บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 961
บทที่ 961 กับดัก
“ถ้าข้าอ้วนอีกสักหลายๆกิโล ก็คงไม่ต้องใช้ก้อนหินนี้แล้ว”
กู้อ้าวเวยพูดเช่นนี้ สองขาก็ซ่อนทับกันอย่างขี้เกียจ ตัวก็เอนหลังไปเรื่อยๆ ยกมือขึ้นมองดูด้านบนหลังคา เอียงหัวพูดว่า: “ข้าดูผิดไปเองเหรอ? หลังคานี้ดูเหมือนจะเอียงอยู่นะ”
มองตามเสาไปด้านบนหลังคา กู้อ้าวเวยมองตามกำแพงไปเห็นรูปวาดแขวนไว้สามรูป ชี้ไปและพูดว่า: “มีดนั่นตัดรูปนั้นออกเป็นครึ่งท่อน จำไว้ว่าอย่าไปแตะ”
“มีปัญหาอะไรเหรอ?” ฉีหรัวมองดูคนในห้องที่วุ่นวายกันไปหมด
“ข้าก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร แต่กับดักพวกนั้นกลับต้องใช้ความหนักและการสัมผัส ปัญหาอาจจะเป็นทางนั้น ทางที่ดีที่สุดคือตัดมันออก สามารถมองด้านหลังได้ และไม่โดนกับดักอันอื่น” กู้อ้าวเวยกระตุกมุมปากขึ้น ปอยผมที่ออกมาก็ถูกนางปาดไปด้านหลังหู ปลายเท้าขยับเล็กน้อย
“ถ้ามีกับดักอะไรที่ทะลุออกมาเหรอ?” ฉีหรัวมองนางอย่างไม่สบายใจ นางนั่งลงบนโต๊ะ นับได้ว่าอยู่ตรงกลางก็ว่าได้
“งั้นข้าคงโชคร้ายสินะ” กู้อ้าวเวยจึงเก็บขาสองข้าง ขยับตัวเล็กน้อยและนั่งขัดสมาธิบนโต๊ะ ตาหรี่ลงมองดูรอบข้าง จนกระทั่งสามรูปภาพนั้นถูกตัดเป็นครึ่งท่อนทั้งหมด ด้านหลังมีเพียงกำแพงที่ว่างเปล่า ข้ารับใช้ที่ไม่ได้ทำอะไรก็อยู่นอกประตู
ตอนนี้ฉีหรัวก็ยืนอยู่ด้านนอก เรียกข้ารับใช้ชายที่ตัดรูปเข้ามา
“ให้หลี่ซินมาจัดการเรื่องนี้” ฉีหรัวปัดมือขึ้นบอกกู้อ้าวเวย
“อาจจะไม่ทันกาล รูปนี้เอียงอยู่ เหมือนจะเอียงไปเพราะความหนักนะ” กู้อ้าวเวยมองเห็นภาพวาดที่ฉีกขาด ร่องนั่นยังมีกระดาษหนีบเอาไว้
โต๊ะก็มีความเอียงอยู่บ้าง
เกรงว่าวิธีเปิดที่ดีที่สุด คือให้กระดาษนั้นขยับไปในทางที่ถูกต้อง
“ข้านั่งอยู่ด้านบนน่าจะปลอดภัยมากกว่า เจ้ารีบให้หลี่ซินทุบกำแพงนี่เสียเถอะ” กู้อ้าวเวยรู้สึกโต๊ะด้านล่างเริ่มยุบลงไปอีกแล้ว เหมือนกำลังนับถอยหลังเวลายังไงยังงั้น
และถ้าด้านล่างนี้มีระเบิดจริง ไม่นานคงจะต้องระเบิดเป็นแน่
แต่ถ้านางออกไป กับดักด้านล่างก็อาจจะเริ่มเร็วขึ้นกว่าเดิม
ฉีหรัวเรียกหลี่ซินมาอย่างตกใจ แต่พอสักพัก กำแพงทั้งแผ่นก็ถูกทุบออก และทั้งโต๊ะก็ยุบลงดินไปเกือบครึ่ง ไม่มีระเบิด แต่เป็นร่องของก้อนหินที่มีน้ำเหนียวๆล้นออกมา เหมือนจะเป็นน้ำเหนียว
กู้อ้าวเวยดมกลิ่นไม่ทันไรก็รีบปิดจมูกไว้ พูดว่า: “ฉีหรัว เจ้านำคนออกไปเถอะ รอเปิดได้แล้วค่อยปิดเรือนนี้สาดยา”
“เจ้ารีบลงมาสิ” ฉีหรัวร้อนรนจนต้องกระทืบเท้า
“อย่าลงมา!” หลี่ซินมองดูบนกำแพงที่ยังมีเศษก้อนหินติดอยู่ตรงกับดัก รีบพูดว่า: “ถ้าตอนนี้คุณหนูออกไปตอนนี้ละก็ บ้านทั้งหลังจะต้องล่มลงมา กับดักบนกำแพงเป็นธนูเล็ก เห็นได้ชัดว่ายิงออกมาจากกำแพง”
เห็นพวกเหล็กลางๆของธนูเล็กที่ยังเป็นรูๆบนกำแพง
ถ้ากำแพงในห้องนี้มีของพวกนี้รอบๆ งั้นสถานการณ์ที่พื้นห้องมีพิษ เกรงว่าแม้คนที่จะมีวรยุทธกล้าแกร่งเพียงใดก็คงนำตัวนางออกไปที่นี่ได้ยาก
กู้อ้าวเวยเคลื่อนตัวอย่างระวัง เอาผงยาออกมาจากเสื้อและสาดลงไปบนพื้น ขมวดคิ้วพูดว่า: “เรียกจางเหยียงซานมา ให้เขาเอายาที่ก่อนหน้านี้พวกเราทำผิดไปต้มไม่ต้องนานนัก และสาดลงพื้นนี้เลย”
“คุณหนู กับดักด้านล่างยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะ”
“แต่น้ำนี่จะล่อแมลงมีพิษมา แม้คนมากมายในเมืองเทียนเหยียน ถ้ามันออกมาอีกละก็จะทำให้คนตายได้นะ” กู้อ้าวเวยมองไปบนน้ำเหนียวที่มีผงปกคลุม ก็เกิดเป็นฟองขึ้นมา
ฉีหรัวรีบสั่งให้คนไปทำ และโต๊ะด้านล่างเท้าของกู้อ้าวเวยก็ยุบลงไปเรื่อยๆ
โม่อีที่พาคนมาอย่างเร็ว ก็เห็นกู้อ้าวเวยยืนอยู่บนโต๊ะเงยหน้ามองหลังคา และด้านล่างพื้นที่ยุบลงไปก็มีน้ำเหนียวที่ซึมออกมาและมีกลิ่นเหม็น
“ถอยไป!” คนด้านหลังตะโกน
โม่อีรีบเปิดทาง ก็เห็นพวกบ่าวชายถือถังน้ำที่เป็นสีเขียวเหลืองมาเท
“ไปเรียกอ๋องจิ้ง!” โม่อีมองน้ำเหนียวที่ผสมเข้าด้วยกัน ก็รีบสั่งคนไป
กุ่ยเม่ยรีบเข้ามาดู เห็นแล้วก็เลิกแขนเสื้อขึ้นมา: “ข้าไปนำตัวนางออกมา”
“อย่าพาข้าออกไป บนหลังคานี่มีเชือกหนึ่งเส้น เจ้าขึ้นไปเอากระเบื้องหลังคาทางทิศตะวันตกออกมาสี่แผ่น น่าจะดึงได้แล้ว” กู้อ้าวเวยชี้ทิศทางไป ต่อมาก็ปิดจมูกเพราะได้กลิ่นพวกนี้
หลี่ซินยังถอนกับดักที่กำแพงพวกนี้ออกทีละนิด จนเหงื่อเต็มหน้าผากไปหมด
รอจนซ่านจินจื๋อก็ได้ข่าวและรีบมา เรือนรอบๆก็มีแมลงมีพิษที่ได้กลิ่นมากันมากมาย กุ่ยเม่ยเมื่อกี้ดึงเชือกนั้นแรงๆ ครึ่งตัวเขาแทบจะอยู่กลางอากาศแล้ว
“โครม——”
เสียงดังขึ้นมาจากห้องข้างๆ
โต๊ะด้านล่างเกิดการสั่นสะเทือนอย่างแรง กู้อ้าวเวยมองไปที่ซ่านจินจื๋อ ยิ้มและพูดว่า: “เหยียบเข้ามา ข้าถอนพิษให้เจ้า”
“ยัยโง่!” ซ่านจินจื๋อสบถเบาๆ ตอนที่เดินเข้าไปในน้ำเหนียวด้านหลังก็มีเสียงตกใจดังขึ้นมากมาย และกู้อ้าวเวยก็กระโดดออกจากโต๊ะอย่างไว และตะโกนเสียงดังพร้อมกันว่า: “กุ่ยเม่ยรีบวิ่ง!”
จนกระทั่งโผ่เข้าในอ้อมกอดที่อบอุ่น ข้างหูก็มีเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรงและเสียงสิ่งของทิ้งตัวลงไปอย่างแรง ก้อนหินแตกแหลกออกด้านหลังนางและข้างเท้านาง คนตรงหน้าก็หมุนตัวตาม ฉีหรัวกับฉีหลินกรีดร้องเสียงดังพร้อมกัน
แผ่นหลังกระแทกลงพื้นอย่างแรง กู้อ้าวเวยกลับเงยหน้าขึ้นมา มองดูผู้ชายบนตัวที่ช่วยตัวเองบังพวกเศษดินและฝุ่น หัวเราะเสียงดังตบหน้าเขาเบาๆพูดว่า: “ถอดรองเท้า ถอนพิษ”
“เจ้าอยากจะโดนด่าหรือไง ใช่ไหม?” จับมือข้างนั้นของกู้อ้าวเวยที่ตบหน้า ซ่านจินจื๋อปีนขึ้นมา สองเท้ารู้สึกเจ็บๆ คิดว่าจะดึงกู้อ้าวเวยขึ้นมาก่อน นางกลับปีนขึ้นมาช้าๆ เอาเม็ดยาหนึ่งยัดเข้าปากเขา อีกด้านก็เรียกเชิงซาน: “ยกเขาไปห้องข้างๆ ข้าจะผสมยา เดี๋ยวจะตามไป ตักน้ำสะอาดมา ล้างเท้าเขาให้สะอาด น้ำจะสาดออกไปมั่วไม่ได้ ต้องถอนพิษก่อนถึงจะสาดลงดินได้”
พูดจบ กู้อ้าวเวยรีบวิ่งไปด้วยเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น
มีแค่เพียงความทรงจำเก่าของตอนอยู่ในเรือนเก่า กู้อ้าวเวยรีบเดินไปห้องข้างๆ ให้คนเอาสมุนไพรไปบดละเอียดเป็นผง อีกด้านก็เอาออกมานิดหน่อยผสมเข้าไปในยาครีมเข้าด้วยกัน และรีบวิ่งกลับไป ตลอดทางเกือบลื่นล้ม ยังดีที่กุ่ยเม่ยมาพอดี จึงอุ้มนางขึ้นและเดินกลับไป
สองเท้าถึงพื้น กู้อ้าวเวยก็รีบวิ่งไปที่เตียง เอาขาที่ล้างเสร็จแล้วเมื่อกี้เอาไว้ที่ขาตัวเอง บนนั้นมีผิวหนังที่ลอก ขาบวมขึ้นเล็กน้อย กู้อ้าวเวยโล่งอก เอายาครีมนั้นทาให้เขา: “โชคดีทีเจ้ามา ไม่งั้นข้าคงล้มหน้าทิ่มแล้ว”
“ในเมื่อรู้ว่ามีอันตราย ตัวเองยังจะไปเองทำไม?”
“ข้าแค่เดาเท่านั้น จะรู้ได้ยังไงว่าของพวกนี้มีพิษแรงเช่นนี้” กู้อ้าวเวยยิ้มและขยับขึ้นไปดม บีบใบหน้าแข็งทื่อของเขา: “ข้าขอโทษ”