บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 234
บทที่ 234 ไทเฮาออกหน้า
ซ่านจินจื๋อคอยอยู่ข้างกายกู้จี้เหยาเท่านั้น หลังจากการว่าราชกิจ ซ่านจินจื๋อที่อยู่ในชุดว่าราชกิจกลับไปยังตำหนักรอง
กู้จี้เหยาที่กำลังอุ้มท้องยังไม่ตื่นจากที่นอน ซ่านจินจื๋อสีหน้ามัวหม่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีใจให้นาง ถึงแม้ว่ากู้จี้เหยาจะค่อนข้างบอบบางกว่าพ่านเอ๋อ เกิดบาดแผลเพียงเล็กน้อยก็ยังมาอ้อนเขา
ซ่านจินจื๋อมาที่ใต้ชายคาเพียงลำพัง ไม่คิดว่าฝนฤดูใบไม้ผลิจะตกเปาะแปะลงมา ภายในวังยุ่งเหยิง
เฉิงซานหยุดอยู่ที่ข้างซ่านจินจื๋อ เอ่ยถามด้วยเสียงเบา: “หลังการตายของหยุนชิงหยาง ผู้ที่ดูแลหลิ่งหนานตระกูลหยุนในเวลานี้คือแม่หม้ายนางหนึ่ง คนอื่นต่างเรียกนางว่าแม่หม้ายจู้ พวกเราพยายามหารอยรั่วหลายครั้งหลายครา แต่แม่หม้ายจู้นั่นก็เอาตัวรอดได้ทุกคราว”
“เวลาก็ล่วงเลยมาเนิ่นนาน พวกเจ้ายังไม่ได้อะไรมาจากตระกูลหยุนเลยซักอย่าง” ซ่านจินจื๋อมีสีหน้าที่เข้มขึ้น คนร้ายที่เป็นคนวางยาซูพ่านเอ๋อในวันนั้นก็ยังจับตัวไม่ได้ และซ่านจินจื๋อไม่คิดว่าเป็นการกระทำของกู้อ้าวเวย แต่เขาก็ไม่อาจเชื่อมั่นในสิ่งที่เรียกว่าเป็นสูตรยาของกู้อ้าวเวย: “พ่านเอ๋ออาการแย่ลงทุกวัน หากไม่ได้ยาสูตรยาของตระกูลหยุนละก็……”
“ข้าน้อยไร้ความสามารถ แต่ข้าน้อยขอบังอาจพูดสักนิด สรุปว่าสูตรยาของพระชายามีปัญหาจริงๆอย่างนั้นหรือ”
“หากว่าไม่มีปัญหา เหตุใดในตอนนั้นพ่านเอ๋อถึงถูกยาพิษ! ต่อมาท่านหมอเทวดาท่านนั้นได้บอกว่าความจริงแล้วยาพิษตัวนี้ไม่ใช่พิษร้ายแรง หากไม่ใช่เพราะกู้อ้าวเวยใส่ยาบางตัวเข้าไปกระตุ้น ฤทธิ์ของมันก็ไม่น่าจะรุนแรงเยี่ยงนี้” ซ่านจินจื๋อพูดอย่างแน่วแน่
จะว่าไปแล้ว กู้อ้าวเวยก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
ดังนั้นในตอนที่เขาบังคับขืนใจทำกู้อ้าวเวยท้อง แน่นอนว่าแฝงไปด้วยความเกลียดชัง เกลียดที่นางอิจฉาริษยาจนถึงขั้นลงมือวางยาผู้หญิงบอบบางเช่นนั้นเยี่ยงพ่านเอ๋อ
เฉิงซานไม่กล้าพูดต่อ จึงเงียบไปอย่างไม่มีทางเลือก
“ช่างเถอะ มีข่าวคราวของชิงจือบ้างไหม”
“ตระกูลหยุนดูแลชิงจือเป็นอย่างดี แล้วตอนนี้ยังมีป่ายเหลากุ่ยในยุทธภพคอยช่วยเหลืออีกด้วย ถึงขั้นสามารถดึงกองกำลังไม่น้อยมาเป็นพวก ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เตรียมกองกำลังไว้พร้อมหมดทุกด้านแล้ว” เฉิงซานพูดต่อว่า: “มีครั้งหนึ่งที่แม่หม้ายจู้พานายน้อยชิงจือออกมา แล้วจากนั้นก็ไม่เคยได้พบเห็นนายน้อยอีกเลย”
“ตระกูลหยุนมรดกตกทอดมาหลายร้อยปี ปกป้องดูแลมาได้เช่นนี้ มีค่ามากทีเดียว”
สายตาของซ่านจินจื๋อที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่นั้นยิ่งทวีความลุ่มลึก
หากเพื่อพ่านเอ๋อแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกำแพงแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็จะหาทางเจาะมันไปให้ได้
“เจ้าแค่ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลหยุนไว้ก็พอ เมื่อถึงเวลา ข้าจะไปทำให้ตระกูลหยุนมอบสูตรยาลับออกมาด้วยข้าเอง” ซ่านจินจื๋อยกมือโบกขึ้น กุ่ยเม่ยที่อยู่บนขอบหลังคาลดตัวต่ำแอบลง เฉิงซานได้ยินฝีเท้าเบาๆมาจากด้านนอกตำหนัก จึงรีบถอยมาที่ข้างกายของซ่านจินจื๋อ
มีนางรับใช้เดินเข้าประตูมาจำนวนหนึ่ง กุ้ยมามาก้าวเท้าเดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน เมื่อมาถึงตรงหน้าซ่านจินจื๋อก็ทำการถวายบังคม “ท่านอ๋อง ไทเฮารู้สึกตัวแล้วเพคะ ทรงเรียกหาท่านอ๋องกับพระชายารอง”
“วานกุ้ยมามาไปบอกกับท่านแม่หน่อยว่า อีกครู่หนึ่งข้าจะพาจี้เหยาไปเข้าเฝ้าพร้อมกัน” ซ่านจินจื๋อประสานมือไปด้านหน้าระดับอกเป็นกริยาที่แสดงถึงความเคารพต่อกุ้ยมามาที่รักและเอ็นดูเขาตั้งแต่เล็ก ซ่านจินจื๋อนับถือนางอย่างมาก
ซ่านจินจื๋อส่งคนไปปลุกกู้จี้เหยา ทั้งสองค่อยๆเดินไปยังห้องบรรทมของไทเฮา
“ท่านอ๋อง ข้าได้ยินว่าไทเฮาไม่ชอบนางสนม และที่ยิ่งไม่ชอบก็คือชายาของบรรดาขุนนาง เหตุใดวันนี้……”
“เป็นเพราะพระชายา”
ซ่านจินจื๋อ ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบา คำเตือนจากสายตานั้นทำให้กู้จี้เหยาปิดปากเงียบ
ในวังหลวงแห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ไม่ควรพูดอะไรออกไปอย่างไม่ระมัดระวัง หากว่าสิ่งที่กู้จี้เหยาบรรยายถึงไทเฮาไปเมื่อครู่ได้ยินไปถึงหูของนาง แน่นอนว่าไทเฮาจะต้องระคายเคืองพระทัยเป็นอย่างมาก
เมื่อมาถึงห้องบรรทมของไทเฮาแล้ว ทั้งสองทำการถวายบังคมอย่างนอบน้อม
ตรงเบาะที่นอนด้านข้างนั้น เป็นกู้อ้าวเวยที่ตะแคงข้างนอนหลับสนิทอยู่ กุ้ยมามาคอยระวังให้อยู่ไม่ห่าง ด้วยเกรงว่านางจะตกลงมาจากเตียง
ไทเฮาที่นั่งพิงอยู่ที่เตียง กวักมือเรียกกู้จี้เหยา: “เข้ามานี่”
กู้จี้เหยาเดินเข้าไปที่ข้างเตียงอย่างเชื่อฟัง แล้วคุกเข่าลง ไทเฮากุมมือของนางอย่างทะนุถนอม แต่กลับไม่พูดอะไร
ซ่านจินจื๋อได้แต่มองดู จากนั้นจึงมองไปที่กู้อ้าวเวย: “เหตุใดพระชายาจึงนอนที่นี่”
“ท่านอ๋อง เมื่อเช้าตรู่พระชายาตื่นขึ้นมาฝังเข็มให้ไทเฮา พระชายาเกือบจะเป็นลม หมอหลวงมาตรวจดูชีพจร พบว่าชีพจรพระชายาอ่อนแรง ร่างกายอ่อนเพลียยิ่งนัก จึงนอนพักที่นี่” กุ้ยมามารีบอธิบาย
และอีกฟากฝั่งหนึ่ง ไทเฮามีสีหน้าเย็นชาลง: “จื๋อเอ๋อร์ พระชายาและพระชายารองต่างก็ตั้งครรภ์ด้วยกันทั้งคู่ แต่เจ้ากลับเฝ้าดูแลเพียงพระชายารองที่กำลังตั้งครรภ์ เจ้าไม่สนใจพระชายาเอกที่เสียลูกไปอย่างนั้นหรือ”
“ข้า……”
“หมอหลวงบอกว่า ก่อนหน้านี้ที่พระชายาตั้งครรภ์ นางไม่ได้รับการดูแลที่ดี หลังจากแท้งลูกก็ทำให้ล้มป่วย ร่างกายของนางหนาวเย็นแม้แต่มือและเท้าก็เย็น ผ่านไปหลายเดือน เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลางคืนนางนอนไม่หลับ ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาร่างของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ” ไทเฮาทวงถาม น้ำเสียงนั้นแม้จะบางเบาแต่ก็อัดแน่นไปด้วยความโกรธ
ซ่านจินจื๋อยกชายเสื้อขึ้นคุกเข่าลง กู้จี้เหยาที่มองดูอยู่ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัว ไม่กล้าเปล่งเสียงใดใดออกมา
“ข้าติดหนี้ต่อพระชายามากมายนัก แต่เป็นนาง……”
“ไม่ต้องพูดอะไรอีก ข้าสอนพวกเจ้าตั้งแต่เล็กว่าให้ดูแลเหล่าพระชายาให้ดี พวกเจ้าต่างจำได้” ไทเฮาพูดจบ ก็ไอขึ้นมาในทันที นั่นจึงปลุกให้คนที่นอนอยู่บนที่นอนนั้นตื่นขึ้น เมื่อเห็นว่าไทเฮาไอไม่หยุด กู้อ้าวเวยจึงรีบปรี่เข้าไปหา
กู้อ้าวเวยตรวจชีพจรของไทเฮาอย่างตั้งใจ จากนั้นจึงเอามือของไทเฮาซุกกลับไปในผ้าห่ม หน่ายใจเล็กน้อย: “เหตุใดไทเฮาจึงโกรธขึ้นมาอีกเพคะ”
ไทเฮากุมมือของกู้อ้าวเวยไว้ กู้อ้าวเวยจึงเพิ่งมองเห็นกู้จี้เหยาที่อยู่ข้างเตียง นางตกตะลึงและจึงมองไปเห็นซ่านจินจื๋อที่ยืนอยู่ด้านหลัง ซ่านจินจื๋อเป็นคนทำให้ไทเฮาขุ่นเคืองอย่างนั้นหรือ
แต่อาการป่วยของไทเฮากำลังแย่ กู้อ้าวเวยจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นแล้ว นางเพียงตั้งใจเขียนใบสั่งยาให้ไทเฮา หลังอธิบายกับเหล่าหมอหลวงแล้ว นางก็คิดขึ้นว่าควรไปตำหนักหมอหมอหลวงเพื่อต้มยาด้วยตัวเองเลยจะดีกว่า ไม่ทันไรนางก็หายไปไม่เห็นเงา
ซ่านจินจื๋อมองตามหลังของกู้อ้าวเวย เขาไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องการป่วยของนาง
แล้วทำไมนางถึงทำอะไรมากมายอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยจะได้หยุดพักจริงๆจังๆเลย
กู้จี้เหยาที่เงียบอยู่นั้นได้รับความเอ็นดูจากไทเฮาเพราะความอ่อนน้อมเชื่อฟังของนาง บทสนทนาสัพเพเหระดำเนินไป จนกระทั่งกู้อ้าวเวยนำยามาถวาย ไทเฮาจึงโบกมือแล้วพูดกับพวกเขาว่า: “พวกเจ้ามาเป็นธุระอยู่นานแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด ทางนี้มีหมอหลวงคอยดูแลข้าอยู่”
“เพคะ เพียงแต่ว่าอาการป่วยของท่านยังคงต้องได้รับการดูแลรักษา ไทเฮาจะอนุญาตให้หม่อมฉันเข้ามาที่วังทุกๆห้าวันเพื่อดูอาการได้หรือไม่เพคะ” กู้อ้าวเวยจรดมือเขียนใบจัดยาแล้วส่งให้กุ้ยมามา แม้แต่พวกรายการของแสลงที่มีฤทธิ์ตีกันกับตัวยาก็เขียนมันออกมาอย่างละเอียด: “รักษาไปอีกสี่ห้าเดือน จนกระทั่งต้นฤดูใบไม้ร่วงค่อยปรับยา ถึงตอนนั้นโรคเรื้อรังนี้ก็จะดีขึ้นแน่”
กุ้ยมามาน้ำตารื้น นางไม่คาดคิดเลยจริงๆว่าไทเฮาจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีก
“ขอบพระทัยพระชายาจริงๆเพคะ” กุ้ยมามาคุกเข่าลงเอาหัวคำนับพื้นซ้ำไปซ้ำมา
กู้อ้าวเวยรีบพยุงตัวกุ้ยมามาขึ้นเป็นพัลวัน แล้วได้ยินเสียงที่กล่าวขึ้นเบาๆของไทเฮา: “กุ้ยมามาเอาป้ายแขวนเอวประจำตัวข้าให้พระชายา ไม่ว่าจะวันไหนๆเจ้าก็สามารถเข้ามาที่นี่ได้บ่อยๆ ข้าชอบฟังเรื่องเล่านอกวังนัก”
กู้อ้าวเวยยิ้มพลางรีบย่อตัว: “เพคะ ไทเฮา!”