บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 186
บทที่186 ข้าไม่เคยทำ
ลมโชยพัดผ่าน เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงปิดตาคน
กลางลานในเวลานี้ ซ่านเซียนหยวนพาลี่วานเข้ามาด้วยความเร่งรีบ กลับเห็นว่าดาบเล่มยาวที่ผ่านสงครามมานับไม่ถ้วนของซ่านจินจื๋อจ่ออยู่ตรงลำคอของกู้อ้าวเวย และจากนั้นเพียงแค่ไอออกมาสองสามครั้ง ยิ้มอย่างขมขื่น: “ท่านคิดว่าข้าจะฆ่าซูพ่านเอ๋อหรือ?”
”ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า เป็นข้าที่มองเจ้าผิดไป เจ้ามันนางอสรพิษ!”
ซ่านจินจื๋อไม่ได้ลดดาบลงแม้แต่น้อย มืออีกข้างกลับบีบเข้าที่ลำคอของนาง กดนางเข้ากับเสาต้นข้างๆ ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ แรงทั้งหมดที่มีใช้มันเกือบจะทั้งหมด
กู้อ้าวเวยหน้ามืด จิตใต้สำนึกทำให้นางจับเข้าที่แขนของซ่านจินจื๋อ กลับไร้เรี่ยวแรง
”ข้าไม่ได้……”
“เจ้าอิจฉาที่ข้าทุ่มเททั้งใจต่อซูพ่านเอ๋อ ดังนั้นจึงได้กระทำเช่นนี้! ใช่หรือไม่! เจ้าคิดว่าถ้าหากข้าไม่มีซูพ่านเอ๋อแล้วจะปฏิบัติกับเจ้าอย่างดีหรือ!” ซ่านจินจื๋อกระแทกนางลงกับพื้น
กู้อ้าวเวยรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไหล่และหลังของนาง อวัยวะภายในดูเหมือนจะถูกบีบเข้าด้วยกัน
”เสด็จอา! ท่านกำลังจะทำอะไร” ซ่านเซียนหยวนรีบวิ่งเข้าไปกอดแขนของซ่านจินจื๋อไว้: “มีเรื่องอะไรกันถึงได้ไม่สามารถพูดกันดีๆ!”
ในเวลาต่อมา ดาบเล่มยาวในมืออีกข้างของซ่านจินจื๋อก็ได้แทงเข้าไปที่หัวไหล่ของกู้อ้าวเวยแล้ว
“อ๊าก~~!” กู้อ้าวเวยร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ตรงหน้าดำมืดโกรธจนจวนจะหมดสติ
ทำเอาซ่านเซียนหยวนตกใจผงะ ขนาดใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกลับยากที่จะเขย่าซ่านจินจื๋อให้แยกออกมาได้ ซ่านจินจื๋อดวงตาทั้งสองข้างแดงเถือก น้ำตานั้นที่รินไหลออกมาเหมือนดั่งโลหิต เขาตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมวาดเอาดาบเล่มยาวกลับคืน ไม่ได้ใส่ใจร่างกายของกู้อ้าวเวยที่เด้งออกไป จากนั้นก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง เพียงใช้สายตาที่สับสนมองมาที่เขา
“ข้าเชื่อเจ้า……แต่ซูพ่านเอ๋อเป็นคนรักเพียงคนเดียวของข้า……”
”เหอะ……” กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าตรงหน้ามืดสนิท แต่ยังคงฝืนใจเกร็งตัวลุกขึ้นยืน คายเลือดออกมาจากปาก แต่ก็เพียงแค่เอามือกุมบาดแผลบนไหล่บางไว้แน่น เนื้อตัวสั่นไม่หยุด: “พูดมาเช่นนี้ ข้าที่อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครรักและดูแลก็สมควรตายด้วยน้ำมือของท่าน!”
นางเดินโซเซตรงเข้าไปหาซ่านจินจื๋อ ชายหนุ่มที่ปกติสีหน้าเย็นชาตอนนี้กลับบ้าคลั่งดั่งสัตว์ป่าดุร้าย
และทั่วตัวของนางเต็มไปด้วยเลือดสีแดง ใบหน้าเปื้อนเลือด กลับยังคงฝืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายเดินไปตรงหน้าของเขา น้ำตาไหลเป็นสาย: “ข้าไม่ได้วางยาพิษ! ข้าก็ไม่ต้องการตำแหน่งพระชายานี่! ข้าต้องการเพียงแค่ความปลอดภัยของตระกูลหยุนของข้า! ข้าต้องการเพียงแค่เดินทางไปทั่วเพื่อรักษาคน! เป็นท่านที่ติดหนี้ข้า!”
“เจ้ามันคนช้ำต่ำ!” ซ่านจินจื๋อคำรามเสียงต่ำออกมาจากลำคอ ดาบในมือของซ่านจินจื๋อยกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
กู้อ้าวเวยเดินโซเซไปไม่กี่ก้าว แสงสีเงินของใบมีดเหมือนดั่งฉากหนึ่งในฝันร้าย
”ความฝันเป็นจริง……”
เสียงพูดพึมพำกับตนเอง มีดของซ่านจินจื๋อฉับพลันกลับค้างอยู่กลางอากาศ โดยไม่คาดคิดก็กระแทกกับพื้นตรงหน้า
กู้อ้าวเวยก็ล้มลงกับพื้น ชิงต้ายใช้แขนขาคลานเข้ามาแล้วกอดนางไว้ในอ้อมแขน สองมือที่สั่นเทายื่นไปกุมบาดแผลของนางไว้: “ท่านอ๋อง! พระชายาไม่มีทางวางยาพิษแม่นางพ่านเอ๋อแน่นอน! นางไม่มีทางทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน!”
”ใช่แล้วเสด็จอา เรื่องนี้ต้องสอบสวนดีๆ ไม่แน่อาจจะเป็นคนของโหวเซ่อที่คอยบงการอยู่ข้างหลัง!”
”หลบไป” ซ่านจินจื๋อเพียงผลักออกซ่านเซียนหยวนที่เข้ามาข้างตัว มีดในมือก็โยนทิ้งแล้ว
กระชากนางออกมาจากอ้อมแขนของชิงต้าย: “ยาถอนพิษ! เอายาถอนพิษออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
กู้อ้าวเวยอ้าปากพะงาบๆ กระอักเลือดออกมาอีกไม่น้อย
ชิงต้ายรีบแย่งกู้อ้าวเวยมาจากอ้อมแขนของซ่านจินจื๋อ แล้วกอดกระชับไว้ในอ้อมอก: “ท่านอ๋อง! ร่างกายของพระชายาอ่อนแอ หากว่ายังทุบตีนางอีก……”
”ไป……” กู้อ้าวเวยไร้สติพยายามผลักนางออกไป
”ข้าไม่ไป! ข้าไม่สามารถดูคุณหนูจากไปต่อหน้าต่อตาของข้า!” ชิงต้ายกระชับคนในอ้อมกอดแน่นยิ่งขึ้น
ราวกับถูกทำให้โกรธเคืองมากกว่าเดิมอย่างซ่านจินจื๋อก้าวเท้าเข้าไปใกล้ ซ่านเซียนหยวนยืนขึ้นเพื่อจะรั้งตัวคนไว้ กลับถูกซ่านจินจื๋อคำรามเสียงต่ำให้หลบไป ต่อจากนั้นก็รัวกำปั้นดั่งสายฝนลงบนตัวของหญิงสาวทั้งสองคน
อาจตายได้……
กู้อ้าวเวยที่เนื้อตัวเย็นเฉียบต้องการผลักออกชิงต้าย กลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย
เสียงกำปั้นที่ตกลงมาบนเนื้อหนังนั้นชัดเจน
ชิงต้ายไม่ยอมปล่อยนาง กู้อ้าวเวยเพียงยกมือขึ้น ต้องการจับที่ข้อมือของซ่านจินจื๋อ
”เจ้าไม่มีสิทธิ์แตะต้องข้า!” ซ่านจินจื๋อปัดมือของนางออก แล้วกระชากนางออกมาจากอ้อมกอดของชิงต้ายและโยนออกไป
”เจ้าต้องรักษาพ่านเอ๋อให้หายดี!” ซ่านจินจื๋อลากนางไปตามพื้นตรงไปยังห้อง
ซ่านเซียนหยวนไม่มีวิธีหยุดรั้ง แต่กู้อ้าวเวยกลับเพียงแค่ยกมุมปากขึ้น พลิกมือแล้วจับที่มือของซ่านจินจื๋อไว้ เสียงสะอึกสะอื้น: “ข้าไม่เคยทำ……ท่านเคยบอกว่าท่านจะไม่มีทางทำร้ายข้า……”
คำสาบานในอดีตเหมือนดั่งน้ำเย็นสาดลงในใจของซ่านจินจื๋อ
เขาหยุดชะงักฝีเท้า ซ่านเซียนหยวนรีบใช้ช่วงเวลานี้อุ้มกู้อ้าวเวยมาไว้ในอ้อมแขนของตน มองดูนัยน์ตาที่มีพายุฟื้นตัวระลอกใหม่ของซ่านจินจื๋อ เขาก็รีบคุกเข่าลงทันใด: “เสด็จอา! ถ้าหากว่าตอนนี้ข้าไม่รั้งท่านไว้ ต้องมีสักวันหนึ่ง ท่านอาจจะต้องเสียใจ! เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นฝีมือของนางอย่างแน่นอน! คนเฉลียวฉลาดเช่นนาง จะทำเรื่องผิดพลาดง่ายๆเช่นนี้โดยวางยาพิษแม่นางพ่านเอ๋อต่อหน้าท่านเชียวหรือ!”
”ถ้าอย่างนั้นยังมีเหตุผลอะไร……”
”ท่านอ๋อง แม่นางพ่านเอ๋อฟื้นแล้ว!” เสียงเรียกของเมี่ยวหารดังออกมาจากในห้อง
ซ่านจินจื๋อจึงได้รีบวิ่งเข้าไป แต่ดาบเปื้อนเลือดของเขายังนอนอยู่บนพื้น ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
ซ่านเซียนหยวนอุ้มกู้อ้าวเวยไว้ในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ตะโกนเรียกลี่วานที่กำลังตกตะลึง: “ไปที่ร้านยาจี้ซื่อถางเชิญนายท่านเห้อมาโดยด่วน!”
ลี่วานสั่งให้คนไปจัดโดยด่วน นอกจากนี้กุ่ยเม่ยเองก็นำชิงต้ายกลับไปที่วิหารเฟิ่งหมิงด้วย
ระหว่างทาง กู้อ้าวเวยฟื้นขึ้นมาด้วยความมึนงง ตรงหน้ายังคงมืดสนิท แต่น้ำตาของนางกลับรินไหลไม่หยุด ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่เบา: “ข้า……ข้ายังไม่ต้องการตาย……”
”ข้าไม่มีทางให้ท่านตาย” ซ่านเซียนหยวนกระชับนางไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา
ไม่สามารถทำซ้ำข้อผิดพลาดเดียวกันได้
กู้อ้าวเวยไม่ใช่หลิงเอ๋อร์ นางจะไม่จากไปทั้งที่อายุยังน้อย นางสามารถมองดูลูกหลานในภายหน้าของเขา
การจากไปของซ่านหลิงเอ๋อร์เหมือนดังเงาดำปกคลุมอยู่ในใจของซ่านเซียนหยวน ตอนนี้เรื่องราวร้ายๆย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่เขาทำได้แค่เพียงอุ้มกู้อ้าวเวยวางไปในผ้าห่มผืนนุ่ม มือไม้วุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูกเพื่อพันผ้าให้บาดแผลของนาง
ดวงตาเต็มไปด้วยสีแดง……
”บัดซบ เหตุใดถึงยังไม่สามารถหยุดเลือดได้” เขาฉีกเสื้อผ้าของตนเองด้วยความโมโห
ลี่วานเอามือปิดปากไว้มองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้า นานแล้วยังไม่สามารถสงบลงได้
”ท่านจะไม่ตาย ข้าสัญญา ท่านเคยพูดไว้ว่าจะเป็นพี่สาวของข้า ท่านต้องอยู่ดูลูกหลานของข้า ท่านรับปากข้าแล้ว ท่านไม่สามารถเป็นเหมือนท่านพี่หลิงเอ๋อร์ ใช่ไหม” ซ่านเซียนหยวนพูดจาไม่เรียงเป็นประโยคต้องการปลุกคนที่หมดสติไม่รับรู้อะไรให้ฟื้นขึ้นมา
ลี่วานตกใจเล็กน้อย แต่ก็เดินเข้าไปใกล้ๆผลักซ่านเซียนหยวนออกไป: “ข้าสามารถห้ามเลือดได้ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร”
”ดี!” ซ่านเซียนหยวนตัวยังคงสั่นขณะหลีกทางให้ และกุ่ยเม่ยที่อยู่ด้านหลังก็วางชิงต้ายบนตั่งไม้ในห้องเดียวกัน บนร่างกายของนางนอกจากรอยฟกช้ำภายนอกและช้ำในแล้ว ดูเหมือนไม่มีอะไรร้ายแรง
กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าตนเองฝัน ในความมึนงงมองเห็นหยุนชิงหยางกำลังอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ รอตนอยู่