บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 344 ทำเอาผู้อาวุโสและหยุนหนีตกใจมาก
บทที่ 344 ทำเอาผู้อาวุโสและหยุนหนีตกใจมาก
ไม่ใช่ผู้ดูแลหวางอยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย แต่พวกเขาคิดจะฆ่าคนเพื่อปิดปาก จึงได้โยนความผิดทั้งหมดให้กับผู้ดูแลหวาง เพื่อให้ตัวเองขาวสะอาดไร้มลทิน นัยน์ตาของจูนจิ่วมีแววเยาะเย้ยวาบผ่าน
ผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนีคงคิดไม่ถึง ว่านางจะรู้เรื่องทั้งหมดนานแล้ว การแสดงของพวกเขาสำหรับนางแล้ว ไร้ฝีมือมาก
ในเมื่อพวกเขาต้องการแสดง แล้วยังอยากให้นางร่วมแสดงด้วยก็อย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน จูนจิ่วเอ่ยว่า “อาจารย์จะมอบผู้ดูแลหวางให้ข้าลงโทษหรือ คงไม่เหมาะกระมัง”
“ไม่ เจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า ก็แค่ลงโทษผู้ดูแลนอกสำนักต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น ใครจะกล้าว่าอะไร จูนจิ่วเจ้าทำได้เต็มที่เลย ข้าจะเป็นที่พึ่งให้เจ้าเอง ”คำกล่าวที่แสนจะทรงอำนาจนี้ หากเป็นลูกศิษย์คนอื่นคงรู้สึกซาบซึ้งใจมากแล้ว
จูนจิ่วยิ้ม “ได้”
นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทีเกียจคร้านตามสบาย เงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้ดูแลหวาง ผู้ดูแลหวางสบตากับนางด้วยสายตาสิ้นหวัง อ้าปากร้องอ้าอ้าคิดอยากจะยื่นมือออกไปชี้หน้าผู้อาวุโสกับหยุนหนีแต่ก็ไม่กล้า สุดท้ายก็ได้แต่ร้องฮือฮือเสียงเศร้าโขกหัวให้กับจูนจิ่ว ขอร้องให้จูนจิ่วไว้ชีวิตเขา
เห็นจูนจิ่วมองผู้ดูแลหวางด้วยสายตาเย็นชา หยุนหนีขมวดคิ้วพูดว่า “ศิษย์น้องจูนเจ้าใจอ่อนไม่กล้าลงมือหรือ ไม่สู้ให้ศิษย์พี่มาช่วยเจ้าแก้แค้นดีหรือไม่ ”
แววตาของหยุนหนีมีแววสังหาร ผู้ดูแลหวางต้องตายวันนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงเปิดเผยเรื่องของนางกับท่านปู่ออกมา ถ้าเป็นเช่นนั้นคงต้องแย่แน่ ฉะนั้นนางมองไปที่สายตาของจูนจิ่วแล้วก็รู้สึกกังวลใจ แต่ก็ยังต้องแสร้งพูดว่า “จูนจิ่ว ผู้ดูแลหวางมีความผิดสมควรตาย เจ้าไม่ต้องสงสารเขา ทางที่ดีให้ฆ่าเขาเสีย”
“ศิษย์พี่หยุนหนีพูดถูก”
“แล้วเจ้ายังจะชักช้าอะไรอยู่”หยุนหนีขมวดคิ้วไล่ถาม
ชำเลืองมองหยุนหนีแววตาเย็นชา จูนจิ่วยิ้มเย็น นางยกมือขึ้นดีดเข็มเงินเล่มหนึ่งทิ่มไปที่ร่างของผู้ดูแลหวาง เห็นนางลงมือด้วยเข็มเงินเล็กๆเท่านั้น สีหน้าหยุนหนีดำคล้ำ ใช้เข็มเงินฆ่าคน แล้วจูนจิ่วจะฆ่าผู้ดูแลหวางเมื่อไหร่
หันไปมองผู้ดูแลหวางอย่างร้อนใจ หยุนหนีใช้สายตาสื่อคำพูด ท่านปู่ พวกเรายื่นมือเข้าไปแทรกเถอะ
ไม่ ข้าจะรอดู ว่าจูนจิ่วคิดจะทำอะไรกันแน่ ผู้อาวุโสใหญ่ปฏิเสธหยุนหนีไปอย่างไร้สุ้มเสียง เขาหรี่ตามองไปยังจูนจิ่ว แต่เห็นเพียงจูนจิ่วยิงเข็มเงินออกไปแล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก ในใจของผู้อาวุโสใหญ่ก็กระตุกไปชั่วครู่
จูนจิ่วหมายความว่าไง
ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสใหญ่ชักกระตุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ล้มตึงลงบนพื้น มือและเท้างอหงิกชักไปมาไม่หยุด อ้าปากพ่นเลือดสีดำออกมา
ไม่เพียงเท่านี้ ดวงตาของผู้ดูแลหวางก็เบิกกว้าง ดวงตาราวกับจะถลนออกมา เลือดสีดำทะลักออกมาจากดวงตา จมูก และหูของเขา ในอากาศสามารถได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ราวกับว่าภายในร่างกายได้เน่าเสียแล้ว แม้แต่เลือดที่ทะลักออกมาก็เน่าเหม็นไปหมด
ค่อกแค่ก
ลำคอของผู้ดูแลหวางส่งเสียงที่ชวนน่าขนลุก ทันใดนั้นเขาก็ชักกระตุกกับพื้น แหวะ ในปากมีสิ่งของเน่าเหม็นพุ่งออกมา เมื่อมองดูดีๆแล้ว มันคืออวัยวะภายใน
“อี๋”หยุนหนีร้องขึ้นอย่างตกใจพร้อมถอยหลังรัวๆ ชี้นิ้วเบิกตากว้างไปที่ผู้ดูแลหวางอย่างตกตะลึง
“เขาเป็นอะไรไป ท่านปู่เท่านดูเร็ว”
ผู้อาวุโสเห็นแล้ว สีหน้าของเขาเองก็ไม่น่าดู มองผู้แลหวางอย่างตกตะลึงราวกับเป็นผ้าขี้ริ้วที่ขาดหลุดลุ่ย ปากเป็นเพียงทางออกเดียว ที่คอยอาเจียนเอาเครื่องในที่เน่าเฟะออกมาไม่หยุด นี่มันเรื่องอะไรกัน เห็นชัดว่าเมื่อครู่ก็ยังดีๆอยู่
ที่จับผู้ดูแลหวางมา ก็เพียงแค่ตัดลิ้นเขาไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นซะหน่อย ทำไมจู่ๆผู้ดูแลหวางถึงได้เป็นแบบนี้
ในสมองมีความคิดวาบเข้ามา ผู้อาวุโสใหญ่หันไปมองจูนจิ่ว คงไม่ใช่ฝีมือจูนจิ่วกระมัง
แหวะ
ผู้ดูแลหวางยังอาเจียนไม่หยุด บรรยากาศภายในเรือนไม่ช้าก็ถูกกลิ่นเน่าเหม็นของเครื่องในกับเลือดกบไปหมด แม้แต่เก้าอี้กับโต๊ะที่ถูกเศษเนื้อกับคราบเลือดกระเด็นใส่ก็เหม็นไปหมด
ใบหน้าของผู้ดูแลหวางเจ็บปวดบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปร่าง เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมากลางอากาศเพื่อขอความช่วยเหลือ ตอนนี้เองเรื่องที่น่าตะลึงได้เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาเห็นกับตาว่า ผิวบนมือของผู้ดูแลหวางที่ยื่นออกมานั้นได้ค่อยๆปริแตกออก เนื้อหนังหลุดออกมา สุดท้ายเหลือเพียงกระดูกสีขาวโพลน
แหวะ อ๊อก หยุนหนีทนไม่ได้หันหน้าพุ่งออกไปอาเจียนไม่หยุดตรงลานบ้าน
สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่เหยเก หากไม่มีตำแหน่งค้ำคอ ผู้อาวุโสใหญ่ก็อยากจะวิ่งออกไปเหมือนกับหยุนหนี อดทนฝืนกลั้นความปั่นป่วนที่มาถึงคอแล้ว ผู้อาวุโสเงยหน้าขึ้นมองจูนจิ่ว ม่านตาหดตัวลง
ภาพที่ราวกับแดนนรกเช่นนี้ แต่มุมปากของจูนจิ่วกลับมีรอยยิ้มจางๆแขวนอยู่ นางพิงอยู่กับเสาเรือนที่อยู่ตรงมุมกำแพงอย่างเกียจคร้าน หลีกเลี่ยงคราบเลือดและเศษเนื้อที่สาดกระเซ็นได้อย่างหมดจด เห็นเขาหันมามองจูนจิ่วยังยิ้มให้เขาด้วย
ผู้อาวุโสใหญ่……
เกือบจะทนต่อความเรียกร้องในใจไม่ได้อยู่แล้ว คิดอยากจะพุ่งออกไปข้างนอกคุกเข่าลงกับพื้นหญ้าอาเจียนมันออกมาให้หมด แต่นังเด็กเมื่อวานซืนตรงหน้ากลับมีสีหน้าไม่เปลี่ยน ยังคงยิ้ม บ้าไปแล้วกระมัง
ผู้อาวุโสใหญ่สามารถมั่นใจได้ร้อยทั้งร้อยว่า ที่ผู้ดูแลหวางตกอยู่ในสภาพนี้เพราะจูนจิ่วเป็นคนทำ แต่นางทำได้อย่างไร พลังของเข็มเงินเล่มนั้น จะเป็นไปได้อย่างไร
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่อยากเชื่อ แต่จะไม่ให้เชื่อก็ไม่ได้
ที่นี่ไม่มีนักกลั่นยา หรือถึงแม้จะมี ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเข็มเล่มนั้นเป็นแค่ตัวกระตุ้นหรือไม่
มันได้ทำการเร่งยาพิษในร่างกายของผู้ดูแลหวางที่มีอยู่แล้ว ทำให้ภายในเน่าเปื่อย เหลือแค่กระดูก
จูนจิ่วได้พิสูจน์ทุกอย่างเหมือนที่เคยบอกไว้กับผู้ดูแลหวางแล้ว
ยิ้มอย่างอารมณ์ดี จูนจิ่วรู้สึกว่าผลที่ออกมาก็ไม่เลว
เห็นปฏิกิริยาของผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนี จูนจิ่วสายตาเย็นชา ละครควรถึงตอนจบซะที
นางเดินไปข้างหน้าสองก้าว เปิดปากเอ่ยเสียงเย็น “อาจารย์ ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาได้ตายแล้ว”
ผู้อาวุโสใหญ่……
หยุนหนี แหวะ
จูนจิ่วเป็นคนทำจริงๆ สายตาของผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนีต่างก็มีอาการสยอง ยังมีแววหวาดกลัวสายหนึ่งที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่ทันสังเกตเห็น เห็นพื้นในห้อง เต็มไปด้วยร่างที่เน่าเฟะเละเทะและโครงกระดูกของผู้ดูแลหวาง ผู้อาวุโสใหญ่สูดลมหายใจเข้า
เขาอดไม่ได้ที่จะถามจูนจิ่วอย่างสยดสยอง “เจ้าทำอะไรกับเขา”
“ใช้ยาพิษ”
“ยาพิษชนิดไหนกัน”ผู้อาวุโสใหญ่น้ำเสียงร้อนรน เขากำหมัดแน่น สายตาประกายแสง เป็นยาพิษจริงๆ เขาเกิดมานานจนผ่านไปครึ่งชีวิตแล้วยังไม่เคยเห็นพิษที่ร้ายแรงขนาดนี้มาก่อน หมอเทวดาจูนจิ่วร้ายกาจขนาดนี้เชียว
หยุนหนีมองไปทางจูนจิ่ว แววหวาดกลัวในตายิ่งลึกขึ้น หากพวกนางถูกเปิดโปงขึ้นมา จูนจิ่วใช้ยาพิษนี้กับนาง เพียงแค่คิด หยุนหนีก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา เหงื่อเย็นไหลเป็นทาง
ตบมือเบาๆ จูนจิ่วจัดระเบียบเสื้อผ้าบนร่างของตัวเอง นางยิ้มเย็นและพูดว่า “ก็แค่ของเล่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ควรแก่การพูดถึงด้วยซ้ำ ข้าได้จัดการผู้ดูแลหวางแล้ว ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสใหญ่ยังมีอะไรต้องการจะสั่งกำชับอีกหรือไม่”
พิษของจูนจิ่วทำให้ทุกคนต่างตกใจและสยองไปพร้อมกัน ปากของผู้อาวุโสใหญ่มีคำพูดขึ้นมาจุกอยู่แล้วสุดท้ายก็พูดออกมาว่า “ไม่มีแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของอาจารย์กับศิษย์พี่หยุนหนีแล้ว จูนจิ่วขอลา”
ผู้อาวุโสใหญ่มองจูนจิ่วที่เดินจากไปด้วยสายตานิ่งอึ้ง ไม่ได้สติอยู่เป็นนาย จนกระทั่งหยุนหนีที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่กล้าเข้าไป ร้องเรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ท่านปู่”
ผู้อาวุโสใหญ่จึงได้สติคืนมา เขามองกวาดไปในเรือนที่เต็มได้ร่างเละเทะของผู้ดูแลหวาง สีหน้าเปลี่ยนสลับไปมาสุดท้ายก็สงบลง ผู้อาวุโสใหญ่รีบสั่งการทันที “หยุนหนี ไปเชิญนักกลั่นยาพิษมาที่นี่ตอนนี้ ไปเร็ว”