บุปผาเคียงบัลลังก์ - ตอนที่ 418 โคมไฟ / ตอนที่ 419 เทศกาลอวี้หลาน
บุปผาเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 418 โคมไฟ / ตอนที่ 419 เทศกาลอวี้หลาน
ตอนที่ 418 โคมไฟ
เซียงฉือเตรียมของเพื่อฉลองวันเกิดให้จิ้งเฟยจริงๆ แต่นางก็ต้องไปเลือกซื้อให้ดีด้วย
การแต่งกายแบบนี้ไม่มีสาเหตุอื่นใดนอกจากไม่ต้องการให้เป็นที่สังเกตเห็นโดยง่ายเท่านั้น
หยางจิ้นเป็นนักรบจึงไม่ได้คาดคะเนถึงจิตใจเซียงฉือ ฉู่อวิ๋นเซียวให้เขามาเดินเป็นเพื่อนอวิ๋นเซียงฉือเพื่อคอยคุ้มกันความปลอดภัยแก่นาง เขาจึงเพียงทำตามคำสั่งของนาย
เซียงฉือถามเขาถึงสถานที่ที่จะหาซื้อโคมไฟได้ เขาลูบศีรษะแล้วพูดว่า
“เรียนใต้เท้า ผู้น้อยถึงจะเป็นคนอวิ๋นหยางแต่ก็เข้าไปอยู่ในค่ายทหารตั้งแต่ยังเล็กมากจึงไม่ค่อยคุ้นเคยสถานที่ในอวิ๋นหยางนัก แต่ผู้น้อยรู้ว่าข้างหน้านี้จะเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในอวิ๋นหยาง คิดว่าน่าจะมีทุกอย่างนะขอรับ”
เซียงฉือฟังคำพูดเขาแล้วบังเกิดความสนใจ ย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ จะต้องเป็นสถานที่คึกคักที่สุดเป็นแน่
พอเลี้ยวเข้าตรอกเล็กตรอกหนึ่งเข้าสู่ถนนจินอวิ๋นแล้ว ก็พบว่าผู้คนคับคั่งจริงๆ เบียดเสียดยัดเยียดแน่นขนัด
สมัยที่เซียงฉืออาศัยอยู่ที่ซวี่ตูในหลานโจวก็เคยออกไปเดินเที่ยวในเทศกาลโคมไฟ ในเวลานั้นจะมีการประดับประดาตามถนนหนทาง มีการแห่มังกรเชิดสิงโต อีกทั้งยังมีการเล่นข้างทางอีกมากมาย พวกนักแสดงเร่จากที่ต่างๆ จะหลั่งไหลไปเปิดการแสดงในซวี่ตู เหล่ายอดฝีมือไปรวมตัวกันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง
เซียงฉือเดินเข้าไปในฝูงชน รูปร่างนางอรชรจึงแทรกเข้าไปได้โดยง่าย ทำให้หยางจิ้นที่ด้านหลังถูกเบียดห่างออกไป
หยางจิ้นต้องทุ่มสุดชีวิตเพื่อจะไปให้ถึงข้างกายเซียงฉือ สุดท้ายแล้วเมื่อเซียงฉือหยุดเท้าเขาจึงได้ไล่ตามนางทัน
“ใต้เท้า ท่านช้าหน่อยเถิดขอรับ ร่างผู้น้อยตอนนี้ไม่ต่างกับโล่ยักษ์ เดินแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว รอข้าด้วย ท่านโปรดรอข้าด้วยเถิด”
หยางจิ้นสีหน้าทุกข์ร้อน เซียงฉือกลับยิ่งสนุกสนาน
แม้จะรู้ว่าทั้งสิบหกหัวเมืองของแคว้นเซียวจิ่งต่างมีประเพณีของตนเองในแต่ละหัวเมือง แต่เทศกาลโคมไฟนั้นจะเป็นวันเฉลิมฉลองร่วมกันทั่วหล้า เพื่อความพร้อมหน้าพร้อมตาของคนในครอบครัวและยินดีปรีดากับผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อถึงวันนั้น แต่ละสถานที่จะจัดให้มีการแห่มังกรเชิดสิงโตอีกทั้งการแสดงต่างๆ มากมาย ตามหอนางโลมจะมีการคัดเลือกหญิงงามประจำปี คึกคักครึกครื้นไปทั่วทุกแห่งหน ดูแล้วสนุกสนานและปิติยินดี
“หยางจิ้น ท่านเห็นโคมไฟพวกนั้นไหม นำพวกมันกลับไปให้หมดแล้วไปมอบให้หมิงเอ๋อร์นางกำนัลอาวุโสคนสนิทของจิ้งเฟย บอกว่าข้าสั่งให้เอาไปให้นาง” เซียงฉือพูดขึ้นขณะชี้ไปยังพวกโคมไฟสีแดง แล้วนางตบไหล่เขา ชี้ไปที่โคมไฟรูปกระต่ายน้อยอีก พูดขึ้นว่า
“อันนี้ท่านก็นำกลับไปด้วย จะไว้ถวายเป็นของขวัญแด่องค์หญิง ท่านต้องดูแลให้ดีด้วยล่ะ ข้ายังจะอยู่ดูอะไรที่นี่ต่อ ส่วนท่านกลับบ้านสกุลหลิ่วเรียกให้คนมาช่วยขนของพวกนี้กลับไป รีบไปรีบมาอย่าให้ผิดพลาด”
เซียงฉือช้อนตาหงส์ขึ้น เมื่อสั่งงานเสร็จก็เดินไป หยางจิ้นคิดจะติดตามนาง แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไปก็ถูกนางถมึงตาใส่จึงต้องฝืนกล้ำกลืนลงไป
เซียงฉือชี้นิ้วขึ้นฟ้า พูดอย่างข่มขู่ว่า
“อะไรที่ไม่สมควรรู้ก็ไม่ต้องรู้ ระวังชีวิตน้อยๆ ของท่านไว้ให้ดี”
พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ หยางจิ้นรีบหดคอกลับในทันทีแล้วรีบกำมือโค้งกาย ยิ้มและถอยกลับจวนไปแต่โดยดี
อวิ๋นเซียงฉือสลัดเขาออกไปก็เพราะมีแผนการบางอย่าง วันนี้เป็นวันก่อนเทศกาลโคมไฟ เป็นวันที่ครึกครื้นที่สุดวันหนึ่งบนถนนจินอวิ๋นในนครอวิ๋นหยาง เพราะวันนี้เป็นเทศกาลอวี้หลาน เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อชายหนุ่มหญิงสาวในอวิ๋นหยางโดยเฉพาะ
ที่นางมาที่นี่ในวันนี้เพราะก่อนออกจากวังได้ฟังนิทานสนุกสนานเรื่องหนึ่งที่ซู่เวิ่นเล่าให้นางฟัง และนิทานเรื่องนี้ ทำให้นางใฝ่ฝันอยากเห็นเทศกาลอวี้หลานเป็นอย่างยิ่ง
ตอนที่ 419 เทศกาลอวี้หลาน
นิทานเรื่องนี้เคยเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับบุพเพสันนิวาสที่งดงามในอวิ๋นหยาง
‘ในนครอวิ๋นหยางเคยมีหญิงสาวคนหนึ่งนามว่าอวี้หลาน นางเป็นคนงดงามยิ่ง พออายุสิบหกปีก็มีชายหนุ่มมากมายจะมาขอหมั้นหมาย หญิงสาวเป็นผู้มีความสามารถมาก ไม่ต้องการที่จะมอบความรักให้ผิดคน นางจึงจุดโคมไฟขึ้นดวงหนึ่งในหอโคมไฟของบ้านตน บนโคมไฟนั้นได้เขียนคำปริศนาเอาไว้ นางพูดว่าหากมีใครตอบถูกและเป็นคนโสดที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน นางจะยอมแต่งงานด้วย’
‘แต่รอมาหลายปีก็ยังไม่พบผู้ชายคนนั้น กระทั่งวันหนึ่ง มีท่านอ๋องจากแคว้นฟานมาเฉลิมฉลองเทศกาลโคมไฟที่อวิ๋นหยาง เขาตอบคำปริศนาได้ถูกต้อง ท่านอ๋องกับหญิงสาวคนนั้นบังเกิดความรักแรกพบกันทันทีที่เห็น ดังนั้นจึงได้พระราชทานสมรสจากฮ่องเต้ จากนั้นมา ชายหนุ่มหญิงสาวที่เหมาะสมกันก็ได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข’
นิทานเรื่องนี้อบอุ่นน่าหลงใหล ทำให้หนุ่มสาวมากมายพากันแห่ทำตาม จากนั้นเป็นต้นมาในวันก่อนเทศกาลโคมไฟจึงจัดให้มีเทศกาลอวี้หลานขึ้น ทั้งยังมีกิจกรรมที่คึกคักอย่างหนึ่ง
ทายปริศนาโคมไฟ
ภายในเมืองอวิ๋นหยางมีหอกลองใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง หอกลองนี้มีชื่อว่าฮุ่ยเซียนเก๋อ ร้านโคมไฟใหญ่ในอวิ๋นหยางจะพากันผลิตโคมไฟรูปทรงพิเศษแขวนขึ้นเต็มราวที่ทำขึ้นเฉพาะสองฟากฝั่งของหอกลองใหญ่ด้านทิศเหนือและใต้สำหรับเทศกาลอวี้หลาน
พอถึงค่ำคืนเทศกาลอวี้หลาน ราวลอยฟ้าเหนือศีรษะจะจุดโคมไฟสว่างไสวไปทั่ว แสงไฟระยิบระยับแพรวพราว สาดกระจายเจิดจ้า
ส่วนด้านล่างจะมีหนุ่มสาวมากมายพากันเที่ยวเล่น หากพวกเขาพอใจโคมไฟดวงไหนก็จะให้เจ้าของร้านนำคำปริศนาออกมา คนที่ตอบถูกเมื่อชำระเงินแล้วก็สามารถนำโคมไฟกลับไปได้
โคมไฟจะแบ่งอยู่ทางด้านทิศใต้และเหนือของหอกลองฝั่งละที่ โดยทางด้านใต้จะเป็นของลูกค้าชาย ด้านเหนือเป็นของลูกค้าหญิง หากทั้งสองคนเลือกโคมไฟแบบเดียวกันแล้วมาพบกันในเทศกาลอวี้หลานก็จะเป็นคู่บุพเพสันนิวาสที่ถูกลิขิตไว้แล้ว
เซียงฉือยังเป็นสาวแรกรุ่นคนหนึ่ง ถึงจะเข้าวังแล้วแต่ใจที่รักความสนุกนั้นยังคงไม่เปลี่ยนไป เมื่อสลัดหยางจิ้นได้แล้วจึงไปเที่ยวเล่นเพียงลำพังใต้ราวโคมไฟเบื้องหน้าฮุ่ยเซียนเก๋ออย่างเต็มที่
นางไม่เชื่อว่าเพียงถือโคมไฟก็สามารถได้พบเนื้อคู่ดังปรารถนา แต่ก็ยังสนใจ พรหมลิขิตเช่นนี้จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่หนอ
เซียงฉือราวปลาน้อยที่แหวกว่ายไปมาอยู่ท่ามกลางฝูงคน
นางแหงนหน้าเดินผ่านโคมไฟหลากสีสัน คิดจะหาสักดวงที่งดงามและชื่นชอบที่สุด แต่โคมไฟทุกโคมบนถนนนี้ล้วนมีรูปแบบพิเศษของมันเอง
เซียงฉือเลือกจนตาลายจึงได้ไปพักขาอยู่ทางด้านหนึ่ง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นมัน
โคมไฟแปดเหลี่ยมที่มีภาพเมฆแปดด้าน ตรงด้านที่ตรงกับเซียงฉือเป็นภาพวาดดอกท้อที่งดงามสะพรั่งต้นหนึ่ง พลันเซียงฉือระลึกถึงภาพในวันนั้นที่หรงจิงพานางไปดื่มสุราใต้ต้นท้อในหอทิงเฟิง
ใจนางกระตุกขึ้นจึงถามลุงชราคนหนึ่งที่ข้างกายว่า
“ท่านลุง คำปริศนาของโคมนี้คืออะไร ข้าต้องการโคมนี้”
เซียงฉือชี้ไปยังโคมไฟแปดเหลี่ยมเรียบๆ เบื้องหน้า นางมองดูด้วยสีหน้าคาดหวัง
ท่านลุงอายุยังไม่มาก เขามองไปยังโคมที่นางชี้แล้วหัวเราะพูดว่า
“โคมไฟดวงนี้วิเศษนะ แม่นางตาถึงจริงๆ ในเมื่อเจ้าอยากได้ลุงก็จะตั้งปริศนาโคมไฟให้เจ้า หากตอบถูกก็ให้เจ้าเอาไปได้เลย”
เซียงฉือพยักหน้ายิ้มๆ ท่านลุงจึงหยิบกระดาษที่พับไว้ดีแล้วออกมาจากในโคมไฟนั้น ค่อยๆ คลี่ออกส่องกับแสงไฟพูดว่า
“แม่นาง โคมไฟของบ้านข้าล้วนเป็นสินค้าชั้นหนึ่ง ดังนั้นปริศนาจึงไม่ใช่ง่าย โดยเฉพาะโคมนี้ ลูกสาวข้าชอบมันมากจึงยากจะสละได้ โจทย์ที่ตั้งมาก็เลยจะยากหน่อยนะ”
เมื่อผู้เฒ่าเห็นคำถามแล้วก็ลูบหนวดหัวเราะร่าก่อนพูดขึ้น ใบหน้าที่หลบซ่อนอยู่ของเซียงฉือก็แอบยิ้มเช่นกันแต่ไม่พูดอะไร นางรอให้ท่านลุงเอ่ยคำถามออกมา