บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 444 ส่งของขวัญชิ้นใหญ่
“จูนจิ่ว ข้าตามหาเจ้าให้ควั่ก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมารนหาที่ตายถึงที่ ฮ่าๆๆ”ซิงโล่เฉินชักดาบโค้งออกมาชี้ไปทางจูนจิ่ว“ส่งของล้ำค่ามา ข้าจะส่งเจ้าไปปรโลกตามที่เจ้าปรารถนา ”
“ศิษย์พี่ซิงท่านลืมไปแล้วหรือ ท่านตกลงกับข้าไว้ ถ้าจับตัวจูนจิ่วได้จะทรมานนานให้นางร้องขอชีวิตก็ไม่ได้จะตายก็ไม่ได้เช่นกัน ข้ายังมีวิธีทรมานอีกหลายร้อยวิธียังไม่ได้ทดสอบกับนางเลย ”หงยิงได้ยิน ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างดุร้าย พูดอย่างไม่พอใจ
ใครจะรู้ว่าพอซิงโล่เฉินจ้องนางแวบหนึ่ง หงยิงก็ตัวสั่นแล้วก็หุบปากไปอย่างไม่พอใจ
ซิงโล่เฉินหันไปจ้องมองจูนจิ่วเขม็ง “จูนจิ่ว รีบส่งของล้ำค่ามา”
“ของล้ำค่า ฮึ”จูนจิ่วพิงต้นไม้อย่างเกียจคร้าน เหลือบมองพวกซิงโล่เฉินจากด้านบน นางยิ้มมุมปาก หัวเราะเสียงเย็นอย่างอวดดี“ของล้ำค่าที่อยากได้นั้นไม่มี แต่ข้ามีของขวัญชิ้นใหญ่จะมามอบให้พวกเจ้า”
“อะไร จูนจิ่วเจ้าอย่ามาลูกไม้นะ”ซิงโล่เฉินตะคอก
เขายกมือขึ้น วงล้อมกระชับขึ้น หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวที่อยู่ด้านหน้าสุดใช้มีดาบแทนขวานเริ่มฟันต้นไม้ต้นนั้น มีบางส่วนที่กระจายตัวปีนขึ้นไปบนต้นไม้รอบๆนั้น สามร้อยหกสิบองศาไร้แน่นหนาไร้จุดบอดที่จูนจิ่วจะหนีไปได้
มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเย็นเยียบ จูนจิ่วจัดระเบียบกระโปรงและลุกขึ้น ในมือนางถือขวดเขย่าไปมา ตลอดทางที่มาไม่เพียงแต่ใช้พลังทิพย์เร่งการเจริญเติบโตของดอกไม้จิตอสูร จูนจิ่วยังให้พวกชิงหยู่โรยเครื่องหอมดึงดูดสัตว์ทิพย์เป็นเส้นตรงมาตลอดทาง
น่าจะได้เวลาแล้ว จูนจิ่วนั้นประสาทรับรู้ไวมาก รับรู้ได้ถึงการสั่นไหวเบาๆของแผ่นดิน การสั่นไหวนี้บางเบามาก ถูกเสียงตัดไม้กลบไปจนหมด พวกซิงโล่เฉินไม่ได้รับรู้ถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
มุมปากยิ้มเย็น จูนจิ่วก้มลงมองซิงโล่เฉิน “ซิงโล่เฉิน เจ้าก็ลองเอาไปเปิดดูก็จะรู้ว่าเป็นอะไร”
ยังไม่ทันพูดจบ ขวดในมือก็ปลิวไปทางซิงโล่เฉินแล้ว ซิงโล่เฉินหลบโดยสัญชาตญาณ หงยิงรีบขยับตัวดึงแส้ยาวออกมาฟาดจนขวดแตก เครื่องหอมดึงดูดสัตว์ทิพย์แบบเหลว กับดอกไม้จิตอสูรที่เพิ่งงอกปลิวออกมา สาดไปบนร่างของซิงโล่เฉินกับหงยิง
หงยิงร้องเสียงแหลม “นี่มันของบ้าอะไรกัน”
“จูนจิ่วเจ้า……”ซิงโล่เฉินเอามือที่ใช้บังหน้าออก พอเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ที่กำลังเอียงกำลังจะล้มลงไร้เงาของจูนจิ่วแล้ว มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นร่องรอย
ซินโล่เฉินโมโหจัด “คนเล่า เจ้าพวกไร้ประโยชน์ ให้พวกเจ้าล้อมจูนจิ่วแต่พวกเจ้ากลับปล่อยนางหนีไปได้ พวกเจ้าตาบอดหรืออย่างไร ตาม รีบตามไป ”
หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวรีบกระจายตัว ตามหาจูนจิ่วทั่วทั้งสี่ทิศ ความสนใจของพวกเขาถูกขวดที่จูนจิ่วโยนออกไปดึงดูดเอาไว้ ชั่วพริบตานั้น ไม่มีใครเห็นเลยว่าจูนจิ่วไปทางไหน นางหนีได้รวดเร็วเหลือเกิน
“น่าตายนัก นี่มันอะไรกัน ”หงยิงสะบัดแขนเสื้อ แล้วก็ตบหยดน้ำที่กระจายอยู่บนร่าง ของเหลวได้ซึมเข้าไปในเสื้อผ้าแล้ว หงยิงได้แต่ใช้พลังทิพย์ทำให้มันแห้ง แต่ก็ยังมีกลิ่นติดอยู่
ซิงโล่เฉินนั่งลงหยิบเอาพืชที่หักเป็นสองท่อนจากแรงฟาดของแส้ขึ้นมาดู ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจของซิงโล่เฉินก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน รู้สึกชักไม่ค่อยดี
ไม่ได้การ
จูนจิ่วไม่มีทางทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ นางต้องมีแผนร้ายแน่
ตอนนี้เอง หงยิงก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น มองไปรอบๆอย่างสงสัย “ศิษย์พี่ซิง ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าแผ่นดินกำลังไหว”
“ชู่”ซิงโล่เฉินรีบยกนิ้วขึ้นตรงปากทำท่าให้หงยิงเงียบ และให้หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวยืนนิ่งอย่าขยับ ครู่เดียว แผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น จากนั้นภูเขาที่ไกลออกไปก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา มีหน่วยกล้าตายของเทียงฉิววิ่งอย่างร้อนรนเข้ามา “แย่แล้ว”
“แย่แล้ว มีสัตว์ทิพย์กำลังวิ่งมาทางนี้”
ซิงโล่เฉินรีบก้มลงมือพืชที่มีรากงอกในมือของตน หัวใจกระตุก ซิงโล่เฉินรีบโยนมันทิ้ง “สมควรตาย”
พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาก็มองเห็นสัตว์ทิพย์ร่างใหญ่มหึมาตัวหนึ่งกำลังวิ่งมาทางพวกเขาอย่างบ้าคลั่งเต็มไปด้วยไอพิฆาต
……
สวบสวบ
ร่างของจูนจิ่วพลิ้วไหวเบาหวิว ทะลุผ่านยอดไม้แน่นหนาด้วยความรวดเร็ว มีน้ำค้างที่ก่อตัวเป็นน้ำแข็ง แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางฝีเท้าของนางได้ ไม่ช้า จูนจิ่วก็หยุดลงและทิ้งตัวดิ่งลงไปจากยอดไม้
“เป็นอย่างไรบ้างศิษย์น้อง”ชิงหยู่รีบเดินเข้าไปถาม
มู่จิ่งหยวนก็เอ่ยขึ้นว่า “พวกเราได้โรยเครื่องหอมดึงดูดสัตว์ทิพย์แล้ว ทั้งหมดถูกดึงดูดไปทางพวกซิงโล่เฉิน ”
“สมบูรณ์แบบ เช่นนั้นก็รอดูฉากเด็ดเถอะ”จูนจิ่วยิ้มอย่างล้อเล่น แล้วก็ดีดนิ้วหนึ่งเสียงพูดกับความว่างเปล่าว่า “เอากระจกน้ำมาบานหนึ่งได้หรือไม่”
พรึ่บ
ตรงหน้าพวกเขา มีกระจกน้ำบานหนึ่งโผล่ออกมา พริบตาต่อมาจากหนึ่งบานเปลี่ยนเป็นสี่บาน ส่องภาพทุกมุมทุกด้านของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากฝั่งของซิงโล่เฉินออกมา จูนจิ่วมุมปากโค้งขึ้น “เห็นทีถ้ามีเวลาข้าต้องเรียนรู้เรื่องกระจกน้ำซะแล้ว”
“ได้ ข้าจะสอนเจ้า เสี่ยวจิ่วเอ๋อเรียนรู้เร็ว สามารถเรียนรู้กระจกน้ำสี่บานได้”เสียงของโม่อู๋เยว่ดังขึ้นในหัวของจูนจิ่วโดยตรง
จูนจิ่วเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้ากระจกน้ำ เสี่ยวอู่กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนไหล่ของจูนจิ่วจ้องมองกระจกน้ำพร้อมกัน ทุกคนต่างก็เดินเข้ามา มองภาพในกระจกน้ำ พวกซิงโล่เฉินกับหงยิงสภาพอเนจอนาถ ตอนนี้ สัตว์ทิพย์ได้ไล่ตามพวกเขาทันแล้ว
เป็นสัตว์ทิพย์ระดับเจ็ดอสูรสายฟ้าสีม่วง ความเร็วดุจสายลม ไม่ว่าจะเดินหรือวิ่งรอบตัวก็จะเกิดกระแสไฟฟ้าเป็นระลอก
กระแสไฟฟ้านี้สามารถทำให้นักจิตตายได้ แม้แต่นักจิตใหญ่ชั้นหนึ่งก็ไม่กล้าเข้าใกล้กระแสไฟนี้ ตอนนี้ไม่มีใครสามารถขัดขวางอสูรสายฟ้าสีม่วงได้ ที่ที่มันวิ่งผ่านล้วนได้ยินเสียงร้องอย่างอนาถของคนของหน่วยกล้าตายเทียงฉิว
ซิงโล่เฉินโมโหเป็นอย่างมาก มือที่ถือมีดโค้งพุ่งเข้าไปปะทะกับอสูรสายฟ้าสีม่วง ผ่านไปหลายกระบวนท่า ขณะที่เขากำลังจะฆ่าอสูรสายฟ้าสีม่วงให้ตาย โฮก เสียงคำรามหนึ่งดังขึ้น เสือลาวาก็กระโดดออกมาพุ่งเข้าหาหงยิง หงยิงกลิ้งหลบไปกับพื้นอย่างน่าเวทนา หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวสองคนที่อยู่ด้านหลังรับเคราะห์ ถูกกัดร่างขาดเป็นสองท่านในคำเดียว
หงยิงตกใจจนรีบชักแส้ขึ้นมาโจมตี “ศิษย์พี่ซิง มีสัตว์ทิพย์ระดับเจ็ดมาอีกตัวหนึ่งแล้ว”
“หุบปาก ฆ่าสัตว์เดรัจฉานพวกนี้ก่อน เร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีสัตว์ทิพย์มามากกว่านี้”ซิงโล่เฉินสีหน้าเขียวคล้ำ บิดเบี้ยว
ที่สุดเขาก็รับรู้ได้ว่า ของที่จูนจิ่วโยนมาให้เมื่อครู่คืออะไร แม้ว่าเขาจะไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็สามารถเดาถึงประโยชน์ของมันได้ สัตว์ทิพย์เหล่านี้ เป็นฝีมือจูนจิ่วดึงดูดพวกมันมา น่าตายนัก ในใจพลางด่าจูนจิ่วว่าต่ำช้า เป็นหญิงใจอำมหิต พลางก็ออกกระบวนท่าฆ่าสัตว์ทิพย์
“นี่เพิ่งจะมาสองตัว ข้างหลังยังมีอีกนะ”ฝู้หลินจ้านมองกระจกน้ำ พูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
และแล้ว
ไม่ช้าก็มีสัตว์ทิพย์ชั้นเจ็ดมาอีกหนึ่งตัว อสูรชิงซ่าระดับเจ็ด กริฟฟอนหน้ากระดูกระดับเจ็ด เสือดาวเมฆดำระดับเจ็ด ซิงโล่เฉินกับหงยิงยังไม่ทันได้ต่อสู้ ก็กลายเป็นว่าไร้หนทางต่อต้าน ได้แต่วิ่งหนีเอาชีวิตอย่างทุลักทุเล
กระจกน้ำทั้งสี่บานนั้นฉลาดมาก ไม่ว่าพวกซิงโล่เฉินจะหนีไปทางไหน กระจกน้ำก็ล้วนสามารถถ่ายทอดภาพด้านหน้าของพวกเขาได้อย่างละเอียดมาก ทำให้มองเห็นความอเนจอนาถของซิงโล่เฉินกับหงยิงได้อย่างชัดเจน มีความสุขจริงๆ
หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวที่พวกเขาพาเข้ามาด้วย ตอนนี้ยังคงเหลือแค่สามคนที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดตามหลังพวกเขา
“อ๊า”
หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวคนหนึ่งถูกเสือดาวเมฆดำไล่ทัน กัดจนหัวขาดให้คำเดียว กริฟฟอนหน้ากระดูกพุ่งเข้าไปงับเข้าที่ขา แย่งกันฉีกทึ้งร่างไร้วิญญาณเป็นสองท่อนแล้วกลืนกินเข้าไป อสูรสายฟ้าสีม่วงได้ถูกซิงโล่เฉินฆ่าตายแล้ว แต่ยังมีอีกสองตัว
มองเห็นเสือลาวากับอสูรชิงซ่าจะไล่ตามทันแล้ว แววตาของหงยิงมีแววโหดเหี้ยม ตัดสินใจอย่างไม่ลังเลโดยการสะบัดแส้ออกไป ม้วนเอาตัวหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวโยนออกไป พุ่งไปทางสัตว์ทิพย์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมัน
ขณะเดียวกันซิงโล่เฉินก็ตะโกนขึ้น “หงยิง รีบถอดเสื้อผ้าออก ไม่อย่างนั้นก็สะบัดพวกเดรัจฉานพวกนี้ไม่ออก”