บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 528
บทที่528 คำมั่นสัญญา
ก่อนหน้านี้ ซ่านจินจื๋อไม่รู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้
แพทย์หลวงของพระราชวังมีความสามารถมากแต่หลังจากตรวจให้กู้อ้าวเวยอย่างละเอียดก็ขมวดคิ้ว
“ยาพิษนี้ไม่มีวิธีรักษาได้ ขาสองข้างนี้ก็ไม่มีทางแก้ไข”หมอหลวงเอาเครื่องมือเก็บใส่กล่องยาแล้วหันมามองซ่านจินจื๋อ: “แต่แม่นางผู้นี้ตอนที่กำเนิดมาร่างกายคงไม่ค่อยดีนัก แผลเก่าบนร่างกายจนตอนนี้ก็ยังสะสมอยู่บนร่างกายไม่สามารถใช้วิธีปกติรักษาได้ ถึงแม้ว่าจะแก้พิษจริงอย่างน้อยก็ต้องรอปีกว่ารอจนร่างกายนางฟื้นตัวแล้วยังต้องทานอาหารสมุนไพรเสริมเพื่อให้แผลเก่าค่อยๆรักษาทางเดินของเลือดลมในร่างกาย”
“ส่วนสองขานี้ ไม่เพียงแต่ได้รับการบาดเจ็บ ข้อเข่าก็เสียหายหนักมาก ในอนาคตไม่ควรขี่ม้าสั่นสะเทือนที่ดีที่สุดคือพักผ่อนร่างกายสักช่วงหนึ่งแล้วทานยาต้ม” หมอหลวงหยุดไปสักพักแล้วก็พูดอีกว่า: “อีกอย่างข้าเห็นว่าก่อนหน้านี้แม่นางเคยสูญเสียลูกแต่ไม่ได้รักษาซ้ำยังโหมงานหนัก บวกกับการนอนน้อยเกินไปตอนนี้ร่างกายจึงทรุดโทรมมากไม่มีวิธีไปชดเชยได้จึงต้องค่อยๆปรับการกินอยู่ไป”
หมอคนก่อนๆนั้นไม่ได้กล่าวเช่นนี้
เดิมคิดจะพูดเช่นนี้ก็ฟังหมอหลวงคนนั้นคำนับมือลวกๆแล้วพูดเสียงต่ำว่า: “บรรพบุรุษของข้าเป็นหมอมาหลายชั่วอายุคนถ้าเทียบกับหมอทั่วไปแล้วถือว่ารู้กว่าเยอะมาก ถ้าคุณชายไม่เชื่อได้ยินมาว่าในเร็วๆนี้เมืองหลวงจะมีคน…….”
“ไม่ต้อง ขอบใจเจ้ามาก” ซ่านจินจื๋อยกมือลวกๆ ส่งหมอหลวงไปเขียนใบสั่งยาห้องข้างๆ
และหมอคนที่หมอหลวงจะพูดก็คือหยุนหว่าน
หยุนหว่านมักจะยกย่องทักษะทางการแพทย์ของกู้อ้าวเวยเสมอพอรู้ว่านางกินยาเสริมทุกวันก็ไม่สนใจอะไร
แต่ตอนนี้กู้อ้าวเวยนอนใจลอยอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าได้ยินคำพูดหมอหลวงหรือไม่
“ข้าสงสัยทักษะการแพทย์เจ้านิดหน่อย”ซ่านจินจื๋ออึดอัดอยู่นานถึงบีบประโยคนี้ให้ออกมา
กู้อ้าวเวยขยับปลายนิ้ว: “ทักษะการแพทย์ของข้าไม่มีปัญหา”
“แล้วก็ก่อเรื่องให้ตัวเองอย่างงี้หรือ?”
“ท่านเชื่อหมอหลวงแต่ไม่เชื่อข้า?” กู้อ้าวเวยหันหัวกลับไปอย่างดื้อรั้น: “หมอส่วนใหญ่ก็ชอบพูดให้รุนแรง ตอนนี้ข้าสามารถวิ่ง สามารถเต้น……”
กู้อ้าวเวยไม่พูดอะไรต่อเพราะแพ้สายตาที่เย็นชาของซ่านจินจื๋อ
“นี่ก็เป็นการแก้แค้นข้าหรอ?” ซ่านจินจื๋อนั่งบนขอบเตียงอย่างไม่ทนแล้วก้มหัวมามองเขา: “หรือว่า สิ่งที่ข้าทำทั้งหมดตอนนั้น……”
“ถ้าไม่ได้พบท่าน ข้าก็จะยังคงเข้าไปพัวพันกับเรื่องพวกนี้ ตราบใดที่ท่านแม่ข้าคือหยุนหว่าน เรื่องนี้ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง” กู้อ้าวเวยมองเขานิ่งๆ ขาสองข้าก็ไม่ได้ปวดขนาดนั้นแล้วน้ำเสียงก็นางก็ผ่อนคลายขึ้นตาม: “แต่ท่านสามารถถือว่านี่เป็นการแก้แค้นก็ได้เพราะครึ่งหลังของชีวิตข้าจะไม่ได้ราบรื่น”
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง กู้อ้าวเวยก็ปีนขึ้นคว้าคอเสื้อซ่านจินจื๋ออย่างไม่ใจเย็น: “อย่ามองข้าด้วยสายตาที่เป็นห่วง ทั้งหมดตอนนี้มันคือผลลัพธ์ใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ข้าก็ไม่ต้องการความสงสารของท่าน”
มุมปากของซ่านจินจื๋อกระตุกเล็กน้อยสุดท้ายก็พยักหน้าแล้วก็กอดนางเบาๆ: “ข้าจะไปดูชิงจือ”
กู้อ้าวเวยก็ยิ้มขึ้นมาแล้วนอนลงอีกครั้ง: “อย่างงี้สิถึงจะถูก”
ตอนที่ซ่านจินจื๋อออกจากห้องก็ยังใจลอยอยู่นิดหน่อย
ปีนั้นไม่มีเขาปกป้อง กู้อ้าวเวยก็ไม่รู้ว่าผ่านน้ำมือซูพ่านเอ๋อในวันนั้นมาได้อย่างไร ตอนนี้แม้ว่าจะมีเขาปกป้องแต่เขาก็ยังไม่มีวิธีหยุดการกระทำของซูพ่านเอ๋อ
เฉิงซานลงมาจากชายคาบ้าน: “คนที่ท่านชายน้อยชิงจือพบได้กินยาพิษฆ่าตัวตาย ส่วนคนอื่นๆเป็นคนของสำนักเหลี่ยงหยีฟังคำสั่งของซูพ่านเอ๋ออีกทั้งตั้งตัวเป็นศัตรูกับทิงเฟิงเก๋อ”
“ส่งคนไปกำจัดสำนักเหลี่ยงหยี เจ้าสั่งให้คนเขียนตามลายมือข้าแล้วส่งจดหมายไปยังซูพ่านเอ๋อบอกนางว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี แล้วก็พูดถึงคนรักของกู้อ้าวเวยว่ามีเบื้องหลังที่ลึก อย่าเข้าไปยุ่ง”ซ่านจินจื๋อยืนมือไขว้หลังเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว: “ค้นหาตำรับยาดีต่อไปถ้ามีหนังสือการแพทย์ดีๆก็ส่งไปให้นาง”
“แต่ฝ่าบาทนางไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน……”
“นางอยู่ที่ไหนก็ส่งไปที่นั่นแล้วก็ส่งคนไปตรวจสอบทรัพย์สินในตำหนักรวมจนถึงเฉียนจวง(ธนาคารโบราณ) ในอนาคตซูพ่านเอ๋อใช้เงินอีกต้องรายงานทั้งหมด อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเพื่อจะได้ไม่ทำลายแผนของนาง”ซ่านจินจื๋อเดินออกไปข้างนอก: “ส่งคนติดตามไปไม่ห่าง ถ้าเกิดข้อผิดพลาดก็ถามเจ้า”
“ขอรับ ท่านอ๋อง”
เฉิงซานก็หายไปอย่างเงียบๆไม่เคยปฏิเสธคำสั่งของซ่านจินจื๋อ
เช้าตรู่วันที่สองซ่านจินจื๋อไปหาหยุนหว่านที่บ้าน ในเวลานี้หยุนหว่านก็มีผ้าบางคลุมหน้าอยู่ จื่อเหมิงที่มาตอนเช้ากำลังนั่งกินข้างอยู่ที่โต๊ะเมื่อเห็นซ่านจินจื๋อก็พูดด้วยท่าทางแปลกๆทันที: “ยังไง? ตอนนี้ไล่ตามแม่นางไม่ทันก็เปลี่ยนมาเอาใจนายอื่นแทนหรือ?”
“ถ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงข้าก็จะไม่ถือสาเอาเจ้าเข้าคุก”ซ่านจินจื๋อพูดเสียงเย็นชา อยู่ต่อหน้าหยุนหว่านแต่ไม่ได้รับการสยบเมื่อเห็นจื่อเหมิงหน้าซีดก็ยิ่งพูดว่า: “แม้จะที่แคว้นเอ่อตานแต่ข้าก็พูดจริงทำจริง”
“โมโหแต่เช้าเช่นนี้ใครเป็นคนยั่วโมโหเจ้ากัน”หยุนหว่านไม่เข้าใจ
“ที่มาวันนี้หวังว่าท่านป้าจะส่งนางให้ข้า”ซ่านจินจื๋อก้าวไปข้างหน้า ระหว่างคิ้วก็ผ่อนคลายลงมากแล้วก็เคารพหยุนหว่านมากยิ่งขึ้น: “ท่านและฝ่าบาทรักนางเกินไป ถ้าพวกท่านเต็มใจจะปล่อยข้าก็จะดูแลนางอย่างดี”
หยุนหว่านนิ่งไป: “เฉพาะเรื่องจากที่เจ้าเคยทำทั้งหมดข้าไม่มีทางมอบอำนาจเว่ยเอ๋อให้แก่เจ้า ยิ่งไปกว่านั้นถ้าข้ามอบให้เจ้าจริงหรือว่าเจ้าคิดจะควบคุมไปทุกที่?”
“ไม่จำเป็นต้องควบคุมไปซะทุกอย่างเพียงแต่สิ่งเล็กๆก็ต้องแข็งแกร่ง”ตอนนี้ซ่านจินจื๋อก็นั่งลงกับหยุนหว่าน
กระทั่งฉูหลี่เจียดเวลาที่ยุ่งๆมาพอหยุนหว่านก็ได้ยินเสียงประนีประนอมของหยุนหว่าน: “เรื่องนี้ข้าเข้าใจว่าถือเป็นอันตกลง แต่ถ้าวันหลังเว่ยเอ๋อเป็นอะไรไปไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะเอานางไปจากเจ้า”
“ขอบคุณท่านป้าที่เห็นใจ” ซ่านจินจื๋อคำนับเบาๆแล้วลุกขึ้นจากไป
ฉูหลี่ก็เดินมาข้างกายหยุ่นหว่านอย่างโมโห: “เจ้าตกลงอะไรซ่านจินจื๋อ?”
“ข้าตกลงกับเขาว่าในอนาคตเขาดูแลเว่ยเอ๋อแล้วข้าก็จะไม่พูดขอร้องให้ปล่อยยกให้เขาจัดการ”หยุนหว่านดึงผ้าคลุมลงมองไปที่จื่อเหมิงที่นั่งต่อสู้กับผ้าคลุมอยู่ข้างๆ: “เมื่อกี้เจ้าก็ได้ยินเขารับประกันแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ?”
“ยังไม่เห็นเขาสำนึกตัวในตอนแรก ตอนนี้ก็รู้ว่ารับประกันส่งเดช!” จื่อเหมิงพูดทิ้งไว้อย่างโมโหแล้วจากไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉูหลี่ทำได้เพียงวางกล่องอาหารลงแล้วเอาอาหารว่างตอนเช้าออกมาเองมาวางไว้หน้าหยุนหว่าน: “สรุปเขารับประกันอะไร?”
“เขากินยาพิษเข้าไปทุกๆเดือนต้องกินยาถอนพิษหนึ่งครั้ง”หยุนหว่านเอาข้าวต้มผลักไปไว้หน้าฉูหลี่แล้วพูดเสียงต่ำว่า: “อีกอย่างเขายังเอาป้ายนี้ให้ข้า เจ้าเป็นฮ่องเต้ก็ควรรู้ว่าป้ายนี้สำคัญแค่ไหน”
พูดไปหยุนหว่านก็เอาป้ายประจำตัวของอ๋องจิ้งแคว้นชางหลานมาวางไว้บนโต๊ะ
ป้ายประจำตัวนี้ทั้งหมดมีสองชิ้น สามารถผ่านแม่ทัพได้แล้วคนที่ควบคุมป้ายนี้เป็นผู้นำไปควบคุมกองทัพ
ตอนนี้กลับวางไว้ในมือของหยุนหว่าน
“เขาจริงจังกับเว่ยเอ๋อ”