บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 470 นางเป็นว่าที่ภรรยาของข้า
การมาถึงอย่างกะทันหันของตู๋กูชิง ทำให้เมี่ยวยู่เอ๋อรู้สึกตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง ความคิดแรกของนางคือโกรธจนตัวสั่น หงยิงเจ้าคนโง่ ก็มอบหมายให้นางขัดขวางผางเจียเยว่ไม่ให้ไปรายงานเจ้าตำหนักแล้วไม่ใช่หรือ วินาทีต่อมาเมี่ยวยู่เอ๋อก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง
นางรู้ดีว่าการทรยศหักหลังเจ้าตำหนักจะมีจุดจบอย่างไร เมี่ยวยู่เอ๋อเผยความกลัวออกมา ขอเพียงนางรีบออกจากตรงนี้แล้วหาโอกาสฆ่าปิดปากผู้ดูแลหลี่ ตู๋กูชิงก็ไม่มีทางรู้ว่านางเป็นคนวางแผนนี้ทั้งหมด
แต่ขณะที่มองเห็นตู๋กูชิงเผชิญหน้ากับจูนจิ่ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน เมี่ยวยู่เอ๋อก้าวขาไม่ออก นางเบิกตากว้าง จ้องเขม็งไปที่พวกเขา
จูนจิ่วยิ้มเย็น ไม่มีความรู้สึกใดๆในรอยยิ้มแม้แต่น้อย นางเอ่ยขึ้นว่า “คำตอบที่น่าพอใจ เจ้าตำหนักตู๋กูหมายถึงอะไร ”
“เจ้าจะได้รู้ตอนนี้เลย”ตู๋กูชิงยิ้มอย่างอ่อนโยนมาก
เขาหมุนตัวรอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปในชั่วพริบตา ใบหน้าที่อ่อนโยนเผยให้เห็นความโกรธ ชั่วขณะนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็คุกเข่าลงคำนับ สีหน้าตื่นตระหนก โดยเฉพาะผู้ดูแลหลี่กับเหล่าองครักษ์ องครักษ์เหล็กของตำหนักไท่หวง ตกใจจนหน้าซีด พวกเขารับรู้ได้ลึกว่าตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างผิดไป
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า คำพูดต่อมาของตู๋กูชิงจะน่าตกตะลึงเช่นนี้
ตู๋กูชิงพูดว่า “ขโมยหรือ ป้ายคำสั่งข้าเป็นคนให้กับจูนจิ่วเอง นางเป็นว่าที่ภรรยาของข้า เป็นว่าที่ฮูหยินเจ้าตำหนักไท่หวง พวกเจ้าบังอาจดูถูกนางว่าเป็นหัวขโมย ควรได้รับโทษอย่างไร”
“เจ้าตำหนักโปรดอภัย”
น้ำเสียงของตู๋กูชิงเรียบสงบไร้คลื่น แต่มากพอที่จะทำให้คนทั้งหมดมึนงงและตกใจ
โดยเฉพาะว่าที่ฮูหยินเจ้าตำหนักคนนั้น มองอย่างนิ่งอึ้งจนคล้ายรูปปั้นแกะสลัก ผ่านไปชั่วครู่ก็ยังไม่ได้สติ ที่แท้จูนจิ่วก็เป็นว่าที่ภรรยาของตู๋กูชิง
ว่าที่ภรรยา
เมี่ยวยู่เอ๋อตัวไหวเอน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจไม่อยากเชื่อ เป็นไปได้อย่างไร จูนจิ่วจะเป็นว่าที่ภรรยาของเจ้าตำหนักได้อย่างไร ไม่จริงกระมัง นางคงฟังผิดไป นางไม่เชื่อ
มีคนถามแทนเมี่ยวยู่เอ๋อออกไป เป็นลี่หยุนซู
ลี่หยุนซูพุ่งไปตรงหน้าตู๋กูชิง “พี่ตู๋กูท่านพูดอะไร นางเป็นว่าที่ภรรยาของท่าน”
“ใช่ น้องหยุนซูเจ้าช่วยข้าดูแลจูนจิ่ว เชิญนางออกมาเล่นด้วยกัน ขอบคุณ แต่ว่าข้าหวังว่าครั้งต่อไปที่เจ้าจะเชิญนางขอให้บอกข้าสักคำ ให้ข้าได้จัดการส่งคนมาดูแลอย่างเหมาะสม”ตู๋กูชิงก้มหน้ามองลี่หยุนซู ในคำพูดแฝงแววตำหนิติเตียนอยู่ด้วย
ถ้าหากลี่หยุนซูบอกกันสักคำ ก็คงไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตู๋กูชิงก็ไม่มีทางให้ใครรู้ว่า ที่จริงเขาชื่นชอบเหตุการณ์ไม่คาดคิดในครั้งนี้ ทำให้เขาสามารถบอกกับทุกคนในตำหนักไท่หวงอย่างเปิดเผย ว่าจูนจิ่วเป็นว่าที่ภรรยาของเขา เช่นนี้จูนจิ่วยังจะตอบโต้หรือปฏิเสธได้อีกหรือไม่
ตู๋กูชิงโบกมือ องครักษ์ที่สวมชุดลายปักสีเงินปรากฏตัวขึ้น ลากตัวพวกผู้ดูแลหลี่ออกไป จากนั้นตู๋กูชิงหันไปมองทางจูนจิ่ว “ข้าจะลงโทษพวกเขาให้หนัก ผลของการลงโทษ ผางเจียเยว่จะเป็นคนรายงานเจ้า หินทิพย์ทั้งหมดให้ห่อเอาไว้ข้าจะให้คนส่งไปให้ ตอนนี้ข้าส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนดีหรือไม่ ”
“ได้ ”จูนจิ่วพยักหน้าเรียบๆ
เดิมพันหินทิพย์ ถือว่านางได้รับหินทิพย์ที่น่าพอใจแล้ว อีกทั้งยังได้ดูละครดีๆ สามารถเดินทางกลับไปได้แล้ว
ขณะกำลังจากไป นางเดินผ่านร่างลี่หยุนซู ลี่หยุนซูยังคงยืนอึ้งอยู่กับที่ ยังคงไม่ได้สติ อยู่ในความตกใจจนรับความจริงไม่ได้ เห็นอย่างนี้ จูนจิ่วได้แต่ส่ายหน้า ทำไมจึงได้ตาบอดเช่นนี้ นอกจากตู๋กูชิงแล้วจะเป็นอื่นไม่ได้เลยหรือ
ความรักทำให้คนตาบอด เสี่ยวอู่เกาะอยู่ไหล่ของจูนจิ่ว แอบพึมพำเบาๆ
เลิกคิ้ว จูนจิ่วโต้กลับ นางไม่มีทางตาบอด ดูอย่างโม่อู๋เยว่ ดูตั้งแต่เรื่องความงามเรื่องพลังและด้านอื่นๆ ดวงตานางยังสว่างดีอยู่ ไม่บอดเลยสักนิดเดียว
เสี่ยวอู่ :ใช่ไม่บอด แต่ตกเข้าไปในหลุมแล้วเหมียว
……
กลับถึงวังยู่หลัน ตู๋กูชิงยังอยากจะเข้าไป จูนจิ่วใช้มือขวาดันขอบประตูเอาไว้ เลิกคิ้วมองเขาด้วยรอยยิ้มเย็น “ข้าจะพักผ่อนแล้ว เชิญเจ้าตำหนักตู๋กูตามสบายเถอะ”
“จูนจิ่วเจ้ากำลังโมโห ที่ข้าประกาศเรื่องสัญญาแต่งงานของพวกเราต่อหน้าทุกคนหรือ”ตู๋กูชิงยังคงยิ้มบางๆ มองจูนจิ่วอย่างลึกซึ้ง
“ไม่ ”จูนจิ่วพูด “มีสัญญาแต่งงานก็แสดงว่ายังสามารถถอนสัญญาแต่งงานได้ นี่ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เจ้าตำหนักตู๋กูหากมีเรื่องต้องการหาตัวข้า สามารถบอกกับผู้ดูแลผางก่อน ข้ามีเวลาแล้วจะไปพบท่านเอง ”
น้ำเสียงเย็นชา ไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ จูนจิ่วปฏิเสธตู๋กูชิงอย่างเด็ดขาดและตรงไปตรงมา
ท่าทีบนใบหน้าของตู๋กูชิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาควบคุมมันไว้และยกมุมปากขึ้น สุดท้ายก็กล่าวลา “ได้”
หมุนตัว ทันใดนั้นสีหน้าของตู๋กูชิงก็เคร่งขรึมลง เขาก้าวเท้าก้าวใหญ่ๆจากไป ชายเสื้อที่สะบัดอยู่ข้างหลังปลิวสะบัดจนเกิดเสียง ท่าทีดุดันเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่ไม่ดี นี่แสดงว่าต้องมีคนโชคร้ายแล้ว
เสี่ยวอู่ “ตู๋กูชิงช่างเหมือนพวกตบตาพูดจาหลอกลวง น่ารำคาญจริงๆ เจ้านายท่านก็ปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว เขาก็ยังคงทำเหมือนหูหนวกไม่ได้ยิน เหมือนตาบอดมองไม่เห็น เหมียวๆๆ อยากจะข่วนเขาให้กลายเป็นนกยูงรำแพนจะได้เลิกหลงตัวเองสักที”
เสี่ยวอู่ยังคงจดจำนกยูงรำแพนของเขาอยู่ตลอดเวลา
จูนจิ่วหมุนตัว มุมปากแฝงรอยยิ้มผ่อนคลายเกียจคร้าน นางยกมือขึ้นลูบไปที่หัวของเสี่ยวอู่ อุ้มเสี่ยวอู่เดินเข้าไปในห้อง จูนจิ่วพูดว่า “รอเหลิ่งยวนกลับมาก่อน ข้าอยากรู้ว่า คนที่จ้องจะใส่ร้ายข้าในครั้งนี้เป็นใคร ”
จะเป็น อย่างที่นางคาดเดาเอาไว้หรือไม่ เกี่ยวข้องกับซิงโล่เฉิน
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เหลิ่งยวนตามเมี่ยวยู่เอ๋อกลับไปยังตำหนักหลักไท่หวง ที่เป็นของตู๋กูชิงซึ่งมีตำแหน่งอยู่ด้านตะวันออกของกลุ่มตำหนัก
เหลิ่งยวนยิ้มเย็นมือกอดอก “และแล้วข้าก็เดาไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของตู๋กูชิง ไม่แน่ว่าการใส่ร้ายแม่นางจูนครั้งนี้จะเป็นแผนการของตู๋กูชิงก็เป็นได้ ช่างเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ชิ มุกเก่าจริงๆ”
เจ้านายของเขาต่างหากถึงจะเรียกว่าวีรบุรุษช่วยสาวงาม
ตู๋กูชิงหรือ ก็แค่กระต่ายหมายจันทร์
เขาเห็นเมี่ยวยู่เอ๋อเดินเข้าไปในตำหนักของตู๋กูชิง เพื่อเป็นการอำพรางร่องรอย เหลิ่งยวนซ่อนตัวอยู่ในความมืดมองคนสองคนในตำหนักด้วยสายตาเย็นชาดูถูก
เมี่ยวยู่เอ๋อได้ยินว่าตู๋กูชิงเรียกพบตนเอง ก็รู้ว่าถูกจับได้แล้ว นางเดินเข้าไปในตำหนักสิ่งแรกที่ทำคือคุกเข่าลงยอมรับผิด “ขอเจ้าตำหนักโปรดลงโทษด้วย”
ตู๋กูชิงยิ้มเย็น “ลงโทษเจ้า ข้าจะลงโทษเจ้าทำไม เจ้าลองพูดซิ”
“ข้าน้อยคิดจะแก้แค้นให้กับซิงโล่เฉิน ฉะนั้นจึงได้วางแผนให้ลี่หยุนซูเชิญตัวจูนจิ่วให้ออกจากวังยู่หลันไป แล้วก็ใส่ร้ายว่าจูนจิ่วเป็นหัวขโมย สั่งคนให้จับตัวนาง ข้าน้อยไม่รู้ว่า นางเป็นว่าที่ภรรยาของท่านเจ้าตำหนัก ขอเจ้าตำหนักลงโทษด้วย ”เมื่อเมี่ยวยู่เอ๋อพูดถึงคำว่าว่าที่ภรรยา น้ำเสียงก็เพิ่มหนักขึ้นแฝงแววอิจฉาและแค้นใจอยู่ภายใน
เขาหลงรักตู๋กูชิงขนาดนี้ ยังไม่ได้ความสนิทชิดเชื้อจากตู๋กูชิงเลย
แต่คนต่ำช้าตัวเล็กๆที่มาจากสำนักศึกษาทั้งสามคนนี้ อาศัยอะไรจึงมีสัญญาแต่งงานกับเจ้าตำหนัก ฆ่านางเสีย อย่าให้นางได้แต่งงานกับเจ้าตำหนักอย่างเด็ดขาด แย่งเจ้าตำหนักมาให้ได้
“จูนจิ่วเป็นว่าที่ภรรยาของข้า ต่อไปก็จะเป็นเจ้านายของเจ้า ครั้งนี้ เห็นแก่ที่เจ้าต้องการจะแก้แค้นแทนซิงโล่เฉิน ข้าจะให้อภัยเจ้า แต่ถ้าหากยังมีครั้งต่อไป เจ้าก็ลงไปอยู่เป็นเพื่อนซิงโล่เฉิน เข้าใจหรือไม่ ”น้ำเสียงของตู๋กูชิงแฝงไอสังหาร
เมี่ยวยู่เอ๋อร่างบางสั่นระริก เงยหน้าขึ้นดวงตารื้นมองไปยังตู๋กูชิงอย่างไม่เต็มใจ“เจ้าตำหนักท่านจะแต่งงานกับนางจริงหรือ”
“ไสหัวออกไป”ตู๋กูชิงไม่แม้แต่จะมองเมี่ยวยู่เอ๋อ ตะคอกเสียงเย็น
เมี่ยวยู่เอ๋อกำหมัดแน่น คำนับให้กับตู๋กูชิงอย่างเคารพนอบน้อม จากนั้นก็ลุกขึ้นถอยออกไป เหลิ่งยวนเห็นละครซุบซิบฉากเด็ดเข้าแล้ว ทำเสียงจิ๊จ๊ะในปากไม่หยุด เขารีบหมุนตัวจากไป คิดว่าจะกลับไปบอกเล่าละครฉากเด็ดนี้ให้จูนจิ่วฟัง
จากมาเร็วไปหน่อย ด้วยเหตุนี้เหลิ่งยวนจึงคลาดกับคนคุ้นเคยอย่างหงยิงทีเดินออกมาจากมุมหนึ่งของตำหนัก