บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 303 หวังสิ่งที่สูงส่งเกินตัว
บทที่ 303 หวังสิ่งที่สูงส่งเกินตัว
กลุ่มขนส่งรอนแรมหลายหมื่นลี้ มาถึงสำนักไท่ชู และยังจำเป็นต้องมีป้ายคำสั่งของสำนักไท่ซู จึงจะสามารถร่วมเดินทางกับกลุ่มขนส่งสุดท้ายได้
มีเพียงเคยเยือนสำนักไท่ชูเท่านั้น จึงจะรู้ว่าสถานที่ที่ตนเคยใช้ชีวิตต่ำต้อยไร้ความหมายเพียงใด นักจิตฝึกวิชาพลิกฟ้า จุดประสงค์เพื่อเป็นอมตะยืนยาวมั่นคงอยู่บนจุดสูงสุดระหว่างฟ้าดิน แต่สถานที่เช่นห้าสำนักสิบแคว้นนี้ ยังพัวพันกับราชวงศ์และเหล่าขุนนาง เต็มไปด้วยผลประโยชน์
เมื่อมาถึงสำนักศึกสามทั้งสาม ทุกสิ่งราวดินแดนสวรรค์ ที่นี่เปี่ยมด้วยพลังปราณทุกคนฝึกตนจนกลายเป็นนักจิต สำนักศึกสามทั้งสามประกอบด้วยสามเมือง ตรงกลางคือสถานที่ใช้ชีวิตของคนปกติธรรมดา มีเพียงเข้าร่วมสำนักศึกสามทั้งสามถึงจะเปิดให้ย้ายเข้าไปฝึกวิชาจริงได้
เมืองไท่ชู ภายในสำนักไท่ชู
ภายในศาลาพลับพลาตั้งตระหง่านกลางเมฆหมอก ดุจดินแดนแห่งเทพเซียน ทุกที่เผยกลิ่นอายงดงามโดดเด่น
กลางทางเดิน เมฆหมอกล่องลอยชดช้อยตามฝีเท้าอย่างได้องศา มองขึ้นไปเป็นหน้าอกขาวเนียน ลำคอดุจหงส์ ใบหน้างดงามมีราศี คิ้ววาดเป็นดอกกล้วยไม้ หญิงสาวเดินเข้ามาอย่างงดงามอ่อนช้อยดังเทพธิดาบนสวรรค์
เดินผ่านศาลากลางน้ำ หญิงสาวเดินเข้าไปในศาลากลางทะเลสาบ ก่อนนางย่อกายทำความเคารพ “ท่านปู่ หยุนหนีกลับมาแล้วเจ้าคะ”
“กลับมาได้เวลาพอดี หยุนหนีครั้งนี้ปู่มีเรื่องใหญ่เรื่องอย่างหนึ่งต้องการให้เจ้าจัดการ เจ้าต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่ทำให้ปู่ และคุณหนูหงยิงผิดหวัง” ผู้เฒ่าเงยหน้าขึ้น ใบหน้าแก่ชรามีดวงตาหลักแหลมชั่วร้าย
หากมีศิษย์ของสำนักไท่ชูอยู่ที่นี่ ต้องรู้ว่านี่คือไป๋หลี่ฉง ผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักไท่ชู และยังมีหยุนหนีหลานสาวของผู้อาวุโสใหญ่
หยุนหนีพยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ต้องการให้หยุนหนีทำสิ่งใดเจ้าคะ?”
ไป๋หลี่ฉง จึงกล่าวว่า “เรื่องใหญ่ของห้าสำนักสิบแคว้นเจ้าคงทราบแล้ว ครูใหญ่ต้องการจับตัวชิงหยู่ เจ้าสำนักเทียนอู่จง และจูนจิ่วมาสอบสวนที่สำนัก แม้จะเป็นการสอบสวน แต่ครูใหญ่ซื่อสัตย์จริงใจมาโดยตลอด ไม่เคยใจร้าย”
“หยุนหนีเข้าใจเจ้าคะ ครูใหญ่ไม่คิดกำจัดสำนักเทียนอู่จง ดังนั้นจึงต้องจับตัวสองคนนี้ขังไว้ในสำนัก เมื่อสามารถบังคับให้สำนักเทียนอู่จงไม่กล้าผลีผลาม และยังสามารถใช้สิ่งนี้เป็นบทลงโทษได้ บอกห้าสำนักสิบแคว้นไม่ให้เคลื่อนไหวโดยพลการ” หยุนหนีเอ่ยเสริมด้านหลังอย่างเฉลียวฉลาด แต่นางยังคงไม่เข้าใจ
นี้เกี่ยวข้องกับภารกิจที่พี่หงยิงมอบหมายเช่นไร?
ไป๋หลี่ฉงมองหยุนหนี ก่อนเอ่ยว่า “หยุนหนี ปู่ต้องการให้เจ้าเข้าใกล้จูนจิ่ว ขโมยของมีค่าชิ้นหนึ่งในมือนางมา ของมีค่าชิ้นนี้สำคัญต่อเทียงฉิว จะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด!”
ของมีค่า?
หยุนหนีหัวใจเต้นแรง แต่นางไม่แสดงออกทางสีหน้า เอ่ยถามต่อว่า “ท่านปู่ หยุนหนีควรเข้าใกล้ชิดจูนจิ่วเช่นไรเจ้าคะ?”
“สายลับรายงานมาว่า วันนี้พวกเขาเดินทางถึงสำนักไท่ชู ปู่ได้รับภารกิจสอบสวนพวกเขาจากครูใหญ่มาอยู่ในมือแล้ว จากนั้นจัดการให้พวกเขาเป็นเจ้าศิษย์นักการอยู่นอกประตู หลังจากนั้น หยุนหนีคงรู้ว่าควรทำเช่นไร”
หยุนหนีได้ยินยิ้ม พลางพยักหน้าเอ่ยขึ้น “นี่คือเรื่องถนัดของข้า ท่านปู่เพียงรอฟังข่าวดีจากหลานสาวเถิดเจ้าคะ!”
…
เมื่อถึงสำนักไท่ชู!
พลังทิพย์ในร่างกายจูนจิ่วผันผวนขึ้นอย่างฉับพลัน เสี่ยวอู่นอนคว่ำอยู่บนไหล่ของนางร้องเมี้ยวๆ ขึ้น “เมี้ยว เจ้านาย ปราณของที่นี่ดียิ่งนัก”
จูนจิ่วพยักหน้าเห็นพ้อง สมกับเป็นสำนักศึกสามทั้งสาม ปราณที่นี่มีอย่างเพียงพอสมบูรณ์แบบ เปรียบได้กับสถานที่ดีที่สุดแห่งปราณของสำนักเทียนอู่จง และนี่เป็นเพียงชั้นนอกสุดของสำนักไท่ชูเท่านั้น
“ผู้ดูแลหวาง!” เสียงชายวัยกลางคน ดึงดูดให้จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นมอง
เห็นเพียงชายวัยกลางคนกำลังอยู่กับชายหนุ่มหยิ่งยโสคนหนึ่ง ด้วยท่าทางไร้ศักดิ์ศรี เอาอกเอาใจอย่างมาก ส่วนผู้ดูแลหวางเชิดคางขึ้นสูง เหลือบมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่งพลางเอ่ยขึ้น “หลี่เอ้อ พวกเขาคือชิงหยู่และจูนจิ่วหรือ?”
“ขอรับ” ชายวัยกลางคนที่ชื่อหลี่เอ้อพยักหน้าทันที
ผู้ดูแลหวางยื่นมือออกมา “รายงานการตรวจสอบของเจ้าเล่า นำมาให้ข้า ข้าจะได้ร่างรายงานมอบให้ผู้อาวุโสใหญ่ตรวจสอบพิจารณา”
หลังหลี่เอ้อส่งมอบรายงานการตรวจสอบ ผู้ดูแลหวางโบกมือไล่เขาออกไป หลี่เอ้อได้รับคำสั่งนำคนอื่นๆ วิ่งออกไปเร็วยิ่งกว่ากระต่าย ผู้ดูแลหวางเห็นสงสัยยังคิดว่าหลี่เอ้อหวาดกลัวเขา กลับไม่รู้ว่าพวกหลี่เอ้อหวาดกลัวชิงหยู่และจูนจิ่ว!
ผู้ดูแลหวางเดินเข้ามา ก่อนมองสำรวจชิงหยู่อย่างจับผิด จากนั้นสายตาเคลื่อนไปที่ร่างกายของจูนจิ่ว ก่อนดวงตาทั้งสองคู่เป็นประกายอย่างหลงใหล “งามยิ่งนัก!”
ชิงหยู่หน้าขรึมลง เอียงกายบดบังจูนจิ่วไว้ เมื่อภาพด้านหน้าเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าของชิงหยู่ ผู้ดูแลหวางถอยหลังไปด้วยสีหน้ารังเกียจทันที “เจ้าทำอันใด ถอยไป เจ้าคิดว่าที่นี่คือสำนักเทียนอู่จงของเจ้าหรือ เจ้าคือเจ้าสำนักแล้วอย่างไร เมื่อมาถึงที่นี่ พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้า!”
ยามเอ่ย ดวงตาของผู้ดูแลหวางมองบนกายของจูนจิ่ว คล้ายแฝงด้วยสัญญาณที่ไม่อาจเอ่ยออกมา
เสี่ยวอู่เห็นขนลุกชัน คิดพุ่งเข้าไปควักลูกตาของผู้ดูแลหวาง แต่มันรู้ว่าที่นี่คือสำนักไท่ชู จึงชักกรงเล็บในอุ้งเท้ากลับมา เสี่ยวอู่มองจูนจิ่วด้วยความโมโห จูนจิ่วยกมือลูบศีรษะของเสี่ยวอู่ ก่อนเงยหน้าขึ้น
เมื่อสบเข้ากับดวงตาเย็นชา ดังทำให้คนรู้สึกราวตกลงไปในบ่อน้ำเย็นเฉียบเสียดแทงกระดูกคู่นั้น ผู้ดูแลหวางสั่นเทา และไม่กล้ามองจูนจิ่วอีก
ชิงหยู่แค่นเสียงฮึอย่างเย็นชา “ผู้ดูแลหวางหรือ? พาพวกข้าไปพบครูใหญ่สำนักไท่ชูเถิด”
“เพ้ย เจ้าคิดว่าตนเองคือผู้ใด ยังมีหน้าต้องการพบครูใหญ่ หวังสูงเกินไปเสียจริง เจ้าฝันอยู่หรือ?” ผู้ดูแลหวางถ่มน้ำลายออกมา
เขากล่าวยิ้มๆ อย่างดูถูกว่า “พวกเจ้าตอนนี้ไม่ใช่เจ้าสำนักและอาจารย์อาของเทียนอู่จง เมื่อมาถึงสำนักไท่ชูของข้า พวกเจ้าเป็นเพียงเจ้าศิษย์นักการนอกประตูเท่านั้น!”
อะไรนะ?
ชูหยู่สีหน้าเคร่งขรึมลง ทั่วกายอบอวลด้วยท่าทีคุกคาม ขณะก่อนที่เขาจะเอ่ยปาก จูนจิ่วเอ่ยปากขึ้นก่อนเขาหนึ่งก้าว “พาพวกเราไปที่พักเถิด”
“ฮึ ยังเป็นคนงามที่รู้งาน ข้าจะบอกพวกเจ้า มาถึงประตูชั้นนอกนี้แล้วต้องเชื่อฟังให้ดี มิฉะนั้นไม้เรียวของข้าอาจไม่มีตา เอาล่ะตามข้ามา”
ผู้ดูแลหวางพลางเดิน พลางเอ่ยว่า “วันนี้พวกเจ้าเพิ่งมาถึงถือว่าช่างมันเถิด พรุ่งนี้ให้ทำงานร่วมกับพวกเจ้าศิษย์นักการอื่นๆ เจ้า ชิงหยู่ไปที่ห้องครัวทำหน้าที่ผ่าฟืนหาบน้ำ ส่วนคนงามเช่นเจ้านั้น…”
ผู้ดูแลหวางมองมาอย่างลามก เมื่อสบเข้ากับดวงตาของจูนจิ่วสั่นเทา ก่อนจะพูดไม่ออก
สีหน้าเปลี่ยนไปมา สุดท้ายผู้ดูแลหวางแค่นเสียงขึ้นอย่างเย็นชา
เขายิ้มแย้มว่า “ส่วนเจ้า ไปสำนักเฉ่าถัง ดูแลหญ้าวิเศษเจ้าต้องทำหน้าที่ให้ดี หากหญ้าวิเศษเสียหายแม้แต่นิดเดียว ด้านบนกล่าวโทษลงมา จะโทษว่าข้าไม่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อเจ้าไม่ได้”
ระหว่างกล่าว ผู้ดูแลหวางนำจูนจิ่วและชิงหยู่มาถึงที่พักอาศัย เพียงเห็นที่พัก สีหน้าชิงหยู่เปลี่ยนไปดำคล้ำดุจก้นหม้อ กระท่อมหญ้าโกโรโกโส รั้วล้วนบิดเบี้ยว ทั่วลานเต็มไปด้วยโคลนตมจนไม่มีที่เหยียบ
น้ำเสียงผู้ดูแลหวางดังขึ้นอีกครั้ง “พวกเจ้ามาถึงดึก เหลือเพียงสถานที่เช่นนี้ให้พัก แต่จูนจิ่วหากเจ้าพักไม่ได้ สามารถไปหาข้า ทางข้ามีห้องพักมากมายเชียว!”
จูนจิ่ว “ไม่จำเป็น ข้าคิดว่าที่ดีไม่เลว ผู้ดูแลหวางยังมีสิ่งใดอีกหรือไม่ หากไม่มีเชิญไสหัวไป”
“เจ้ากล้าให้ข้าไสหัวไป ฮึ อย่าคิดว่าเจ้ารูปงาม แล้วข้าจะตัดใจลงมือกับเจ้าไม่ได้ หลังจากนี้เจ้าอย่ามาขอร้องข้าก็แล้วกัน!” ผู้ดูแลหวางเอ่ยอย่างคลุมเครือ,ครุมเครือทิ้งท้ายไว้ ก่อนหมุนกายจากไปอย่างโมโห
จูนจิ่วเงยหน้าสบตากับชิงหยู่แวบหนึ่ง ก่อนชิงหยู่กัดฟัน “อยากหักคอมันลงมาเตะให้กลิ้งเสียจริง!”
“เมี้ยว!” เสี่ยวอู่ยกอุ้งเท้าขึ้น ข้าเห็นด้วย