บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 23
บทที่23 ฮองเฮามาหาถึงที่
“ผลัก——”
เขาผลักนางออกมาไป ซ่านจินจื๋อกระโดดลงจากรถม้าและขี่ออกไปอย่างรวดเร็วทันที
กุ้อ้าวเวยจับคอและไอ นางลุกขึ้นมาช้าๆ กลับมานั่งที่เดิมใหม่ ในใจก็แอบด่า ซ่านจินจื๋อจะตายเพราะความรักนี้แหละ บ้าไปแล้วแน่ๆ!
“พระชายาจิ้ง ท่านก็อย่าทำให้ท่านอ๋องโมโหเลย”ทหารที่ขับม้าอยู่ก็พูดขึ้น
กุ้อ้าวเวยพยักหน้า ไม่พูดอะไรเลย
ฝนตกไม่หยุด ซ่านจินจื๋อฝ่าฝนกลับไปถึงจวน พอเข้าไปข้างในบ้าน ก็มีคนสองคนยืนข้างเขา ซ่านจินจื๋อก็พูดว่า: “ส่งคนที่พูดน้อยสองคนไปตามกุ้อ้าวเวย อย่าให้นางก่อเรื่องอีก ถ้าจะออกนอกเมืองก็ต้องมารายงานข้าก่อน”
จากนั้นก็มีคนออกไปจากห้อง
ซูพ่านเอ๋อเอาแกงที่ทำไว้ขึ้นมา เห็นซ่านจินจื๋อตัวเปียกก็รีบเดินไปทันที
พอเห็นสีหน้าของซูพ่านเอ๋อกังวล ซ่านจินจื๋อก็ไม่สนใจเรื่องวุ่นวายของวันนี้แล้ว ในใจหวังให้ซูพ่านเอ๋อรีบหายไวๆ เพื่อการนี้เขายอมทำทุกอย่าง
รถม้าฝ่าฝนมาเรื่อยๆจนมาถึงร้านยาเหย้า
หยินเชี่ยวกับชิงต้ายก็กางร่มออกมารับ พยุงกุ้อ้าวเวยเข้าไปในบ้าน ตักน้ำอุ่นมาให้นางเช็ดตัว ถึงนอนลงไปบนเตียง บนหน้าอกที่เจ็บกลับไม่เจ็บเหมือนแผลที่มีตอนนี้
“คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ”หยินเชี่ยวกังวลจนหน้าแดงไปหมด
“ไม่เป็นไร พักหน่อยก็ดีแล้ว พวกเจ้าทำอาหารให้ข้ามาหน่อยก็ได้แล้ว”นางยิ้มร่าออกมา จนพวกนางออกไป นางถึงดึงคอเสื้อลงมา กลับเห็นว่าตรงกระดูกไหปลาร้ามีจุดแดงขึ้นมาเหมือนกำลังจะทำรวมตัวกันเป็นรูป เจ็บจนนางเกาแรงๆถึงจะรู้สึกสบายขึ้นมาบ้าง พอเสร็จแล้วนางก็นอนลงไปเลย
วันต่อมา นางตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น จุดแดงตรงไหปลาร้าก็รวมตัวกันใหญ่เท่าขนาดนิ้วโป้งเป็นคำว่าหยุน นางรีบตรวจวัดชีพจรตัวเอง เห็นว่าพิษไม่มีอาการแพร่กระจาย แต่มือทั้งสองข้างนางยังคงสั่นอยู่
“เป็นเพราะอะไรกัน?”นางใส่เสื้อให้เรียบร้อย เรื่องนี้นางคงต้องไปถามท่านปู่ พอผลักประตูออกไปกลับเห็นมีชายสองคนยืนอยู่หน้าห้อง ทำหน้าไม่สบอารมณ์ มีคนหนึ่งด้านข้างเอวมีดาบยาวอยู่หนึ่งเล่ม อีกคนก็มีดาบขนามข้างอยู่สองเล่ม
พอเห็นนาง ทั้งสองคนก็หันมาพร้อมกัน ก้มหน้าทำความเคารพและพูดว่า: “ข้าน้อยเฉิงยี”
“ข้าน้อยเฉิงเอ้อ ท่านอ๋องส่งพวกเรามาและบอกให้พวกเราบอกพระชายาว่า ถ้าไม่มีท่านอ๋องไปด้วย พระชายาจะออกไปจากไปจากเมืองเทียนเหยียนไม่ได้ครับ”เฉิงเอ้อมาข้างนาง ส่งหยูปายของจวนอ๋องจิ้งมาให้นาง
“ตามใจพวกเจ้าเถอะ เดี๋ยวส่งคนไปจี้ซื่อถาง ไปเอายาของข้ามา ระหว่างนั้นก็ไปตลาดซื้อหนังสือแพทย์ของข้ามาหน่อย”กุ้อ้าวเวยห่าว และสั่งไปอย่างไม่สนใจและเดินไปเลย ไปห้องครัวไปหาของกิน
เฉิงยีเฉิงเอ้อมองตากัน ไม่คิดว่าพระชายาแม้ไม่ได้ความรักจากท่านอ๋อง แต่กลับสั่งคนเก่งเหือนกัน
พอกินอิ่มแล้ว นางก็เข้าไปในพื้นที่ๆไม่มีคนอยู่ อ่านหนังสือแพทย์อยู่ตรงนั้น พอดึกแล้วก็ลองผสมยา สมุนไพรทั้งหมดในนี้ นางจัดการและหามาด้วยตัวคนเดียวหมด ก็มีแต่หยินเชี่ยวที่มาช่วยบ้าง
เฉิงยีเฉิงเอ้อก็รับผิดชอบไปเอาสมุนไพรที่จี้ซื่อถางเพราะเหตุนี้ในเวลาไม่ถึงสิบวัน กุ้อ้าวเวยก็ทดลองยาออกมาได้มากมาย ยาพิษน้อยมาก นางทำออกมาแล้วเอาไว้ติดตัว ยารักษาบาดแผลและยาบำรุงกำลังนางเอาให้เฉิงยีเฉิงเอ้อหมด
ซ่านจินจื๋อมองดูกระดาษที่เขียนซีซั่ว มองดูเฉิงยีที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าด้วยสีหน้าที่เย็นชาพูดว่า: “หลายวันมานี้ นางไม่ออกจากจวนเลย รู้ไหมว่าทำยาอะไรบ้าง?”
“ไม่รู้เลยครับว่าทำยาอะไร แต่ที่เห็นส่วนใหญ่ก็เป็นยาที่เห็นได้ทั่วไป”เฉิงยีก้มหน้าลงไปอีก
“พี่กุ้ทำยาเยอะขนาดนี้ทำไมกัน?”ซูพ่านเอ๋อนั่งที่เตียง ในมือถือถ้วยยาไว้ พูดเสียงอ่อนโยน
“ข้าน้อยไม่รู้ครับ ก่อนหน้านี้ก็ถามเรื่องนี้ พระชายาบอกว่าเป็นความสามารถพิเศษ ถ้ายาที่ทำง่ายๆเช่นนี้ทำไม่ได้ เช่นนั้นยาที่ทำยากก็อาจจะทำไม่ได้ ยังบอกอีกว่าอีกครึ่งเดือนหลังจะไม่เจอใครครับ”
“พี่กุ้แปลกจังเลย”ซูพ่านเอ๋อยกคิ้ว กุ้อ้าวเวยเกาะแกะพี่จื๋อไม่ปล่อย วันนี้จะใช้แผนรวบหัวรวบหางเหรอ?
ซ่านจินจื๋อโบกมือให้เขาออกไป ผู้จัดการในจวนก็ตะโกนวิ่งมาพูดว่า: “ฮองเฮามาครับ!”
“ฮองเฮามาที่นี้ทำไม?”ซ่านจินจื๋อพูดจบก็รู้สึกตัว รีบให้เฉิงยีกลับมาและพูดว่า: “รีบไปเรียกกุ้อ้าวเวยเร็วเข้า ตอนนี้!”
ซูพ่านเอ๋อทำท่าไม่พอใจ รีบลงจากเตียง ออกไปด้านนอก
“พ่านเอ๋อ……”ซ่านจินจื๋อก็เลยต้องรีบลุกขึ้นมาพยุงนางเอาไว้ เห็นซูพ่านเอ๋อทำหน้าน้อยใจ เขาก็เลยต้องพูดปลอบใจว่า: “คราวนี้ข้าขอโทษด้วย แต่ฮองเฮามาครั้งนี้ น่าจะมาช่วยฝ่าบาทดูว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับตระกูลหยุนเป็นอย่างไร เจ้ากลับไปที่ห้องพักผ่อนเถอะ ตอนดึกๆข้าจะไปหา”
“ตระกูลหยุนสำคัญเช่นนี้เลยเหรอเจ้าคะ?”ซูพ่านเอ๋อน้ำตาไหล ซ่านจินจื๋อก็ยิ่งสงสาร
“แค่ฝ่าบาทอยากมีไมตรีที่ดีกับตระกูลหยุนต่างหาก”ซ่านจินจื๋อจูบหน้าผากนาง ถึงจะส่งนางกลับห้องได้ เปลี่ยนชุดที่เรียบร้อยและเดินไปต้อนรับฮองเฮา
ในขณะเดียวกัน ภายในร้านยาเหย้า
กุ้อ้าวเวยมีสีหน้าซีดเซียว เวียนหัวอยู่ตลอดเวลา กลิ่นยาในปากยังไม่หายไปหมด ไม่คิดว่ายาที่นี่จะไม่เหมือนกับยาที่นางรู้จัก แต่โชคดี นางสั่งให้หยินเชี่ยวบอกให้คนอื่นว่าตอนนี้นางไม่รับแขก ถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ นางก็สลบนอนอยู่ในห้องยาก็ได้
แต่เสียดายเหมือนฟ้ากลั่นแกล้งไม่ให้เป็นไปตามแผน
เฉิงยีกระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง: “พระชายา ฮองเฮามาครับ เชิญพระชายาจิ้งกลับไปในจวนใหญ่ครับ”
“ตอนนี้?”กุ้อ้าวเวยพยุงโต๊ะข้างๆ มือสั่นควานหายา: “ให้เวลาข้าหนึ่งชั่วโมง”
“พระชายา ท่านอ๋องรีบมากนะครับ”เฉิงยีรีบพูดขอร้อง
“ถ้าเจ้าไม่อยากพาคนที่ใกล้จะสลบไป ทางที่ดีรอข้าก่อนดีกว่า”กุ้อ้าวเวยยิ้มและหันกลับไป ความเจ็บปวดจากการลองยา นางก็เคยชินไปแล้ว นางจับยาบนโต๊ะได้ก็เอามาบดละเอียด
เฉิงยีเห็นนางเสไปเสมา ก็เลยหุบปาก
พอผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง เขาก็พานางไปในจวนใหญ่ทันที
……
“พระเชษฐภคินี วันนี้มาหาข้าถึงที่มีอะไรหรือ?”
ซ่านจินจื๋อทำความเคารพและนั่งข้างๆ
วันนี้ฮองเฮาก็ใส่ชุดหรูหรามาเหมือนกัน ข้างๆก็มีข้ารับใช้ในวังสองคนตามมา นางนั่งลงบนเก้าอี้ เห็นซ่านจินจื๋อ นางก็พูดถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเป็นธรรมดา พอไม่เห็นพระชายาจิ้งมาเสียที นางก็วางถ้วยชาลงและถามว่า: “ท่านอ๋อง ทำไมพระชายาจิ้งยังไม่มาเสียทีล่ะ?”
ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว ทำไมเฉิงยียังไม่พาตัวนางมาเสียที!
“ฮองเฮา หม่อมฉันป่วยอยู่เพคะ ขออภัยด้วยที่มาช้าค่ะ