ คำอธิบายนี้ถือว่ามีอำนาจโน้มน้าวมากจริงๆ มีอย่างเดียวที่ไม่น่าพอใจคือตอนนั้นที่พูดหัวเก่าเกินไป น่าจะบอกว่าระดับหลอมรวมเทพสิ!
สรุปคือ เสิ่นเทียนคิดว่าตัวเองก็พอจะฝืนผ่านเคราะห์ภัยนี้ไปได้
ไม่มีเซียนเคียดแค้นอยู่ข้างๆ อัตราความอันตรายลดลงไปมาก ส่วนหลังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้วจะมีคนริษยาหรือไม่นั้น
อยากมากข้าก็อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์ไปก่อน ตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญไม่ออกไปฝึกฝนสุ่มสี่สุ่มห้า จากนั้นแอบเติบโตเงียบๆ หาผู้มีวาสนาหลายๆ คนมาทำให้วงรัศมีเหนือศีรษะข้าเป็นสีเขียวและแดง
จนวันนั้นที่ข้าทะลวงระดับหลอมรวมเทพ วงรัศมีเป็นสีทองบริสุทธิ์ก็มั่นคงดั่งสุนัขแล้ว
ตอนนั้น โลกบำเพ็ญใหญ่เช่นนี้ จะทำอะไรตามใจไม่ได้หรือ
………….
เสิ่นเทียนแบกความปรารถนาในชีวิตอันสวยงามหลับลึกเข้าฝันไป
ตื่นมาวันที่สอง เสิ่นเทียนบอกลาท่านพ่อเสิ่นเซี่ยวก่อนพาทุกคนขึ้นเรือเหาะ
ใช่ ทุกคน
สิ่งที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ครั้งนี้จางอวิ๋นซีกับนักพรตชราเดินทางมาอาณาจักรต้าเหยียนไม่ใช่แค่เพื่อเชิญเสิ่นเทียนกลับ แต่ยังหาหน่ออ่อนเซียนที่ได้แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจากร้านวิญญาณสวรรค์ในวันนั้นด้วย
กล่าวให้ละเอียดคือกุ้ยกงกง ฉินเกา เถ้าแก่ซ่งและพวกเจี่ยอี้และสยง
ในกายคนพวกนี้สูบรับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าบ้างมากบ้างก็น้อย แม้ปริมาณจะไม่มากพอ ไม่อาจใช้อัสนีเทพกำเนิดฟ้าโจมตีได้อย่างเสิ่นเทียนหรือจางอวิ๋นซี
แต่ด้วยแก่นรากเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมหรือเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีก็ยังมีผลเพิ่มเป็นครึ่งเท่า
คนพวกนี้สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เสื่อมถอยแล้ว คือหน่ออ่อนเซียนที่หายากและควรค่าแก่การดึงตัวมาอย่างยิ่ง
แน่นอน มีหน่ออ่อนเซียนสองต้นที่แก่ไปหน่อย
แต่นี่ไม่สำคัญ สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว อายุร้อยปีไม่ถือว่าอะไรเลย
ขอแค่คุณสมบัติการบำเพ็ญดีพอ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กระทุ้งให้เจ้าทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองกระทั่งดวงจิตดรุณได้
วินาทีที่ขึ้นเรือเหาะเทพสวรรค์ เถ้าแก่ซ่ง เจินจื้อเจี่ยและพวกหลิวไท่อี่เหมือนกับฝันไป
เมื่อหลายวันก่อนพวกเขายังเป็นแค่ผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดาในสวนหมื่นวิญญาณ รวมถึงเป็นผู้สืบทอดสาขาย่อยอันเล็กจ้อยแห่งตระกูลซ่งในแดนบูรพา
แต่วันนี้พวกเขากลับได้เป็นศิษย์ฝ่ายในของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แบบกรณีพิเศษ เหมือนปลากระโดดข้ามประตูมังกร
ส่วนเถ้าแก่ซ่ง เพราะปูนบำเหน็จผ่าหินหนึ่งส่วนรวมถึงแก่นรากอัสนีเทพในกายค่อนข้างเยอะ เลยได้สิทธิ์เป็นศิษย์สายตรง
……
ในมุมมองพวกเขา ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขากอดขาท่านเซียนสำเร็จ
ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาผูกชะตากับท่านเซียนสำเร็จ
ทุกอย่างเป็นเพราะท่านเซียนเห็นแก่มิตรภาพเก่าถึงประคับประคองพวกเขา!
สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!
………………………………….…..