บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 400 สู่ขออู๋เยว่กลับบ้านดีหรือไม่
จูนจิ่วผลักใบหน้าของโม่อู๋เยว่ออก มองชิงหยู่อย่างจริงจังและพูดว่า “เป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ในนาม ”
“ลูกศิษย์กับอาจารย์ในนาม ก็สามารถจูบได้หรือ”ชิงหยู่ยังคงใจสลายและตกใจอยู่ เขาว่าแล้วทำไมโม่อู๋เยว่จึงได้ดีกับจูนจิ่วนัก ดีจนเกินความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ แต่ว่าศิษย์น้องบอกว่าเป็นอาจารย์ เขาก็เลยไม่คิดมาก
แต่ปรากฏว่า ข้าคิดว่าเจ้าเป็นอาจารย์ของศิษย์น้อง เจ้ากลับอยากนอนกับศิษย์น้องข้า มันชักจะเกินไปแล้ว
ชิงหยู่จ้องโม่อู๋เยว่เขม็ง “เจ้าทำอย่างนี้จะทำศิษย์น้องเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ศิษย์น้องยังเด็กเกินไป ไม่รู้เรื่องความรัก นี่ท่านกำลังหลอกล่อนาง”
“ฟู่”จูนจิ่วสำลักหัวเราะออกมา
โม่อู๋เยว่มองจูนจิ่วด้วยความเอ็นดู ตามใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วมองไปทางชิงหยู่ สีหน้าราวกับไม่ได้เอาคำพูดของชิงหยู่มาใส่ใจเลยสักนิดเดียว เห็นดังนี้ชิงหยู่ก็ยิ่งมึนงง
เขาอ้าปาก มองจูนจิ่วอย่างไม่เข้าใจ “ศิษย์น้องเจ้ายังจะหัวเราะอีก เจ้ารู้หรือไม่หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป หรือว่าถูกคนอื่นเห็นเข้า จะเป็นอุปสรรคในการแต่งงานของเจ้านะ”
“แต่งไม่ออกข้าก็เป็นฝ่ายไปขอแทน ไม่เป็นไร ”จูนจิ่วขยิบตาให้กับชิงหยู่อย่างหยอกล้อ
“สู่ขอ”
จูนจิ่วพยักหน้า “ใช่ ท่านดูอู๋เยว่เป็นอย่างไรบ้าง ข้าสู่ขออู๋เยว่กลับบ้านดีหรือไม่ ”เห็นศิษย์พี่ของตนเองถูกนางแกล้งจนสีหน้าไม่ดีแล้ว จูนจิ่วก็หัวเราะไม่หยุด หัวเราะอยู่ในอกของโม่อู๋เยว่จนจับเสื้อเขาไว้แน่นพยายามจะให้ตัวเองสงบลง ศิษย์พี่ที่จริงจังเคร่งขรึมช่างน่าแกล้งเหลือเกิน
หัวเราะพอแล้ว มองชิงหยู่ที่ยังคงมีสีหน้าราวกับตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขาเป็นใครอยู่ที่ไหนกันแน่ จูนจิ่วก็ไอแห้งๆ “อะแฮ่ม ศิษย์พี่ท่านอย่าห่วงเลย อู่เยว่อยากจะแต่งกับข้า ข้าก็คงไม่สู่ขอ ศิษย์พี่พูดถูก ข้ายังเด็กยังเล่นสนุกได้อีกหลายปี ”
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ”โม่อู๋เยว่แววตาขรึมลง
เขานวดฝ่ามือของจูนจิ่วอย่างไม่ค่อยพอใจ นี่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาหรืออย่างไร ยังอยากเล่นสนุกอีกหลายปี ขอแค่เล่นกับเขาเขาจะไม่ว่าเลย แต่ถ้าไปเล่นกับคนอื่น แววตาของโม่อู๋เยว่ก็มีแววอำมหิตแล่นผ่าน เขาจะทำให้ผู้ชายพวกนั้นเสียใจภายหลัง ที่เกิดมาเป็นคน
ชิงหยู่ ……
เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว กลับมีความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นกะทันหัน โม่อู๋เยว่เป็นสะใภ้ที่ดี แต่กลับถูกศิษย์น้องของเขาหยอกไปมา แล้วยังไม่รับผิดชอบ สวรรค์ ทัศนคติที่เขามีแทบจะแตกสลายไปหมดแล้ว
หยอกโม่อู๋เยว่ ศิษย์น้องร้ายกาจขนาดนั้นเชียว
ลูบหน้าเบาๆ ชิงหยู่เตือนตัวเองในใจว่าวันนี้เขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่เช่นนั้น
ศิษย์น้องดูแล้วช่างเหมือนผู้มากประสบการณ์ ส่วนมือใหม่หน้าหยกอย่างเขาที่ไหนสบายใจก็ไปที่นั่น เพราะเกรงว่าจะพังไม่เป็นท่า
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ชิงหยู่สงบจิตสงบใจ ยิ้มมองไปทางจูนจิ่ว “เช่นนั้นศิษย์น้องตอนนี้พวกเราจะทำอะไร มู่จิ่งหยวนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถขยับตัวเขาได้ ”
“อืม ”จูนจิ่วพยักหน้า “ใช้ยาที่ดีที่สุด บวกกับข้าทำให้ลมปราณของเขาเดินได้สะดวกขึ้น หลังจากนี้สามวันจึงเคลื่อนย้ายได้ แต่หากจะรอให้ตื่นคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ ”
ชิงหยู่ “แล้วพวกเรา”
โม่อู๋เยว่นวดที่ฝ่ามือของจูนจิ่วอีกครั้ง ก้มหน้ากระซิบที่ข้างหูนางว่าเสี่ยวหยิ่งกลับมาแล้ว กิริยาของคู่รัก เป็นการตอบโต้กันที่ดูแล้วอาจทำให้ตาบอดได้ ชิงหยู่สูดลมหายใจลึกๆอีกครั้งเลื่อนสายตาไปที่อื่น เขามองไม่เห็น
จูนจิ่วเหลือบมองกิริยาแปลกๆของชิงหยู่ นางพูดว่า “รอเสี่ยวหยิ่งส่งข่าวกลับมาก่อนค่อยว่ากัน ”
เสียงพูดเพิ่งจบลง เสี่ยวหยิ่งก็พุ่งเข้ามาจากนอกถ้ำ เขาสะบัดตัวเอาใบหญ้าออกจากตัว ตอนที่เงยหน้ามองโม่อู๋เยว่ยังชะงักไปชั่วครู่ ถอยหลังไปสองก้าว เสี่ยวหยิ่งค่อยเอ่ยขึ้นว่า “จูนจิ่ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
“เกิดเรื่องอีกแล้วหรือ”ชิงหยู่ได้ยินก็รีบถามกลับทันที
เสี่ยวหยิ่งส่ายหน้า จ้องตรงไปที่จูนจิ่วและพูดว่า “ข้างนอกนั้นมีข่าวลือไม่ทั่ว ผู้อาวุโสใหญ่กับเหล่าลูกศิษย์ของสำนักศึกษาไท่ชูล้วนถูกเจ้าฆ่า แม้ว่าข่าวนี้ที่จริงก็ไม่ผิด แต่ว่า ”
เสี่ยวหยิ่งมองไปยังโม่อู๋เยว่ แล้วก็มองไปทางมู่จิ่งหยวนจากนั้นก็พูดต่อ
สุดสำคัญคือ มู่จิ่งหยวนก็ถูกจูนจิ่วฆ่าเช่นกัน ตอนนี้เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูโกรธมาก และได้สั่งการให้คนไล่ล่าแล้ว เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูก็ร่วมด้วย เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวแม้จะไม่ได้ออกคำสั่ง แต่ลูกศิษย์ของสำนักศึกษาจื่อเซียวต่างก็อยากจะลองดู เมื่อคำสั่งไล่ล่าออกมา ลูกศิษย์ทั้งสำนักศึกษาก็สามารถฆ่าจูนจิ่วได้ ขอเพียงฆ่าจูนจิ่วได้ ก็จะมีรางวัลใหญ่ให้
“แล้วยังมีอะไรอีก”
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ข้าสะกดรอยตามเขา ได้ยินเขาส่งคนไปจับคนที่เทียนอู่จงด้วย ข้าได้ยินความหมายจากคำพูดของเขา เทียนอู่จงเหมือนจะเป็นสำนักเก่าของพวกเจ้าใช่หรือไม่ ”เสี่ยวหยิ่งพูด
ชิงหยู่กำหมัดแน่น สายตามีแววเดือดดาล เอ่ยอย่างกราดเกรี้ยว “ไร้ยางอาย พวกเขาคงอยากจะจับคนของเทียนอู่จงเพื่อข่มขู่พวกเรา ฮึ โชคดีที่ตอนพวกเรามาที่สำนักศึกษาทั้งสาม ศิษย์น้องก็ได้คิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว จึงได้เตรียมการป้องกันล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นพวกมันต้องทำสำเร็จแน่ ”
เสี่ยวหยิ่งได้ยินสิ่งที่ชิงหยู่พูด อดไม่ได้ที่จะมองจูนจิ่วอย่างประหลาดใจ มองการณ์ไกล ฉลาดเกินคนจริงๆ
ยังไม่ทันเกิดขึ้น จูนจิ่วก็คิดได้ล่วงหน้าและเตรียมการป้องกันแล้ว ไม่เพียงแต่จะใช้คำว่าร้ายกาจมาเปรียบเปรย ต้องเป็นปีศาจแน่ๆ ปีศาจดึงดูดปีศาจ ถึงว่าทำไมเขาถึงได้หลงใหลตั้งแต่แรกพบ ยังดึงดูดปีศาจตนใหญ่อย่างโม่อู๋เยว่มาด้วย
เสี่ยวหยิ่งพูดต่อไปว่า “เทียงฉิวได้ล้อมรอบป่านี้เอาไว้แล้ว ยังมีร้านยาข้างนอกอีก ล้วนถูกจับตามองอยู่ เหมือนเจ้าสำนักเทียนซูยังมีลูกศิษย์อีกคนคอยช่วยเหลือ แต่ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไรนั้นข้าได้ยินไม่ชัดเจน ”
หงยิงฟื้นแล้ว จูนจิ่วได้ยินก็คิดถึงคนนี้
นางกำลังครุ่นคิด แล้วก็ได้ยินโม่อู๋เยว่ที่พูดขึ้นข้างหู “เหลิ่งยวนยืนยันแล้ว เขาพูดถูก”
เหลิ่งยวน ใคร เสี่ยวหยิ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างที่เขาสืบหาข่าว ข้างหลังมีเหลิ่งยวนคอยจับตาเขาอยู่
ข่าวที่เสี่ยวหยิ่งเอากลับมานั้นเป็นความจริง แต่ยังไม่ครบถ้วน ชิงหยู่ใช้ความคิด
เปิดปากพูดว่า “ป่านี้ถูกปิดล้อม พวกเราต้องไปจากที่นี่กันก่อน แต่หลังจากนั้นเล่า มู่จิ่งหยวนไม่ตื่น พวกเราก็ไม่มีทางอธิบายให้เจ้าสำนักศึกษาไทชูเข้าใจได้ ”ไม่มีมู่จิ่งหยวน เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูที่แม้จะเคยชื่นชมพวกเขา แต่ก็คงไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาแน่
เพราะคนที่ปล่อยข่าวคือเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู ว่าพวกเขาฆ่าผู้อาวูโสใหญ่และลูกศิษย์ของสำนักศึกษาไท่ชู ใกล้ชิดหลานแท้ๆ ว่าที่เจ้าสำนักคนต่อไปของสำนักศึกษาไท่ชูมู่จิ่งหยวน ศัตรูเช่นนี้ แก้ไขยาก
ทันใดนั้นจูนจิ่วก็เอ่ยปากถามเสี่ยวหยิ่ง“ในข่าว ไม่มีบอกว่าพวกเราฆ่าหยุนหนีหรือ”
เสี่ยวหยิ่งส่ายหน้า ไมใช่เขาหลงลืมไป แต่เขาไม่ได้ยินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหยุนหนี จุดนี้เสี่ยวหยิ่งก็สงสัย หรือว่าเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูจะโยนความผิดเรื่องการตายของหยุนหนีไปให้ลูกศิษย์ของสำนักศึกษาไท่ชู
ในใจมีคำถามเกิดขึ้น จูนจิ่วเอ่ยขึ้นว่า “รออีกสามวัน รอให้สามารถเคลื่อนตัวมู่จิ่งหยวนได้ พาเขาไปที่สำนักศึกษาไท่ชู ข้าจะไปพบเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูเป็นการส่วนตัว ขอเพียงเขาเจอมู่จิ่งหยวน ทุกสิ่งก็สามารถคลี่คลายได้ ”
ชิงหยู่ขมวดคิ้ว “มู่จิ่งหยวนไม่ตื่นจะไหวหรือ”
“เขาต้องฟื้นแน่”
“แต่ว่าพวกเราจะเจอเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูได้อย่างไร ศิษย์น้อง พวกเราตอนนี้เกรงว่าแม้แต่จะเข้าสำนักศึกษาไท่ชูก็ยังทำไม่ได้”
จูนจิ่วยิ้ม ส่ายหน้า นางเงยหน้าขึ้นมองชิงหยู่ รอยยิ้มกำเริบเสิบสาน “เจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุนเป็นคนของข้า เขาจะเปิดทางให้เรา และจะส่งข่าวให้กับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู ”
อะไรนะ
ชิงหยู่ตะลึง เจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุนเป็นคนของจูนจิ่ว เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเขาไม่รู้เลยสักนิด อีกอย่างจูเก๋อหุนคิดจะฆ่าพวกเขาตั้งหลายครั้ง
“ถึงตอนนั้นแล้ว ศิษย์พี่ก็จะรู้เอง ”จูนจิ่วยิ้มอย่างลึกลับมีเสศนัย