บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 594
บทที่ 594 โปรดแยกแยะให้แจ่มแจ้ง
ความเจ็บช่วงลำคอยังไม่ทันหายสมบูรณ์ดี กู้อ้าวเวยพลันหยัดร่างมั่น ปลายนิ้วลูบไล้ช่วงคอที่เจ็บแสบยังนำความสั่นเทิ้มมาให้ได้
ทั้งที่วินาทีนั้นหมายจะลงมือคั้นให้ตายแล้ว เหตุใดกลับคลายมืออีกกันเล่า
นางคิดไม่ตก รอเพียงรอให้ซ่านเซิ่งหานเดินมายังข้างกายตัวเองอย่างเนิบนาบ นัยน์ตาแฝงแววที่นางเองก็มองไม่ออก ก่อนปริปากเอ่ยคำ “เจ้าไม่ควรยั่วยุเขาจริง ๆ นั่นแหละ”
“เดิมข้าคิดเสมอ คำว่าท่านอาสองคำนี้ก็เพียงพอจะทำให้เขาโกรธจนหัวเสียได้” กู้อ้าวเวยเอ่ย น้ำเสียงยังแหบพร่าอยู่หน่อย ๆ นางยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเหตุใดเขาถึงได้เปลี่ยนความคิด และหันมาพูดบางอย่างเพื่อปกป้องตนแทน
“เจ้าก็แค่อยากยั่วโมโหเขา วันหน้าเขาจะได้รู้สึกผิดบาปน้อยลงหน่อยเท่านั้นกระมัง” สีหน้าซ่านเซิ่งหานเคร่งขรึมกรีดเฉือนการเสแสร้งแกล้งทำของกู้อ้าวเวย
ทั้งสองรักใคร่เอ็นดูกัน แม้ว่าเขาจะแก่งแย่งแข็งขันจริง ๆ ทว่าก็มีเพียงใจกลับไร้เรี่ยวแรง
ถึงแม้ซ่านจินจื๋อจะถูกซ่านต้วนโฉงแบ่งอำนาจทางทหารออก ทว่าบุคคลที่พลทหารชางหลานเชื่อมั่นภายในห้าปีนี้ก็ยังคงเป็นซ่านจินจื๋ออยู่วันยังค่ำ นับประสาอะไรที่ทหารในเมืองเยว่ซ่านของเขาถูกเรียกกลับสู่มือของเขาอีกครั้งแล้ว อนาคตต่อให้จะลากเขาลงจากตำแหน่งฮ่องเต้ก็ใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้เลย
ส่วนกู้อ้าวเวยตอนนี้เป็นองค์หญิงแห่งเอ่อตาน ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเองได้ ยิ่งไม่ยี่หระว่าผู้อื่นจะกล่าวเช่นไร เรียกได้ว่าเปลือยเท้าเปล่าไม่กลัวผู้สวมเกือกกันเลยทีเดียว กู้อ้าวเวยบอกชัดแจ้งแล้วว่าต้องการลุยดะหน้า ต่อให้เขาจะแข็งแกร่ง ก็กลัวว่าคงไม่ได้สมใจ
กู้อ้าวเวยที่ถูกกล่าวความคิดในใจทำได้เพียงยิ้มบางอย่างจนปัญญา “ท่านก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนอกอ่อนใจขนาดนี้ก็ได้ ระหว่างท่านกับข้าสุดท้ายก็ยังเป็นสหายคนสนิทกันได้อยู่ดี”
ซ่านเซิ่งหานจนปัญญา “พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปดูแลเจ้า”
กู้อ้าวเวยมองเขาปราดหนึ่ง จากนั้นจึงเค้นลำคอไอเบา ๆ หลายที กลั้วคอก่อนจะเอ่ยคำ “แบบนี้สิดี ไม่เห็นเจ้า ก็ไม่อาจปวดใจ”
เดินมุ่งหน้าตามเฉลียงทางยาวอันสว่างไสวนี้กลับไปยังห้องนอนของตน กลับได้ยินซ่านเซิ่งหานพึมพำเสียงเบา“ใต้หล้ากับสาวงาม มักมิอาจครอบครองได้พร้อมกันหรอกหรือ”
ไม่อาจไม่หยุดชะงักฝีเท้าลงตรงนั้น ก่อนเหลียวหลังกลับไป
องค์ชายสามผู้หล่อเหลาหมดจดบัดนี้ยืนตระหง่านอยู่ใต้ชายคา กลิ่นอายสีเทามัวหมองนั้นทำให้โคมไฟสีแดงเพลิงจืดจางลงไปมาก เสมือนกับกลายไปเป็นองค์ชายสามที่อดกลั้นอดทนก่อนหน้านี้ มิใช่รัชทายาทผู้หยิ่งผยองในอนาคต
“คนที่รักท่านทั้งใจ ไม่ยินดีร่วมทุกข์ใจแบ่งปันใต้หล้านี้เพื่อท่าน คนที่เต็มใจแบ่งปันใต้หล้านี้ให้ท่าน กลับไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่รักท่าน หญิงงามเพียงนี้หาได้ขาดไปไม่ แต่ดินแดนพันลี้นี้มีคนนับพันหมื่น บางทีท่านอาจจะหาพบในสักวัน” กู้อ้าวเวยเดินไปที่เบื้องหน้าของเขาอย่างจนปัญญา นางรู้อยู่แล้วว่าองค์ชายสามอายุไม่มาก แต่มักจะปั้นหน้านิ่งอยู่ทุกวัน ทำเพียงยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของเขาเบา ๆ “พอเจ้าและข้าพลัดพราก วันหน้าก็คงเป็นคนใกล้ชิด ขอเพียงท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ข้าสามารถมาพบท่านได้เสมอ แต่แค่ว่าไม่สามารถคอยอยู่เคียงข้างได้ตลอดเท่านั้น”
ปลายกระหม่อมที่ไม่เคยมีใครลูบไล้มาก่อนทำให้ซ่านเซิ่งหานพลันไหววูบไปชั่วขณะ
ส่วนเสียงของกู้อ้าวเวยก็ค่อย ๆ ลอยพลิ้ว “ผู้ชายบางครั้งก็จะชอบบุคคลที่บุคลิกคล้ายมารดา ท่านปฏิบัติต่อข้า ก็เป็นเพียงเท่านี้เอง นี่ไม่นับว่าเป็นความรัก ได้โปรดแยกแยะให้แจ่มแจ้งด้วย”
กล่าวพลาง กู้อ้าวเวยพลันสาวเท้าเดินออกไป หายวับไปกับความมืดมิดที่ปลายเฉลียงยาว และไม่มีเสียงดังขึ้นมาอีก
ซ่านเซิ่งหานยืนนิ่งอยู่ใต้เฉลียงเนิ่นนาน คล้ายกับคิดขึ้นได้ว่าตนเอาแต่ฟังคำกู้อ้าวเวยไปเสียทุกเรื่อง ส่วนนางก็เป็นถึงภรรยาของท่านอา ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นเพียงแค่บุคคลตัวแทนของท่านแม่จริง ๆ?
เสียงหัวเราะเย้ยหยันตนเองดังขึ้นหนึ่งที เขาจากไปทางอีกฝั่งหนึ่ง และมองเห็นเยว่ที่รออยู่ข้างประตูพอดี
“พระองค์ ลมราตรีเย็นนัก” เยว่หยิบเสื้อคลุมมาสวมลงบนบ่าให้กับเขา “ข้าไม่ได้มีเจตนาจะแอบฟัง…”
“ได้ยินก็ดี วันหน้าไม่อนุญาตให้ทำแผนการของข้าแตกอีกนะ” ซ่านเซิ่งหานปล่อยให้เยว่รัดเสื้อคลุมให้ตนเองด้วยร่างกายแข็งทื่อ ก่อนเดินมุ่งหน้าไปหลายก้าว พลางเอ่ยบัญชา “เจ้าคือคนที่ข้าไว้ใจ หลังจากนี้นางจะทำสิ่งใด เจ้าก็คอยอุดหนุน และไปเลือกสรรสตรีจากครอบครัวชนชั้นสูงมาส่วนหนึ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ตำหนักรัชทายาทในวันหน้า”
ชั่วขณะนั้น เยว่ไม่รู้ว่าดีใจที่กู้อ้าวเวยจากไปเสียที หรือว่าควรปวดหัวที่จะมีผู้หญิงมากขึ้นเข้าสู่ตำหนักอีกกันแน่ ทำได้เพียงไปจัดการต่อเท่านั้น
……
ยามที่บีบลำคอของกู้อ้าวเวย ซ่านจินจื๋อสามารถมองเห็นแววตัดพ้อชั่วขณะนั้นในแววตาของกู้อ้าวเวยโดยสมบูรณ์
เพียงแค่แววตานั้น เขาก็คลายมือลงราวกับผีอำ ก่อนหันไปข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง เพื่อเลี่ยงไม่ให้หลานชายที่ยังไม่ยอมแพ้พูดอะไรกับกู้อ้าวเวยอีก
ส่วนอีกด้าน ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ากู้อ้าวเวยมีเจตนาเช่นไร แต่ก็อดป้องกันล่วงหน้าไม่ได้
“รวบรวมทหารแกล้วกล้า กำชับองค์ชายหก รัชทายาทจะขึ้นครองตำแหน่ง ให้รีบกลับไปหาเสด็จพ่อเขาที่เทียนเหยียนโดยด่วน”
ซ่านจินจื๋อโกรธขึ้งยิ่งนัก น้ำเสียงเปี่ยมด้วยแววโทสะ
เฉิงซานรู้แก่ใจว่าปัญหาเกิดขึ้นที่ตัวกู้อ้าวเวย กลับยังคงปั้นหน้านิ่งกล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยค “เช่นนั้นทางฝั่งพระองค์หญิง…”
“ส่งคนตามไป และบัญชาฝูงชนอีก ขอเพียงพบนาง ให้ทำตามทุกอย่าง อย่าได้ขัดขืน” ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นนวดมุมขมับเบา ๆ นึกถึงอุปนิสัยพิสดารไม่แน่นอนของกู้อ้าวเวยนั่นแล้ว ก็รีบกล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยค “ไม่จำเป็นต้องส่งทหารผู้พิทักษ์ตามแจ เกรงว่านางจะไม่เป็นอิสระ แต่ยังต้องคอยระมัดระวังให้ข้าทุกแห่งหน”
“ท่านอ๋อง…ท่านปฏิบัติกับนางเช่นนี้ เหตุใดไม่บอกไปตรงๆ…”
“ไม่จำเป็นต้องบอก นางรู้แก่ใจอยู่แล้ว” ซ่านจินจื๋อหัวเราะอย่างจนปัญญา “ขอเพียงซ่านเซิ่งหานมีท่าทีจะช่วงชิงนางแม้เพียงเศษเสี้ยว ตำแหน่งฮ่องเต้ชางหลานนี้ข้านั่งบนบัลลังก์เองใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย บัญชาข้าราชสำนัก กดดันองค์ชายสามเอาไว้ และช่วยชำระบัญชีเก่าของเจ้าหลานเก้าอีกที ดูสิว่าลูกเนรคุณคนนี้จะเตรียมการทำอะไรได้กันแน่”
“ข้าน้อยรับทราบ จะรีบไปทำตามเดี๋ยวนี้” เฉิงซานรีบร้อนจากไป
เช่นนี้แล้ว ทั่วราชสำนักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
ส่วนชิงจือในเมื่อเป็นท่านอ๋องน้อยของชางหลานแล้ว สิ่งที่จะได้รับตกทอดในวันหน้าก็คือตำแหน่งสืบทอดอ๋องจิ้งของเขา ย่อมต้องพลอยแซ่ต้วนไปกับซ่านจินจื๋อด้วย และยิ่งต้องเข้านอกออกในไปพร้อมกับเขา
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ถ้ากู้อ้าวเวยคิดต่อต้านเขาขึ้นมาจริง ๆ แล้วเหตุใดยังต้องนำชิงจือมาอยู่ข้างกายของเขาต่อไปอีกกันเล่า?
ชิงจือหลับสู่ห้วงนิทราลึกไปเรียบร้อยแล้ว ซ่านจินจื๋อทำเพียงปลดเสื้อตัวนอกพลางปีนขึ้นบนเตียง กอดร่างน้อย ๆ เข้าสู่อ้อมอก รับฟังเสียงร้องเรียกท่านแม่ของเขา แต่ก็แสนจนปัญญา
ตอนนี้ เขากลับอยากเป็นเพียงประชาชนคนทั่วไปเท่านั้น
ในตอนต้นของเช้าวันที่สอง รอกระทั่งการกราบไหว้สวรรค์สิ้นสุดลง จึงกลับไปยังเมืองเทียนเหยียน ซ่านต้วนโฉงพลันหมายจะแต่งตั้งซ่านเซิ่งหานขึ้นเป็นรัชทายาท ฮองเฮานอนไม่หลับทั้งคืน และเข้ามาหารือเรื่องสำคัญในเรือนขององค์ชายเก้าตั้งแต่เนิ่น ๆ ตอนนี้คณะทูตแต่ละแคว้นยิ่งคิดอยากจะเอ่ยถึงเรื่องเชื่อมสายสัมพันธ์สมรส กลับถูกซ่านต้วนโฉงเอ่ยปฏิเสธราบเรียบอย่างไม่ไยดี “องค์หญิงเอ่อตานยินดีหมั้นหมายกับองค์ชายสามของข้า หากองค์หญิงของแต่ละแคว้นอยากจะแต่งเข้ามาอีก เกรงจะหมองใจแล้ว”
ฝูงชนต่างเลิ่กลั่ก คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะตัดสินใจแน่วแน่เพียงแค่การไล่ต้อนเพียงหนเดียว
กู้อ้าวเวยนั่งข้าง ๆ ซ่านเซิ่งหานอย่างไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องดังกล่าว กำไลข้อมือสีเงินดังน้อย ๆ ตามจังหวะเคลื่อนไหวในการพลิกอ่านบันทึกของนาง ก่อนเอ่ยถามซ่านเซิ่งหาน “เมื่อวานเรื่องแมลงพิษ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ก็แค่ทำร้ายคนรับใช้บางส่วน มีคุณชายร่วงตกลงจากหลังม้า แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ก็เป็นได้แค่…” ซ่านเซิ่งหานชูแก้วในมือขึ้น และเปลี่ยนสุราดีในแก้วของกู้อ้าวเวยเป็นน้ำสะอาดโดยไม่ทิ้งร่องรอย ก่อนกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำต่อไป “น้องเก้าคนนั้นของข้าคล้ายกับจะลอบวางแผนทำเรื่องหยาบโลนครั้งใหญ่อะไรสักอย่าง”
การเคลื่อนไหวของกู้อ้าวเวยพลันชะงัก ช้อนสายตาชำเลืองไปทางองค์ชายเก้าที่กำลังเดินเข้ามา “องค์ชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักมักจี่นัก”
“แต่เป็นไปได้ว่าเขาจะมาหาเจ้า” ซ่านเซิ่งหานก้มศีรษะลงต่ำ เขียนอักษรหนึ่งตัวลงบนผิวโต๊ะ…อำนาจ