บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 473 วางยาพิษกู่หลงรักอย่างร้ายกาจ
หงยิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจูนจิ่ว
ยกมือขึ้น จูนจิ่วกำหมัดของหงยิงเอาไว้ทั้งดึงและพับ กร๊อบ กระดูกหัก มือขวาห้อยแนบลำตัวอย่างอ่อนแรง
หมุนตัวด้วยความเร็วดุจแสง เตะไปยังหน้าอกของหงยิงจนตัวปลิวออกไป
จูนจิ่วถือโยวยิ่งไว้ในมือเดินเข้าไปหา หงยิงเช็ดเลือดที่มุมปากลุกขึ้นมา พุ่งเข้าหาจูนจิ่วที่กำลังเข้ามาอย่างดุดันไม่กลัวตาย นิ้วมือพลิกหมุน โยวยิ่งสีดำแทงเข้าไปยังหน้าท้องของหงยิง
ฟู่
เลือดสดอุ่นร้อนแดงฉานสาดกระจายพุ่งออกมา เลอะไปทั้งตัวจูนจิ่ว หลังมือก็เต็มไปด้วยเลือดอุ่นๆ จูนจิ่วกำลังจะดึงเอาโยวยิ่งออกมา กลับถูกหงยิงคว้าข้อมือเขาไว้อย่างแน่นหนาไม่ยอมปล่อย นางเจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว แต่กลับหัวเราะอย่างชั่วร้ายและดีใจ“ฮ่าๆๆ จูนจิ่ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง เจ้าแพ้แล้ว”
หัวของหงยิงกระแทกกับประตูมาใช่หรือไม่
จูนจิ่วมองหงยิงที่จับมือของตนเองเอาไว้อย่างรังเกียจ แม้แต่มือกับแขนเสื้อ รวมถึงชายกระโปรงก็เต็มไปด้วยเลือดของหงยิง มือซ้ายของนางยื่นออกไปหักแขนอีกข้างหนึ่งของหงยิง แกะมือของตัวเองและถอยหลังออกมาอย่างเย็นชา
หงยิงโซเซล้มลงไปกองกับพื้น นางกลับหัวเราะเสียงดังไม่หยุด หัวเราะจนน้ำตาและน้ำมูกก็ไหลออกมาแล้ว หงยิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ เมี่ยวยู่เอ๋อนังคนโง่คนนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกทอดทิ้งซะแล้ว”
แน่นอนว่าต้องให้เมี่ยวยู่เอ๋อล่อเหลิ่งยวนออกไป พวกเขาจะได้ลงมืออย่างไรเล่า
เหลิ่งยวนต้องฆ่าเมี่ยวยู่เอ๋อแน่ๆ เป็นเช่นนี้ หลังจากกำจัดเมี่ยวยู่เอ๋อแล้ว นางก็จะกลายเป็นลูกน้องที่เก่งกาจที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดของตู๋กูชิง เพราะว่า นางได้สร้างความดีอันใหญ่หลวง
เงยหน้ามองไปทางจูนจิ่ว สีหน้าของหงยิงทั้งดุร้ายทั้งบ้าคลั่ง นางหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง “จูนจิ่ว เจ้าคิดว่าคนที่ตามมามีแค่ข้ากับเมี่ยวยู่เอ๋อนังปัญญาอ่อนคนนั้นแค่นั้นหรือ ไม่ ยังมีอีกหนึ่งคน เจ้าลองดูคนข้างหลังเจ้าสิว่าเขาเป็นใคร”
ตั้งแต่หงยิงเริ่มเอ่ยประโยคแรก จูนจิ่วก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล มีอะไรบางอย่างถูกนางละเลยความสนใจไป ตอนนี้ได้ปรากฏขึ้นในหัวใจแล้ว
นางลืมตู๋กูชิงไป
“ตู๋กูชิง ”เสี่ยวอู่อุทาน
สีหน้าของจูนจิ่วขรึมลง แววตาเย็นยะเยือก เขาหมุนตัวหันไปพบว่าตู่กูชิงยืนอยู่ข้างทะเลสาบคอยจ้องมองนางอยู่ ตอนนี้ตู๋กูชิงได้ฉีกหน้ากากเสแสร้งจอมปลอมของเขาออกแล้ว เขายิ้มอย่างชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ สายตาจ้องมองมาที่นางเขม็ง ค่อยๆก้าวเดินมาทางจูนจิ่วอย่างช้าๆทีละก้าว
เมี่ยวยู่เอ๋อ หงยิง ตู๋กูชิง
ในสมองของจูนจิ่วเกิดความคิดหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ในที่สุดนางก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่นางละความสนใจไป นี่คือแผนการชั่วร้าย นางละเลยความสนใจไป ตู๋กูชิงถึงกับฉีกหน้ากากของตนเองลงมืออย่างกะทันหัน แต่ว่าเขามีความมั่นใจอะไร จึงได้กล้าทำเช่นนี้
เขามีความมั่นใจอะไร ทำอย่างนี้จะทำให้เขาได้รับกุญแจเวลาอย่างนั้นหรือ
มุมปากของตู๋กูชิงฉีกออก พูดด้วยรอยยิ้มว่า“จูนจิ่ว เจ้าคงคิดไม่ถึงว่าเป็นข้าสินะ ”
“ใช่ ข้าประหลาดใจท่านมีความมั่นใจอะไร เลือกที่จะลงมือในเวลานี้ แค่จับตัวข้าเท่านั้น ท่านอาจจะสามารถได้กุญแจเวลาไป แต่ท่านก็ไม่มีทางใช้มันได้ ”จูนจิ่วสายตาเย็นชา มองตู๋กูชิงที่เดินเข้ามาอย่างเยือกเย็น
แต่คนที่เปิดปากเอ่ยขึ้นไม่ใช่ตู๋กูชิง แต่เป็นหงยิง
นางลุกขึ้นมา เพราะทั้งสองแขนต่างก็หักไปแล้ว ได้แต่ทิ้งตัวอ่อนยวบบิดเบี้ยวอยู่ข้างลำตัว นางจ้องมองจูนจิ่วอย่างตื่นเต้นดีใจและบ้าคลั่ง พูดกลั้วเสียงหัวเราะว่า “จูนจิ่วเจ้าเป็นนักกลั่นยามิใช่หรือ หรือเจ้ายังไม่รู้ตัวอีกว่าบนร่างกายของเจ้ามีอะไรไม่ปกติ”
!!
หัวคิ้วขมวด จูนจิ่วพลางจ้องมองตู๋กูชิงกับหงยิง พลางสำรวจภายในร่างกาย
ขณะที่นางกำลังทำการค้นหา ตู๋กูชิงก็เอ่ยขึ้นว่า “พิษกู่หลงรัก เมื่อยาออกฤทธิ์ คนที่เจ้าพบเห็นเป็นคนแรกเจ้าจะรักเข้าอย่างลึกซึ้งโดยไม่รู้ตัว ทำเพื่อเขาได้ตายเพื่อเขาได้ ไม่ว่าอะไรก็เชื่อฟังเขาหมด ไม่ช้ายาจะออกฤทธิ์ จูนจิ่วเจ้าจะสามารถใช้ร่างกายของตนเองทดสอบดูแล้ว”
ตื่นตะลึง
เสี่ยวอู่พองขน มองจูนจิ่วอย่างตกตะลึง ไปถูกพิษกู่เข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ตอนนี้เองจูนจิ่วก็ค้นหาจนเจอพิษกู่ที่กำลังเดินทางอยู่ในเส้นลมปราณ พิษกู่หลงรัก นางเพียงแต่เคยพบเห็นในหนังสือเท่านั้น พิษกู่ที่ชั่วร้ายต่ำช้าเช่นนี้ นางไม่คิดที่จะกลั่นออกมา คิดไม่ถึงว่าตอนนี้นางจะถูกพิษกู่ชนิดนี้เข้าแล้ว
สายตาเย็นชาของจูนจิ่วมองไปที่เลือดที่เปื้อนบนมือ ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่าง จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นมองไปยังหงยิงอีกครั้ง นางเข้าใจแล้ว
พิษกู่อยู่บนตัวของหงยิง หงยิงกลืนพิษกู่หลงรักเข้าไป นางจงใจแพ้ให้กับตน จงใจให้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เลือดสดสาดกระจาย พิษกู่หลงรักก็ถูกกระตุ้นให้มีชีวิตวิ่งตามเลือดของหงยิงมายังร่างกายของนาง เมื่อครู่ตอนที่หงยิงจับมือของนางเอาไว้ไม่ปล่อย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จึงทำให้นางไม่ทันได้สังเกตว่ามีพิษกู่ได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย
ประมาทเกินไปแล้ว
จูนจิ่วไม่ได้รู้สึกกังวลใจ และไม่ได้รู้สึกโมโห นิ้วมือของนางซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ ประสานนิ้วมือสกัดกั้นพิษกู่ที่กำลังแล่นอยู่ภายในร่างกาย
“จูนจิ่ว”ตู๋กูชิงเดินมาทางนาง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้ เหลือระยะห่างเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้นก็หยุดลง ตู๋กูชิงแสร้งทำเป็นพูดอย่างจนปัญญาว่า “ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะทำเช่นนี้กับเจ้า แต่ใครใช้ให้เจ้าดื้อดึงนัก ไม่ว่าจะดีต่อเจ้าแค่ไหน เจ้าก็ไม่เคยหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย”
จูนจิ่วจ้องมองตู๋กูชิงอย่างเย็นชา ทำเสียงเยาะเย้ย “หึ”
“เจ้าวางใจได้ แม้ว่าเจ้าจะถูกพิษกู่หลงรัก เจ้าก็ยังคงเป็นฮูหยินเจ้าตำหนักของข้า ชื่อเสียงเกียรติยศข้าจะให้เจ้าไม่น้อยหน้าแน่ ขอเพียงหลังจากนี้เจ้าสามารถเชื่อฟังข้าทุกอย่าง เจ้าจะมีชีวิตที่มีความสุขที่สุด”ตู๋กูชิงได้ทำการบรรยายถึงสิ่งที่เรียกว่าไร้ยางอายได้อย่างสมบูรณ์
เขายื่นมือจะไปจับใบหน้าของจูนจิ่ว โฮก เสียงคำรามอย่างดุร้าย เสี่ยวอู่ทนไม่ได้จนต้องกระโดดลงจากไหล่ของจูนจิ่วโถมตัวเข้าไป อุ้งเท้าดีดกรงเล็บแหลมคมออกมา สะบัดข่วนไปยังใบหน้าของตู๋กูชิง
ตู๋กูชิงยังคงหลงอยู่ในวังวนการแสดง ทำให้ไม่ทันได้สังเกตเห็นเสี่ยวอู่ในชั่วขณะ
“อ๊าก”ตู๋กูชิงร้องเสียงดังถอยหลังไป เขายกมือขึ้นลูบไปยังหน้าด้านขวาที่เปียกชื้น ก้มหน้ามองดูมือที่เต็มไปด้วยเลือด อาการเจ็บปวดส่งผ่านมา เห็นได้ชัดว่าใบหน้ามีร่องรอยเป็นสามเส้นเพิ่มขึ้นมา
“เจ้าเดรัจฉานสมควรตาย”ตู๋กูชิงคำรามอย่างโมโห ยกมือขึ้นถ่ายพลังตบไปยังเสี่ยวอู่
เสี่ยวอู่ไม่มีความหวาดกลัว แยกเขี้ยวขู่เสียงต่ำพุ่งเข้าหาตู๋กูชิงอีกครั้ง จูนจิ่วเห็นแววสังหารในสายตาของตู๋กูชิง พลังของนักจิตใหญ่ชั้นเก้าได้ปะทุขึ้นทั้งหมดแล้ว อันตราย จูนจิ่วเอ่ยขึ้นว่า “เสี่ยวอู่รีบหลบไป ”
อ๊าก!
ปัง!
ตู๋กูชิงร้องอย่างเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง กรงเล็บอันแหลมคมของเสี่ยวอู่ข่วนไปบนหลังมือของเขาจนถึงบริเวณข้อมือ เห็นร่องรอยบาดแผลที่ปริออกได้อย่างชัดเจน แต่ตู๋กูชิงก็ส่งพลังโจมตีถูกเสียวอู่เช่นเดียวกัน เสี่ยวอู่กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ ยังไม่ทันได้ถอยออกก็ถูกมืออีกข้างของตู๋กูชิงยื่นออกมาคว้าที่คอของมันเอาไว้
เสี่ยวอู่ จูนจิ่วก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าวแต่ชั่วขณะก็แข็งทื่อไป ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ฤทธิ์ของพิษกู่หลงรักนั้นรุนแรงมาก ออกฤทธิ์เร็ว ถ้าหากนางเคลื่อนไหว หรือว่าใช้พลังทิพย์ การสะกดพิษกู่เมื่อครู่ก็จะไร้ผลทันที
กัดฟัน จูนจิ่วเงยหน้าจ้องไปยังตู๋กูชิงอย่างเลือดเย็น นางเอ่ยขึ้นว่า “ปล่อยเสี่ยวอู่ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็อย่าคิดว่าจะได้กุญแจเวลา”
เหมียว เสี่ยวอู่ครางอย่างรู้สึกน้อยใจและเจ็บปวด จูนจิ่วมองเสี่ยวอู่ ในใจก็รู้สึกถึงความเจ็บระลอกหนึ่ง นางพูดต่อไปว่า“ท่านทำร้ายเสี่ยวอู่หนึ่งส่วน ข้าจะคืนท่านสิบส่วน ตู๋กูชิง ปล่อยมันซะ ”
ใบหน้าของตู๋กูชิงบิดเบี้ยวไม่ชั่วครู่ จ้องไปที่จูนจิ่วเขม็ง “เจ้ากล้าข่มขู่ข้าหรือ”
ทั้งสองสบตากัน จุดที่สายตาบรรจบกันเกิดแสงไฟประกายแปลบปลาบเต็มไปด้วยไอสังหาร ดวงตาดุร้ายที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดและโมโห ประสานเข้ากับสายตาที่เย็นชากระหายเลือด สุดท้ายตู๋กูชิงก็ละสายตาไปก่อน เขาหัวเราะเสียงดัง
ตู๋กูชิงบีบคอของเสี่ยวอู่เอาไว้ ราวกับทิ้งขยะโยนไปให้กับหงยิง เขาจ้องจูนจิ่วเขม็งพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หงยิง ขังเจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้ไว้ให้ข้าที รอข้าจัดการจูนจิ่วอยู่หมัดแล้ว ค่อยไปจัดการมัน”
“เจ้าค่ะ ”หงยิงจับเสี่ยวอู่เอาไว้
ร่างนางเต็มไปด้วยเลือด เงยหน้ามองจูนจิ่วด้วยใบหน้าดุร้ายบิดเบี้ยว หงยิงยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นแล้ว