บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 187 ศัตรูของข้า
บทที่ 187 ศัตรูของข้า
มู่หรงหนันจีน อายุราวสิบห้าสิบหกปี ลำตัวตั้งตรง ใบหน้าดั่งหยกสลัก แต่คิ้วเรียวยกสูงขึ้นเด่นชัด ทำลายรูปงามบนใบหน้า ทำให้เขาดูเป็นคนบ้าอำนาจ มั่นใจในตัวเองมากล้น
ก้าวเดินเข้ามาด้วยความดุดันขึงขัง สายตามู่หรงหนันจีนราวคมมีดปักจ้องมายังจูนจิ่ว “เจ้าเป็นใคร?ถึงกลับกล้าทำร้ายคนของมู่หรงหนันจีน!”
ฝาแฝดทั้งสองเอ่ยปากขึ้น “พี่ใหญ่ นังแพศยาคนนี้ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ พี่ต้องช่วยพวกข้าแก้แค้น!”
“พี่ใหญ่!พวกเราได้ยินศิษย์พี่อู๋ซานชวนนางเข้าสำนักตันจง นางมีสิทธิ์อะไร?คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราเดินมาถามความจริงกับนางดีๆ นางไม่เอ่ยคำใดก็ลงมือกับพวกเราเลย พี่ใหญ่ พี่ต้องสั่งสอนนังคนนี้!”
“พวกเจ้าพูดเหลวไหล!” จูนเสี่ยวเหล่ยกระทืบเท้า ชี้หน้าพวกมันอย่างโกรธแค้น “เป็นพวกเจ้าเองที่มาหาเรื่อง ให้พวกเราแลกห้อง!พอมาถึงตอนนี้กลับฟ้องความเท็จ พวกเจ้ายังมีหน้าอยู่อีกหรือ?”
“เจ้าพวกโง่!” หยูนเฉียวหน้าเครียด
ฝาแฝดทั้งสองไม่เกรงกลัวพวกเจ้า เพียงเห็นมู่หรงหนันจีนมา ก็รีบเอ่ยปากฟ้องทันที พวกเขากุเรื่องใส่ไข่ เปลี่ยนขาวเป็นดำ แต่เมื่อจูนจิ่วปรายตาเย็นเยียบมองพวกเขา ความเจ็บปวดบนร่างกายพลันเจ็บปวดยิ่งขึ้น สันหลังเย็นวาบ ต้องเงียบเสียงลง
มู่หรงหนันจีนมองจูนจิ่วประเมินอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าเองหน่ะหรือ?ศิษย์พี่อู๋ซานเชิญเจ้าเข้าสำนักตันจง?”
“ไม่เชื่อ?เป็นบุรุษก็ไม่ต้องพูดมากความ ไม่ไสหัวไป ก็เรียนจากพวกมันสองคนนี้” จูนจิ่วยิ้มเยาะอย่างอวดดี คำพูดชัดเจน
หากไม่ไสหัวไปก็จะมีจุดจบเหมือนแฝดทั้งสอง
มู่หรงหนันจีนบันดาลโทสะ กำหมัดจ้องจูนจิ่ว “ดี!ให้ข้าได้เห็นความสามารถของเจ้าก็แล้วกัน ในเมื่อกล้าพูดจาอวดดีนัก!”
จูนจิ่วยิ้มเย็น นางกระตุกนิ้วชี้ไปยังมู่หรงหนันจีน
นี่นับเป็นการท้าทาย!
มู่หรงหนันจีนเบอกตาโพลง เท้าหน้าก้าวไปข้างหน้าด้วยน้ำหนักเต็มที่ พุ่งตรงไปยังจูนจิ่ว คลังยาเปิดออก พลังนักจิตชั้นสามกดลงมา พลังทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในกำปั้น กำปั้นนี้พลังรุนแรงยิ่งนัก ราวกับจะแสดงกำลังให้จูนจิ่วได้เห็น
ผู้คนโดยรอบต่างเงียบเสียง “พวกเราที่อยู่โดยรอบนี้ ต่างคงไม่มีใครรับกำปั้นนี้ได้แน่?”
“ไม่ได้แน่นอน มู่หรงหนันจีนเป็นถึงนักจิตขั้นสาม!เจ้าจูนจิ่วนั่นช่างไม่รู้ต่ำสูง ทำร้ายฝาแฝดนั่นแล้วยังไม่ขอโทษ ยังกล้าท้ามู่หรงหนันจีน นางตายแน่แล้ว!”
ผู้คนโดยรอบต่างล้อมเข้ามาด้วยความตื่นเต้น เพียงเห็นจูนจิ่วไม่มีทีท่าจะกังวลใจใดๆ มือหนึ่งของนางยังคงอุ้มแมวอยู่ เพียงยกมือขวาขึ้นแล้วกางนิ้วออก เมื่อเห็นท่าทางของนาง ราวกับจะกำกำปั้นของมู่หรงหนันจีน ผู้คนต่างพากันอ้าปากค้าง จูนจิ่วบ้าไปแล้วหรือ?
ตุ้บ!
พลังทั้งสองพุ่งกระทบกัน พลังในกำปั้นรุนแรงจนทุกคนต้องหรี่ตาลง ต่างพากันยกมือขึ้นบังหน้า เสียงข้างหูได้ยินเพียงเสียงฉีกขาดดังอื้ออึง!
ต้องเป็นมือของจูนจิ่วฉีกขาดเป็นแน่แท้!
แต่เมื่อดึงมือลง ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้าง ทั่วทั้งสนามต่างตะลึกค้างไปสิ้น!ที่ฉีกขาดไม่ใช่จูนจิ่ว แต่เป็นกำปั้นของมู่หรงหนันจีน จูนจิ่วกำกำปั้นของมู่หรงหนันจีนเอาไว้ เพียงบิดนิดเดียว ข้อมือก็ถูกบิดจนกระดูกหักไป เจ็บปวดจนมู่หรงหนันจีนใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ
มู่หรงหนันจีน “เป็นไปได้กระไร?เจ้า เจ้าก็เป็นนักจิตระดับสามหรือ!”
จูนจิ่วยิ้มมุมปาก เสียงหัวเราะเยียบเย็น นางเพียงสะบัดมือ พลันผลักมู่หรงหนันจีนสะบัดออกไป กระแทกกับร่างฝาแฝด ร่างของทั้งสามคนกองรวมกัน มือกอดอกไว้ จูนจิ่วปรายตาลงมองพวกเขาอย่างเย่อหยิ่ง “ต่อไปถ้าอยากจะก่อเรื่อง หัดดูสารรูปตัวเองก่อนค่อยมา ไสหัวไปซะ!”
ฝาแฝดทั้งสองเร่งรีบพยุงมู่หรงหนันจีนขึ้นมา รีบเร่งจากไป ก่อนจะไปยังไม่ลืมข่จูนจิ่ว “จูนจิ่ว พวกเราไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
อะไรนะ?นางคือจูนจิ่วหรือ?
มู่หรงหนันจีนนิ่งงันไป ต่อเมื่อเดนจากไปไกลจึงหันกลับมามอง มู่หรงหนันจีนพลันเตะไปที่ฝาแฝดทั้งสอง “เจ้าพวกโง่!พวกเจ้าทำไมไม่รีบบอกว่านางคือจูนจิ่วแห่งแคว้นเทียนโจ้ง?”
“พี่ใหญ่ จูนจิ่วนางมีอะไรหรือ?”
“จูนจิ่วแล้วทำไมหรือ?ความแค้นวันนี้ พวกเราไว้ล้างแค้นวันหลังกันเถอะ!” ฝาแฝดทั้งสองเอ่ยด้วยทั้งคับแค้นใจทั้งโกรธ
ใครจะรู้มู่หรงหนันจีนเบิกตาโพลงด้วยความโมโห กุมแขนที่ขาดพลางไล่ถีบพวกเขาทั้งสองคนอีก เขาโมโหระเบิดคำพูดออกมา “ท่านปู่พูดแล้ว หมอเทวดาจูนจิ่วเป็นศัตรูคนสำคัญของข้า พวกเราต้องแข่งกันด้านการปรุงยาให้รู้แพ้รู้ชนะ แต่วันนี้กลับทำให้ข้าเสียหน้าเช่นนี้ ข่าวนี้แพร่ออกไปคนจะมองข้ากระไร?”
มู่หรงหนันจีนโกรธแทบตาย เขาเป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ที่สุดของแคว้นหยุนเชียง การปรุงยาไม่มีใครจะชนะเขาได้ เดิมทีเขาเป็นผู้เข้าคัดเลือกที่โดดเด่นที่สุดในครั้งนี้ แต่ท้ายสุดกับพ่ายแพ้ให้กับหมอเทวดาจูนจิ่ว
“คิดไม่ถึงว่านางเป็นถึงนักจิตชั้นสาม แย่จริงๆ!เหอะ!ข้ารักในการปรุงยามาโดยตลอด ดังนั้นวรยุทธ์จึงไม่เยี่ยมยุทธ หากเป็นการปรุงยาแล้ว ข้าต้องเอาชนะนางได้แน่!เป็นเพราะพวกไร้ประโยชน์เช่นพวกเจ้า ทำให้ข้าเสียหน้าหมดสิ้น”
“พี่ใหญ่ไว้โทษพวกข้าด้วย!”
มู่หรงหนันจีนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มีพรสวรรค์ปรุงยาเหมือนกัน เป็นนักจิตชั้นสามเช่นเดียวกัน ท่านปู่ไม่ผิดเลย จูนจิ่วคือศัตรูตัวฉกาจของเขา!แต่เขาต้องเอาชนะจูนจิ่วให้ได้ ความผิดพลาดในวันนี้เป็นเพียงความบังเอิญ
จูนจิ่วคิดไม่ถึง จะมีคนอาฆาตกับนางเร็วขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงมู่หรงหนันจีนเท่านั้น ชื่อหมอเทวดาจูนจิ่วดังไปทั่วทั้งสิบแคว้น นั่นต้องดึงให้คนต่อกรกับจูนจิ่วไม่น้อยเป็นแน่
จูนจิ่วฝีมือร้ายกาจ สั่งสอนหรงหนันจีนทั้งสามคน ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้สำเร็จ ชั่วเวลาหนึ่งต่างไม่มีใครกล้าเป็นที่สนใจของจูนจิ่ว เพียงพูดถึงลับหลังเท่านั้น กระซิบกระซาบกัน เมื่อจูนจิ่วเดินเข้าไปในห้อง เงยหน้ามองรอบทิศ
นางรู้สึกมีคนติดตามมา แต่ไม่ใช่โม่อู๋เยว่ เป็นใครกัน?
ในทิศทางที่จูนจิ่วมองออกไป มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนลูบเคราแพะของตัวเอง เขาเอ่ยขึ้น “เหอซ่าน ตกลงท่านให้ข้ามาดูอะไร?”
“เหมือนไหม?” เหอซ่านเอ่ยราบเรียบ
ชายกลางคนผู้นั้นตะลึงงัน เขามองกลับไปยังสถานที่เมื่อครู่ เริ่มจากเมื่อฝาแฝดทั้งสองมาหาเรื่อง เขาก็เห็นทั้งหมดแล้ว เมื่อคิดกลับไป ชายวัยกลางคนลูบเคราไปมา “ท่านอยากบอกอะไร?”
“จูนจิ่วและท่านแม่ทัพ และยังมีคุณหญิงเหมือนกันไหม?”
“เหอซ่านท่านหมายความว่ากระไร?ท่านไม่ได้พานายหญิงกลับมาแล้วหรอกหรือ?ยังให้ข้ามาดูจูนจิ่วอะไรนี่ทำไม!บุตรีของท่านแม่ทัพมีผู้เดียว ไม่ได้เกิดมาสองคน” ชายวัยกลางคนไม่เข้าใจอะไรเลย
เหอซ่านเห็นว่าเพื่อนรักยังไม่เข้าใจความหมายนัยยะของเขา เพียงส่ายศีรษะ เอ่ยอธิบาย “จูนหยูนเสวี่ยเป็นตัวปลอม จูนจิ่วต่างหากที่เป็นบุตรีท่านแม่ทัพ”
ชายวัยกลางคนตะลึงไปแล้ว “อะไรกัน?ท่านไปเฟ้นหาหลายพันลี้แต่ได้ตัวปลอมมา?ไม่ใช่น่า ในมือจูนหยูนเสวี่ยมีป้ายคำสั่ง”
เหอซ่าน “เรื่องป้ายคำสั่งนี้ข้ายังไม่ได้หาต้นสายปลายเหตุชัดเจน ทว่าข้าหาแม่นมแทนตัวจู่หมู่ตระกูลจุนได้แล้ว และรับรองแล้วว่าจูนหยูนเสวี่ยเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลจูนไม่ใช่คุณหนู แต่จูนจิ่ว นางเหมือนท่านแม่ทัพและคุณหญิง หรือเจ้าตาเสียไปแล้ว มองไม่ออกเลยหรือไง?”
ชายวัยกลางคนสะอึก
ยิ่งฟังคำของเหอซ่าน “จูนหยูนเสวี่ยคิดจะปลอมตัวเปลี่ยนองค์รัชทายาท ปลอมเป็นคุณหนู ข้าจะทำฝันนางให้เป็นจริง”
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าคิดจะให้จูนหยูนเสวี่ยอยู่ในที่แจ้ง คุณหนูอยู่ในที่มืด เพื่อปกป้องคุณหนูไว้?” ชายวัยกลางคนพลันเข้าใจเหตุการณ์ เขาไม่เพียงเห็นด้วย แผนการนี้ของเหอซ่านล้ำลึกจริงๆ!ไม่แปลกที่เขาจะยอมให้จูนหยูนเสวี่ยปลอมตัวต่อไป