บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 563
บทที่ 563 อาการป่วยทางใจ
พักใหญ่ ก็ไม่ได้ยินเสียงกุ่ยเม่ย
พอหันหน้าไป ก็เห็นซ่านจินจื๋อนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น หัวเข่าก็มาชนๆเท้าของนาง แล้วก็เอาเบ็ดขึ้นมา “ข้าขอโทษ”
“งั้นก็อย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้า หรือไม่ก็ส่งข้าไปตำบลเหยสุ่ย”
“ตอนแรกเจ้าหนีออกมาจากตำบลเหยสุ่ย ถ้าเจ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร? ” ซ่านจินจื๋อถามนางอีกครั้ง แล้วก็เตรียมตัวจะจับนางถ้านางจะลุกขึ้นไป
สองมือของกู้อ้าวเวยจับที่คอของเขาเบาๆ
“อย่าพูดเรื่องที่ข้าขาดสติอีก ข้าปกติดี ข้าสบายดี”
“หลายคืนก่อนเจ้าก็ร้องไห้อีก……..”
ครั้งนี้คอของซ่านจินจื๋อถูกบีบจนพูดไม่ออก จนต้องล้มตัวของนางลง ขาหนึ่งข้างวางลงบนเอวของนาง อีกมือก็กดมือทั้งสองของนางไว้กับขาขวา
กู้อ้าวเวยดิ้นไม่หลุด ทุกๆวันจะเล่นกันแบบนี้ แค่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น นางก็เลยไม่ดื้อต่อ แล้วก็จ้องมองเขา “ข้าสบายดีตั้งนานแล้ว ข้าอยากจะไปที่ตำบลเหยสุ่ย”
“รอข้าจัดการเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวข้าจะตามไป” ซ่านจินจื๋อปล่อยมือ แล้วลุกขึ้นดึงนางลุกขึ้น แล้วก้มลงช่วยนางปัดขี้ฝุ่นบนตัว
กุ่ยเม่ยนำกำลังคนออกไปนานแล้ว เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าวิธีการสร้างความสนิทสนมของทั้งสองคนนี้
“เจ้าอยู่ที่นี่มีงานอะไร?” กู้อ้าวเวยตั้งใจถาม
ทำให้ซ่านจินจื๋อพูดไม่ถูก “เจ้าอย่าหวังว่าจะได้ข่าวอะไรไป”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” กู้อ้าวเวยกำชายเสื้อเขา
“ก็ตามที่พูดไป เจ้าไม่ควรมากังวลกับเรื่องพวกนี้ ต่อไปเจ้าต้องอยู่ภายใต้สายตาข้า ข้าจะช่วยเจ้าทำทุกอย่าง แต่ต้องมีข้าอยู่ด้วย ” เขาจับแขนของนาง แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า “อีกครึ่งเดือน เดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้า”
“ครึ่งเดือนงั้นหรือ? วันเดียวข้าก็รอไม่ได้ ” กู้อ้าวเวยมองออกไป ที่นี่นอกจากภูเขาแล้วก็เป็นกระโจมค่ายทหาร แล้วก็มีเบ็ดหนึ่งคันที่แม้แต่ปลาก็ไม่กินเบ็ด
“ฉีหรัวกับฉีหลินก็จะนำขบวนสินค้าผ่านมาทางนี้ ได้ยินว่าจะมีข่าวมาด้วย เจ้าไม่อยากรู้หรือ?” ซ่านจินจื๋อพูดจังหวะที่นางกำลังโมโห “ข้าบอกแล้วไงว่าห้ามใช้อาวุธ”
กู้อ้าวเวยโมโห
หลายวันก่อนร่างกายนางเริ่มดีขึ้น ก็เลยอยากจะฝึกวิชาดาบ เผื่อได้ใช้การ พอถูกซ่านจินจื๋อเห็นเข้า ก็แบกดาบกลับกระโจมไป บ่นจนนางกลับไป พอวันต่อมานางเพิ่งจะเอาหยุนอี้ออกมา ก็ทะเลาะกับซ่านจินจื๋อ สุดท้ายก็เหมือนทุกวัน
สู้ไม่ชนะ เถียงก็ไม่ชนะ คนของกุ่ยเม่ยก็ฟังคำของเขา ตอนที่เขาจัดการเรื่องส่วนรวมอยู่นั้น นางไม่อาจจะไปไหนไกลได้ และก็ห้ามเข้าป่า ได้แต่มาตกปลาได้อย่างเดียว
แม้แต่เหยื่อตกปลาก็ไม่มีคนเตรียมให้นาง
ใครจะไปรู้ว่าปลาพวกนั้นมันชอบกินอะไร!
ก็โมโหเข้าไปใหญ่ กู้อ้าวเวยเดินเข้ากระโจมตนเองไม่สนใจใคร ซ่านจินจื๋อก็ปวดหัวจนต้องกุมขมับ แล้วก็เปลี่ยนใจเดินกลับกระโจมตัวเองไปปรึกษาการทหารต่อ
กุ่ยเม่ยก็ลังเล แล้วก็เอาขนมที่วางข้างแม่น้ำกลับมาให้กู้อ้าวเวยในกระโจม เห็นนางอารมณ์ไม่ดี นั่งโมโหอยู่ข้างเตียง แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ในที่สุดก็ได้เห็นเจ้างอน”
กู้อ้าวเวยหันมามองเขา แล้วก็หยิบขนมมากิน “ข้ารู้ว่าเขาเป็นห่วงข้า แต่ข้าก็อยากเป็นตัวข้าเอง ทำไมต้องมาอยู่แบบนี้ทุกวัน”
“หรือจะให้เจ้าไปวุ่นวายหรือไง? ”กุ่ยเม่ยจริงจัง แล้วมองนาง “เจ้ารู้ไหมว่าพ่อแม่ของเจ้าเมื่อได้ข่าวว่าเจ้าเกิดเรื่อง พวกเขากังวลขนาดไหน?”
“แต่ข้าก็ดีขึ้นแล้วไง” กู้อ้าวเวยพูดเสียงเบา
แต่นางเองก็ยังไม่มั่นใจ ถ้าซ่านจินจื๋อไปไม่ทัน นางก็อาจจะ…………..
“เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่า เพราะว่าเขาจะดูแลข้า ถึงขั้นที่ฮูหยินและฝ่าบาทก็ไม่ยอมช่วยเหลือเจ้า จริงๆแล้ว อ๋องจงผิงก็คิดว่าเขาทำได้ไม่เลว เจ้าก็ไม่น่าจะคิดไปเอง ไม่ต้องมาอาศัยตัวเอง ให้คนอื่นช่วยเหลือไม่ดีหรือ?”
กุ่ยเม่ยนั่งลงคุยกับนางพักใหญ่
จนถึงดึกดื่น ซ่านจินจื๋อก็กลับกระโจมตนเอง กู้อ้าวเวยก็ได้อาบน้ำยาสมุนไพรเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งลงเช็ดผมตนเอง บนตัวก็มีกระดาษอะไรสักอย่างที่ซ่อนไว้ ต้องเป็นกุ่ยเม่ยเอามาให้แน่ๆ
ซ่านจินจื๋อแกล้งทำเป็นไม่เห็น แล้วเดินอ้อมหลังนางเพื่อช่วยนางเช็ดผม “ไม่โวยวายแล้วหรือ?”
กู้อ้าวเวยเงียบ ซ่านจินจื๋อจับผมของนางแน่น ให้นางเงยหน้าขึ้นมา แล้วโมโหพูดว่า “เจ้าบอกเองนะว่าให้ข้าแก้แค้น”
“แล้วเจ้ามาจับผมข้าเนี่ยนะ….เหอะ” ซ่านจินจื๋อมองนาง แล้วก็เห็นนางอมยิ้ม แล้วก็หมดอารมณ์โกรธไป พูดเบาๆว่า “ได้ข่าวมาว่า เจ้าอยากจะไปหาท่านป้า หรือจะไปวุ่นวายกับอ้ายหยินและกู้เฉิง”
“เป็นอะไรไปเนี่ย?”กู้อ้าวเวยปล่อยผมออก
“รอพวกเขามาค่อยบอกเจ้า”
เจ้าบ้านี่
กู้อ้าวเวยยังไม่อยากชวนทะเลาะ แล้วก็ค่อยๆเช็ดผมไป แล้วก็เอาหัวซบไหล่เขาหลับไป อีกมือก็เอามาวางไว้บนเอวเขา
ทั้งสองคนนอนตะแคง ซ่านจินจื๋อคิดว่านอนด้วยกันก็ดี เพราะหลายวันนี้เห็นว่านางชอบนอนพิงหลังของเขา ก็เลยปล่อยให้นางทำไป
จากนั้นหลายวัน พี่น้องตระกูลฉีก็มาเสียที หยินเชี่ยวก็เอาของมาไม่น้อย ทั้งของกินของเล่น แล้วก็มีจดหมายของชิงจือที่เขียนบิดๆเบี้ยวๆ กู้อ้าวเวยก็รีบไปริมน้ำกับหยินเชี่ยว ตกปลาไปดูอะไรไป
ฉีหรัวก็มองหลังของกู้อ้าวเวยด้วยความแปลกใจ “นาง….เปลี่ยนไปใช่ไหม?”
“เปลี่ยนหรือ? ” ฉีหลินยกกล่องขึ้นมาแล้วแปลกใจ ฉีหรัวก็ยื่นกล่องให้คนของซ่านจินจื๋ออย่างแปลกใจ พูดว่า “นี่คือของที่ฮูหยินให้ข้าเอามาให้นาง แต่ตอนนี้ต้องให้เจ้าดูแลนาง”
ซ่านจินจื๋อพยักหน้า แล้วให้ทั้งสองคนพักผ่อน แต่เขาก็กลับมายังกระโจมตัวเองแล้วเปิดกล่องดู
ไม่นาน ก็หัวเราะขึ้น
“ที่แท้นี่ก็คือการเป็นอมตะ” ซ่านจินจื๋อก็เก็บอารมณ์แล้วปิดกล่องนั้นไปใหม่ แล้วสั่งลูกน้อง “ไปเรียกพวกเขามา”
กู้อ้าวเวยและพี่น้องตระกูลฉีก็มารวมตัวกัน ทุกคนก็มองกล่องนั้นแปลกๆ ส่วนกู้อ้าวเวยก็พูดขึ้นว่า “ข้างนอกนั่นมันเกิดอะไรขึ้น?”
“สองเดือนมานี้ กู้เฉิงได้จ้างคนมาตามหาตัวเจ้าและหยุนหว่าน แล้วซูพ่านเอ๋อก็อาศัยมือของเซียวไห่หนีออกจากคุกไป ตอนนี้ยังไม่มีวี่แวว ส่วนโจรป่าบริเวณนั้นก็ถูกกู้เฉิงจัดการหมดแล้ว อ้ายหยินอยากหย่าศึกกับคว้นชางหลาน แผนทั้งหมดถูกทำลาย” ฉีหรัวหน้านิ่งไป
กู้อ้าวเวยคิดว่ามันคิดไม่ถึง ไม่คิดว่าสูตรยาอมตะนี้จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทั้งหมดได้ เพราะนางดูถูกคนพวกนั้นมากเดินไป