บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 1024
บทที่ 1024 ไม้ตาย
ตอนที่จางเหยียงซานผลักบานประตูออกพร้อมกับหมอหลวง
ใบมีดสีเงินโชกโลหิตสดเล่มหนึ่งถูกทิ้งลงข้างเท้าพอดี อาภรณ์ในมือของกู้อ้าวเวยถูกเลือดสดย้อมเป็นสีแดงฉาน บนใบหน้าก็เรื่อแดงเป็นแถบๆ กระโปรงยาวกวาดลากไปบนพื้น บนนั้นกลับมีศพของชายชุดดำคนหนึ่งนอนอยู่ ซางนิงเก็บดาบยาวเข้าฝักตรงช่วงเอว โน้มตัวลงไปเตะศพนั้นไว้ด้านข้าง ก่อนหยิบสมุนไพรห้ามเลือดออกมา
“ไม่ต้อง เรื่องห้ามเลือดยกให้จางเหยียงซานจัดการเถอะ”
กู้อ้าวเวยกล่าวเช่นนี้ ก็เห็นจางเหยียงซานรับช่วงต่อทันที จากนั้นพลันหยัดกายลุกขึ้น “บริเวณเหนือหน้าอกเป็นจุดที่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต คนผู้นี้จงใจปรากฏตัวตอนที่ข้าอยู่คนเดียว จึงถือโอกาสนี้ไว้ชีวิตฮองเฮาเหนียงเหนียง”
“ท่านกระชากกระบีออกมาตรงๆ เลย!” เสียงของจางเหยียงซานแหลมขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมุ่งสงสัยว่านางคิดอยากฆ่าฮองเฮาเลยทีเดียว
“ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย! เขาต่างหากที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้ามากระชากกระบี่ อยากใช้กระบี่เล่มนี้สังหารฆ่า” กู้อ้าวเวยก็พลอยร้องตะโกนเสียงแหลมขึ้นมาด้วย นางไม่ได้สังเกตเลยว่าซางนิงคอยตามอยู่ข้างหลังตนตั้งแต่เมื่อไร เพียงแต่ตอนที่ถูกเลือดย้อมทั่วร่างแล้วก้าวมาเบื้องหน้าเพื่ออุดปากแผลให้นาง
ยามนี้ได้แต่นั่งยองๆ อยู่ข้างกายจางเหยียงซาน เปิดกล่องยาที่ช่วงเอวของเขาออก ถือโอกาสหยิบสมุนไพรและขี้ผึ้งออกมาส่วนหนึ่ง
“ของพวกนี้รักษาอาการไม่ได้รักษาต้นเหตุ รอข้าประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าที่นี่มีห้องครัวเล็กๆ อยู่ ส่วนเจ้าไปช่วยชีวิตของเขาเอาไว้” กู้อ้าวเวยมุ่นคิ้ว วิ่งกระหืดกระหอบออกไปด้านนอก
จากนั้นไม่นานนางก็วิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับของเหลวสีขาวชามหนึ่ง ตอนที่ข้ามธรณีประตูเข้ามายังสะดุดเล็กน้อย เคราะห์ดีที่ซางนิงคว้านางเอาไว้ทันเวลา นางคุกเข่าย่อกายลงบนกองเลือดเหล่านั้นโดยตรง หลังจากเรียกหมอหลวงหลายคนให้ออกแล้ว ก็กล่าวกับจางเหยียงซาน “เปิดมันออก”
ทันทีที่จางเหยียงซานปล่อยมือ กู้อ้าวเวยก็แปะของเหนียวหนืดสีขาวราวกับราดน้ำจิ้มไม่ปานลงไป ฮองเฮาก็ค่อยปรือตาขึ้นมา ยกมือขึ้นหมายจะสัมผัสช่วงอก กลับถูกจางเหยียงซานเอื้อมมือไปห้ามเสียก่อน ส่วนกู้อ้าวเวยนั้นทั่วร่างเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ เห็นว่าของสิ่งนั้นยังไม่แห้งสนิท จึงแย่งเข็มในมือของจางเหยียงซานมา ให้เขาประคองนางขึ้น “พยุงให้มั่น”
“ท่านยังคิดจะ…”
“สี่สิบแปดเข็มก็เกินพอ ห้ามมอง ปิดประตู” กู้อ้าวเวยไม่มีเวลาพูดมากความ ใช้กรรไกรแหกชุดปักษ์เพลิงตัวนั้นจากด้านหลังทันที เผยให้เห็นแผ่นหลังโชกเลือด แล้วมองไปที่จางเหยียงซานอีกครั้ง “อย่าให้มือสัมผัส จับแขนเสื้อไว้”
“ข้าสวมถุงมือแล้ว ดีที่ท่านส่งคนไปบอกข้าก่อน” จางเหยียงซานแสดงมือทั้งสองข้างให้ดู
คราวนี้กู้อ้าวเวยจึงเบาใจ มือเป็นระวิง หมอหลวงที่อยู่ข้างๆ ต่างไม่กล้ามองร่างฮองเฮา ในใจกลับยังคงไม่ปักใจเชื่อ
แต่เพียงเวลาหนึ่งก้านธูป กู้อ้าวเวยก็เหงื่อกาฬท่วมตัวเป็นที่เรียบร้อย แต่เพิ่งฝังลงไปสิบแปดเข็มเท่านั้น นางเห็นของเหลวเหนียวหนืดสีขาวนั้นแข็งตัวแล้ว กล่าวเสียงกระซิบว่า “สังเกตชีพจรของนาง เอา…”
“ป้อนยาเรียบร้อยแล้ว ท่านทำต่อเถิด” จางเหยียงซานรีบหลับตาลงอีกครั้ง
คราวนี้กู้อ้าวเวยจึงวางใจ
และนอกตำหนักฮองเฮามีพระสนมจำนวนไม่น้อยที่มาเร่งรุดมาเมื่อได้ยินข่าว ฮ่องเต้ยิ่งยืนวางขรึมอยู่นอกห้อง ถามไถ่นางกำนัลขันทีที่อยู่ข้างๆ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ ทหารต้องห้ามอยู่ที่ใด”
หัวหน้าทหารต้องห้ามที่อารักขาฮองเฮารีบคุกเข่าลงทันใด “ทูลฝ่าบาท ผู้น้อยหาได้พบบุคคลต้องสงสัยเข้าไปข้างในไม่ เป็นเหล่านางกำนัลที่สังเกตความผิดปกติในนั้นก่อน หลังจากที่ใต้เท้าหมอเทพเข้าไปข้างในแล้วก็ไม่มีเงาทะมึนเข้าไปข้างในอีกเลย เกรงว่าคงซ่อนตัวอยู่ในตำหนักฮองเฮาเหนียงเหนียงตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
“เดิมทีพวกบ่าวอยากมอบของบำรุงร่างกายให้ฮงอเฮาอเหนียงเหนียง พอเข้าไปด้านในก็เห็นเลือดนองทั่วพื้น กระบี่ยาวเล่มหนึ่งเสียบคาทรวงอกฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้วเพคะ…” นางกำนัลที่เห็นเหตุการณ์เอครู่รีบร้อนเอ่ยปาก
เหล่าขันทีน้อยต่างก็ทยอยสมทบ
ซ่านต้วนโฉงได้แต่เฝ้ารออย่างเงียบๆ อยู่ด้านนอก พร้อมกันนั้นยังส่งคนไปตรวจค้นทั่วตำหนักด้วย
คนตัวใหญ่ขนาดนั้นหากซ่อนตัวได้นานเยี่ยงนี้จริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่มีร่องรอยเหลือเลยแม้แต่นิดเดียว
สองชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซ่านต้วนโฉงเริ่มทนรอไม่ไหวเรียกหมอหลวงที่ไม่ได้ทำอะไรในนั้นออกมาทั้งหมด เอ่ยถามว่า “สถานการ์ของฮองเฮาเป็นอย่างไรกันแน่”
ปัจจุบันจุดยืนฮองเฮาตงฟางผิดเพี้ยนไป ตำแหน่งฮองเฮาคงเป็นไปไม่ได้ที่จะยกให้แม่นางคนอื่น
กอปรกับในวังยังมีคนลึกลับคอยบงการสถานการณ์ทั้งหมด ซ่านต้วนโฉงไม่ไว้วางใจคู่ครองคนอื่นๆ เลยจริงๆ จึงยิ่งร้อนรนเต็มเปี่ยม
“เลือดบนพื้นมิใช่เลือดของฮองเฮอาเหนียงเหนียง แต่ในเลือดนี้เจือพิษร้ายแรงอยู่ ใต้เท้าหมอเทพห้ามเลือดให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้ว ยามนี้กำลังฝังเข็มยื้อลมหายใจเฮือกสุดท้ายของฮองเฮาเหนียงเหนียง เมื่อครู่ฝังเข็มเสร็จสรรพแล้ว ตอนนี้กำลังถอนพิษอยู่พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงกล่าวด้วยความรวดเร็ว ก่อนปาดหยาดเหงื่อบนหน้าผากออกหนึ่งครา “ใต้เท้าหมอเทพเยาว์วัยแต่สามารถฝังเข็มสี่สิบแปดเล่มได้ ช่างไม่เสียชสมญานามนี้จริงๆ พวกกระหม่อมไร้ความสามารถ ฝ่าบาทได้โปรดประทานโทษด้วย”
กล่าวพลางหมอหลวงเฒ่าทั้งสองพลันรีบคุกเข่าลงไปทันควัน
แม้จะเปรียบกับหญิงสาวรุ่นเยาว์อย่างกู้อ้าวเวยไม่ได้ แต่ทั้งคู่ยังคงถ่อมตน
ซ่านต้วนโฉงทำเพียงโบกมือน้อยๆ ตำหนิพวกเขาที่ไม่ศึกษาวิชาแพทย์ให้ดี อยากเข้าไปดูด้วยตัวเองสักรอบ กลับเห็นว่าบานประตูถูกผลักออก กู้อ้าวเวยพยุงบานประตูออกมาด้วยสีหน้าขาวซีดราวกระกับดาษ หอบหายใจหนักๆ หยาดเหงื่อชุ่มชโลมแขนเสื้อ กล่าวเสียงแผ่วเบา “ไปเอากล่องยามาให้ข้า นี่คือพิษเหง้าถุงน้ำดีหงส์ ขจัดออกจากได้ส่วนใหญ่แล้ว หลังจากดึงผ้าปิดแผลออกแล้วก็ทาขี้ผึ้งลงไป”
“ให้ข้าบัญชาเอง ส่วนท่านไปพักผ่อนกับพระชายาอ๋องจงผิงให้ดีสักหน่อยเถิด”
จางเหยียงซานร้องตะโกนขึ้นมาจากด้านใน ซางนิงจึงออกมาหลังจากนั้น ประคองกู้อ้าวเวยเอาไว้ ก่อนโค้งคำนับต่อซ่านต้วนโฉง “ฝ่าบาท ไม่สู้ให้ผู้น้อย…”
“พานางไปหาพระชายาอ๋องจงผิง แล้วเรียกหาอ๋องจงผิงมาที่วัง อย่าปล่อยให้รัชทายาทเอ่อตานก่อเรื่อง” ซ่านต้วนโฉงเห็นสองข้างของกู้อ้าวเวยสั่นระริก จึงได้แต่รีบร้อนกล่าว
ยามนี้ฉูห้าวอยู่ในเมืองเทียนเหยียนนี่เอง ซ้ำยังมาเพราะกู้อ้าวเวยอีกด้วย
ถ้าหากยามนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นแม้แต่กับกู้อ้าวเวย กลัวว่าเอ่อตานคงจะลงมือเข้าให้แล้วจริงๆ
กู้อ้าวเวยเพิ่งเดินออกไปสองก้าวก็ขาอ่อนแรงลงไป ฟุบเข้าสู่อ้อมอกของซางนิงพอดี
ซางนิงรีบร้อนประคองนางเอาไว้เป็นพัลวัน หมอหลวงเฒ่าเห็นสายตาของซ่านต้วนโฉงจึงรีบร้อนมาตรวจชีพจร จากนั้นกล่าวว่า “ใต้เท้าหมอเทพเพียงแต่เมื่อยล้าเกินไปเท่านั้นกอปรกับร่างกายอ่อนเพลีย จึงยืนหยัดต่อไปไม่ไหว”
“เมื่อยล้าเกินไป?” ซ่านต้วนโฉงเลิกคิ้ว
“ฝ่าบาทยังไม่ทรงทราบ การฝังเข็มหาใช่เรื่องง่ายดาย และฝังเข็มสี่สิบแปดเล่มนี้เปลืองแรงผู้รักษาไปมหาศาล สิ่งสำคัญคือต้องทำทีละขั้นห้ามผิดพลาดภายในหนึ่งชั่วยาม หนักเบาห้ามมั่วซั่วแต่เพียงครึ่งเสี้ยว ซ้ำยังต้องปรับสภาพตามร่างกายของผู้ป่วยอีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงรีบกล่าว ถือโอกาสนี้สั่งยาบำรุงเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งด้วย
ซางนิงรีบร้อนอุ้มนางไปที่ตำหนักของฉีหรัวทันใด
ฝั่งฉีหรัวได้ยินข่าวก็ระส่ำระสายใจ เวลานี้เห็นกู้อ้าวเวยอยู่ในสภาพเปื้อนเลือดทั้งกาย กำลังคิดจะไปแตะต้อง กลับถูกซางนิงเบี่ยงหลบ “พิษเหง้าถุงน้ำดีหงส์รุนแรงจริงๆ พระชายาอ๋องจงผิงไม่ควรเสี่ยงอันตราย”
“พิษเหง้าถุงน้ำดีหงส์? ของสิ่งนี้โผล่ออกมาอีกได้อย่างไรกัน” ฉีหรัวอดตื่นตระหนกไม่ได้
“ตอนนี้ยังไม่ทราบ ขอได้โปรดให้อ๋องจงผิงและพระชายาอ๋องจงผิงขวางรัชทานยาทเอ่อตานเอาไว้ อย่าให้ก่อเรื่องวุ่นวาย” ซางนิงวางนางลงบนแท่นนอนนุ่มนิ่มโดยตรง กำหมัดแน่น
ถ้าหากตนไปช้าก้าวเดียว ตอนนี้เกรงว่าทั้งฮองเฮาและกู้อ้าวเวยคงต้องฝังร่างอยู่ในตำหนักนั้นเสียแล้ว
เป็นผู้ใดกันแน่…