บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 902
บทที่ 902 หญ้าเย้น
ฝนดูจะยังไม่หยุดตกง่ายๆ กู้อ้าวเวยพิงอยู่บนเตียงแข็งๆ บนตัวก็ห่มด้วยผ้าห่มหนาสองผืน
เฟิงฉีนกำลังนวดให้นางโดยมีผ้าห่มบังไว้ หมอลั่งกำลังเปลี่ยนยาให้คุณยาย เสร็จแล้วก็มองไปที่ชายหนุ่มนั่งเก้าอี้ถือไม้คล่ำไว้ ไอคอกแคะพูดว่า: “คุณยายไม่เป็นไร เจ้าน่ะสิ ก่อนหน้านี้บอกให้เปลี่ยนยาทำไมไม่ฟัง? ถ้าไม่ได้แม่หญิงผู้นี้ช่วยเอาไว้ เจ้าคงตายไปแล้ว!”
ชายหนุ่มเขินอายใบหน้าแดงกล้ำ เสื้อผ้าบนตัวมีรอยเย็บมากมาย คุณยายบนเตียงก็มีสีหน้าซีดขาว พูดพัมพำว่าที่บ้านไม่มีเงินรักษา ก็เพื่อให้เงินลูกชายแต่งงานกับแม่หญิงในเมือง
กู้อ้าวเวยเอายาข้างๆขึ้นมาดื่ม รสชาติที่ขมกลับเพราะดื่มทุกวันจึงมีรสชาติหวานหน่อยๆ
“เหมือนคุณหนูแบบนี้ เกรงว่าจะไม่เข้าใจความทุกข์ของคนจน” เฟิงฉีนพูดเสียงเบา เลิกคิ้วมองแม่ลูกคู่นั้นด้วยอย่างเห็นใจ
“ข้าก็ไม่เคยใช้ชีวิตคนจน” กู้อ้าวเวยกลับส่ายหน้าอย่างจริงจัง
“แต่ตอนนั้นท่านก็ออกเงินมากมายช่วยคนจนพวกนั้น ท่านยังจำได้ไหมเจ้าคะ?” เฟิงฉีนพูดถึงเรื่องตอนที่อยู่บนถนน
กู้อ้าวเวยพูดด้วยสีหน้าเดิมว่า: “นี่ไม่เหมือนเรื่องที่ข้าทำ นอกจากเด็กกับคนแก่ที่ไม่มีลูกหลาน ข้าก็คงไม่เอาเงินไปให้คนอื่น แม้ข้าจะเกิดในบ้านที่รวย แต่ข้าก็ไม่เคยคิดว่าข้าติดค้างอะไรกับคนจน”
พอพูดจบ สายตาแม่ลูกนั้นเปลี่ยนไปทันที
เฟิงฉีนกลับพูดว่า: “ทั้งสองยังไงก็เป็นความแตกต่างระหว่างเมฆกับโคลน”
“ไม่ต่างกันเลย” กู้อ้าวเวยแค่ส่ายหน้า จับคางเฟิงฉีนไว้ให้มองนางพูดว่า: “ถ้าข้าแบ่งเงินให้คนจน งั้นแม้พวกเขาจะมีเงินแล้ว เงินนั่นก็จะไม่มีค่า พวกเขาก็จะยังจนอยู่อย่างนั้น และข้าก็จะเสียเงิน นี่ไม่ใช่การค้าที่ดีนะ”
พอพูดจบ กู้อ้าวเวยดึงกระเป๋าเงินของเฟิงฉีนออกมา เอาเศษเงินออกมาสองชิ้น ส่งไปให้ชายหนุ่มข้างๆ: “เงินนี่ให้เจ้าไปแลกยา ถ้าเจ้าสัญญากับข้าว่าอนาคตจะช่วยข้าทำอะไรได้ เงินที่เจ้าจะใช้แต่งงานข้าจะออกให้”
เฟิงฉีนอึ้ง และชายหนุ่มคนนั้นรับเงินมา และใช้ตาที่เหลือมองที่ไปคุณยาย
คุณยายยื่นมือออกมา: “แม่หญิง เงินนี่พวกเรารับเอาไว้ไม่ได้……”
“ลูกผู้ชายมีมือมีขา เงินก็คือเงิน เจ้าเอาเงินไปทำเรื่องให้ข้า นั่นก็ถูกต้องแล้ว” กู้อ้าวเวยพูดแทรกคุณยาย มองไปที่ชายหนุ่มพูดว่า: “และข้ายังช่วยเจ้ากำจัดเนื้อที่เสียออก ช่วยแม่เจ้า เช่นนี้แล้ว หนี้ที่เจ้าติดข้าไม่น้อยเลย ติดอีกนิดจะเป็นอะไรไป?”
“คุณหนู!” เฟิงฉีนร้อนรน กู้อ้าวเวยรีบส่งเงินให้คนอื่นเหรอ!
ชายหนุ่มหน้าแดง หมอหลั่งก็มองการกระทำของกู้อ้าวเวยอย่างนั้น
เงินเศษเงินนั้นยัดไปที่มือเขา พูดว่า: “เมื่อก่อนมีขอทานสองคนที่ป่วยไม่มีเงินรักษา ก็ไปช่วยงานในโรงหมอเพื่อคืนเงิน ที่นี่ของข้าแม้จะไม่มีที่อะไรให้เจ้าทำ แต่ข้าเห็นว่าร้านยายังขาดแคลนกำลังคน อายุเจ้าก็ไม่มาก เรียนใหม่ก็ยังทัน”
เป็นเช่นนี้แล้ว สายตากู้อ้าวเวยก็มองไปที่หมอหลั่ง ยิ้มตาหรี่พูดว่า: “เงินที่เขาเรียนที่นี่ข้าออกเอง”
“เมื่อกี้ก็ไม่รู้ใครบอกว่าไม่ช่วยคนจน” หมอหลั่งหัวเราะออกมา ไปด้านหลังตู้ยาไปหยิบยาให้คุณยายกับชายหนุ่ม
“ข้ากำลังรักษาอยู่ ท่านดูแล้วเหมือนหมอที่ดีมาก เมื่อวานยาสมุนไพรที่รักษาขาเขาไม่ถูกเลยนะ วันนี้ช่วยเขาก็นับว่าทำดีต่อหน้าเจ้าสักครั้ง เป็นเช่นนี้แล้ว ถึงจะขอร้องได้” กู้อ้าวเวยดึงผ้าห่มออกลงจากเตียง ชี้ไปที่ตาตัวเอง: “ดวงตาเกรงว่าสองปีกว่าจะดีได้ ได้ยินยายพูดว่าที่นี่มีวิธี ดังนั้นอยากจะขอแผนยา ข้อเสนอท่านว่ามาได้เลย”
เฟิงฉีนนั่งตัวตรง นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นกู้อ้าวเวยจัดการเรื่องราวในหมู่บ้านเล็กๆ
หมอหลั่งใช้เสื้อสีดำของตัวเองเช็ดมือ และเอาเชือกมามัดห่อยาไว้ด้วยกัน แต่มองไปที่ดวงตาของกู้อ้าวเวย และพูดว่า: “พวกเจ้าคุณหนูร่ำรวยมาขอร้องคนอื่นแบบนี้เหรอ?”
“ข้าไม่ขอท่าน แค่มาทำการแลกเปลี่ยนเท่านั้น” กู้อ้าวเวยขยับขึ้นไปตรงหน้าหมอหลั่ง: “เงินหรือแผนยา ก็ได้หมด”
“เจ้ามีแผนยาอะไรคุ้มค่ากับการแลก?” หมอหลั่งขมวดคิ้วขึ้นมา
“นี่ก็ต้องดูว่ายาอะไรของท่านคุ้มค่ากับเงิน” กู้อ้าวเวยยังคงยิ้มตาหรี่ รับเชือกในมือหมอหลั่งมามัดห่อยาช่วยกัน และพูดไปด้วยว่า: “ข้ามีแผนยาหลายอัน แม้จะเป็นแค่รักษาอาการป่วยธรรมดา แต่ยาทั้งหมดเลือกที่ถูกๆ คนในหมู่บ้านนี้ก็มีกำลังจ่าย”
หมอหลั่งตาสว่างขึ้นมา เหมือนจะไม่เชื่อ กู้อ้าวเวยรีบขอพู่กันหมึกมา โน้มตัวลงบนโต๊ะ มือข้างหนึ่งจับกระดาษไว้ อีกข้างก็เขียนช้าๆ ตัวหนังสือบูดๆเบี้ยวๆ นางทำได้แค่ตาหรี่มองกระดาษที่เขียน สักพักถึงส่งกระดาษสองแผนยื่นออกไป
หมอหลั่งตาโต เลิกคิ้วพูดว่า: “แม่หญิงชื่ออะไรกัน?”
“ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และไม่มีชื่อ” กู้อ้าวเวยโน้มตัวบนโต๊ะคิดเงิน ยกมือขึ้นขยี้ตา: “แค่อยากให้ตาดีขึ้นมาได้ อย่างน้อยก็เห็นคนรอบข้างได้”
หมอหลั่งเงียบไม่พูดอยู่สักพัก ต่อมาก็เขียนแผนยาอันหนึ่งส่งไปให้นาง: “ยาสมุนไพรนี้ที่นี่เราเรียกว่าหญ้าเย้น ลักษณะสีแดง ว่ากันว่าเป็นหญ้าวิเศษของเทพเจ้าที่ดินตายแล้วกลายพันธุ์ มีอยู่มาก แต่ถ้าจะขึ้นเขาไปเด็ดละก็ ต้องไปวัดของในหมู่บ้านไหว้ขอขมาเทพเย้นก่อน อย่าไปรบกวนท่าน”
กู้อ้าวเวยรับยามา และได้ยินของแบบนี้ครั้งแรก รีบกลับไปคว้ามือเฟิงฉีนไว้: “พวกเราขึ้นเขากัน”
“ท่านนอนลงก่อนเถอะ” เฟิงฉีนพานางกลับไปนอนที่เตียงด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ และมองไปด้านนอกหน้าต่างที่ตอนนี้กำลังมีฝนตกหนัก คิดว่ายังโชคดีที่แม้ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่บนดอย ยังอยู่บนที่สูง ไม่มีน้ำขัง แต่ภูเขาข้างๆเห็นว่าจะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำยังไง?
กู้อ้าวเวยถูกกดที่เตียง: “ถ้าตอนนี้ไม่ไป เดี๋ยวจะเสียเวลานะ นายท่านที่บ้านเจ้าคงจะรอไม่ไหว?”
“ก็ต้องรอไหวอยู่แล้ว ทุกอย่างท่านสำคัญที่สุด” เฟิงฉีนถอนหายใจหนัก อยากจะให้ทหารลับมาจับตาดูนางไว้ แต่นางกลับกลัวว่านางจะเหมือนก่อนหน้านี้ที่จะสู้กันให้ตายไปข้าง ตอนนี้จะขึ้นไปเก็บยาข้างบนอีก จึงทำให้นางลำบากใจมาก
หมอหลั่งเอายาส่งให้ชายหนุ่ม และพูดว่า: “ช่วงนี้บนเขาอันตราย ถ้ารีบละก็ รอฝนตกน้อยลงค่อยขึ้นไปก็ไม่สาย”
กู้อ้าวเวยยังอยากจะโต้ตอบ แต่คำพูดถึงปากก็เหลือแต่ความผิดหวัง นางจึงนอนลงไปบนเตียงเหมือนเดิม กอดผ้าห่มไว้และเหม่อลอย มองหมอหลั่งที่ทำงานและพวกชายๆหญิงๆที่เข้ามารักษา
ในดอยแห่งนี้ ไม่รู้ว่าดีกว่าเมืองเทียนเหยียนมากกี่เท่า