บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 655
บทที่ 655 สมบัติแคว้นเอ่อตาน
ห่างจากความวุ่นวาย ระหว่างทางทุกคนต่างพากันเงียบ เพื่อป้องกันไม่ให้นางได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงคราม
ค่อยๆ ใกล้แคว้นเอ่อตานเข้ามาทุกที กู้อ้าวเวยไม่ได้รู้เรื่องของชายแดนแคว้นชางหลานมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ทุกวันนอกจากอ้ายจือที่ถูกเรียกให้ออกจากข้างกายไป ก็มีเพียงซ่านจินจื๋อที่อยู่ใกล้ชิดข้างกายนาง แต่ทันทีที่เห็นความอึดอัดจากร่างกายของนางก็จะจากไป
ซ่านจินจื๋อเช่นนี้ ก็มีบ้างที่ยากจะปรับตัวได้
แต่หวนคิดอีกที นางก็แค่อยากจะคลอดลูกออกมาให้ดีๆ ดีที่สุดคือรับประกันว่าสองคนจะต้องปลอดภัย ก็ลดความกังวลเหล่านั้นลง ตามปกติแล้วก็ไม่สนใจพิราบสื่อสารของตนนั้นจำว่าซ่านจินจื๋อเป็นเจ้านายของมันอยู่แล้ว
“อีกสองวันก็จะถึงที่หมายแล้ว” ซ่านจินจื๋อเขย่าอยู่บนหลังม้าที่ขี่ช้าๆ ไปพร้อมกับรถม้า
มือข้างหนึ่งของกู้อ้าวเวยวางพาดไว้ขนหน้าต่าง มืออีกข้างหนึ่งก็พลิกม้วนตำราวางไว้ที่ตักของตน ค่อยๆ มองไปที่ม้าของซ่านจินจื๋อ อย่างระวัง ดุเหมือนว่าจะไม่ใช่ตัวนั้นที่แต่ก่อนเคยใช้ “ม้าตัวก่อนของเจ้าล่ะ”
“มันแก้มากแล้ว” ซ่านจินจื๋อยังคงชะลอความเร็วลง “หยินเอ่อ (ม้า) ของเจ้าถูกกุ่ยเม่ยจัดการไปไว้ที่ไหนอีกล่ะ”
“เหลียนจื่อเกิงและพุทรา (ชื่อแมว) ล้วนตกอยู่ในมือคนอื่นไปแล้ว หยินเอ่อ (ม้า) ก็คงจะไปหาเจ้านายที่ดีของนางแล้ว” สติของกู้อ้าวเวยหลุดลอยไปโดยไม่รู้ตัว เงยหน้าหัวเราะเบาๆ “จะว่าไปข้ากับเจ้าก็รู้จักกันมานานหลายปี ข้ากลับไม่รู้แม้แต่วันเดินปีเกิดของเจ้าเลย”
“ข้าก็ไม่เคยถามเจ้าเลยเช่นกัน” ซ่านจินจื๋อจับไปที่คาง ดุเหมือนว่าจะสงสัย “แต่หากคำพูดของเจ้า แม้ว่ามีวันเกิดสองวัน ข้าก็ไม่แปลกใจ”
ดวงตาดอกท้อคู่นั้นเหลือบขึ้นมา กู้อ้าวเวยเอนพิงอยู่ริมหน้าต่างยื่นมือไปให้เขา “วันเกิดนั้นแค่ท่านพ่อท่านแม่จำได้ก็พอ”
“ที่พูดก็ใช่” ซ่านจินจื๋อโน้มตัวลง ส่งผลไม้เชื่อมและขนมหวานถุงเล็กที่เอวไปที่ฝ่ามือของเธอ
ตลอดเส้นทางที่เดินทางมานี้ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนได้ กู้อ้าวเวยตื่นตระหนกเพราะไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้นางกลายเป็นคนหยิ่งและเอาแต่ใจเล็กน้อย ไม่เพียงแต่หอบเอาขนมหวานมันเหล่านี้จากในร้านค้าเถื่อนที่ผ่านมาแล้วแม้แต่กลิ่นตัวของซ่านจินจื๋อยังจุกจิกจู้จี้ อ้ายจือเตือนขึ้นเกี่ยวกับสิ่งนี้ “หญิงมีครรภ์ก็มีนิสัยเอาแต่ใจยาง เจ้าตามใจนางก็พอแล้ว เป็นไปได้หรือที่จะโต้เถียงทุกเรื่องกับนาง”
โต้เถียงคิดเล็กคิดน้อยกับฮูหยินนั้นไม่ได้ มิเช่นนั้นพอถึงกลางคืนสองคนยังต้องห่างจากกัน กลางดึกจะนอนหลับไม่สนิทได้
เอาเอาลูกอมไป กู้อ้าวเวยก็กลับเข้าไปในรถม้าอย่างสงบ กินผลไม้เชื่อมไปดูตำราไป อ้ายจือนั่งอยู่คนเดียว บัดนี้เห็นเห็นตำราเต็มรถม้าไปหมดก็ปวดหัวไม่หาย อีกทั้งบวกกับเวลานี้ต้องรีบเดินทางเพื่อไล่กับเวลาไม่หยุด นางรู้สึกว่าร่างกายของนางแตกเป็นชิ้นๆ แต่ก็ยังต้องช่วยกู้อ้าวเวยนวดร่างกายให้เลือดเดินได้สะดวก
สองวันต่อมาในที่สุดฉันก็มาถึงหมู่บ้านใหญ่แห่งนี้
เมื่อมองลงมาจากภูเขาในตอนเช้า ล้วนสามารถเห็นครัวเรือนประมาณร้อยครัวเรือน ในหมู่พวกเขามีอาคารเล็ก ๆ มากกว่าหนึ่งหรือสองชั้น รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไป ระหว่างนั้นแม้จะคิดว่านี่เป็นเพียงเมืองที่ไม่มีป้อมก็ตาม โรงเตี๊ยมต่างๆ ร้านตัดเสื้อ ร้านเหล็ก มีทุกสิ่งที่ต้องการครบครัน ถนนในตลาดก็แออัดไปด้วยผู้คนและยังหาผู้ลี้ภัยได้ยาก
เดิมทีคิดว่าคนไม่กี่คนก็จะพักกันที่โรงเตี๊ยม กู้อ้าวเวยเพิ่งจะลงถึงพื้น คนของโรงเตี๊ยมที่อยู่ตรงหน้าก็นำกุญแจพวงหนึ่งมาที่หน้าซ่านจินจื๋อ และมองไปที่กู้อ้าวเวยด้วยรอยยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าพวกท่านจะมากันเร็วขนาดนี้ ข้าแค่ให้คนเก็บกวาดลานบ้านอย่างรีบๆ ร้อนๆ เท่านั้น หากต้องการความช่วยเหลือก็แค่เอ่ยปากมาได้เลย”
“ขอบคุณเถ้าแก่มาก” กู้อ้าวเวยเอ่ยปากขึ้นพร้อมกับเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว เกรงว่าซ่านจินจื๋อจะไม่รู้จักจัดการกับคน
“ฮูหยินพูดอะไรกัน หมู่บ้านนี้ของพวกเราเดิมทีก็มีผู้คนมากมายมาพักผ่อน เหมาะสมพอดีกับสภาพร่างกายของท่านที่ไม่สู้ดีเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นฮูหยินที่มีครรภ์อยู่ด้วย ป้าหลายคนข้างบ้านเก่านั้นของข้าต่างก็อบอุ่น มีอัธยาศัยดีต่อแขก แม่นมก็อยู่ห่างออกไปครึ่งถนน สะดวกสบายดี” เถ้าแก่ให้คนรับใช้เสี่ยวเอ้อสองสามคนช่วยขนกระเป๋า และเดินไปที่บ้านอย่างมีชีวิตชีวา
ซ่านจินจื๋อยื่นมือออกมาจูงมือกู้อ้าวเวยแน่น ตามหลังเถ้าแก่ผู้นั้นไป “บ้านหลังนี้ ข้าซื้อไว้นานแล้ว”
“ข้าหาเงินให้เจ้า แต่ไม่ใช่ให้เจ้าเอามาใช้แบบนี้” กู้อ้าวเวยกระชับมือระหว่างสองคนแน่น
“หากข้าไม่จัดการซื้อทรัพย์สมบัติในที่ต่างๆ ถึงเวลาเจ้าพากุ่ยเม่ยไปเที่ยวทั่วไปหมด จะได้ไม่ต้องอยู่ที่โรงเตี๊ยมทุกวัน” ซ่านจินจื๋อดึงนางเข้ากอดในอ้อมแขน หลีกเลี่ยงหลุมบ่อในตลาดข้างทาง พูดต่อว่า “หากมีทรัพย์สินนพหนี้แล้ว ไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะอยู่กับที่ทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำได้”
มือข้างหนึ่งจับที่แขนของเขา กู้อ้าวเวยมองเขาอย่างสงสัย “พูดซะดูดีเช่นนี้ แต่ก็แค่หวังว่าจะเห็นที่อยู่องข้า ดีที่สุดอยู่ห่างจากกุ่ยเม่ยอีกเถอะ”
ซ่านจินจื๋อได้เพียงแค่ยื่นแขนเข้ามาโอบนางไว้ “ข้ายังรู้ด้วยว่าเจ้ามักจะหลับนอนห้องเดียวกันกับกุ่ยเม่ย”
“พูดจามั่วซั่วอะไรกัน กุ่ยเม่ยยังคงเป็นเด็กที่สะอาดจากภายใน” กู้อ้าวเวยเหลือบตามองเขาครู่หนึ่ง ผลักเขาออกไปแล้วไปหาอ้ายจือที่อยู่ข้างกาย พูดกับนางเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างแคว้นเอ่อตานและแคว้นชางหลานแคว้นเจียงเยี่ยนอย่างออกรสออกชาติ
แต่อ๋องจิ้งผู้โด่งดังก็ต้องตะลึงอยู่ในตลาดเป็นเวลานาน ก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน และเดินตามไปไต่ถามด้านหลังเถ้าแก่
กู้อ้าวเวยแอบเหลือบมองเขาเงียบๆ และหัวเราะเบาๆ “ผู้ชายคนนี้ช่างหลอกให้คนอื่นดีใจเสียจริงๆ”
“ดวงเจ้าดีมาก” อ้ายจือจ้องนางด้วยใบหน้าเย้นชา เดินไปข้างหน้าพร้อมกับยาสมุนไพรที่หอบอยู่ในอ้อมแขน
กู้อ้าวเวยขมวดคิ้ว ลูบจมูกแล้วก็เดินตามไป องครักษ์สองนายที่อยู่ด้านหลังกลับพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ ว่า “ฝ่าบาท ท่านจะขึ้นไปพักผ่อนบนรถม้าหรือไม่”
“นั่งนานเกินไป ไม่อยากนั่งแล้ว” กู้อ้าวเวยส่ายหัวด้วยความรังเกียจ และโบกมือ “นอกจากนี้ เรียกข้าว่าคุณหนู ตอนนี้ข้ายังอายุน้อย จะเรียกข้าว่าฮูหยินได้อย่างไรกัน”
องครักษ์ทั้งสองมองหน้ากัน กู้อ้าวเวยก็พยุงข้างเอวนานแล้วเพื่อที่จะได้ทันจังหวะก้าวเท้าของซ่านจินจื๋อ ดึงถุงลูกอมบนเข็มขัดแล้วก็ชะลอตัวลง และโบกมือให้เขาด้วยความรังเกียจ “พวกเจ้าหลายคนที่ร่างกายแข็งแรงดีอย่าเดินก้าวตามรอยเท้าของข้า ทำให้ดูเหมือนว่าข้าเป็นอัมพาตไปแล้วครึ่งตัวก็ไม่ปาน”
“นี่เจ้าท้องอยู่นะ ไม่อยากให้คนอยู่เป็นเพื่อนหรือ” ซ่านจินจื๋อถามนาง
“บางทีคนอื่นอาจจะคิดเช่นนั้น แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าเพียงแค่ทำให้เตียงของข้าอบอุ่น ตำราและยาสมุนไพรซื้อครบแล้ว ข้าก็สบายแล้ว” กู้อ้าวเวยกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา พร้อมกับแอบแฝงไว้ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “ข้าจะดูว่าเจ้าจะสามารถฝึกวินัยของข้าให้ดี หรือข้าจะฝึกเจ้าให้ดีก่อนกัน”
ซ่านจินจื๋อหันหน้าเคร่งขรึมมาทันที “นี่ข้าทำเพื่อประโยชน์ของเจ้า”
“นี่ข้ากำลังทำสิ่งนี้เพื่อลูกหลานของเจ้า ตั้งครรภ์แยกเตียงกลัวว่าเจ้าจะหักห้ามใจไม่อยู่ วันปกติธรรมดาไม่ให้เจ้าอยู่ติดด้วย นั่นก็เพื่อให้เจ้าไม่ต้องระมัดระวังข้างๆ ข้า ได้ผ่อนคลายร่างกายลงบ้าง” กู้อ้าวเวยถือห่อลูกอมเอาไว้ แววตากลับมองไปที่สำนักคุ้มภัยด้านข้าง ตบมือขึ้น “ข้าไปให้พวกเขาส่งยาสมุนไพรและใบยาเล็กน้อยให้นายท่านเห้อ ตลอดเส้นทางนี้ข้าหาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ข้าหาคนส่งให้เจ้า” ซ่านจินจื๋อหยุดลงและคว้าเขาไปแน่นด้วยอาการปวดหัว
เถ้าแก่และคนรับใช้เสี่ยวเอ้อที่อยู่ด้านหน้าก็หยุดลงมาด้วย กู้อ้าวเวยกลับพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ยาสมุนไพรพวกนั้นล้วนเป็นของเฉพาะที่แคว้นเอ่อตานเท่านั้น ใบยาเจ้าสามารถส่งคนส่งไปให้ข้าได้ แต่ยาสมุนไพรข้าต้องให้คนจัดการด้วยตัวเองแล้วส่งออกไป ที่สำนักคุ้มภัยคนอื่นคุ้มกันกันหลายสิบคน แต่คนที่ติดตามเจ้ามีแค่ไม่กี่คน”