บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 401 ตั้งตารอ
หงยิงฟื้นแล้ว วิชาลับหนีตาย นางเหลือแค่ลมหายใจเฮือกเดียว เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูใช้ยาที่ดีที่สุดไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ จึงเกี่ยวชีวิตของหงยิงเอาไว้ได้
คนที่รู้วิชาลับนี้มีน้อยมาก ล้วนแล้วเป็นคนสำคัญของสำนักศึกษาเทียนซู และเทียงฉิว ร้อยกว่าปีมานี้ หงยิงถือเป็นคนแรกที่ใช้วิชาลับในการหนีเอาตัวรอด
ฉะนั้นเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูจึงอยากจะรู้ว่า ใครกันที่ทำร้ายหงยิงอย่างสาหัสเช่นนี้
ฝู้หลินจ้าน ฝู้หลินซวงหรือมู่จิ่งหยวน หรือว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน ล้วนเป็นได้ได้ทั้งสิ้น แต่เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูกลับคิดไม่ถึง มองหงยิงด้วยความตกใจ “เจ้าว่าอะไรนะ จูนจิ่ว แค่จูนจิ่วคนเดียวเกือบฆ่าเจ้าได้แล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร ”
“อาจารย์ นี่เป็นเรื่องจริง อาจารย์ ข้าสงสัยว่าจูนจิ่วจะใช้ของล้ำค่าจึงได้กลายเป็นคนร้ายกาจในชั่วพริบตา เพราะก่อนหน้านี้ ข้าเห็นกับตาว่านางเพิ่งจะบรรลุนักจิตชั้นห้า แต่ตอนที่นางสู้กับข้า น่ากลัวมาก ”หงยิงกุมที่หน้าอกลึกขึ้นนั่ง มองเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูอย่างจริงจัง
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูขมวดคิ้วพูดว่า “จูนจิ่วไม่มีทางใช้ของล้ำค่า ของล้ำค่าชั้นนั้น มีเพียงนักจิตใหญ่ที่จะใช้ได้ นางยังไม่มีสิทธิ์ใช้”
“แล้วทำไมนางจึง ”หงยิงมึนงงไม่เข้าใจ
นางยังเห็นภาพที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ว่าตอนนั้นจูนจิ่วน่ากลัวแค่ไหน ร้ายกาจเท่าใด มือเท้าที่ถูกโยวยิ่งบาดจนเป็นแผลยังมีความรู้สึกเจ็บอยู่เนืองๆ หงยิงใจลอยรู้สึกว่าเลือดของตัวเองยังคงไหลออกจากร่างกาย รู้สึกหนาวเย็น ทำให้นางควบคุมตนเองไม่ได้ยกเขาขึ้นมากอดเอาไว้ จูนจิ่วน่ากลัวเหลือเกิน
นางอายุเท่าไหร่ มากสุดก็แค่สิบห้าปี แต่กลับน่ากลัวได้เพียงนี้ หงยิงยืนยันได้ พวกฝู้หลินจ้าก็ไม่สามารถเทียบกับนางได้ บางทีคงต้องรอศิษย์พี่กลับมาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถต่อกรกับจูนจิ่วได้
เงยหน้าขึ้น สายตาของหงยิงเต็มไปด้วยความแค้นชิงชังมองไปทางเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูและพูดว่า “อาจารย์ ต้องฆ่าจูนจิ่วเท่านั้น หากให้นางเติบโตขึ้น ต้องเป็นศัตรูใหญ่ของเทียงฉิวแน่ ”
“ข้ารู้ วางใจได้ ตอนนี้จูนจิ่วเหมือนหนูสกปรกไปไหนก็มีแต่คนไล่ล่า นางคงหนีไม่ไม่นาน ขอแค่นางโผล่ออกมา ข้าจะฆ่านางด้วยมือข้าเอง ยังมีศิษย์พี่ของเขาชิงหยู่อีกคน แล้วก็สำนักเทียนอู่จงด้วย ถอนรากถอนโคน ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว ”
น้ำเสียงที่ชั่วร้ายอำมหิตของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู นางโกรธที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่เช่นนั้นนางจะฆ่าจูนจิ่วด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็สามารถเสนอความคิดเห็นกับอาจารย์ได้ การทรมานเป็นร้อยเป็นพันวิธีหากใช้กับจูนจิ่วคงสะใจน่าดู
หงยิงกำลังยิ้มอย่างชั่วร้าย คิดถึงความคิดชั่วร้ายของตัวเองในใจ ทันใดนั้นก็ได้ยินเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูพูดว่า “หงยิง ศิษย์พี่เจ้ากลับมาแล้ว ตอนนี้เขากำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของสำนักศึกษาไท่ชู ”
“ศิษย์พี่กลับมาแล้ว ”หงยิงดีใจมาก “มีศิษย์พี่อยู่ จูนจิ่วแม้จะมีปีกก็หนีไม่พ้นมือเราแน่ อาจารย์ท่านวางใจได้ ศิษย์พี่ต้องจับตัวจูนจิ่วกลับมาได้แน่ ”
“อืม ข้าจะตั้งตารอ ”เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูยิ้มอย่างชั่วร้าย
……
นอกเมืองไท่ชูห่างออกไปยี่สิบลี้ในป่าลึก
ชิงหยู่ไม่เห็นด้วยแต่ก็จนใจ เขามองจูนจิ่วแล้วพูดว่า “ศิษย์น้อง ข้าห้ามเจ้าไม่ได้ แต่เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าใจร้อนเด็ดขาด มีเรื่องอะไรก่อนจะตอบตกลงให้กลับมาปรึกษากันก่อน ”
มีโม่อู๋เยว่อยู่ พวกเขาก็ออกจากป่าไป หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวเหมือนคนตาบอดมองไม่เห็นพวกเขา ยังคงปิดล้อมป่าเอาไว้ แต่กลับไม่รู้ว่าพวกเขาออกจากป่าไปนานแล้ว อีกทั้งยังกลับไปถึงสถานที่ที่ใกล้กับเมืองไท่ชู ตอนนี้จูนจิ่วต้องอาศัยเจ้าเมืองไท่ชูเพื่อเข้าเมือง เพื่อพบกับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู
คิดถึงตรงนี้ ชิงหยู่อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอีก “ศิษย์น้อง เจ้าเมืองไท่ชูแม้จะกินยาหุ่นเชิดไป แต่จะพึ่งได้อย่างปลอดภัยจริงหรือ”
“หากไม่ใช่เพราะศิษย์พี่ต้องอยู่ดูแลมู่จิ่งหยวน ข้าจะให้ท่านไปด้วย ไปเห็นกับตาจะได้ไม่ต้องอธิบาย ”จูนจิ่วยิ้ม “ศิษย์พี่วางใจเถอะ หากจูเก๋อหุนกล้าทรยศปล่อยข่าวให้รั่วไหลออกไป ไม่ต้องให้ข้าลงมือเขาก็ต้องตายด้วยตนเองอยู่ดี ข้ามอบมู่จิ่งหยวนให้ศิษย์พี่ช่วยดูแล ข้าจะรีบไปรีบกลับ ”
“ก็ได้”ชิงหยู่พยักหน้า จากนั้นก็มองไปทางโม่อู๋เยว่ สีหน้าของชิงหยู่ซับซ้อนสลับไปมาหลายครั้ง เขาเอ่ยขึ้นว่า “ผู้อาวุโสโม่ ข้าขอฝากศิษย์น้องไว้กับท่านด้วย หากมีอันตราย ท่านอย่าฟังนาง รีบพานางกลับมา”
โม่อู๋เยว่ได้ยินก็ก้มหน้ามองจูนจิ่ว เขายิ้มมุมปาก รอยยิ้มชั่วร้ายหยอกเย้า
เขาเอ่ยขึ้นอย่างเผด็จการ “มีข้าอยู่ด้วย เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่มีอันตรายแน่”
เช่นนั้นเขาก็วางใจ ชิงหยู่สบายใจขึ้น คิดว่าอย่างน้อยก็มีหลักประกันว่าศิษย์น้องจะปลอดภัย ส่วนเรื่องที่พวกเขาหยอกกันไปมา ศิษย์น้องไม่เสียเปรียบก็พอ เขาปลงแล้ว
ส่งจูนจิ่วกับโม่อู๋เยว่ลับตาไป ชิงหยุ่กลับไปที่ซ่อนตัวแห่งใหม่ของพวกเขา หวังว่าศิษย์น้องจะราบรื่น
หลังจากออกจากป่า บนร่างของจูนจิ่วมีเสื้อคลุมเพิ่มมาหนึ่งตัว ด้านนอกป่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรอจูนจิ่วอยู่ พวกเขาเป็นองครักษ์ใกล้ชิดของเจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุน ได้รับคำสั่งให้มารับจูนจิ่วที่นี่ พวกเขาไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของจูนจิ่ว เจ้าเมืองไท่ชูสั่งการ พวกเขาไม่กล้าถามให้มากความ
หลังจากส่งม้าให้จูนจิ่ว กลุ่มคนก็เร่งเดินทางไปยังเมืองไท่ชู
จูนจิ่วปะปนเข้าไปอยู่ในกลุ่มขององครักษ์ของเจ้าเมืองไท่ชู เข้าสู้เมืองไท่ชูที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวดได้อย่างง่ายดาย นางตามเหล่าองครักษ์เข้าสู่จวนเจ้าเมือง จูเก๋อหุนให้ทุกคนถอยออกไปก่อน แล้วคุกเข่าตรงหน้าจูนจิ่ว “จูเก๋อหุนคำนับเจ้านาย ”
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าจะให้เจ้าส่งข่าวให้เจ้าสำนักศึกษาไท่ชู สำเร็จหรือไม่”
จูเก๋อหุนพยักหน้า พูดว่า “ข้าทำตามที่เจ้านายสั่ง สถานที่นัดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งของทะเลสาบซีหูในเมืองไท่ชู ที่ตรงนั้นไม่มีเจ้าของ และค่อนข้างห่างไกล ไม่สามารถตรวจพบแน่นอน”
“ดี”
จูเก๋อหุนพูดขึ้นอีกว่า“เจ้านาย ช่วงนี้ในเมืองไท่ชูมีหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวปรากฏตัวขึ้น คิดว่าเทียงฉิวคงกำลังจับตาดูสำนักศึกษาไท่ชูอยู่ ขอให้เจ้านายระวังตัวด้วย ”
จูนจิ่วไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ใจที่คิดจะจับตัวจูนจิ่วของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ย่อมมีมากกว่าเจ้าสำนักศึกษาไท่ชู ไม่ว่าจะเป็นของล้ำค่าในมือนาง หรือว่ากุญแจเวลา เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูคงไม่ปล่อยนางไปแน่
การตายของผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักศึกษาไท่ชู ลางสังหรณ์ก็คือการใช้ข้ออ้างนี้ในการเคลื่อนไหว แต่สุดท้ายใครจะชนะ ก็ตั้งตารอดูเถอะ
จูนจิ่ว “เจ้าเฝ้าดูสถานการณ์ในเมืองไท่ชูต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้รายงานข้าทันที ไม่ต้องส่งคนไปบอกข่าว แค่เพียงเรียกข้าและพูดในความคิดของเจ้าก็พอ ข้าจะได้ยินเอง ”
ยาหุ่นเชิดไม่เพียงแต่ใช้ควบคุม ในยายังมีหนอนแม่ของแมลงกู่ ในร่างของจูเก๋อหุนมีหนอนแม่ หนอนแม่อยู่ในมือของจูนจิ่ว ในระยะที่แน่นอน จูนจิ่วสามารถได้รับข่าวสารจากเจ้าเมืองไท่ชูผ่านหนอนแม่ และใช้วิธีนี้ จูนจิ่วรู้ว่าจูเก๋อหุนยังไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จึงได้สั่งให้เขาไปส่งข่าว
จูเก๋อหุนรับคำสั่งอย่างนอบน้อม จูนจิ่วจัดหมวกให้เข้าที่แล้วหมุนตัวเดินออกไป นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปบนยอดไม้ โม่อู๋เยว่อุ้มเสี่ยวอู่เอาไว้ ท่าทีเกียจคร้านแต่มีเสน่ห์พิงอยู่กับต้นไม้ นิ้วมือกำลังเล่นหูของเสี่ยวอู่ เพราะเสี่ยวอู่ก็ยังคงนอนหลับอยู่ ไม่เช่นนั้นหากตื่นมาแล้วไม่ข่วนโม่อู๋เยว่ก็คงไม่ใช่เสี่ยวอู่แล้ว
จูนจิ่วส่งเสียงให้โม่อู๋เยว่ “ตอนนี้ข้าจะไปพบกับเจ้าสำนักศึกษาไท่ชูที่ทะเลสาบซีหู ”
“ดี ข้ากับเสี่ยวอู่จะตามเจ้าไปเงียบๆ ”โม่อู๋เยว่จับกรงเล็บของเสี่ยวอู๋ โบกกรงเล็บให้กับจูนจิ่ว มุมปากโค้งขึ้น จูนจิ่วดึงหมวกลงต่ำแล้วก็เคลื่อนตัวไปจากจวนเจ้าเมืองทันทีอย่างรวดเร็