บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 777
บทที่777 เพื่อจุดประสงค์
คุกใต้ดินของต้าหลี่ซื่อไม่ได้มืดและชื้น แต่เหมือนห้องนอนที่มีของไม่กี่ชิ้น ผนังด้านหนึ่งถูกแทนที่ด้วยแท่งเหล็กเย็น และก็ไม่รู้ว่าซ่านต้วนโฉงคิดยังไงจึงขังสองคนนี้ไว้ด้วยกัน
เมื่อเทียบความเย็นชาของซ่านเซิ่งหาน ซ่านจวนฮ่าวที่มีอายุน้อยกว่าดูไม่ค่อยอดทนเท่าไหร่
เมื่อซ่านจินจื๋อพาซ่านเชียนหยวนเข้าไปในคุกใต้ดิน ซ่านจวนฮ่าวมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าใช้ข้าเป็นเบี้ยจริงๆ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” ซ่านจินจื๋อมองไปที่เขาเช่นกัน ในขณะที่ซ่านเชียนหยวนคัดกรองเจ้าหน้าที่ต้าหลี่ซื่ออยู่ด้านนอก ต้องพูดขัดก่อนที่พวกเขาจะทะเลาะกัน “พวกเราคือพี่น้องกัน มีอะไรคุยกันดีๆ”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น พี่น้องทั้งสองก็ส่งสายตาเยือกเย็นให้เขา
ซ่านจินจื๋อลูบหน้าผากด้วยความไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเดินไปถึงห้องขังของซ่านเซิ่งหาน แล้วพูดว่า “เยว่พาซูพ่านเอ๋อหนีไปแล้ว”
ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของซ่านเซิ่งหาน แล้วกำแก้วเก่าๆในมือและพูดขึ้นเบาๆหลังจากที่เงียบไปนาน “ข้าคิดไม่ถึง……”
“กู้เฉิงต้องการให้ซ่านต้วนเฟิงครองราชย์บัลลังก์” ซ่านเชียนหยวนรีบพูดเสริม “ตอนนี้เราควรร่วมมือกัน”
เมื่อพูดจบ ซ่านจินจื๋อก็ยกมือขึ้นแล้วดึงเขาออกมา
สงสัยฉีหรัวและกู้อ้าวเวยจะเสี้ยมสอนทางความคิดเขามากเกินไป จนทำให้เขาลืมไปว่าจิตใจของมนุษย์มันไม่ง่ายที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นตามที่คาดไว้ ซ่านเซิ่งหานยิ้มด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันแล้วยังพูดว่า “นี่คือกู้เฉิงที่เจ้าเห็น แต่ในสายตาของข้า ในตอนนั้นหากกู้เฉิงไม่ดึงข้าเข้าไปเป็นพวก ข้าคงตายด้วยน้ำมือของพี่ใหญ่”
“จะว่าไปที่พวกเจ้ามาที่นี่ จริงๆก็เพื่อมาดึงพวกเราไปเป็นพวกและร่วมจัดการซ่านต้วนเฟิง?” ซ่านจวนฮ่าวพูดตัดบทด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง “แต่ในความคิดของข้าหากพวกเจ้าไม่ต้องการบัลลังก์ ก็สามารถเลือกที่จะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้และส่งมอบบัลลังก์ให้ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ”
เกรงว่าจะไม่เกิดความวุ่นวาย
ซ่านจินจื๋อพบว่าการเติบโตของซ่านจวนฮ่าวนั้นเหนือความคาดหมายมาก
เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดเหล่านี้ ซ่านเซิ่งหานจึงมองซ่านจินจื๋อด้วยความระวังตัวเช่นกัน หากพูดถึงเมื่อก่อน เขายังสามารถเชื่อในซ่านจินจื๋อ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในคุกใต้ดินของต้าหลี่ซื่อมาเป็นเวลานาน เขายังไม่สามารถเชื่อคนที่เคยเป็นศัตรูผู้นี้ แล้วนับประสาอะไรกับ……
“เสด็จอา หากจุดประสงค์ของเจ้าในการเข้าหากู้อ้าวเวยในตอนแรกคือการใช้ประโยชน์จากนาง ตอนนี้ข้าสงสัยว่าเหตุใดเจ้าจึงตั้งใจปล่อยให้ซูพ่านเอ๋อหนีไป เยว่โตมากับข้า คนที่อยู่เบื้องหลังเขานอกจากข้าแล้วจะมีผู้ใด หากมีนางเพียงคนเดียวจะพาซูพ่านเอ๋อหนีรอดสายตาเจ้าไปได้อย่างไร” ซ่านเซิ่งหานหรี่ตาลงด้วยความขัดเคือง “หรือบางทีข้าไม่ควรเชื่อเจ้าตั้งแต่แรก”
“ในตอนแรกเจ้าปฏิบัติต่อกู้อ้าวเวยอย่างไร พวกเรามองเห็น” ซ่านจวนฮ่าวพูดเพิ่มเติมในเวลาที่เหมาะสม โดยไม่กลัวสายตาพิฆาตของซ่านเชียนหยวน
เมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดของทุกคนจะมีเหตุผล
แต่สำหรับซ่านจินจื๋อนี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ถ้าหากพวกเขายังคงต่อสู้ต่อไป แม้ซ่านต้วนเฟิงจะถูกแก้ไข แต่สุดท้ายผู้ที่สามารถขึ้นสู่บัลลังก์ก็มีเพียงเขาคนเดียว
หากเป็นเช่นนั้น เขาจะเดินทางรอบภูเขาและแม่น้ำลำธารกับกู้อ้าวเวยได้อย่างไร?
เมื่อทุกคนต่างเงียบ กู้จี้เหยาที่สวมชุดองครักษ์อยู่ข้างหลังก็เงยหน้าขึ้นแล้วเดินไปข้างๆซ่านจินจื๋อ “ข้าคิดว่าที่องค์ชายหกพูดมีเหตุผล ในเมื่อจุดประสงค์ของพวกเจ้าแตกต่างกัน ในตอนนี้เหตุใดจึงกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขของซ่านต้วนเฟิงและกู้เฉิง?”
ซ่านจินจื๋อมองไปที่ผู้หญิงคนนี้อย่างเฉยเมย “เพราะซ่านต้วนเฟิงลงมือกับเวยเอ๋อแล้วและกู้เฉิงเป็นแนวป้องกันสุดท้าย”
เมื่อกุ้ยมามาถูกกู้เฉิงปล่อยตัว ก็ถูกนำไปที่อารามไป๋หม่าเพื่อรายงานหลักฐาน
ไทเฮาผู้เป็นเจ้าของตราราชลัญจกรหยกและมีอำนาจในการควบคุมฮ่องเต้มุ่งโจมตีกู้อ้าวเวยอย่างรวดเร็ว
“แต่ข้าคิดว่าพวกเขาไม่สนใจความเป็นความตายของกู้อ้าวเวย เจ้าควรทำเรื่องนี้ด้วยตนเองแล้วปล่อยให้พวกเขาต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตนเองต้องการ” กู้จี้เหยาคว้าแขนเสื้อของซ่านจินจื๋อ แม้ว่านางจะหลบตาและร่างกายจะสั่นเทาแต่ก็ยังแสร้งพูดอย่างใจเย็น “หากพวกเขาต้องการบัลลังก์ ก็ให้พวกเขาต่อสู้เพื่อบัลลังก์ ขณะนี้สถานการณ์วุ่นวายแทนที่จะเป็นแนวร่วม เราควรปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองไม่ดีกว่ารึ?”
เมื่อสิ้นเสียง ซ่านจินจื๋อก็แสยะยิ้ม จากนั้นก็ใช้มือเหวี่ยงกู้จี้เหยาไปในอ้อมแขนของซ่านเชียนหยวน แล้วเดินไปข้างหน้าของซ่านเซิ่งหาน “ข้าเลือกที่จะไปช่วยกู้อ้าวเวย ด้วยเหตุนี้ข้าจะยอมแพ้เพื่อประกันตัวเจ้า และจะไม่ช่วยเจ้าช่วงชิงบัลลังก์”
ซ่านเซิ่งหานกัดฟันกรอดและบอกอย่างมีเหตุผลว่าเขาไม่ไว้วางใจให้ชายผู้นี้ไปช่วยกู้อ้าวเวย แต่ตอนนี้เขาอยู่ในคุกและแทบจะไม่สามารถช่วยกู้อ้าวเวยได้เลย
“เจ้ากำลังเตรียมตัวเพื่อไปยืนข้างกู้เฉิง” ซ่านเซิ่งหานพูดสิ่งที่อยู่ในใจของซ่านจินจื๋อออกมา
“กู้จี้เหยาพูดถูก ในเมื่อข้าไม่ได้สนใจเรื่องบัลลังก์และอำนาจ ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจเรื่องการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ของพวกเจ้า ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้ ข้าเพียงแค่หวังว่าเจ้าจะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าให้ดี และประตูคุกใต้ดินของต้าหลี่ซื่อข้าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเจ้าเปิด” ซ่านจินจื๋อหลับตาลงช้าๆพลางยกมือให้เฉิงซานที่อยู่ข้างหลังเขา “ไปนำกู้เฉิงมาแล้วพาไปยังคฤหาสน์องค์ชายเก้า และบอกพวกเขาว่าข้าต้องการพบภรรยาของข้า”
“ขอรับ” เฉิงซานขมวดคิ้วแล้วจากไป
ซ่านเซิ่งหานมองซ่านจินจื๋อด้วยความสงสัย จากนั้นจึงเห็นซ่านเชียนหยวนแอบทำท่าทางสบายใจ และเดินไปด้านข้างของซ่านจินจื๋อพลางคว้าคอเสื้อของเขา “เจ้าคืออ๋องจิ้งของแคว้นชางหลาน! เหตุใดจึงทำเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง……”
“ทำได้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังมีหลักฐานเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดและการทรยศของพวกเจ้า รวมถึงพระชายาองค์ชายสี่องค์ก่อนของเจ้าก็เป็นศิษย์ของปีศาจ ด้วยเรื่องพวกนี้ก็สามารถทำให้เจ้าล้มลงได้โดยง่าย” ซ่านจินจื๋อสะบัดมือของซ่านเชียนหยวนออกด้วยใบหน้าที่เย็นชา จากนั้นจึงหันไปคว้าข้อมือของกู้จี้เหยา ในขณะที่ดึงนางเข้ามา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “ข้าจะให้ยาแก้พิษแก่เจ้า เจ้าจงไปที่เยียนหยู่เก๋อและฟังคำสั่งของฉีหรัว”
“ฉีหรัวเป็นเพียงคนค้าขาย” กู้จี้เหยาใจเต้นรัวเพราะกลัวว่าจะมีหน่วยสอดแนมอยู่ข้างนอก
“แต่นางระวังเยว่และซูพ่านเอ๋อมานานแล้ว และมีวิธีสะกดรอยผงทาหน้าพิเศษเหล่านั้น เจ้าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ข้าเชื่อเจ้า” แล้วซ่านจินจื๋อก็โยนนางไปบนรถม้า
น่าเสียดายที่กู้จี้เหยามองไปยังชายเย็นชาที่อยู่ตรงหน้า ในใจกลับไม่มีความรักอยู่เลย มีเพียงแต่ความเหนื่อยล้าเท่านั้น
คนในราชวงศ์ไม่เคยถอดหน้ากาก และนางก็ไม่มีความสามารถที่จะถอดหน้ากากเพื่อเขา
“สำหรับเรื่องซูพ่านเอ๋อและเยว่ ดูเหมือนเจ้าจะไม่โกรธอย่างที่คิดไว้” กู้จี้เหยาถามเสียงเบา
เวยเอ๋อ เคยเตือนข้าเมื่อนานมาแล้วว่าเมี่ยวหาร ไม่ธรรมดา นาง เก็บซูพ่านเอ๋อไว้แก้แค้น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น” ซ่านจินจื๋อ หลับตาลงอย่างช้าๆและจัดระเบียบเรื่องทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน กู้อ้าวเวยกระจายข่าวกรองและสร้างสัมพันธมิตร อีกทั้งให้ความร่วมมือกับผู้คนทุกหนทุกแห่ง ซึ่งมีลักษณะที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
นางยังไม่พบแก่นแท้ที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เหยื่อติดกับดัก
หรือคนที่กำลังติดกับดักคือกู้เฉิง
ซ่านจินจื๋อไม่รู้ว่ากู้เฉิง ต้องการอะไรกันแน่ แต่เขารู้ว่ากู้อ้าวเวยจะไม่ยอมแพ้แน่นอน