บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 828
บทที่ 828 กลับใจ
“บอกแล้วให้เจ้าระวัง เจ้ายังมุ่งเข้าหาปลายดาบอีก!”
ตงฟางฮองเฮามองนางที่บนตัวมีรอยช้ำเบาๆอย่างเจ็บปวดใจ ยังโชคดีที่ช่วงนี้ซ่านจินจื๋อนิสัยเปลี่ยนไปมาก ไม่ได้ฆ่านางจริงๆ ขนาดใบหน้ายังไม่ถูกทำร้าย ที่แรงที่สุดก็แค่หลังที่กระทบประตู ถลอกเป็นวงใหญ่ เจ็บแสบมาก
ตงฟางซวนเอ๋อร้องไห้ฟูมฟาย ตั้งแต่เล็กก็โตมาแบบไข่ในหิน ยังไงก็รู้ว่าอ๋องจิ้งเป็นอ๋องที่นิสัยรุนแรง แต่ตอนนี้เสื้อผ้านางสะบักสะบอมถูกโยนออกมา จนทั้งหลังวังรู้เรื่องนี้ เกลียดจนอยากจะเอาหัวมุดดินลงไป
ฮองเฮาก็รู้สึกเจ็บปวดใจมาก: “งั้นให้น้องสาวเจ้ามาไหม แม้นางจะไม่เหมือนกู้อ้าวเวยและซูพ่านเอ๋อ แต่นิสัยก็ยังนิ่ง……”
“ป้า ซวนเอ๋อต้องทำได้แน่” ตงฟางซวนเอ๋อพอได้ยินว่าน้องสาวสองคำนี้ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที นางมองฮองเฮาด้วยน้ำตาคลอเบ้า: “ครั้งนี้ซวนเอ๋อรีบร้อนเกินไปหน่อย”
ฮองเฮาก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็สั่งหมอหลวงกับข้ารับใช้หญิงดูแลซวนเอ๋อและส่งไปที่ห้องนอน พึ่งถอดมงกุฎออก ก็ได้ยินเสียง: “ฮ่องเต้เสด็จ”
ฮองเฮาสีหน้าซีดขาว และหยิบมงกุฎขึ้นมาใส่ใหม่ รีบเดินออกไปทำความเคารพฝ่าบาท: “หม่อมฉันน้อมคารวะฝ่าบาท”
“ได้ยินว่าเมื่อกี้ซวนเอ๋อถูกไล่ออกมา” ซ่านต้วนโฉงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
“ซวนเอ๋อเจ้าเด็กคนนี้ใจร้อนไปหน่อย ขอฝ่าบาทโปรดทรงอภัยไว้ชีวิตนางด้วย” ฮองเฮาตอนนี้ไม่กล้าเงยหน้าเลยด้วยซ้ำ ก้มหน้าลง มือจับผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น เม้มปากแรง
ซ่านต้วนโฉงยักคิ้วขึ้นพูดว่า: “เจ้ารู้ไหมว่าความโลภของตระกูลตงฟางมีมากแค่ไหน? ยุยงให้องค์ชายของข้าทะเลาะกันเอง และแอบช่วยองค์ชาย การกระทำแบบนี้ ก็เพื่อปูทางให้องค์ชายสิบสี่ของเจ้า ถ้าเจ้ายังนึกถึงได้ว่าองค์ชายสิบสี่เป็นลูกชายแท้ๆของเจ้า ก็อย่าปกป้องครอบครัวแม่”
ซ่านต้วนโฉงเสียงไม่ดัง แต่ตาเบิกโพลงแทบจะทะล้นออกมาแล้ว ทำเอานางไม่เข้าใจความคิดตอนนี้ของซ่านต้วนโฉง
“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ” ฮองเฮากัดปากไว้อย่างแรง: “หม่อมฉันบอกพวกเขาแล้ว โอกาสอ๋องจิ้งได้ตำแหน่งราชามีมากกว่า พวกลุงอาพวกเขาคิดวิธีชักจูงแน่นอนเพคะ”
“ได้ยินว่าตระกูลตงฟางยังมีชายหนุ่มที่แข็งแรงมากมาย?” ซ่านต้วนโฉงแสยะยิ้ม มือลูบไปที่แก้วน้ำ และยังไม่ลืมพูดเสียงเบาว่า: “ถ้าให้พวกเขาได้อำนาจทหาร ต่อไปพวกเจ้าตระกูลตงฟางก็จะต้องตายทั้งหมด เจ้ายอมไหม?”
สีหน้าฮองเฮาซีดลงกว่าเดิม รีบคุกเข่าลง สูดหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างเคารพว่า: “ครอบครัวของหม่อมฉันทำเรื่องผิดมามากแล้ว ถ้าพวกเขามีความคิดนี้จริง ไม่นับว่าตายอย่างอยุติธรรมเพคะ”
“ตระกูลตงฟางล่มแล้ว ตำแหน่งฮองเฮาเจ้ายังจะนั่งได้มั่นคงเหรอ ยอมให้เป็นเช่นนี้จริงเหรอ?”
“หม่อมฉันไม่คิดจะได้ตำแหน่งอะไร ขอแค่ฝ่าบาทต่อไปดูแลองค์ชายสิบสี่ดีๆ!” ตงฟางฮองเฮาร้องไห้ก้มหัวให้สามครั้งเสียงดัง ขอบตานางมีน้ำตาเอ้อล้นออกมา แต่กลับไม่ได้มีความรักอะไรให้ฝ่าบาทแล้ว
ซ่านต้วนโฉงก็ไม่ได้บีบบังคับอะไร พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ผู้หญิงคือหายนะ พอไม่มีการสั่งสอนจากพวกเจ้า ลูกของข้าแต่ละคนก็มีความโลภมากไม่น้อย แต่เสียดายหยวนเอ๋อ ถูกเสียนเฟยสอนไม่ดีเท่าไหร่”
ฮองเฮาไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับเยือกเย็นไปหมด
สำหรับซ่านต้วนโฉงแล้ว องค์ชายจริงๆควรจะแย่งชิงเกลียดพี่น้องตัวเองกัน และต้องแย่งชิงตำแหน่งและอำนาจกัน ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน
ซ่านต้วนโฉงลุกขึ้นอยากจะออกไป หวางกงกงก็รีบขึ้นมาอย่างเร็ว: “ฝ่าบาท เกิดเรื่องแล้ว!”
“เรื่องอะไร?”
“กู้อ้าวเวย……กู้อ้าวเวยนางพาคนตกลงเห่วไป เกรงว่า……” หวางกงกงพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ด้านหลังก็มีเหล่าชุดดำและทหารลับ คนผู้นั้นเดินขึ้นมา ยื่นกระดาษให้ฝ่าบาทอย่างเคารพ ไม่ได้พูดอะไร
ทหารลับพวกนี้เป็นคนข้างฮ่องเต้ ลิ้นถูกตัดไปแล้ว เป็นทหารลับที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
บนกระดาษมีคราบดินหน่อยๆ ในนั้นมีเนื้อหาอย่างละเอียด เหมือนว่ากู้อ้าวเวยจะพาซูพ่านเอ๋อโดดลงจากรถม้า วิ่งลัดเลาะผ่านป่า ต่อมาก็กระโดดลงเห่วหลังเขา ในนั้นก็มีป่า พวกเขาหาหลายวันแล้วก็หาไม่เจอ ยังเห็นศพเน่าสองศพที่ไม่ห่างจากรังของพวกหมาป่า
“อย่าพูดเรื่องนี้อีก สั่งให้ซางนิงสั่งคนไปตามฆ่าต่อไป” ซ่านต้วนโฉงนำกระดาษส่งให้ทหารลับ และมองไปที่ฮองเฮาอีกครั้ง: “เรื่องที่ข้าพูด เจ้าเข้าใจใช่ไหม?”
“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ” ฮองเฮารีบพยักหน้า ส่งซ่านต้วนโฉงออกไป
พอออกจากห้องของฮองเฮา ซ่านต้วนโฉงในใจก็รู้สึกเรื่องนี้ยังไม่เสร็จ
กู้อ้าวเวยหนีตายได้หลายครั้ง และขนาดอยู่ในที่ศัตรูยังถูกหลอกใช้ได้ ใช้เรื่องนี้ปีนขึ้นตำแหน่งสูง แค่หน้าผาจะทำให้นางตายได้งั้นเหรอ? หรือว่า นางจะตายไปแล้วจริงๆ?
แต่ไม่ว่ายังไง การตายของกู้อ้าวเวย สำหรับซ่านจินจื๋อแล้วเป็นเรื่องดี
และตลอดทั้งคืนนี้ ซ่านจินจื๋อนอนไม่หลับทั้งคืน ในใจก็รู้สึกไม่ดีมากๆ รู้สึกเจ็บไปหมด แต่ด้านนอกก็ได้ยินแค่เสียงนกเท่านั้น
ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย นางเดินทางยังจะปลอดภัยดีไหมนะ?
……
ดวงจันทร์สว่างไสว ดวงดาวระยิบระยับ บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยสีน้ำเงินมีต้นไม้กิ่งไม้บดบังรางๆ ความมืดที่ยื่นมือทั้งห้าก็ยังไม่เจอ กู้อ้าวเวยซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างในหุบเขา มือข้างหนึ่งปิดปากซูพ่านเอ๋อไว้ รอจนไฟสุดท้ายหายไปจริงๆ นางถึงค่อยหายใจได้สะดวกสบายขึ้นมาหน่อย
ยังดีที่นางจำทางบ้านของคุณหนูโม่ซานได้ นางรู้ว่าหุบเหวบนภูเขาใกล้ๆ เป็นทางลาดยาวชัน ตรงนั้นยังมีต้นไม้ใหญ่ที่ตกลงมา แม้จะเป็นคนที่มีวรยุทธตัวเบาที่แกร่งกล้าแค่ไหนก็ยากที่จะใช้ชีวิตในหุบเหวนี้ได้ คงต้องใช้ที่คล้องและเชือกในการค้นหา
และกู้อ้าวเวยกลับพาคนหลบอยู่ตรงนั้น พื้นที่ที่ไม่สูงมากสำหรับคน
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าที่นี่มีทางตัด?” โม่ซานที่ควรจะช่วยก็กลับหยุดยืนอยู่นอกทางตัด หลายวันนี้ต้องขอบใจนางที่คอยส่งอาหารมาให้ และยังหาเนื้อที่ล่ามาได้ ทั้งสองถึงยังรอดได้จนถึงตอนนี้
“บังเอิญน่ะ ที่จริงข้าอยากจะเดินตามทางลำธารไป แต่ก่อนหน้านี้เจ้าออกมาไม่ใช่เวลา ข้าจะให้พวกเขารู้ไม่ได้ว่าพวกเรามีสามคน” กู้อ้าวเวยยังตบอกอย่างมั่นใจ เช็ดคราบบนใบหน้า และพูดต่อว่า: “ถ้าหาทางตัดนี้ไม่เจอละก็ พวกเราคงจะตกลงไปข้างล่างที่มีแต่ถวัลย์แน่”
กู้อ้าวเวยมองลงไปด้านล่างที่เต็มไปต้วยเถาวัลย์
“เถาวัลย์นั้นมีหญิงพิษมากมาย ตอนกลางคืนยังมีพวกสัตว์ร้ายเดินเพ่นพ่าน ไปตรงนั้นมีทางเดียวคือตาย” โม่ซานกลืนน้ำลาย แม้นางที่มีวรยุทธเยี่ยมยอดก็ยังไม่กล้าลงไป
“ข้าไม่กลัวพิษ” กู้อ้าวเวยชี้ไปตรงรอยที่คอตัวเอง และพูดต่อว่า: “ขอแค่ข้ายังตื่นอยู่ จะไม่ให้เจ้าตายแน่นอน รอพวกทหารไปก่อน ข้าค่อยลงไป ถ้าบนแผ่นที่พูดถูก ออกจากเถาวัลย์ข้างๆมีลำธาร ผ่านไปเดินอีกประมาณสิบนาที จะมีหมู่บ้านชาวประมง เงินบนตัวถ้าซื้อเรือน่าจะพอ”
โม่ซานมองนางด้วยคิ้วขมวด: “อันตรายไป ถ้าเจ้าลงไปแล้วกลับขึ้นมาไม่ได้ พี่ชายได้ฆ่าข้าแน่”
“ครั้งนี้ยังดีที่มีเจ้าคอยช่วย ข้าไม่ให้พี่ชายเจ้าตีเจ้าหรอก” กู้อ้าวเวยหัวเราะเสียงเบา รอเงียบๆจนฟ้ามืด ในใจก็รู้สึกหนักอึ้ง
ที่จริงถ้าครั้งนี้โม่ซานไม่ได้ช่วย นางคงจะพาซูพ่านเอ๋อลงไปทันที
แม้พวกเขาจะไม่ค่อยเจอกับโม่ซาน แต่ถ้ามีคนเห็นใบหน้าของโม่ซาน และติดต่อโม่อี งั้นซ่านจินจื๋อและท่านแม่ที่อยู่เมืองเทียนเหยียนถึงจะเสียประโยชน์จริงๆ