บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 387 ลงมือกับจูนจิ่ว
บทที่ 387 ลงมือกับจูนจิ่ว
ป้ายหลิงซู น้ำพุหลิงซู
ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีฐานะสูงส่งในสามสำนักศึกษา จะไม่มีทางได้รับรู้ถึงข้อมูลวงในเช่นนี้ แต่ว่านักจิตทั้งหลายตั้งก็รู้จักถีหุก้วนติ่ง ตำนานกล่าวว่ามัน ฝึกฝนได้เข้มข้นกว่าการเข้าญาณทิพย์ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสในการถีหูก้วนติ่ง ลูกศิษย์ของสำนักศึกษาเทียนซูเหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะดีใจเป็นอย่างมาก
เดิมทีจำนวนคนของสำนักศึกษาเทียนซู ได้ถูกหงยิงกับลูกศิษย์อีกจำนวนหนึ่งกำหนดไว้แล้ว แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่า พอเข้าไปในวงกลมแห่งชัยชนะแล้วต้องตายในสุสานของอ๋องเซ่หยิ่ง แม้แต่หงยิงยังได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นสุดท้ายจึงเหลือมาถึงพวกเขา
แต่พอนึกถึงนิสัยของหงยิงแล้ว ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าลูกศิษย์เหล่านี้โชคดี หรือว่ากลับไปแล้วจะซวยหรือไม่
หลังจากที่ทุกคนได้รับป้ายหลิงซูแล้ว เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวก็สะบัดแขนเสื้อ เอาเรือทิพย์ออกมา เรือทิพย์เป็นพาหนะที่ทั้งสามสำนักศึกษาใช้ในการเดินทางบ่อยที่สุด พอทุกคนขึ้นไปแล้วก็ออกเดินทางทันที จนพวกเขามาถึงน้ำพุหลิงซู และได้รับถีหูก้วนติ่งแล้วค่อยแยกย้ายกันกลับไปยังสำนักศึกษาของตัวเอง
มองพวกจูนจิ่วขึ้นเรือทิพย์ด้วยตาปริบๆ ออกไปพร้อมกับเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียว หยุนหนีอิจฉาจนต้องกำหมัดไว้แน่น แต่ใบหน้าไม่เผยความคิดชั่วร้ายออกมาเลยสักนิด ยังคงส่งยิ้มอวยพรให้กับพวกจูนจิ่วอย่างเต็มใบหน้า
รอให้กลับไปพร้อมกับผู้อาวุโสใหญ่ ในที่ที่ไม่มีผู้คน หยุนหนีก็เผยธาตุแท้ทันที นางพูดกับผู้อาวุโสใหญ่ด้วยตาแดงก่ำ “ท่านปู่ ข้าไม่ยอม”
“เล่าเรื่องที่พวกเจ้าเข้าไปในสุสานของอ๋องเซ่หยิ่งให้ข้าฟังอย่างละเอียดก่อน”ผู้อาวุโสใหญ่ยังคงสงบนิ่ง หรือบางทีเขาอาจจะผิดหวังกับหยุนหนีก็ว่าได้ ไม่คาดหวังอีกแล้วว่าหยุนหนีจะชิงวิชาจิตของวิชาฝึกตนมาจากจูนจิ่วได้อีกแล้ว เห็นที เขาคงต้องลงมือเองซะแล้ว
รอให้หยุนหนีเล่าเรื่องโดยใส่สีตีไข่ทั้งหมดจนจบแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่ก็ขมวดคิ้วไม่เชื่อ “เจ้าบอกว่าจูนจิ่วคนเดียวก็สามารถย่อยพลังของหินหยกทิพย์ไปมากกว่าครึ่งเลยหรือ อีกอย่างนางเป็นคนทำให้หงยิงได้รับบาดเจ็บ ทำให้หงยิงต้องใช้วิชาลับหนีตาย”
“ถูกต้อง ท่านปู่นี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ”หยุนหนีรู้ว่ายากจะเชื่อได้
หากนางไม่เห็นเองกับตา นางเองก็คงไม่เชื่อ จูนจิ่วเป็นใคร แล้วหงยิงเป็นใคร คนอย่างจูนจิ่วน่ะหรือจะสามารถทำให้นักจิตใหญ่ชั้นสอง เพชฌฆาตหญิงแห่งเทียงฉิว ศิษย์รักของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูต้องใช้วิชาลับเพื่อหนีตาย
แต่นี่ล้วนเป็นเรื่องจริง
ผู้อาวุโสใหญ่รีบถามต่อทันที “ที่เจ้าเล่ามาทั้งหมดแน่ใจนะว่าไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากที่จูนจิ่วได้รับมรดกของอ๋องเซ่หยิ่งแล้ว ”
“ไม่ใช่ ท่านปู่ เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อน ตอนนั้นจูนจิ่วยังไม่ได้รับมรดกของอ๋องเซ่หยิ่ง ข้าสงสัยว่าจูนจิ่วจะมีของลับล้ำค่า จึงได้ร้ายกาจขึ้นอย่างกะทันหัน สามารถทำให้หงยิงพ่ายแพ้ได้ ยังมีอีกนะท่านปู่ ข้า สถานะของข้าถูกเปิดเผยต่อหน้าพวกศิษย์พี่มู่แล้ว”หยุนหนีเอ่ยเสียงเบา
ได้ยินแล้วผู้อาวุโสใหญ่ก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ตำหนิหยุนหนี เขาเอามือไขว้หลังไว้ คิ้วขมวดแน่น
หยุนหนีระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกรงว่าผู้อาวุโสใหญ่จะโกรธ นางพูดต่อไปว่า “ท่านปู่ ศิษย์พี่มู่กลับมาคงต้องบอกเรื่องนี้กับเจ้าสำนักแน่ เจ้าสำนักคงต้องตรวจสอบพวกเรา ครั้งนี้ข้ากลัวว่าจะถูกจับได้จริงๆ”
เพราะเรื่องของจูนจิ่วแท้ๆ ทำให้หงยิงต้องติดต่อกับพวกเขาบ่อยขึ้น นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายปี ฉะนั้น หยุนหนีจึงกลัวว่าครั้งนี้จะถูกเปิดเผยตัวตนจริง เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูเกลียดการแบ่งพรรคแบ่งพวกมากที่สุด ยิ่งไม่ชอบวิธีการของสำนักศึกษาเทียนซู หากรู้ว่าพวกเขาเป็นคนของเทียงฉิว เกรงว่าจะส่งผลต่อตำแหน่งของผู้อาวุโสใหญ่
ฝังออกถึงความกลัวและเป็นกังวลในน้ำเสียงของหยุนหนี ผู้อาวุโสใหญ่ฮึเสียงเย็น “ถ้าเจ้ามีสติรับรู้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่เปิดเผยตัวตนให้ถูกสงสัย ฮึ ช่างเถอะ แม้เจ้าสำนักจะรู้ก็คงไม่กล้าลงมือในทันที เพียงแต่”
“ท่านปู่ เพียงแต่อะไร”
“เพียงแต่หลังถูกเปิดเผยตัวแล้ว จะจับตัวจูนจิ่วก็ยากแล้ว จูนจิ่วได้รับมรดกของอ๋องเซ่หยิ่ง ต้องได้กลายเป็นลูกศิษย์คนสำคัญที่จะได้รับการบ่มเพาะ เกรงว่าหากรอนางกลับมา เจ้าสำนักคงให้คนรีบพาตัวนางไป”สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ขรึมลง
จะเป็นสาขาหนึ่งของเจ้าสำนัก หรือสาขาสองของเขา ขอเพียงไม่ใช่คนโง่
ก็จะรู้ว่าควรเลือกอย่างไร ยิ่งหยุนหนีถูกเปิดโปงแล้ว จูนจิ่วต้องมีการระวังตัวเพิ่มขึ้น พอคิดว่าจูนจิ่วไปแล้ว การจะเอาวิชาจิตของวิชาฝึกตนก็จะลำบากมากขึ้น ห่างไกลออกไปทุกที ผู้อาวุโสใหญ่ก็ร้อนใจ โมโห ไม่ยอม เขากลอกตาไปมา เปิดปากเอ่ยขึ้นว่า “หยุนหนี เจ้ารีบไปเตรียมคนให้พร้อม ไม่เอาคนของเทียงฉิว ไปหาคนของเราเอง รวบรวมมาให้หมด”
พอได้ยิน หยุนหนีก็ใจเต้นแรง นางรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง “ท่านปู่จะทำอะไร”
“อย่าให้จูนจิ่วกลับมาได้ จะลงมือก็ต้องทำระหว่างทางที่นางกลับจากน้ำพุหลิงซู เพราะเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวคงไม่ส่งพวกเขา มีเพียงกลุ่มคนที่สำนักศึกษาไท่ชูไปรอต้อนรับ ข้าจะเปลี่ยนคนพวกนี้เป็นคนของข้าทั้งหมด”
แววตาชั่วร้าย ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มชั่วร้ายลูบเคราตัวเอง เขาพูดต่อว่า “จับตัวจูนจิ่วให้ได้ระหว่างทาง เค้นถามด้วยวิธีลงโทษหนักๆไม่เชื่อหรอกว่านางจะไม่บอกวิชาจิตของวิชาฝึกตน พอได้วิชาจิตมาแล้ว ค่อยส่งนางให้เทียงฉิว ”
พอเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูได้รู้ความจริงทั้งหมดจากปากหงยิง เป็นจูนจิ่วที่เกือบจะใช้นางบูชาเลือด เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูคงต้องมุ่งตางมาที่สำนักศึกษาไท่ชูแน่ เพื่อเอาจูนจิ่วไปถาม ฉะนั้นเขาต้องชิงจับตัวจูนจิ่วให้ได้ก่อนที่หงยิงจะพูดความจริง เพื่อเค้นถามนาง ค่อยส่งนางไป ไม่เพียงแต่ได้วิชาจิต ยังสร้างผลงานให้เทียงฉิวด้วย
คิดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าฮ่า ราวกับเขามองเห็นชัยชนะของตัวเองแล้ว
แล้วมองไปยังหยุนหนี ผู้อาวุโสพูดว่า “หยุนหนี แม้ว่าจะน่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้ไปที่น้ำพุหลิงซู แต่ยาทิพย์ใหญ่ได้กลั่นเสร็จแล้ว ไม่ช้าเจ้าก็จะบรรลุเป็นนักจิตใหญ่
“จริงหรือ นักกลั่นยาพิษทำสำเร็จแล้วหรือ”เห็นผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า หยุนหนีก็ลิงโลดใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดนางก็จะสามารถหลุดพ้นจากชั้นที่น่าอับอายเสียที บรรลุขึ้นไปชั้นนักจิตใหญ่สำเร็จ ดีใจที่สุดเลย หยุนหนีรีบหมุนตัวไปทำงานของตัวเองทันที
สามารถไปน้ำพุหลิงซู ได้รับการถีหูก้วนติ่งแล้วอย่างไร ก็ให้จูนจิ่วดีใจไปก่อน รอให้นางกลับมาระหว่างทางก็จะเป็นวาระสุดท้ายของนาง หยุนหนีแทบจะอดใจรอดูสีหน้าตอนนั้นของจูนจิ่วไม่ไหว แค่คิดหยุนหนีก็มีความสุขแล้ว สะใจจริงๆ ส่วนเรื่องที่กังวลว่าหงยิงจะบอกเรื่องราวทั้งหมดกับเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูก่อนนั้น จุดนี้ หยุนหนีกับผู้อาวุโสใหญ่ไม่กังวล
เพราะว่าการใช้วิชาลับเพื่อหนีตาย หงยิงก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว รอให้นางฟื้นจากอาการสลบไสลจากการบาดเจ็บ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือน พอที่พวกเขาจะทำตามแผนได้สำเร็จ
อีกฝั่งในสำนักศึกษาเทียนซู สถานการณ์เป็นไปตามที่พวกหยุนหนีเดาไว้ไม่มีผิด เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูยืนอยู่บนหัวเตียง แววตาเคร่งขรึมอันตรายมองไปยังหงยิงที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ศิษย์รักของเขา ตอนนี้เหลือเพียงลมหานใจเล็กน้อย ใครกันที่ทำให้นางเป็นเช่นนี้
นี่เป็นคำตอบที่ต้องรอหงยิงตื่นขึ้นมาแล้วจึงจะรู้ได้ แต่มีบางเรื่อง ที่เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไม่อาจทนรอได้
เขายกมือขึ้น หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวที่ซ่อนตัวอยู่ก็มาคุกเข่าตรงหน้า เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูพูดว่า “ส่งคนไปที่กุยซู เรียกตัวซิงโล่เฉินกลับมา หากเขาไม่ยินยอม ก็บอกเขาไปว่าข้ารู้เบาะแสของสิ่งล้ำค่าแล้ว”
“รับบัญชา”
“อีกอย่าง ส่งคนไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่น้ำพุหลิงซู ทุกความเคลื่อนไหวของจูนจิ่ว ข้าต้องได้รู้ทั้งหมด ”สีหน้าของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโหดเหี้ยมอันตราย