บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 391 เจ้านายหวั่นไหวแล้ว
เดิมทีเสี่ยวอู่ยังไม่ตื่น เพราะว่าพลังยังดูดซับไม่หมดมันคิดว่าอย่างน้อยต้องนอนต่ออีกครึ่งเดือน แต่เสี่ยวอู่ได้ยินเข้า
มันได้ยินเสียงในหัวใจของเจ้านายตัวเอง ฝึกคู่อะไรนั่น แล้วยังมีเรื่องคู่วิญญาณอีก รอมันตื่นคงต้องไปร่วมพิธีแต่งงานของเจ้านายกับโม่อู๋เยว่แล้วกระมัง เสี่ยวอู่จึงสะดุ้งตื่นขึ้นกะทันหัน แยกเขี้ยวยิงฟัน
จ้องเขม็งไปที่โม่อู๋เยว่ เสี่ยวอู่พูดว่า “เจ้านาย อย่าหลงกลเด็ดขาด เจ้านายมีคนให้เลือกเป็นภูเขา ทำไมต้องแขวนตัวเองไว้กับเขาด้วย”
“ฟู่”จูนจิ่วสำลัก หัวเราะออกมา
นางยื่นมือไปผลักโม่อู่เยว่แต่ก็ผลักไม่ออก เงยหน้ามองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีดำของโม่อู่เยว่ ยิ้มบางๆ “เสี่ยวอู่พูดไม่ผิด เพื่อท่านแล้วต้องทิ้งคนทั้งภูเขา เหมือนข้าจะขาดทุนอยู่นะ”
“ภูเขาเป็นร้อยรวมกัน ก็ดีสู้ข้าคนเดียวไม่ได้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แน่ใจหรือว่าขาดทุน ”โม่อู่เยว่ขมวดคิ้ว แววตาสีทองฉายแววยโสเอาแต่ใจ มีเขาคนเดียว ก็เหนือกว่านับพันนับหมื่น
หลงตัวเองซะไม่มี แล้วใครใช้ให้เขามีสิทธิ์ที่จะหลงตัวเองอย่างนี้เล่า
มุมปากโค้งขึ้นอีก จูนจิ่วพูดว่า “ขาดทุนหรือไม่อยู่ที่ข้า ตอนนี้ท่านปล่อยข้าก่อน ไม่เช่นนั้นแมวของข้าจะข่วนท่านแล้ว”มองท่าทีของเสี่ยวอู่ ราวกับกำลังรอที่จะข่วนใบหน้าของโม่อู๋เยว่ให้ลายไปเลย แม้ว่าพุ่งเข้าหาก็คงข่วนไม่ถึง แต่เสี่ยวอู่ก็ยังคงมีความหวังล้มๆแล้งๆ
โม่อู๋เยว่ไม่ได้ปล่อย แววตาสีทองลึกซึ้งมองไปยังจูนจิ่ว ปากบางเผยอขึ้น น้ำเสียงที่แหบพร่าแฝงแววแห่งการรอคอย “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังไม่ได้ตอบข้า เจ้ายินดีหรือไม่”
“ยินดี แต่ข้าไม่อยากทำ”
“เพราะอะไร”
“ข้าไม่เคยชื่นชอบใครมาก่อน ยิ่งไม่เคยรักใครมาก่อนด้วย แต่ข้าคิดว่า ถ้าข้าได้รักใครเข้าคงเป็นเรื่องของตลอดชีวิต ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน ”จูนจิ่วจับมือโม่อู๋เยว่ มาวางไว้บริเวณหัวใจ
จูนจิ่วพูดต่อว่า “แม่ข้าใช้เวลากว่าสิบเดือนในการสร้างหัวใจดวงหนึ่งขึ้นมา ข้าเองก็ทะนุถนอมมาหลายปี ข้าจะไม่ยอมอนุญาตให้ใครมาทำร้ายมันได้ รวมถึงตัวข้าเอง อู๋เยว่ท่านเข้าใจหรือไม่ ”
ไม่รัก ก็ไม่เจ็บปวด ฉะนั้นนางต้องระวังตัว ไม่อนุญาตให้ตัวเองหวั่นไหวง่ายๆ
แม้ว่าโม่อู๋เยว่จะทำให้นางได้รับความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้นางหัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำให้นางมีความสุข ทำให้นางอดใจไว้ไม่ได้ แต่นางก็ยินดีที่จะระมัดระวังใจตัวเองไว้บ้าง เพราะนางรู้จักโม่อู๋เยว่ไม่มากพอ นี่ทำให้จูนจิ่วรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย
แต่คำพูดของจูนจิ่วที่จริงจังนี้ พอไปถึงหูของโม่อู่เยว่เขาจับใจความได้แต่คำแรก
โม่อู๋เยว่ฉีกยิ้มมุมปาก แววตาสีทองสว่างวาบขึ้นมา เขามองจูนจิ่วอย่างนิ่งลึก “พูดเช่นนี้ ข้าคงจะเป็นคนแรกที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ชอบและรักสินะ”
จูนจิ่ว ……
เสี่ยวอู่……
“ข้าไม่ได้ยอมรับเสียหน่อย ว่าข้าชอบท่าน ”มุมปากกระตุก จูนจิ่วจ้องโม่อู๋เยว่อย่างโมโห
โม่อู๋เยว่ยังคงยิ้ม ชั่วร้ายมีเสน่ห์และหยอกเย้า
เขาเชยคางของจูนจิ่วขึ้น ก่อนที่จูนจิ่วจะทันรู้ตัวก็บรรจงจูบลงมาเสียแล้ว ปากบางที่เย็นเฉียบ ปลายลิ้นที่เจ้าเล่ห์ค่อยๆดุนเพื่อเปิดแนวฟัน จูนจิ่วขมวดคิ้วกำลังจะตอบโต้ ของเย็นๆสิ่งหนึ่งก็ส่งเข้ามาในปาก จากนั้นโม่อู๋เยว่ก็ถอยห่างออกไป
ของสิ่งนั้นพอเข้าปากไปก็ละลายทันที จูนจิ่วยังไม่ทันได้รับรู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร นางขมวดคิ้วมองไปยังโม่อู๋เยว่ “เมื่อครู่เจ้าป้อนข้ากินอะไร ”
“เลือดหัวใจ”
จูนจิ่ว ??
โม่อู๋เยว่ก้มหน้า เอาหน้าผากของตัวเองชนกับหน้าผากของจูนจิ่วเบาๆ ดวงตาสีทองสีทองจ้องมองดวงตาของจูนจิ่วอย่างใกล้ชิด เห็นแววตาของโม่อู๋เยว่ จูนจิ่วก็สงบลงอย่างช่วยไม่ได้ เขาพูดว่า “ข้าขอใช้เลือดหัวใจของข้าสาบาน ที่ข้ามีทั้งหมดล้วนเป็นของเจ้าทั้งสิ้น เจ้ายังไม่รักข้า ไม่เป็นไร เวลาที่ข้ามีทั้งหมดสามารถใช้เพื่อรอเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ รอให้เจ้าค้นพบว่าข้าคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเจ้า ”
“มั่นใจในตัวเองมากไปก็ไม่ดี”
“ไม่ใช่ความมั่นใจ”โม่อู๋เยว่ยิ้มมุมปาก ยิ้มชั่วร้ายเอาแต่ใจ “ข้านั้นมีหนึ่งเดียวไม่มีสอง เท่ากับเป็นอีกครึ่งหนึ่งของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์”
หยอกเย้าอย่างเอาแต่ใจ มีความกระหายเต็มที่
หัวใจของจูนจิ่วเต้นโครมครามอยู่สองที ถ้าหากนางไม่แสดงออกถึงความสงบนิ่งเฉย เปลี่ยนเป็นหญิงทั่วไปคงจะโถมเข้าหาอ้อมอกของโม่อู๋เยว่ไปนานแล้ว จูนจิ่วคิดในใจว่าโม่อู๋เยว่พูดไม่ผิด เขา เป็นหนึ่งไม่มีสอง บนโลกนี้อยากจะหาได้อีกคน
เสียงของเสี่ยวอู่ ก็ดังขึ้นเบาๆในสมองของจูนจิ่วอย่างกะทันหัน “เจ้านายหวั่นไหวแล้วหรือ”
จูนจิ่วแววตาสั่นระริก นางผลักโม่อู๋เยว่ออกด้วยสีหน้าเย็นชา ครั้งนี้ผลักออกได้อย่างง่ายดาย จูนจิ่วถอยหลังไปยังขอบสระที่มีระยะห่างจากโม่อู๋เยว่พอสมควร เสี่ยวอู่เดินมายืนอยู่ข้างกายนาง สายตายังคงจ้องเขม็งไปที่โม่อู๋เยว่
จูนจิ่วไอแห้งหนึ่งเสียง “ยังไม่นัดฝึกคู่ ข้าต้องฝึกฝรต่อ อู๋เยว่ท่านจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ”
“ใช่แล้ว ”หลังจากจูนจิ่วบรรลุชั้นห้า เสี่ยวอู่ก็สามารถพูดภาษาคนได้แล้ว
โม่อู๋เยว่ยิ้มมองหนึ่งคนหนึ่งแมว คนแรกนั้นหลบเขาเพราะร้อนตัว เพราะเขาได้ยินเสียงของเสี่ยวอู่พูดว่า หวั่นไหวแล้วหรือ เห็นได้ชัดว่าจูนจิ่วที่หยอกเล่นไม่เอาจริงนั้นเกิดขี้ขลาดขึ้นมาเสียแล้ว
ไม่เป็นไร เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นอย่างนี้ก็น่ารักดี ขอเพียงนางหยอกแค่เขา จะเอาจะแต่งหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สุดท้ายก็ต้องพากลับบ้าน ถึงตอนนั้นเปลี่ยนเป็นเขาไปสู่ขอก็ได้ ส่วนเสี่ยวอู่นั้น จงรักภักดีต่อเจ้านายอย่างน่าชื่นชม สรุปแล้ว โม่อู๋เยว่อารมณ์ดีมาก
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ตกลงเรื่องฝึกคู่ โม่อู่เยว่ก็คิดไว้แล้ว ฉะนั้นเขาจึงได้เตรียมเลือดหัวใจเอาไว้ นี่มีแต่ผลดีไม่มีผลเสียต่อจูนจิ่ว เพียงแค่ล็อกนางเอาไว้เท่านั้น นอกจากเขาแล้วจูนจิ่วจะฝึกคู่กับใครไม่ได้อีก นี่คือวิถีแห่งความเอาแต่ใจของเผ่ามังกร ทำให้โม่อู่เยว่ต้องประทับตราจองไว้ก่อน
ความคิดทั้งหมด เกิดขึ้นในชั่วพริบตา โม่อู๋เยว่ยิ้มชั่วร้าย ก้าวเท้าออกไปจากน้ำพุหลิงซู
น้ำพุทำให้เสื้อผ้าเขาเปียกไปหมด เปียกชุ่มจนทำให้เสื้อผ้าแนบไปกับลำตัวเผยให้เห็นสัดส่วนที่แสนจะยั่วยวนใจ แผงอก กล้ามหน้าท้อง ขาที่เรียวยาวคู่นั้น ซี๊ด จูนจิ่วยากจะละสายตาไปได้ งดงามเย้ายวนมาก
โม่อู๋เยว่ “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ฝึกฝนอย่างสบายใจเถอะมีเลือดหัวใจของข้าอยู่ ถีหูก้วนติ่งจะไม่ล้มเหลวอีก”
เลือดหัวใจให้ผลเช่นนี้ด้วยหรือ
จูนจิ่วจับที่ริมฝีปาก หางตาเหลือบไปเห็นโม่อู๋เยว่ยังมองตนเองอยู่ สัมผัสระหว่างปลายนิ้วกับริมฝีปากก็ร้อนผ่าวขึ้นทันที จูนจิ่วแสร้งทำเป็นสงบเงยหน้ามองไปยังโม่อู๋เยว่
“ข้ารู้แล้ว ท่านยังไม่ไปอีกหรือ”
“ไปแล้ว”
ใช้สายตาส่งโม่อู๋เยว่จนลับตาไปแล้ว จูนจิ่วค่อยๆระบายลมหายใจหนึ่งเฮือก เสี่ยวอู่เอียงหน้ามองนาง“เจ้านายหวั่นไหวซะแล้ว”
“อืม ข้าหวั่นไหว แต่ข้าไม่ได้ตอบตกลงกับเขา ถ้ารักก็เป็นเรื่องของทั้งชีวิต คงยุ่งยากมาก”จูนจิ่วจับริมฝีปาก จากนั้นก็หลับตานั่งอยู่ในน้ำพุร้อน นั่งขัดสมาธิฝึกฝนอีกครั้ง
โม่อู๋เยว่พูดไว้ไม่ผิด ครั้งนี้ไม่ล้มเหลวอีกต่อไป
เสี่ยวอู่มองจูนจิ่ว จากนั้นก็หมอบลงขดตัวเป็นก้อนกลม มันทำเสียงขู่ในลำคอไม่หยุด ดวงตาของมันหรี่เป็นเส้นตรง เสี่ยวอู่คิด แย่แล้ว
อาศัยความเข้าใจที่มันมีต่อเจ้านาย เห็นได้ชัดว่าขี้ขลาดขึ้นมาแล้ว หยอกเย้าอย่างไม่สำรวม คนที่คิดอยากจะได้โม่อู๋เยว่ยังจะมีใครอีก
แต่ว่า เสี่ยวอู่ลูบเครา ร้องเหมียวเหมียว เจ้านายทำอะไรก็ถูกต้อง
เป็นตัวยกยอปอปั้นของเจ้านาย ก็ต้องสนับสนุนเจ้านายอย่างไร้เงื่อนไข ที่แขวะไปเมื่อครู่ก็คิดเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ขณะที่จูนจิ่วตั้งใจฝึกฝนอยู่ที่นี่ ไม่ไกลออกไปนักป้าฟางกำลังรออย่างเงียบๆอยู่ข้างทาง