บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 241
บทที่ 241 ไทเฮา(พระพันปีหลวง)สำรวจความจริง
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ กู้อ้าวเวยไม่เคยถอดผ้าคลุมหน้าออกเลย และยังได้กลิ่นยาจากตัวของเธอด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน เธอจะพูดจาอย่างมั่นใจ แต่วันนี้กู้อ้าวเวยจะดูเงียบมากกว่า ยังไม่ถวายบังคมกับไทเฮา รีบไปต้มยาอย่างกระสับกระส่ายซะแล้ว ดูหน้าซีดเหลือเกิน
“เวยเอ๋อเป็นไรเหรอคะ”
“เมื่อเจอตอนเช้า พระชายาไม่ได้ซีดเซียวขนาดนี้เลย แต่หลังจากไปห้องโถงกลับมาแล้ว…”กุ้ยมามาตอบด้วยความแปลกๆ และไปช่วยประคองไทเฮาลุกขึ้นมา
หลังจากช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้รับการรักษาเป็นอย่างดี สุขภาพร่างกายของไทเฮาแข็งแรงมากขึ้นแล้ว
เดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน กุ้ยมามาเรียกคนรับใช้คนนั้นที่เมื่อกี้ได้พาพระชายาไปห้องโถง และถามว่า
“เห็นพระชายาเหมือนกินยาอะไรก็ไม่รู้ค่ะ แล้วเรียกข้าทาสเอาน้ำซุปและเทียนหอมนี้มาให้ค่ะ” คนรับใช้พูดทุกอย่างไม่กล้าโกหก จริงๆแค่ต้องการเอาน้ำซุปมาอย่างเดียว แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีจึงสามารถทำให้กลิ่นยานี้หายได้ ก็เลยติดเทียนหอมมาด้วย แต่สุดท้ายก็ยังได้กลิ่นยาอยู่ดี
ให้คนรับใช้ออกไปข้างนอกให้หมด ไทเฮายิ่งทำหน้าเครียดและดูหนักใจ
เอาน้ำซุปมาได้ตั้งแต่เช้า คิดว่ายังไม่ได้ทานข้าวเช้าแน่นอน แล้วไม่ทราบว่าเธอไม่สบายหรือเปล่า จึงถึงต้องกินยาด้วย คิดอยู่สักพัก จึงพูดว่า “กุ้ยมามา คุณไปหาหมอหลวงมาจับชีพจรให้เธอก่อนเถอะ”
“เจ้าค่ะ” กุ้ยมามาก็รู้สึกเครียดตามด้วยเหมือนกัน
กุ้ยมามามาที่โรงพยาบาลหลวงอย่างเงียบ โดยไม่ได้แจ้งใครล่วงหน้า เห็นพวกหมอหลวงกำลังทำงานอยู่ มีแต่กู้อ้าวเวยคนเดียวที่กำลังต้มยากับเด็กชายน้อยคนหนึ่ง
ไม่เห็นกับตายังไม่รู้สึกอะไร พอเห็นแล้ว กุ้ยมามายิ่งกังวลขึ้นมาก
เด็กชายน้อยใช้มือตักเอายาสมุนไพร แล้วช่วยทายาแก่หน้าของกู้อ้าวเวยอย่างเบาๆ ใบหน้ามีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด กุ้ยมามาไม่ได้พูดอะไร แค่ให้ขันทีน้อยคนหนึ่งไปเรียกหมอหลวงออกมา
“กุ้ยมามามาทำไมครับ ไม่สบายหรือเปล่า” หมอหลวงถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ที่ฉันมาวันนี้ อยากจะมาสอบถามเรื่องของพระชายา ช่วงนี้ คุณได้จับชีพจรให้ท่านไหม”
“เมื่อกี้ได้จับชีพจรดูแล้วครับ ดูแล้วสุขภาพร่างกายของพระชายายิ่งอ่อนแอมากขึ้นเลยนะ โดยเฉพาะ ฝั่งใบหน้าที่ถูกตบนั้น โหดร้ายเหลือเกิน วันนี้ พระชายายังมีอาการหูอื้อด้วยนะ” พูดถึงที่นี่ หมอหลวงถอนหายใจและพร้อมส่ายหัวด้วย
กุ้ยมามาหันไปดูกู้อ้าวเวยสักพัก จึงรีบกลับไปบอกไทเฮา
แต่เด็กชายน้อยคนนั้น แอบบอกให้กู้อ้าวเวยอย่างซื่อสัตย์ ว่า “พระชายาครับ เมื่อกี้เหมือนเห็นกุ้ยมามามาที่นี่นะ”
“เหรอคะ” กู้อ้าวเวยทำตัวไม่รู้จักอะไร แล้วหันไปมองที่ประตู ตรงโน้นไม่เห็นมีใครอยู่สักคน
เด็กชายน้อยเกาหัวจับหูด้วยความงุนงง ไม่แน่ใจว่าดูผิดหรือเปล่า และทายาให้กู้อ้าวเวยต่อ เด็กๆมักจะซุบซิบนิดหน่อย จึงถามว่า “พระชายาครับ การที่ถูกตบหน้านี้ เกิดอะไรขึ้นหรอครับ”
“หล่อนไม่ต้องรู้จักหรอก” กู้อ้าวเวยดีดห้าผากเขาเบาๆ แล้วให้เขาทายาต่อ เดี๋ยวต้มยาเสร็จแล้วยังต้องล้างยาบนหน้าออกด้วย
ในขณะเดียวกัน ในห้องบรรทมของไทเฮา
“ใครกล้าทำแบบนี้ ฮะ” สายตาของไทเฮาดูเฉียบคมขึ้นมาทันที
กุ้ยมามาตอบแบบไร้ทางเลือกว่า “ข้าทาสก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มีใครมากล้าทำร้ายพระชายาขนาดนี้…ใจกล้าห่อฟ้าเลยนะ”
แต่พอคิดดีๆแล้ว ไทเฮาถึงนึกออกว่า เรื่องที่ซ่านจินจื๋อปกป้องซูพ่านเอ๋อในเมื่อก่อน และตอนนี้ยิ่งแอบเลี้ยงไว้หลังบ้านด้วย เนื่องจากเขาไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดมากเกินไปอีกเพราะซูพ่านเอ๋อ ไทเฮากับฮ่องเต้จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
แล้วอีกอย่าง ถ้าแต่ก่อนพูดว่ากู้อ้าวเวยสูญเสียลูกไปเพราะเธออยู่ไม่นิ่ง แต่ตอนนี้ดูแล้ว แม้ว่าปกติกู้อ้าวเวยจะขี้เล่นและมีการกระทำแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าเธอเป็นคนที่อยู่ไม่นิ่งแน่นอน กลับมาดูแล้ว น่าจะเป็นคนที่เงียบๆ ปกติชอบนั่งอ่านหนังสือด้วยซ้ำ
“ไปเรียกหลี่กงกง(ขันที)ที่ตามอยู่ข้างๆฮ่องเต้มาให้ฉัน”
สักพัก เห็นหลี่กงกงก้มหน้าและเดินมาที่หน้าพระแท่น ถวายบังคมกับไทเฮา “ไทเฮาทรงพระเจริญ”
“คุณรู้เรื่องของพระชายาจิ้งที่อยู่นอกวังไหม เล่าให้อายเจีย (คำแทนตัวเองของไทเฮา) ฟังด้วย” ไทเฮาทำหน้ามืดมน และสั่งให้กุ้ยมามาไปปิดประตู ห้ามให้กู้อ้าวเวยรู้ว่าทรงกำลังสำรวจเรื่องนี้อยู่เด็ดขาด
ใครก็คาดไม่ถึง พอหลี่กงกงได้ยินคำถามนี้แล้ว ในหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ถามว่า “ไทเฮาอยากฟังความจริง หรือเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงนะ”
“หลี่กงกง นี่ยังคิดว่าจะโกหกไทเฮานั้นเหรอ” กุ้ยมามาโกรธและเดินเข้ามาใกล้ๆ เขา
หลี่กงกงตกใจและรีบคุกเข่าลง “ไทเฮา ขออภัยด้วย ข้าทาสไม่รู้จะทำยังไงถึงเหมาะสมระหว่างฮ่องเต้กับอ๋องจิ้ง”
“พูดความจริงมา ทายเจียไม่โทษคุณหรอก” ไทเฮายิ่งโมโหขึ้นอีก ดูแล้วเรื่องที่เกี่ยวกับกู้อ้าวเวยนี้ ต้องมีอะไรที่ตัวเองไม่รู้จักแน่ๆ
หลี่กงกงคิดไปคิดมา สุดท้ายตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ทั้งหมด
กู้อ้าวเวยสนิทกับจี้ซื่อถาง(ร้านขายยา) มักจะช่วยรักษาคนไข้ให้ และยังติดต่อกับสำนักเยียนหยู่เก๋อเพื่อหาค่ารักษานิดๆน้อยๆ กู้อ้าวเวยไม่เพียงแต่รักษาคนไข้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ยังช่วยเด็กๆศึกษาและหาวิธีสั่งยารักษาอีกด้วย แต่กู้อ้าวเวยไม่เคยบริหารจัดการเรื่องราวในตำหนักอ๋องเลย แต่ก่อนยังถูกไล่ไปอยู่ที่ร้านยาเหย้าด้วย เพราะเรื่องบางเรื่อง อีกอย่างกู้อ้าวเวยมักจะหายตัวไป และเคยถูกโหวเซ่อลักพาตัวไปด้วย
“งั้นทำไมข่าวที่ไทเฮาได้ยิน…” กุ้ยมามาตกใจมาก
พระชายาจิ้งถูกลักพาตัวไปเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่กล้าคิดเลยว่า อ๋องจิ้งปิดปังเรื่องนี้ไว้ รู้แต่ว่าตอนกู้อ้าวเวยกลับมาแล้ว ฮ่องเต้จึงได้ข่าว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วตอนนั้น
ไทเฮาดูสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เท่าที่ไทเฮาได้ยินมาทั้งหมด เป็นเรื่องที่พระชายาจิ้งโหดร้ายแค่ไหนจึงใส่ยาพิษให้กับลูกชายคนเล็กของหู้ปู้เซ่อหลาง(ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการเงิน) แต่ไม่รู้ว่า จริงๆแล้วลูกชายคนเล็กคนนี้เป็นคนชั่วร้ายขนาดไหน ปกติทำแต่สิ่งที่ไม่ดี แล้วอีกอย่าง ได้ยินว่า พระชายาพูดไม่ดีกับผู้สาวคนอื่น แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่หาเรื่องก่อน
แล้วสุดท้ายพอรู้จักว่าพระชายาสูญเสียลูกเพราะเธอดื้ออยู่ไม่นิ่ง ยิ่งเกลียดเธอมากขึ้น
“เรื่องพวกนั้น เป็นเรื่องที่ผู้คนเหล่านั้นเล่าลือกันเฉยๆ และอ๋องจิ้งก็ไม่เคยพูดอะไรสักคำเพื่อมาปกป้องพระชายาเลย ยังปล่อยให้มันเผยแพร่ออกไป ฮ่องเต้เคยเตือนอ๋องจิ้งแล้ว แต่..” หลี่กงกงเหมือนอยากจะพูดต่อ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา แต่ไทเฮากับกุ้ยมามาพอรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ฮ่องเต้กับอ๋องจิ้งเป็นพี่น้องรักกัน แต่การที่ปิดบังซึ่งกันและกันแบบนี้ ทำให้ไทเฮาดีใจขึ้นไม่ได้
“หลี่กงกง เดี๋ยวถ้าว่าราชกิจเสร็จแล้ว เชิญอ๋องจิ้งมาหาอายเจียหน่อย” ไทเฮาปวดหัวและใช้มือนวดหน้าผากเบาๆ คิดอยู่สักพัก และสั่งต่อว่า “วันหลัง เรื่องต้มยาให้หมอหลวงรับผิดชอบไป คุณสั่งให้คนรับใช้พาพระชายาไปเดินเล่นพักผ่อนบ้าง แต่ก็อย่าเหนื่อยมากไป”
“รับทราบค่ะ ไทเฮา” กุ้ยมามายิ้มแฉ่งและตอบอย่างดีใจ
แต่ก่อน คนได้รับความชื่นชอบจากไทเฮามากที่สุดคือซ่านหลิงเอ๋อร์ ไทเฮาชอบหลิงเอ๋อร์ที่มีนิสัยทั้งน่ารักและบริสุทธิ์
เดี๋ยวนี้ กู้อ้าวเวยเป็นคนที่มีความฉลาดเล็กน้อยแบบนี้ ก็ยังถูกใจไทเฮา ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกตินะ
“ไทเฮา แล้งเรื่องนี้…”
“ไทเฮาจะไม่บอกให้ฮ่องเต้ทราบหรอก การที่ฮ่องเต้กับอ๋องจิ้งเป็นพี่น้องรักกันนี้ เป็นเรื่องที่ดี” กุ้ยมามาพูดจบ แล้วหยิบเอากระเป๋าเงินให้หลี่กงกง พูดต่อว่า “เรื่องนี้ ถ้ากับว่าฮ่องเต้ไม่ถาม คุณก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก”
หลี่กงกงยิ้มแฉ่งขึ้นมาทันที พูดว่า “แน่นอนครับ ขอบพระคุณไทเฮา”
ไทเฮาโบกมือขึ้นถือว่าตอบกับหลี่กงกง คนที่หลักแหลมคนนี้ ถ้าไทเฮาไม่สนใจพระชายาจิ้ง งั้นหลี่กงกงก็ควรพูดเรื่องที่ไม่ดีของกู้อ้าวเวยเพื่อตามสถานการณ์ตอนนี้ไป
หลี่กงกงพึ่งออกไปไม่กี่นาที กู้อ้าวเวยถือยาต้มเดินเข้ามา ดูแล้วยาต้มถ้วยนี้น่าจะวางรอไว้ได้สักพักละ
กุ้ยมามาเดินมาช่วยรับเอาถ้วยยา เห็นไทเฮาถามว่า “หน้าของเธอ ซูพ่านเอ๋อเป็นคนทำใช่ไหม