บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 892
บทที่ 892 สิ่งของแลกเปลี่ยน
เรือลำเล็กหลายลำมาจอดเทียบท่า ซ่านเซิ่งหานห้ามพวกขุนนางท้องถิ่นที่กำลังขอโทษอยู่อย่างรู้สึกผิด ส่งคนไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บบนเรือมาจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พาตงฟางซวนเอ๋อไปรักษาที่โรงหมอด้วยตัวเอง ซ่านเชียนหยวนพาขุนนางทูตเย่นเจียงทุกท่านพักอยู่ที่โรงเตี้ยม หนึ่งในขุนนางทูตเย่นเจียง มีเพียงคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อีกหลายคนดูแล้วก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร
ตอนที่กู้อ้าวเวยจับชายแขนเสื้อของซ่านเชียนหยวน ก็ได้พูดขึ้นว่า “ในปากคนพวกนั้นไม่มียาพิษ”
“ทั้งๆที่ไม่ใช่หน่วยกล้าตาย แต่สิ่งที่ทำล้วนเป็นการสละได้แม้กระทั่งชีวิต” ซ่านเชียนหยวนพานางขึ้นไปบนเรือนด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ทำเป็นแสร้งรังเกียจคนรักคนใหม่คนนี้ของเสด็จอา
“ดูแล้วก็ไม่เหมือนกำกับและแสดงเอง บางทีอาจจะมีคนอยู่เบื้องหลัง” หลังจากกู้อ้าวเวยพูดคำนี้เสร็จแล้วก็รีบเร่งฝีเท้า ทำเป็นแสร้งเดินออกห่างจากซ่านเชียนหยวนอย่างงเบื่อหน่ายเหมือนกัน ยื่นแขนคว้ามือสาวใช้ข้างทางมาคนหนึ่ง ให้นางพาตนไปยังห้องพัก
ซ่านเชียนหยวนสั่งคนเฝ้าอารักขาอยู่หลายคน แล้วค่อยเดินตรงลงไปด้านล่าง สั่งขุนนางท้องถิ่นว่า “เรื่องนี้ห้ามเพ่งพายออกไป ส่งคนเอาจดหมายไปให้ตระกูลตงฟางก็พอ”
“ข้าน้อยรับทราบ ท่านอ๋อวงจงผิงต้องการจะ…” สายตาของขุนนางท้องถิ่นค่อนข้างลามก
“หรัวเอ๋อร์ไม่ชอบให้ค่าใกล้ชิดกับผู้หญิง เจ้าเพียงต้องดูแลยู่ชีงให้ดี หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางที่นี่จะต้องบอกให้ข้ารู้ทุกอย่าง เข้าใจไหม?”
“ความหมายของอ๋อวงจงผิงคือ ให้ข้าน้อยจับตาดูแม่นางยู่ชีงหรือ?” ขุนนางท้องถิ่นรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างลำบากใจ เพราะยังไงตอนนี้แม่นางยู่ชีงก็เป็นคนที่ท่านอ๋องจิ้งรักใคร่
ซ่านเชียนหยวนรู้ในสิ่งที่เขาลำบากใจอยู่แล้ว จึงกระซิบพูดขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องจับตามอง แค่ต้องดูแลนางให้ดีก็พอแล้ว”
ตั้งใจเน้นคำว่าดูแลสองคำนี้ค่อนข้างหนักแน่น ซ่านเชียนหยวนเอาทองคำสองแท่งใส่ไว้ในมือของเขา
ขุนนางท้องถิ่นเก็บทองไว้อย่างดีด้วยความดีใจ ทั้งเมืองเทียนซิงของพวกเขา อาศัยบุคคลสำคัญนี้เกือบทั้งหมดจนทำให้เมืองเทียนเหยียนมีความรุ่งเรืองอย่างในปัจจุบัน และการที่ขุนนางอย่างพวกเขารับเงินกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แม้แต่ฮ่องเต้ยังก็ไม่ยุ่งเรื่องนี้
ตอนนี้ซ่านเชียนหยวนไม่เป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเลยสักนิด กลับกันยังคิดหาวิธีเล่าเรื่องทั้งหมดของกู้อ้าวเวยให้กับเสด็จหากฟังถึงจะถูก โดยเฉพาะท่านพี่สามที่ยังไม่ตัดใจจากกู้อ้าวเวย
หากเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ที่ซ่านเซิ่งหานจากไปตั้งนานขนาดนั้น เขาไปทำอะไรกันแน่?
กู้อ้าวเวยที่อยู่ในห้างก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน การกลับมาขององค์ชายสามกับการกระทำทั้งหมดยังคงเป็นเหมือนดั่งที่เคยผ่านมา แต่ข่าวของลูกเอ่อตันแดงพวกนั้น….
ที่ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ บานประตูกลับถูกเปิดออกอย่างเบาๆ เสียงบานประตูถูกปิดดังขึ้น แล้วเสียงที่ตามมาก็เป็นเสียงของซ่านเซิ่งหาน “เจ้าควรที่จะไปจากที่นี่”
มือที่กำแน่นของกู้อ้าวเวยค่อยๆคลายลง “ในที่สุดเจ้าก็รู้แล้ว”
“ข้าไม่เคยลืมเจ้าแม้เพียงนิด” ซ่านเซิ่งหานพูดด้วยเสียงอ่อนโยนพร้อมเดินเข้ามาใกล้ เขารู้สึกว่าการทดสอบในก่อนหน้านี้เป็นเรื่องที่น่าขำมาก เขาจ้องมองดูใบหน้าด้านข้างของกู้อ้าวเวยแล้วก็นั่งลงด้านข้างนาง “เจ้าทำให้ตัวเองกลายเป็นแบบนี้ หรือว่าถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังเชื่อใจซ่านจินจื๋ออยู่หรือ?”
ข้าไม่ควรเชื่อหรือ?
กู้อ้าวเวยไม่ได้พูดความรู้สึกในใจออกมา เพราะนางเองก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือซ่านจินจื๋อได้ไหม ที่ทำให้นางเชื่อถือซ่านจินจื๋อจริงๆคือ ความรู้สึกของร่างกายนี้ หากทุกอย่างนี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิดล่ะ
ให้ความเงียบกลายเป็นคำตอบ ซ่านเซิ่งหานค่อยพูดต่อไปว่า “หากไม่มีนาง ตั้งแต่เริ่มแรกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ทรมาน ทั้งทั้งที่เจ้ารู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร…”
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าเลือก ไม่เกี่ยวกับเจ้า” กู้อ้าวเวยเปลี่ยนน้ำเสียงที่แหบแห้งนั้น แล้วใช้น้ำเสียงเดิมที่ชัดเจนตอบซ่านเซิ่งหาน “ต่อให้เขามีจุดประสงค์อื่น แล้วเจ้าไม่เคยหลอกใช้ข้าหรือ?”
ซ่านเซิ่งหานก็เงียบไป ก็ไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
ต่อให้เป็นเช่นนี้ กู้อ้าวเวยก็ยังพูดขึ้นว่า “บนโลกนี้ไม่มีคนอะไรที่ไม่สามารถหรอกใช้ได้ แม้แต่ญาติพี่น้องก็ไม่ละเว้น ดังนั้นเจ้าลองคิดดูสิ พวกเจ้าล้วนลองใช้ข้า แล้วทำไมข้าต้องไปจากเขาแล้วเลือกเจ้า เจ้ากับเขามีอะไรที่ไม่เหมือนกัน?”
“อย่างน้อยข้าก็ไม่โกหกเจ้า” ซ่านเซิ่งหานจับมือของเธอไว้อย่างตื่นเต้น เขาสัมผัสโดนบาดแผลก่อนหน้านี้ แล้วก็ปล่อยอย่างระมัดระวัง ปลายนิ้วสัมผัสผ่านบาดแผลบนฝ่ามือนาง และรอยแผลเป็นบนนิ้วมือจากมีดพวกนั้น มีดผ่าตัดหลังจากที่ช่วยเหลือคนอื่นแล้วก็เคยบาดโดนตัวเอง ยังมีบาดแผลที่หยุนอี้ทิ้งไว้
ถูกกระทำมากกว่าคนอื่นอย่างมากมาย แต่กู้อ้าวเวยยังคงดึงมือของตนกลับมาอย่างดื้อรั้น
บนฝ่ามือเหลือไว้เพียงฝุ่นภายในห้อง ซ่านเซิ่งหานกลับหัวเราะขึ้นมา “หาคนที่เจ้าพบเจอก่อนคือข้า บางทีก็อาจจะไม่เป็นเช่นนี้แล้ว”
“แต่เจ้าจะรู้ได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องของท่านอ๋องจิ้ง แล้วข้าจะพบกับพวกเจ้าได้อย่างไร?” กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พูดขึ้นด้วยแววตาเหม่อลอยว่า “ระหว่างเราไม่เคยเริ่มต้น และก็ไม่มีที่สิ้นสุด หากเจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นเพื่อน ก็อย่าเปิดโปงข้า…”
“เมื่อก่อนข้าคิดว่าเจ้าไปจากเขาแล้ว เจ้าจะมีชีวิตที่ดี แต่ตอนนี้ข้าไม่คิดเช่นนี้แล้ว” ซ่านเซิ่งหานยื่นมือไปจับข้อมือของนางไว้ พบว่าเส้นด้ายสีแดงนั้นเปลี่ยนเป็นเส้นใหม่แล้ว จึงได้แต่แอบกัดฟัน แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าอยู่ข้างข้าดีกว่า”
“อะไร…..” ยังไม่ทันได้พูดจบ ผ้าเช็ดหน้าที่ชุบยาสลบไว้ก็ประคบขึ้นมา นางทันทำได้เพียงมองดูซ่านเซิ่งหานอย่างตกตะลึง แล้วก็เข้าสู่ความมืดมน
ซ่านเซิ่งหานโอบกอดไว้แนบอก เฟิงเยว่ปืนเข้ามาจากทางหน้าต่าง มองดูยู่ชีงที่อยู่ในอ้อมอกเขาด้วยท่าทีแปลกประหลาด แล้วก็อดไม่ได้พูดขึ้นว่า “นางไม่มีทางพูดเคล็ดลับอายุยืนออกมา”
“สามารถพูดได้แค่ไหนแค่นั้น นี่เป็นการแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้ายที่ข้าจะสามารถทำได้” ซ่านเซิ่งหานยกมือเอานางมอบให้กับเฟิงเยว่ กำชับอย่างจริงจังว่า “อย่าใช้วิธีที่เคยทำกับนาง บอกทุกอย่างที่อยากได้ให้นางรู้ แค่ต้องทำให้นางอยู่แต่ในเฟิงฉีนกับเจ้าก็พอแล้ว ที่สำคัญอย่าให้ยู่ชีงเข้าใกล้อีฉิน”
เฟิงเยว่พยักหัวอย่างเข้าใจ แล้วก็พูดอย่างไม่มีทางเลือกว่า “แต่หากขุนนางทูตของเย่นเจียงหายสาบสูญกะทันหัน เหตุผลนี้จะ….”
“การโจมตีในครั้งนี้ นักฆ่าพวกนั้นทำให้พวกเราคิดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือตงฟางซวนเอ๋อ จริงๆแล้วนั่นเป็นแค่กลลวง คนที่พวกเขาอยากได้จริงๆคือผู้หญิงตระกูลยู่ที่มีความสามารถพิเศษอยู่ในตัว” ซ่านเซิ่งหานพูดอยู่เช่นนี้ แล้วก็ยกมือดึงเส้นด้ายสีแดงที่กระทบตานั่นออก ทำเป็นเหมือนดั่งทุกคนดึงหลุดออกมา แล้วก็โยนทิ้งไว้บนเตียง
เฟิงเยว่ไม่กล้าพูดอะไรมาก มองท้องฟ้าสีขาวด้านนอกรออยู่อย่างเงียบๆ
แต่เพียงแป๊บเดียว ด้านล่างก็มีเสียงวุ่นวายดังขึ้น “มีผู้ร้ายบุกรุก”
ซ่านเซิ่งหานโบกมือให้กับเฟิงเยว่ จากนั้นก็สวมหน้ากากสีดำไว้ แล้วก็พากู้อ้าวเวยกระโดดออกไปจากทางหน้าต่าง และในขณะเดียวกัน คนชุดดำรอบๆโรงเตี้ยมล้วนอุ้มคนคนหนึ่งโดดลงมาจากบนหลังคา
ซ่านเซิ่งหานอาศัยจังหวะตอนที่วุ่นวายโดดลงมาด้านหลังเรือน ภายในห้องมีเพียงลมที่พัดหน้าต่างหลังจากที่เฟิงเยว่จากไป
ซ่านเชียนหยวนรีบผลักบานประตูเปิดออก บนเตียงเหลือไว้เพียงเส้นด้ายสีแดงที่ถูกดึงขาดแล้ว จี้ทองคำนั่นก็ตกอยู่ในช่องว่างบนพื้น
“บัดสบ ไปจับตัวพวกมันมาให้ข้าทั้งหมด” ซ่านเชียนหยวนบ่นพึมพำ
เป้าหมายของคนพวกนี้คือกู้อ้าวเวยตั้งแต่แรก