CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 819

  1. Home
  2. บุบผาร้อยเสน่ห์
  3. ตอนที่ 819
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 819 เชื่อมต่อ

สารทฤดูใบไม้ร่วงเต็มพื้น ถนนใหญ่ซอยเล็กๆ เบื้องหน้าล้วนอยู่ในความหดหู่ทั้งแถบ

ที่นี่ก็เป็นแค่หมู่บ้านเล็กน้อยๆ ที่ไม่รู้ใครรู้จัก คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ออกไปทำงานด้านนอก คนที่เหลืออยู่โดยมากจะเป็นหญิงชราและเด็กน้อยส่วนหนึ่ง ขณะที่กู้อ้าวเวยในชุดคลุมสีดำควบรถม้าเข้าไปในหมู่บ้าน เด็กน้อยหลายคนต่างตั้งหน้าคอยมองตามๆ กัน พูดกันอย่างเซ็งแซ่ว่ากลัวแต่คนใหญ่คนโตมาเยือนเสียแล้ว

ซูพ่านเอ๋อนั่งอยู่ในรถม้า กลับยังไม่รู้แจ้งเลยว่าเหตุใดนางตั้งระหกระเหินถ่อมาไกลถึงที่นี่ด้วย

ทว่ากู้อ้าวเวยกลับรู้อยู่เต็มอก นางยังบอกกับสำนักคุ้มภัยในหมู่บ้านว่าถ้าหากมีคนจากเมืองเทียนเหยียนมาถึงที่นี่ให้ลอบติดต่อกับโรงเตี๊ยมร้านนั้น นางจะมาถึงที่นี่ตามข่าวสารที่ได้รับจากเด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์คนนั้น

คิดดูแล้วยังมีคนต้องการติดต่อกับคนของซ่านจินจื๋อเป็นแน่ เช่นนี้ข่าวในมือของเด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ก็อยู่เค้ามูลความจริงอยู่หลายส่วน

ระหว่างทางไม่มีใครคอยคุ้มกัน ซ้ำคิดว่าวันหน้ายังต้องเผชิญกับทหารไล่กวดของฮ่องเต้อีก มันไม่ง่ายเอาเสียเลย

ข่าวสารนี้มีดินแดนอันลึกลับ ซึ่งก็คือสถานที่แห่งนี้ ขณะที่นางกำลังเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่าร้านค้าในสถานที่แห่งนี้ไม่มีชื่อแซ่ กลับได้ยินแต่เพียงเสียงหัวเราะคล้ายกระดิ่งเงินสายหนึ่งลอยลงมาจากด้านบนชายคา สตรีในชุดยาวสีเขียวทั้งกายด้านหลังสะพายดาบยาวเล่มหนึ่งโรยตัวลงมาริมถนน มองสำรวจนางด้วยอาการยิ้มก็ไม่ใช่หัวเราะก็ไม่เชิง

กู้อ้าวเวยรู้สึกแปลกๆ จึงจอดรถม้าแล้วเหลือบมองนาง ไม่เอ่ยวาจาสักคำ

ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนอายุราวยี่สิบต้นๆ ย่ำเท้าไร้สุ้มเสียงมาหยุดต่อหน้าของนาง “ท่านก็คือ…พระนางน้อย?”

สามคำสุดท้ายเจือความไม่แน่ใจหลายส่วน น้ำเสียงก็เบาลงไปมาก

“เจ้าเป็นผู้ใด?”

“พี่ชายบอกว่าเขาเคยพบท่านครั้งหนึ่งที่สนามล่าสัตว์ เพียงแต่เมื่อวานเขาได้รับข่าวว่าต้องการเพิ่มกำลังพล จนรีบร้อนออกไป ฉะนั้นจึงให้ข้ารุดหน้ามาต้อนรับอยู่หน้าเรือนอาจารย์” หญิงสาวเดินมาข้างหน้า กระโดดขึ้นมาบนรถม้า แหวกม่านรถออกมองเห็นแม่นางที่ถูกโซ่ตรวนอยู่ด้านใน จึงอดมุ่นเรียวคิ้วไม่ได้ “แม่นางผู้นี้ทำความผิดโทษฐานใด?”

“ยามอุทกภัย นางคร่าชีวิตคนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว จำนวนมากมายเหลือแสน” กู้อ้าวเวยกล่าวอย่างจริงจัง ซูพ่านเอ๋อในรถม้าหดลำคอ ตลอดทางมานี้ นางมิกล้าไม่เชื่อฟังคำของกู้อ้าวเวยเลย แม้ว่าในใจจะยังคงมีความชิงชังอยู่หลายส่วน ทว่าครั้นมองเห็นดวงตาพราวระยับคู่นั้นของกู้อ้าวเวย ก็มิกล้าพูดมากความอีก

หญิงสาวคนนั้นเห็นซูพ่านเอ๋อนิ่งเงียบงุดหน้าต่ำ ทำเหมือนนางยอมรับในเรื่องนี้

“พี่ใหญ่บอกว่าผู้ที่มาน่าจะเป็นแม่นางสิริโฉมปากจัดคนหนึ่ง แต่ข้าดูท่านแล้ว…” สายตาของหญิงสาวโปรยไปที่ข้อมือของกู้อ้าวเวย กู้อ้าวเวยดึงสะบัดบังเหียนเพื่อเร่งรถม้ากลับปรากฏให้เห็นเล็กน้อยอย่างเสียมิได้ โทษก็แต่หญิงสาวคนนี้ตามแหลมปานคบเพลิง

“พี่ใหญ่ของเจ้ามีชื่อว่าอะไร” กู้อ้าวเวยดึงแขนเสื้อ ไม่สนใจจะถือสาต่อปากกับเด็กสาวคนหนึ่ง

“พี่ใหญ่ข้านามว่าโม่อี ข้าเป็นคนสุดท้องในเรือน จัดอยู่ในลำดับที่สาม ท่านเรียกข้าว่าน้องซานก็ได้” คุณหนูโม่ซานนั่งลงบนรถม้าคันนี้ ขาข้างหนึ่งเหยียบบนโกลนไม้ ยันครึ่งหน้าพิงลงบนหัวเข่า กลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนวิทยายุทธ์จะแกร่งกล้ายิ่ง

“โม่อี…” กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา หวนนึกอย่างละเอียดแล้วนางเคยไปสนามล่าสัตว์ไม่เกินสองครั้ง ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ ก็นึกได้ว่าในคราแรกเคยพบกับคนผู้นี้จริงๆ ตอนนั้นเขากำลังยืนอยู่กับเซียวไห่ แต่เขาดูเหมือนจะอาฆาตแค้นซูพ่านเอ๋อสุดขีด ดังนั้นในตอนนั้นจึงไม่ได้เข้าใกล้ เดาะลิ้นน้อยๆ “เหตุใดใต้เท้าโม่อีถึงได้รออยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้?”

“เดิมทีพี่ชายว่างงาน คนข้างกายต่างอดรนไม่ไหวอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบู๊ผู้ซื่อสัตย์เถรตรงอย่างเขาจากไปนานกว่านี้ คนที่เป็นเจ้านายเขาคนนั้นถึงกับโบ้ยความผิดใส่ข้า บอกว่าข้าไปก่อเรื่องในยุทธภพ ผลัดกันพี่ชายของข้าเข้ามา ก็เป็นเวลาได้หนึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว” โม่ซานพูดขึ้นมาแล้วยังเดือดดาลอยู่มากทีเดียว ดาบยาวที่อยู่หลังกายก็พลอยกระแทกกับรถม้าไปด้วย

กู้อ้าวเวยเหลือบเห็นเด็กน้อยที่อยู่รอบข้างล้วนตกอกตกใจ ได้แต่หยุดอยู่เบื้องหน้าโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งอย่างร้อนรน กล่าวว่า “พวกเราเข้าไปข้างหน้าค่อยว่ากัน…”

“ไปโรงเตี๊ยมทำอันใด มุ่งหน้าผ่านร้านค้าตระกูลเหลียงไปอีกหน่อยแล้วเลี้ยวขวา เดินทางไปจนสุดก็เป็นเรือนของข้าแล้ว” โม่ซานแย่งเชือกบังเหียนในมือของนาง ก่อนสะบัดพร้อมกับหัวเราะร่วน รถม้าใต้อาณัติพลันพุ่งปราดออกไป กู้อ้าวเวยตกใจยิ่ง ก่อนเอื้อมมือไปจับขอบประตูคนขับเอาไว้ สีหน้าขาวซีด

คล้ายเหลือบเห็นว่านางรู้สึกไม่สบาย โม่ซานจึงชะลอการเคลื่อนไหวลง หมายจะเอื้อมมือไปตรวจชีพจรให้นาง

กู้อ้าวเวยกลับชักมือคืนอย่างรวดเร็ว กล่าวเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องวัดชีพจรหรอก ตัวข้ารู้ดี”

โม่ซานเลิกคิ้วขึ้น ดึงเชือกบังเหียนด้วยอาการนิ่งเงียบ

และเรือนหลังเล็กที่อยู่ท้ายซอย นั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ในนั้นมีอยู่ไม่ถึงสามห้อง ภายในห้องหนึ่งกลับเต็มไปด้วยตำรากวีทุกชนิดวางอยู่เรียงราย ในประตูยังมีงานเย็บปักถักร้อยวางอยู่ และมีฉากกั้นลมที่ศิลปะฝีมือดี ข้างเตียงยิ่งเป็นถึงใบไผ่ที่แสนสดชื่นสง่างาม ทว่าอีกห้องหนึ่งกลับมีชุดเกราะดาบกระบี่วางอยู่เต็มไปหมด

โม่ซานเปิดประตูห้องแต่ละบานจนหมด จากนั้นก็เปิดห้องสุดท้าย ข้าวของที่วางอยู่ด้านในกลับรกรุงรังยิ่งนัก นางยกมือขึ้นเบาๆ แล้วโยนซูพ่านเอ๋อเข้าไปที่ผ้าห่มผืนหนึ่งตรงมุม ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่โซ่ตรวนบนตัวของนางยังไม่ส่งเสียงดังขึ้นมา แสนสงบเงียบ วิทยายุทธ์สูงแกร่งจนน่ากลัว

สายตาของกู้อ้าวเวยกลับโปรยไปที่ชั้นวางหนังสือด้านข้าง ส่วนใหญ่เป็นตำราวิทยายุทธ์ มีพงศาวดารท้องถิ่นและหนังสือเบ็ดเตล็ดเป็นส่วนน้อย

“แบ่งตามสองห้องของพี่ชายและพี่สาวข้าเอง พวกเราสามคนพักอยู่ในห้องข้าก็มากเกินพอแล้ว” โม่ซานวางดาบยาวที่สะพายหลังไว้บนชั้นวางด้านข้าง จากนั้นก็รูดแขนเสื้อยกน้ำสองอ่างเข้ามา วางไว้ต่อหน้ากู้อ้าวเวย “พี่ชายบอกว่าท่านเป็นคุณหนูร่ำรวย ทนลำบากไม่ได้ อ่างหนึ่งล้างมือ อ่างหนึ่งเช็ดตัวเช็ดเท้าก็ได้”

กู้อ้าวเวยไม่ใคร่รู้จักโม่อีนัก ตอนนี้มองไปที่โม่ซานที่อยู่ตรงหน้า ก็ยังรู้สึกงุนงงเล็กน้อย นางลูบลำคอโดยไม่รู้ตัว ออกจะกระดากอาย “พวกเจ้าคนในยุทธภพล้วนมีสัมมาคารวะเยี่ยงนี้กันหมดหรือ?”

“พี่ใหญ่เป็นข้าราชสำนักในวัง ข้าได้แต่นับว่าเป็นลูกครึ่งยุทธภพ คนยุทธภพมีทั้งหยาบคายและละเอียดอ่อน มีทั้งไร้มารยาท และย่อมมีพวกถือมารยาทไว้เหนือหัวเช่นเดียวกัน” โม่ซานกลับรู้สึกว่านางถามคำถามแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง เห็นกู้อ้าวเวยยังไม่มีวี่แววจะถอดชุดคลุมสีดำเลย จึงเอ่ย “ข้าจะไปซื้อของกินในโรงสุราเสียหน่อย”

กู้อ้าวเวยพยักหน้า รอกระทั่งโม่ซานออกไป นางจึงเปลื้องชุดคลุมสีดำบนบ่าลงอย่างนวยนาด เผยให้เห็นชุดสีน้ำเงินเข้มด้านในตัวนั้น มองดูตัวเองในกระจกทองแดง บนลำคอล้วนมีบางอย่างปรากฏขึ้น นางเพิ่งจะมุ่นคิ้ว บานหน้าต่างเบื้องหน้าก็ถูกดันเปิดจนเกิดเสียงดังปึง

โม่ซานที่ควรจะออกไปแล้วกลับคว้าข้อมือของนางเอาไว้ พลางกล่าว “ที่แท้ร่างกายก็มีพิษร้ายนี่เอง”

“เหตุใดเจ้าถึงวกกลับมาอีก?” กู้อ้าวเวยเพียงแต่สะดุ้งโหยง กู้สติกลับมาแล้วจึงปั้นท่าราบเรียบ

“เหตุใดท่านไม่ถามข้าว่าคิดจะทำอะไร?” โม่ซานรีบพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างราวกับปลาไหลโคบนตัวหนึ่งมิปาน โรยตัวลงบนเก้าอี้อย่างมั่นคง คว้าข้อมือนางเอาไว้อย่างนุ่มนวล กล่าวกลั้วหัวเราะ “ข้าไม่ได้กลัวว่าหาผิดตัว ตอนนี้ดูแล้ว ท่านเป็นคุณหนูร่ำรวยคนหนึ่งจริงๆ ทั้งคำพูดและการกระทำคล้ายกับคนที่พี่ใหญ่มอบหมายไว้อีกด้วย”

“ตอนนี้แน่ใจแล้ว?” กู้อ้าวเวยชักมือกลับมา ล้างมืออย่างว่าง่าย ผิวหนังที่ถูกเชือกบังเหียนครูดปวดแปลบอยู่ไรๆ นางได้แต่มุ่นคิ้วแล้วโรยผงยาเข้าไปเล็กน้อย ก่อนบีบนวดอย่างประณีต

โม่ซานเลิกคิ้ว พลางกล่าว “แน่ใจแล้ว ดังนั้นข้าถึงได้รีบร้อนกลับมาส่งข่าวอย่างไรเล่า”

“ข่าวอะไร?” กู้อ้าวเวยไม่ได้เงยหน้าด้วยซ้ำ

“พี่ใหญ่ให้ข้ายืนยันตัวตนของท่านแล้วนำความมาบอก” โม่ซานวางขาลงบนโต๊ะ เอียงไปทางด้านข้างเบาๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “อ๋องจิ้งถูกขัง ไม่สามารถช่วยเหลือได้ พี่ใหญ่เพียงคนเดียว คนที่ใช้งานได้ข้างกายก็มีไม่มากนัก อ๋องจิ้งกับท่าน จำเป็นต้องละทิ้งไม่ช่วยคนหนึ่งๆ จึงจะช่วยให้อีกคนถอยออกมาได้เต็มตัว”

การเคลื่อนไหวของกู้อ้าวเวยชะงักงันเล็กน้อย

ถึงเวลาที่ต้องเลือกอีกแล้วหรือ?

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 819"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์