บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 586
บทที่ 586 ความรักที่ลึกซึ้ง
พระอาทิตย์ตกไปทางเขาด้านตะวันตก แสงยังไม่ลับหายไป
กู้อ้าวเวยสวมอยู่ในชุดลายสีเขียวไม้ไผ่ ชิงจือเอาปิ่นหยกขาวเกล้าม้วนผมขึ้นไป ครึ่งหนึ่งของไหล่พาดด้วยเสื้อคลุมที่มีขอบสีน้ำเงินประกายเงิน พิงอยู่ครึ่งเสาใต้ระเบียงทางเดิน ในมือถือม้วนตำราสองสามเล่มที่องค์ชายท่านนั้นให้มาอยู่ ล้วนมีแต่เรื่องที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน
ซูพ่านเอ๋อไม่นำคนรับใช้ใดๆ ติดตามไปด้วย เดินช้าๆ มาจากอีกด้านหนึ่ง “คิดไม่ถึงว่าท่านพี่จื๋อจะชอบชิงจือเช่นนี้”
“ข้าบอกว่าจะฆ่าเจ้า ไม่ใช่คำพูดที่โกหกเด็ดขาด” กู้อ้าวเวยพลิกหน้าตำราไปมาอย่างขี้เกียจ ตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่เข้าหัว ตอนก่อนที่ซูพ่านเอ๋อยังอยากจะพูดประโยคถัดไปก็ได้เพียงลุกขึ้นยืน
ม้วนหนังสือหล่นลงพื้น ปลายหยกที่แหลมคมเกือบทำเอาคางของซูพ่านเอ๋อเสียโฉม หยุนอี้นั้นออกจากปลอกมานานแล้ว มันคาอยู่บนคอขาวราวหยกนั้นของนาง ปาดเป็นรอยบาดแผลสีจางๆ ก็มีเลือดแดงสดซึมออกมา ทำให้ซูพ่านเอ๋อที่ดวงตาสั่นระริกอยู่อย่างน่าสงสารตกใจเป็นอย่างมาก
แต่กลับไม่คาดคิดว่ากู้อ้าวเวยจะลงมือด้วยตนเอง ซูพ่านเอ๋อพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “ดีที่ข้าเป็นพระชายาจิ้งที่ติดตามมา เจ้าช่างกล้าลงมือจริงๆ หรือ”
“เหตุใดต้องไม่กล้า ข้าก็แค่สงสัย หรือว่าแคว้นชางหลานที่ยิ่งใหญ่ยังสามารถโอบอุ้มพระชายาจิ้งที่เคยเข้าหอนางโลมมาแล้วได้ด้วย หรือไม่ก็พระชายาจิ้งที่เมื่อตอนเด็กโหดเหี้ยมมาก” กู้อ้าวเวยหัวเราะอย่างดูถูก เห็นองครักษ์และสาวรับใช้เดินผ่านมาในทางที่ไม่ไกลนัก ก็เลยเดินขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ปล่อยคางลง เอาหยุนอี้ที่อยู่ในมือจ่อไปที่หน้าอกของซูพ่านเอ๋อแล้วพูดว่า “แม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้า ซ่านจินจื๋อก็ยังคงมีร้อยพันวิธีที่จะปกป้องข้าเอาไว้”
สีหน้าของซูพ่านเอ๋อเปลี่ยนไป “เจ้ามั่นใจขนาดนี้เลยหรือ”
“มิเช่นนั้นล่ะ” กู้อ้าวเวยดันหยุนอี้นั้นเอาไปด้านในเล็กน้อย แต่ในตอนที่จะทิ่มถูกผิวหนังก็ค่อยๆ ชักมือกลับ หยุนอี้เข้าไปในฝัก แม้แต่มือสองข้างของนางก็ค่อยๆ ยกขึ้น เอาผ้าคลุมที่หล่นไปครึ่งตัวกลับขึ้นมาคลุม ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยด้วยเสียงหัวเราะ แววตามองข้ามหัวของซูพ่านเอ๋อไป “เจ้าช่างดูผู้หญิงไม่ทะลุปรุโปร่งเอาซะเลย”
ซ่านจินจื๋อที่อยู่ตรงมุมเดินก้าวออกมาด้านหน้า “ที่ข้าต้องการก็แค่ความจริงเท่านั้น ในเมื่อจะฆ่านาง ก็รอมาหลายปีแล้ว จะรออีกสักสองสามวันจะเป็นไรไป”
ดุเหมือนว่าซ่านจินจื๋อกำลังปกป้องซูพ่านเอ๋อไว้อยู่ แต่ซูพ่านเอ๋อกลับรู้ดีว่าซ่านจินจื๋อไม่ปกป้องตนเองอีกแล้ว ในใจเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรมหลายร้อยหลายพันเท่าอยู่ แต่นางทุ่มเทเวลาให้กับซ่านจินจื๋อมามาก บัดนี้ไม่ยอมวางมือไปง่ายๆ แน่ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ท่านพี่จื๋อ ท่านจะต้องรู้ความจริง”
ซูพ่านเอ๋อหน้าก็ไม่หันกลับไปก็ออกจากที่ตรงนั้นไป
ดูๆ ไปแล้วกู้จี้เหยาก็ยังมีความฉลาดอยู่บ้างที่เรียนรู้ถึงความแข็งแกร่งของกู้อ้าวเวย ก็มักจะไม่ผิดแน่
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่านจินจื๋อเห็นซูพ่านเอ๋อพูดออกมาอย่างเด็ดขาด ในเวลาปกติผู้หญิงที่นุ่มนวลภายนอกแต่ภายในโหดเหี้ยมเป็นครั้งแรกที่ปรากฏอาการเช่นนี้ออกมาให้เห็น แม้แต่กู้อ้าวเวยก็ยกมุมปากขึ้นไปมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก “ทุกวันนางต้องแสดงความรักที่ลึกซึ้งต่อหน้าเจ้า มันก็น่าลำบากใจจริงๆ”
“หากฆ่าคนในที่แห่งนี้ เจ้าไม่กลัวหรือว่าจะต้องแบกรับการถูกกร่นด่า”
“ทำไมต้องกลัว” เวลาของข้ามีไม่มากแล้ว
โค้งตัวเก็บม้วนตำรานั้นขึ้นมา กู้อ้าวเวยเดินกระทบไหล่ผ่านกายของซ่านจินจื๋อไป พลางปัดฝุ่นบนม้วนหนังสือนั้น เดินไปรอบๆ หลังจากสอบถามเฉิงซานแล้วหันไปหาชิงจือแล้ว
ถามก็ไม่อยากจะถามซ่านจินจื๋อ
ซ่านจินจื๋อก็รู้สึกผิดเช่นกัน ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าบัดนี้เขากับท่านพี่วางแผนมากมายในที่ลับ หากเพียงเพราะองค์หญิงเอ่อตานฆ่าพระชายาจิ้งแล้วก็จะถูกคนยุยงปั่นป่วนได้ ก็ได้แต่จะยิ่งทำให้เรื่องนี้บานปลายกันไปใหญ่
อีกมุมหนึ่งเขาก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน
กู้อ้าวเวยเป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน ไม่หวังให้เขาโจมตีก่อน แต่บัดนี้หากจัดการพระชายาจิ้งซะ แต่ก็กลัวว่าซู๋ฮองเฮาและองค์ชายเก้าจะยืมมือจากเรื่องนี้ก่อเหตุได้ จะเป็นการยุยงปั่นป่วนความสัมพันธ์ทั้งให้สองแคว้น อีกทั้งเมื่อก่อนเมิ่งซู่ก็รวบรวมแสนยานุภาพในราชวงศ์ เขาถอนตัวจากราชวงศ์ด้วยความรักส่วตัวที่มีต่องกู้อ้าวเวยอีก บัดนี้องค์ชายสามเป็นใหญ่เพียงผู้เดียว
พระชายาจิ้ง พวกขุนนางขององค์ชายแต่ละคนที่เหลืออยู่กำลังรอที่จะต่อสู้กลับ
หรืออาจบอกได้ว่ากู้อ้าวเวยไม่มีเวลากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ซ่านจินจื๋อหันตัวกลับไปถามเฉิงซานว่า “เวยเอ๋อไปที่ไหนกับชิงจือ”
“เห็นบอกว่าในหุบเขามีบ่อน้ำพุร้อน พากันไปกับอ๋องน้อยที่นั่น” เฉิงซานมองไปที่สุดทางไกลๆ ระเบียงทางเดินชั่วครู่ พูดต่อว่า “ด้านหลังแม่นางซูยังมีคน ข่าวคราวไม่ขาด อาจจะเป็นสหายเก่าอาจารย์พ่ออาจารย์แม่ของอ๋องท่านก็เป็นได้ ล้วนเป็นคนในยุทธภพกันทั้งนั้น”
“ให้คนไปสืบต่อ สำนักเหลี่ยงหยีนั้นแม้ว่าจะทำการค้าด้วยเงิน แต่ก่อนที่จะจัดการปิดปากยังไม่ได้รับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของซูพ่านเอ๋อ เบื้องหลังต้องมีคนอื่นคอยช่วยอยู่เป็นแน่” ซ่านจินจื๋อสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินต่อไปด้านหน้า เดินไปทางที่จะไปหลังเขาของบ่อน้ำพุร้อน
บ่อน้ำร้อนของหุบเขานี้ไม่ใหญ่ แม้ว่าอายุของชิงจือไม่เยอะ กู้อ้าวเวยก็ยังแยกส่วนของชายหญิงในตอนที่แช่น้ำร้อน ได้เพียงส่งองครักษ์คอยเฝ้าไว้ แม้แต่สาวใช้ก็ได้แค่รออยู่ด้านนอก นางกลับหาบ่อน้ำเล็กๆ นอนด้วยตนเอง ข้างกายมีสาวใช้อายุสิบหกขวบคอยติดตามมาปรนิบัติอยู่ ถามนางด้วยเสียงเบาๆ ว่า “ฝ่าบาท ยาพวกนี้ต้องใส่ไปเท่าไหร่”
“ชิ้นส่วนที่บดแล้วใส่ไปสองชั่ง หญ้าและกิ่งก้านหนึ่งขีด หญ้าสมุนไพรสองห่อ น้ำร้อนห้าถัง น้ำพุร้อนใส่ไปสองถัง แล้วก็เหล้าที่ก่อนหน้านี้เตรียมเอาไว้นำมาวางไว้ รอจนซ่านจินจื๋อมา” กู้อ้าวเวยนอนอยู่ที่หินใหญ่ๆ ตรงนั้นอย่างขี้เกียจ พูดด้วยเสียงเรียบเฉย
สาวใช้จำได้ว่าต้องทุกข์ทรมาน ถามอยู่หลายครั้งเพื่อจัดการให้ดี
กู้อ้าวเวยแช่ตัวอยู่สักพักก็รู้สึกง่วง จึงลุกขึ้นมาทันที และเดินเข้าไปในอ่างน้ำที่สาวใช้เตรียมไว้ให้ เพิ่งจะได้สตินิดหน่อย ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ นางก็นั่งลงในน้ำและรวบเสื้อคลุมที่เปียกโชก ลำแสงของน้ำเข้าตา น้ำเสียงก็ดูเกียจคร้าน “ระวังมีดที่อยู่บนหัวด้วย ในที่สุดเจ้าก็ตามมาจนได้”
อากาศอบอวลไปด้วยไอน้ำ ซ่านจินจื๋อรู้สึกเพียงว่าตัวเองตรึงๆ แน่นๆ ปากคอแห้ง
แค่เป็นอันตรายกับคนรอบข้าง ซ่านจินจื๋อมองว่านี่เป็นสิ่งที่กู้อ้าวเวยลงโทษตนเอง พูดว่า “เจ้ายังต้องชดใช้หนี้ข้าอีกครั้งหนึ่ง”
“เหล้ายาเตรียมไว้เรียบร้อยดีแล้ว เจ้าไปทำความสะอาดร่างกายก่อน แต่อย่าเรียกข้าให้เห็นของอะไร” กู้อ้าวเวยมองไปที่ช่วงล่างของเขาชั่วครู่อย่างมีนัยแฝง หัวเราะด้วยเสียงต่ำหนึ่งเสียง ในรูจมูกมีแต่กลิ่นยา
เหม็นมากจริงๆ
ซ่านจินจื๋อได้แค่ถอยออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะขอจูบ
กู้อ้าวเวยจับไปที่ความเย็นของมุมปาก ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร
หากตายไป เกรงว่าแม้แต่ความอบอุ่นที่มีอยู่ในตอนนี้เล็กน้อยก็ไม่มีอีก ร่างกายเย็นเยือก ไม่อุ่นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ชั่งเถอะ เดินหนึ่งก้าวคิดหนึ่งก้าวละกัน” พึมพำกับตัวเอง กู้อ้าวเวยดึงสติกลับมา รีบล้างเนื้อตัวให้สะอาดแล้วก็เช็ดให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดแล้วออกไป
นางเคยบอกว่าจะนวดทุยหนาให้ซ่านจินจื๋อ แน่นอนว่าต้องทำตามสัญญา
แค่เสียดายว่าเรื่องที่จำเป็นต้องทำ ทำไปได้ไม่เท่าไหร่ สองคนก็ขึ้นไปที่แคร่ กู้อ้าวเวยจึงได้แค่โอบหลังเขาไว้แน่น ซุกอยู่ในอกของเขา “การนวดทุยหนายังไม่เสร็จ……”
“ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนแม้แต่วินาทีเดียว” ชายหนุ่มจูบเข้าไปที่มุมหน้าผากที่มีเหงื่ออย่างอ่อนโยน
กู้อ้าวเวยหัวเราะออกมาเบาๆ หนึ่งคำ ในช่วงที่ชายหนุ่มไม่ได้สังเกตเห็นกลับเศร้าหดหู่
รอจนร่างกายอ่อนแรงก็นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ฝ่ามือที่ใหญ่ของชายหนุ่มโอบเอวของนางเอาไว้ “ทำไมถึงดูกระสับกระส่ายล่ะ”
“เหนื่อยเล็กน้อย คืนนี้ขอยืมเตียงของเจ้านอนหน่อย” กู้อ้าวเวยครึ่งหลับครึ่งตื่นเล็กน้อย
อบอุ่นและสบายมากเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เสพความสุขมากขนาดนี้