บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 1129
บทที่ 1129 ล้อรถม้าวิ่งไปตามบนถนน
“องค์ชายสามกล้ากระทำเช่นนี้ภายใต้แผ่นดินกษัตริย์ บางทีก็อาจได้รับการปกป้องจากฮ่องเต้”
อาศัยฉีหรัวสงสัยในเรื่องนี้ ในใจซ่านเชียนหยวนก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร
ตอนนี้ยู่จุนออกจากวัง ได้ยินว่าสูตรยาอายุวัฒนะอันตรายอย่างมาก แต่หากซ่านต้วนเฟิงสามารถถอนพิษถุงน้ำดีหงส์ในตัวได้จริงๆ คิดว่ายู่จุนคงไม่กลับมาง่ายๆแน่
เช่นนี้ เขาก็จะมีโอกาสพบเสด็จพ่อได้ตามลำพัง
หากอยากรู้ว่าเสด็จพ่อกับพวกพี่น้องคิดจะทำอะไรกัน ก็มีเพียงเวลานี้
ซ่านเชียนหยวนยื่นฎีกาขอเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ พร้อมกับความจริงใจสามส่วน การลองใจอีกสามส่วน ด้วยเหตุผลว่าองค์ชายสามคิดวางแผนกระทำผิด ซ่านเชียนหยวนในฐานะที่เป็นอ๋องจงผิงจะนิ่งดูดายไม่ได้ จึงต้องมาพบเสด็จพ่อเพื่อแจ้งเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว จะได้ไม่เป็นการกระทำให้เดือดร้อนในภายหลัง
พูดเช่นนี้ต่อให้คนของยู่จุนรู้เรื่อง ก็ไม่เป็นไร
ยังไงในสายตายู่จุน เขาเป็นเพียงองค์ชายคนหนึ่งที่ไม่มีความสำคัญอะไร และปกติแล้วก็เป็นคนไม่ฉลาด พูดแบบนี้เหมือนเป็นการที่ลูกชายคนหนึ่งไปฟ้องพ่อ ไม่มีอะไรที่เกินเลย
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หวางกงกงส่งเสลี่ยงมาด้วยตนเอง พร้อมพูดขึ้นอย่างเคารพว่า “ฮ่องเต้เข้าใจความหมายของอ๋องจงผิง ได้สั่งให้ป่าวมารับท่านเข้าวังโดยเฉพาะ สิ่งผิดปกติระหว่างทางได้รับการจัดการจนหมดสิ้นแล้ว”
ประโยคสุดท้ายพูดขึ้นมาอย่างไม่ชัดเจน ซ่านเชียนหยวนก็อยู่ในความสงบ
ก่อนไป ยังไม่ลืมบอกให้ฉีหรัวอย่าลืมกลับบ้านไปยืมพ่อ ฉีหรัวเดินทางไปคนล่ะทางพร้อมกับเขา
ซ่านเชียนหยวนจะเข้าวังไปถามเกี่ยวกับความจริงของเรื่องนี้ ส่วนฉีหรัวจะยืมมือของพ่อฉีหมิงเป็นไส้ศึก สืบว่าตระกูลฉางคิดจะทำอะไรกันแน่ มีเพียงสิ่งเดียวที่น่าแปลกใจก็คือ มีข่าวอ๋องจงผิงจะเข้าวัง รถม้าจวนองค์ชายสามที่มุ่งหน้าไปท่าเรือก็ไม่ได้หยุดพัก ยังคงดำเนินไปอย่างเป็นปกติ
ภายในห้องพระอักษร ซ่านต้วนโฉงสวมชุดคลุมมังกร ฟังเสียงซ่านเชียนหยวนคุกเข่าอยู่บนพื้น เล่าเรื่องที่ซ่านเซิ่งหานปลูกลูกเอ่อตันแดง ร่วมมือกับตระกูลฉางลำเลียงยาพิษ ตลอดจนกู้เฉิงขุนนางทรยศชาติกับซ่านต้วนเฟิงมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่ธรรมดา พร้อมทั้งเล่าเรื่องต่างๆมากมาย จนคิ้วชนกันอย่างอดไม่ได้
คอของซ่านเชียนหยวนก็แหบตาม ดื่มน้ำลงไปหนึ่งแก้ว แล้วก็มีเสียงแก้วก็ตกหล่นลงพื้น หน้าผากเป็นแผล จนซ่านต้วนโฉงตกใจนิ่งอึ้งไป และยังพูดขึ้นอย่างเสียงดังว่า “ขอเสด็จพ่อให้ความยุติธรรม เรื่องทั้งหมด จะต้องเป็นเพราะเสด็จกับเสด็จพี่สามไร้ความยุติธรรมก่อน ร่วมมือกับคนนอกทำร้ายสายเลือดตระกูลซ่าน ขอเสด็จพ่อวงอาญาสั่งประหาร”
คำว่าประหารสองคำนี้เสียงดังฟังชัด จนหวางกงกงพวกนางกำนัลขันทีต่างก็รีบล้มคุกเข่าอยู่บนพื้น
คิดไม่ถึงว่าอ๋องจงผิงที่มีความอดทน ไม่โดดเด่นอะไร
ตอนนี้พูดอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ กลับพูดขึ้นมาได้อย่างน่าตกใจ
“เชียนหยวนกตัญญู เสด็จอาของเจ้าสั่งสอนมาดีตั้งแต่เด็ก” ซ่านต้วนโฉงวางมือบนเบาะหลัก จากนั้นจดหมายลับสองฉบับก็ร่วงหล่นมาจากมือของเขา กระทบใบหน้าของซ่านเชียนหยวน พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ในเมื่อเจ้าแปลกใจก็อ่านจดหมายลับสองฉบับนี้ให้ละเอียด”
“ขอรับ เสด็จพ่อ”ซ่านเชียนหยวนตกใจ รีบลุกมาเอาจดหมายลับสองฉบับไปอ่าน
หนึ่งในจดหมายลับ เขียนเมื่อก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน ก่อนที่องค์รัชทายาทแคว้นเอ่อตันจะมาแคว้นชางหลาน แคว้นเอ่อตันได้ส่งทหารมาตั้งป้อมอยู่ตรงชายแดนระหว่างแคว้นชางหลานห่างออกไปห้าสิบลี้ และได้พูดถึงกลางฤดูร้อนหลังฤดูใบไม้ผลิ หากคืนองค์หญิงแคว้นเอ่อตันกลับไป ก็จะไม่เปิดศึก หากไม่เช่นนั้น จะส่งกองกำลังใหญ่มา สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
และตรงท้ายจดหมายก็มีคำตอบรับของเสด็จพ่อซ่านต้วนโฉงแล้ว และยื่นข้อเสนอว่า นอกจากกู้อ้าวเวยกับญาติพวกพ้องแล้ว ภายในหนึ่งร้อยปีคนตระกูลหยุนตระกูลยู่คนอื่นจะไม่ได้เหยียบย่ำเข้ามาในแคว้นชางหลาน
ซ่านเชียนหยวนนุ่งอึ้งอยู่กับที่ เสด็จพ่อเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ยอมพูด และรับปากว่าจะแอบส่งกู้อ้าวเวยไปอย่างลับๆ และดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นการทำลายแคว้นชางหลานนี้ และคำพูดในนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบตระกูลหยุนกับตระกูลยู่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงยอมให้ยู่จุนเปลี่ยนสายเลือดราชวงศ์เป็นของตระกูลยู่
“เสด็จพ่อ นี่….”
“ฉบับที่สอง”
ซ่านต้วนโฉงมองดูอย่างโกรธเคือง ทุกคนก้มหัวลงอย่างสั่นเทาอีกครั้ง
ซ่านเชียนหยวนก้มหัวอ่านต่ออย่างตัวสั่น และเห็นบนจดหมายลับนี้ ซ่านต้วนโฉงสั่งคนเอากล่องที่เขียนชื่อฮ่องเต้องค์ต่อไปไว้ในสุสาน และจดหมายฉบับนี้ก็ไม่ใช่ฉบับใหม่ เหมือนเป็นสิ่งของเมื่อปีสองปีก่อน ในใจตกตะลึงอย่างที่สุด ต่อมาก็เป็นลายมือของเมิ่งซู่ เมิ่งซู่ตัดสินใจที่จะฟ้องร้องขุนนางที่ไร้ประโยชน์เพื่อฮ่องเต้ เพื่อแบ่งเบาภาระฮ่องเต้องค์ใหม่ ระหว่างนั้นก็ได้มีการสืบค้นหาสุสานตระกูลหยุน ตลอดจนสถานที่ซ่อนยาพิษตระกูลฉาง
จดหมายลับสองฉบับ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าซ่านต้วนโฉง ไม่ได้คิดที่จะยกแผ่นดินให้กับคนอื่นเลยสักนิด
ซ่านเชียนหยวน กลับพูดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงว่า “ในเมื่อเสด็จพ่อเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว อยากที่จะรวบหัวรวบหางตระกูลหยุนตระกูลยู่ให้สิ้นซาก แล้วทำไม….”
“คนทรยศขายชาติอย่างกู้เฉิง ไม่ได้มีเพียงคนเดียว หากไม่ใช่เพราะต่อหน้าข้าไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา พวกเขาจะกล้าโพล่หางเจ้าเล่ห์ออกมาให้เห็นหรือ” ซ่านต้วนโฉงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นอีกว่า “ประชาชนแคว้นชางหลานสงบสุขมากว่าร้อยปี ลืมความอันตรายไปจนหมดสิ้นแล้ว กลับทำให้พวกกลุ่มเสือสุนัขจิ้งจอกตกหลุมพราง หากอยากที่จะกำจัดให้สิ้นซาก กู้เฉิงตระกูลกู้ ยู่จุนตระกูลยู่ตระกูลหยุน ตระกูลฉางฉางอีฉิน และคนที่ส่งมาวางยาใกล้ตัวข้า ล้วนอาศัยยาอายุวัฒนะมาเป็นข้ออ้าง ต้องการให้ข้าตาย ให้ข้าไร้คุณธรรม ใช่ข้ายกแผ่นดินให้กับคนอื่น”
ซ่านเชียนหยวนรู้สึกเย็นไปทั้งแผ่นหลัง มองดูตรงหน้าท่าทีที่เรียบเฉยของเสด็จพ่อ ตรงพรมแดน มีกำลังศัตรูที่ทรงพลังกดขี่ ทำให้รู้สึกคอแห้ง พูดออกมาอย่างสั่นเทาว่า “เสด็จพ่อพูดเช่นนี้….คือจะให้แคว้นชางหลานรับรู้ถึงความอันตราย คือการเปิดโปงจุดอ่อน ปล่อยให้มันเป็นไป จนถึงทุกวันนี้พวกเขาวางลำดับความสำคัญสลับกัน คนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด กลับเป็นจักรพรรดิของตน?”
เคยมีเรื่องกระทำแบบนี้เกิดขึ้นไหม
ในใจซ่านเชียนหยวนไม่พอใจ รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นไปอย่างน่าขำไร้สาระ
แต่ตอนนี้เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ค่อยเพิ่งรู้ว่าการกระทำของเสด็จพ่อเด็ดขาดมาก
ให้คนพวกนี้ที่ต้องการเอาใจเขาไปตามหายาอายุวัฒนะ สุดท้ายแล้วคนพวกนี้กลับโดดลงไปในหลุมยาอายุวัฒนะนี้ทีละคน สนใจเพียงยาอายุวัฒนะอันล้ำค่า เวลายาวนาน จำได้เพียงว่าฮ่องเต้เห็นแก่สาวงามยอมที่จะยกแผ่นดินให้กับคนอื่น กระทำการผิดกฎพระราชวังอย่างไม่ลังเล
ความจริงแล้ว หมกมุ่นก็ดี หลงใหลก็ช่าง สาวงามอายุยืน เป็นเพียงสิ่งที่เสด็จพ่อสมัครใจโยนมาเพื่อเป็นเหยื่อล่อ
ซ่านต้วนโฉงมองดูลูกชายที่ซื่อสัตย์กตัญญูเพียงคนเดียวอย่างจนใจ แล้วก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ตระกูลยู่ตระกูลหยุนวางแผนเพื่อแก้แค้นมานานกว่าร้อยปีแล้ว หากพวกนางไม่พูด ข้าก็ยากที่จะถอนรากถอนโคน”
“งั้นเสด็จพ่อไม่สนใจประชาชนตกอยู่ในภัยพิบัติหรือ”มือทั้งคู่ของซ่านเชียนหยวนสั้นเทา หากพิษลูกเอ่อตันแดงถูกส่งออกไปเพียงนิด ก็จะทำให้ผู้คนตั้งเท่าไหร่ต้องตาย
“หากข้าไม่สั่งสอน ก็จะไม่รู้จักจำ” ปลายนิ้วซ่านต้วนโฉงเคาะโต๊ะพร้อมพูดขึ้นว่า “การได้ร้องเพลงอยู่ทุกค่ำคืนจะจำเสือและหมาป่าที่อยู่นอกประตูไม่ได้ มีเพียงตีกลางแสกหน้า ถึงจะรู้จักกล้าได้กล้าเสีย เจ้าไม่รู้จักรากเหง้าปมด้อยของมนุษย์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีเพียงล้อรถม้าวิ่งผ่านเท่านั้น ถึงทำให้มีลู่ทางในวันนี้”
หลังจากพูดประโยคสุดท้ายเสร็จ ซ่านต้วนโฉงก็ลุกขึ้นจากไป
มีเพียงซ่านเชียนหยวนที่ยังมองดูจดหมายลับในมือ อย่างไม่พูดไม่จา
ถูกผิด แยกไม่ออกแต่แรกแล้ว