บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 98
ตอนที่ 98 พระชายาองค์ชายสาม
“นายท่านฉีเชิญกล่าว” กู้อ้าวเวยผายมือเบาๆ
“เมื่อครู่มีคนมารายงาน บอกว่าพระชายาองค์ชายสามเคยมาโวยวายที่สำนักเยียนหยู่ของเรา แต่ฐานะของพระชายาองค์ชายสาม เราก็ไปยุ่งด้วยไม่ได้ ไม่ทราบว่าพระชายาจะช่วย……”ฉีหมิงตาเป็นประกาย พูดตะกุกตะกัก
พระชายาองค์ชายสาม?
นางไม่เข้าใจเรื่องนี้ องค์ชายสี่ซ่านเชียนหยวนเพิ่งกลับมาจากสงคราม ยังไม่ได้แต่งงาน แต่องค์ชายสามกลับมีครอบครัวแล้ว? นางจำได้แค่ตอนที่งานล่าสัตว์ คนที่นั่งข้างองค์ชายสามเป็นหญิงงามคนหนึ่ง
แต่ทว่า คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญเกินไป
หรือว่าองค์ชายสามก็อยากจะหยั่งเชิงลองใจนาง?
“พาข้าไปหน่อย” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นช้าๆ แล้วตามฉีหมิงมาที่สำนักเยียนหยู่
ตอนนี้ฉีหรัวอยู่ในร้านแล้ว มีขุนนางและคุณหนูมากมายกำลังเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอยู่ด้านข้าง มีแต่ผู้หญิงที่ยืนข้างกายฉีหรัวที่มีใบหน้าที่โกรธอยู่ตลอดเวลา และข้างๆผู้หญิงคนนั้น ก็คือผู้หญิงที่กู้อ้าวเวยเห็นในงานล่าสัตว์ ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนว่าจะสวยกว่าคนที่กำลังโกรธ และมีความกล้าหาญกว่า
ฉีหรัวไม่นึกว่าตนเองจะมาเจอเรื่องที่กระทันหันเช่นนี้ รู้สึกปวดหัว
ตอนนี้เห็นกู้อ้าวเวยเดินเข้ามา ก็เลยรีบทำความเคารพ “พระชายาจิ้ง”
“หรัวเอ๋อไม่ต้องมากพิธี สองคนนี้คือ?” หรัวเอ๋อพูดแล้วก็ลากทั้งสองเข้ามาใกล้ๆ หญิงคนที่มีใบหน้าโกรธอยู่นั้นเงียบเสียงและมองมา
“คุณหนูฉางเป็นพระชายาองค์ชายสาม แม่นางเยว่ชิงเป็นคนปรนนิบัติองค์ชายสาม” ฉีหรัวถือโอกาสพักหายใจ เลยเดินออกมาหากู้อ้าวเวย
“พระชายาจิ้ง” เยว่ชิงเห็นกู้อ้าวเวยแล้วก็ทำความเคารพ แต่สายตาไม่ค่อยเป็นมิตร
กู้อ้าวเวยไม่สนใจ แต่กลับหันไปหาฉางอีฉิน ยิ้มเบาๆ “ที่แท้ก็เป็นพระชายาองค์ชายสามและแม่นางเยว่ชิง ” ก่อนหน้านี้ข้ากับองค์ชายสามมีมิตรภาพต่อกันอยู่ไม่น้อย ให้ข้าเป็นเจ้าภาพ ไปกินอะไรร้านเหล้าข้างๆสักมื้อนึง เป็นไง?
ฉางอีฉิน ชื่อไม่เหมือนกับนิสัย แต่เป็นคนที่โอหัง ฟังคำของกู้อ้าวเวยแล้วก็มองบน “ไม่จำเป็นหรอก ที่มาวันนี้ จะมาคุยเรื่องเครื่องสำอางของสำนักเยียนหยู่ ไม่ได้อัพเกรดคอลเล็กชั่นมาหลายปีแล้ว ปัจจุบันนี้ข้าใช้แล้วไม่ได้รับความสนใจจากองค์ชายสามเลยสักนิด ไม่ได้เรื่องเลย”
ขมวดคิ้วขึ้น กู้อ้าวเวยไม่นึกว่าจะมีคนที่เอาเหตุผลนี้มาหาเรื่อง
ฉีหรัวก็หัวเดียวกระเทียมรีบ จัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้
“พระชายาองค์ชายสามน่าสนใจจริงๆ” กู้อ้าวเวยรับเอาเครื่องสำอางมาจากมือนาง แล้วดมอย่างละเอียด แล้วก็โยนไปใส่มือฉีหรัว “หรัวเอ๋อ แป้งนี้มันหอมมากเกินไป ไม่เหมาะกับพระชายาองค์ชายสาม เจ้าไปเอาน้ำสะอาดมา”
ฉีหรัวไม่เข้าใจ ได้แต่ใช้คนไปเอามา
“พระชายาจิ้งหมายความว่าเช่นไร” ฉางอีฉินเริ่มรู้สึกแปลกๆ
กู้อ้าวยได้แต่ยิ้มไม่พูด รอจนถึงมีกะละลังน้ำยกมา กู้อ้าวเวยก็เลยใช้น้ำชุบผ้าเช็ดหน้า แล้วโปะไปบนหน้าของฉางอีฉินหวังจะเอาเครื่องสำอางอื่นล้างออกให้หมด ฉางอีอินจะใช้กำลัง กู้อ้าวเวยดึงผ้าออกแล้วถอยหลังออกมา แล้วพูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนี้ องค์ชายสามต้องไปหาเจ้าแน่”
“หมายความว่าไง!” ฉางอีฉินรีบเอากระจกทองเหลืองมาส่องหน้าตนเอง ไม่มีเครื่องสำอางแล้ว ใบหน้าของนางขาวไปไม่น้อย
“สิ่งที่องค์ชายสามไม่ชอบ ไม่ใช่เครื่องสำอางของสำนักเยียนหยู่ แต่เป็นเพราะฮูหยินที่มาทำเรื่องขายหน้าด้วยเรื่องเล็กแค่นี้” กู้อ้าวเวยเดินขึ้นหน้า แย่งเอากระจกคืนมา อีกมือก็ไปสัมผัสแก้มนางเบาๆ “ เจ้าเกิดมาหน้าตาดี จะต้องใช้เครื่องสำอางทำไม พอไม่ได้รับการโปรดปรานก็โยนความผิดใส่คนอื่น”
“เจ้า!” ฉางอีฉินง้างมือจะตบ
กู้อ้าวยก็ถอยหลังออกมาหลายก้าว เห็นลูกค้าคนอื่นๆเริ่มเข้ามามอง แล้วก็ยิ้ม “ดูเหมือนว่าข้าจะพูดตรงเกินไป ขออภัยด้วย”
“พระชายาไม่ต้องพูดแล้ว ” ฉีหรัวรีบก้าวออกมาห้ามฉางอีฉิน แล้วตักเตือนว่า “ที่ผ่านพระชายาจิ้งไม่สนใจกฏหมาย ทำอะไร ตามใจตนเอง ให้ข้าเลือกเครื่องสำอางให้เจ้าเองดีมั้ย?”
ดูเหมือนว่า พระชายาจิ้งอาศัยมีท่านอ๋องหนุนหลังเลยไม่สนใจใคร นางก็น่าจะรู้
ส่วนเยว่ชิงกลับจ้องเขม็งไปที่กู้อ้าวเวย ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเช่นนั้นแม้แต่น้อย ก็แค่อาศัยเรื่องนี้มาหลอก
ฉางอีฉินถูกเดาแผนออกจนโกรธกริ้ว แล้วรีบสะบัดเสื้อหลบไป
เยว่ชิงได้แต่ขอโทษแล้วรีบตามกลับไป เพียงแต่ในใจไม่เข้าใจว่ากู้อ้าวเวยคนนี้มีอะไรให้องค์ชายสามมาชอบ
กู้อ้าวเวยก็สัมผัสได้ถึงสายตาความเป็นศัตรูของเยว่ชิงได้ คิดไปคิดมาแล้วก็นึกไม่ได้ว่าตนไปหาเรื่องนางไว้ตอนไหน ได้แต่แปลกใจว่าฉางอีฉินคนนี้เป็นใครกันแน่ ก็เลยสอบถามฉีหรัว
ฉีหรัวเข้าใจเรื่องนี้ดีมาก เล่าเรื่องฉางอีฮินทั้งหมด ถอนหายใจเฮือก “เพราะว่านางถูกตามใจแต่เด็ก พีชายก็ตามใจนาง พอตอนนี้กลายเป็นคนเอาแต่ใจก็ไม่แปลก”
“ไม่คิดว่าข้าเรียกเจ้ากลับมา กลับเจอเรื่องนี้ ” กู้อ้าวเวยก็ทำอะไรไม่ถูก
เมื่อครู่นางเอาองค์ชายสามมาจัดการฉีเฟน แต่ครั้งนี้ องค์ชายก็ยืมมือสำนักเยียนหยู่มาหยั่งเชิงนาง เป็นการแก้แค้นกันไปมา ถือว่าตรงกับนิสัยนาง
“แต่ก็เพราะเจ้าช่วยข้าแก้ปัญหา หลังจากนี้ก็ให้พระชายาเรียกข้าหรัวเอ๋ออีกดีมั้ย?” หรัวเอ๋อยิ้มอ่อน
“งั้นเจ้าก็เรียกข้าเวยเอ๋อ ” กู้อ้าวเวยก็นั่งลง แล้วเห็นแป้งทาหน้าที่ฉางอีฉินทิ้งไว้ ถือว่าเป็นของมีค่า กลิ่นก็หอมดีมาก
ฉีหรัวเห็นท่าทางนางสูดดมแป้งหอม ก็อดกลั้นขำไม่ได้ “ก่อนหน้าที่เจ้ามากับท่านอ๋องไม่ได้เคยดมกลิ่นเครื่องแป้งหอมของสำนักเยียนหยู่ไปแล้วหรือ?”
“เจ้ารู้หรอ?”
“รู้สิ ไม่งั้นเจ้าคิดว่าข้าฟังคำของเจ้าแล้ว ข้ายังจะอยู่ที่ร้านยาเหย้าอีกหรือ?” ฉีหรัวหยิบเอาแป้งหอมออกมาไว้ตรงหน้านาง นางก็แหงนหน้าขึ้นไม่มอง “เจ้านี่ก็ ปกติก็ไม่ชอบแต่งตัว ครั้งก่อนทาปากมา กินข้าวไปมื้อเดียว สีหายหมด”
“เจ้าก็รู้ว่าข้ากินเร็ว ไม่ใช่กินคำเล็กแบบพวกเจ้า” กู้อ้าวเวยถูกพูดเสียจนเสียเซลฟ์ ฉีหรัวก็แอบยิ้มอยู่ข้างๆ
กู้อ้าวเวยถนัดกินข้าวเร็ว จะได้ไม่เสียเวลา การแต่งตัวก็เลยไม่ค่อยละเอียดนัก ทั้งคู่คุยกันสักพัก กู้อ้าวเวยก็ไม่อยากอยู่นาน เลยรีบไปร้านยาจี้ชื่อถาง เอาเรื่องที่ฉีหรัวกลับมาสำนักเยียนหยู่แล้วบอกกับฉีหลิน
“จริงหรอ! ” ฉีหลินรีบลุกขึ้นนั่ง
“จริงสิ ข้าจะโกหกเจ้าทำไม แต่ขาของเจ้าต้องใช้เวลาสักพักถึงจะหายดี เจ้าอยากจะกลับจวนฉีหรือว่าร้านยาเหย้า สักพักข้าจะส่งคนมารับ ” กู้อ้าวเวยยื่นผลไม้หวานให้สองห่อ
“ข้าจะกลับไปร้านยาเหย้า”
“เชื่อมั้ยว่าข้าจะให้เฉิงยีเฉิงเอ้อสั่งสอนเจ้า” กู้อ้าวเวยมองบนใส่เขา ฉีหลินหัวเราะเสียไม่มี