บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 479 จำเป็นต้องไปหา
“ทางเลือกอะไร”ลี่หยุนซูเกร็งร่าง มองจูนจิ่วอย่างกระวนกระวายใจอยู่ไม่สุข แล้วก็มองไปทางเหลิ่งยวน
นางรู้ว่านางหนีออกไปไม่ได้ ไม่พูดถึงเหลิ่งยวน แค่จูนจิ่วคนเดียว คิดถึงวันนี้ที่เห็นแค่ดวงตาของจูนจิ่ว นางก็สูญเสียพลังในการควบคุมร่างกายตนเอง ลี่หยุนซูหัวใจกระตุกอย่างตื่นตระหนก จูนจิ่วเป็นใครกันแน่ นางพบเจอกับอะไร ทำไมจึงต้องควบคุมนาง
จูนจิ่วเดินออกมาจากโต๊ะหนังสือ นางยืนอยู่ตรงหน้าลี่หยุนซูจ้องมองและพูดขึ้นว่า “ทางเลือกที่หนึ่ง เจ้ารู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน และได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น เพื่อเป็นการรักษาความลับ ต้องฆ่าเจ้าเพื่อปิดปาก”
ลี่หยุนซูสีหน้าขาวซีดลงทันที อ้าปาก เอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “ทางเลือกที่สองเล่า”
“เลือกข้าง ตู๋กูชิงกับข้า เจ้ายืนอยู่ฝั่งข้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ”จูนจิ่วพูด
ลี่หยุนซูได้ยินกลับนิ่งอึ้งไป นางเบิกดวงตากว้างอย่างไม่คาดไม่ถึง จ้องมองไปยังจูนจิ่วเขม็งอยู่เป็นเวลานาน จูนจิ่วปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลาย ให้นางดู ผ่านไปชั่วครู่ลี่หยุนซูก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เจ้ากำลังพูดอะไร เจ้าไม่ใช่ว่าที่ภรรยาของพี่ตู๋กูหรอกหรือ ทำไมต้องยืนอยู่ข้างเจ้าด้วย”
“ลี่หยุนซู เจ้าน่าจะเห็นแล้ว วันนั้นข้าได้รับบาดเจ็บเพราะถูกคนวางยา และคนคนนั้นก็คือตู๋กูชิง”
เฮือก ลี่หยุนซูสูดลมหายใจเข้า นิ่งอึ้งไป
จูนจิ่วพูดต่ออย่างไม่รีบร้อนว่า “เขาวางยาข้า ข้าหนีมาได้ ข้าเองก็ฆ่าคนของเขาที่ชื่อเมี่ยวยู่เอ๋อ ฉะนั้น ข้าไม่สามารถกลับไปได้ ได้แต่เลือกสถานที่ที่ปลอดภัยต่อข้า และเจ้าก็มาได้ประจวบเหมาะพอดี”
“จูนจิ่ว เจ้าก็รู้ว่าข้าหลงรักพี่ตู๋กูจนหมดใจ ทำไมข้าต้องช่วยเหลือเจ้า ทำไมต้องเชื่อคำพูดของเจ้า”ลี่หยุนซูถามกลับไป
มุมปากโค้งขึ้น จูนจิ่วยิ้มอย่างเย็นชาสามหาว
สายตาเย็นชาของนางจ้องมองไปยังลี่หยุนซู “เลือกข้า อยู่ เลือกตู๋กูชิง ตาย ลี่หยุนซูเลือกหนึ่งข้อเถอะ”
ร่างกายของลี่หยุนซูแข็งทื่อ สีหน้าขาวซีดมองจูนจิ่วอย่างหวาดกลัว นี่เรียกการเลือกหรือ นี่มันไม่มีทางเลือกเลยต่างหาก ไม่อยากตายก็ต้องยืนอยู่ข้างนาง ลี่หยุนซูชื่นชอบตู๋กูชิง แต่แน่นอนว่าย่อมไม่ถึงขั้นที่จะยินยอมสละชีวิตเพื่อตู๋กูชิงได้
ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินเรื่องที่ตู๋กูชิงวางยาว่าที่ภรรยาของตนเอง เครื่องชั่งน้ำหนักในใจของลี่หยุนซูก็เอียงไปแล้ว
เวลาผ่านไปช้าๆ จูนจิ่วยังคงมีท่าทีเกียจคร้านเหมือนเดิม ไม่รีบไม่ร้อนรน กลับเป็นลี่หยุนซูที่ลมหายใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งเร็วขึ้น ในใจราวกับมีหินก้อนใหญ่ๆทับเอาไว้ นางกัดฟัน
ลี่หยุนซูเอ่ยขึ้นว่า :“ถ้าหากข้าเลือกเจ้า ต้องทำอะไร”
“ไม่บอกที่อยู่ของข้ากับใครทั้งนั้น นอกจากนี้ก็เอาแผนที่ของเขาสรรพสัตว์ให้ข้าหนึ่งแผ่น”
“แค่นี้หรือ”ลี่หยุนซูมึนงง
จูนจิ่วพยักหน้า “ใช่”
ท่าทีบนใบหน้าของลี่หยุนซูเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง นางคิดว่าจูนจิ่วจะใช้นางมาเป็นเครื่องมือในการต่อกรกับตู๋กูชิง แต่สุดท้ายแค่ต้องการให้นางรักษาความลับ แล้วก็ให้แผนที่หนึ่งแผ่น เพียงเท่านี้เองหรือ
นางพบว่าตนเองไม่เข้าใจจูนจิ่วเลยสักนิด นอกจากจะรู้ว่าจูนจิ่วงดงามมากเดิมพันหินทิพย์ก็ร้ายกาจที่สุด เป็นว่าที่ภรรยาของตู๋กูชิง นอกเหนือจากนี้ ลี่หยุนซูไม่รู้อะไรอีกเลย แม้แต่จูนจิ่วมาจากที่ใดนางก็ไม่รู้
ความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดทำให้ลี่หยุนซูตัดสินใจเลือก ด้วยความประหลาดใจ นางถามขึ้นว่า“ทำไมเจ้าต้องการแผนที่ของ เขาสรรพสัตว์ เจ้าจะไปเขาสรรพสัตว์หรือ”
“ทายถูกแล้ว”
เสี่ยวอู่หลบอยู่ที่เขาสรรพสัตว์ นางต้องไปพาแมวโง่ตัวนี้หรือจะพูดว่าเสือขาวโง่ตัวนี้กลับบ้าน ส่วนตู๋กูชิง ในดวงตาของจูนจิ่วที่ขรึมเข้มมีแววพิฆาตวาบผ่าน
ทุกบัญชี จูนจิ่วจำได้อย่างแม่นยำชัดเจน หลอกลวง วางแผนการ วางยา ทำร้าย ล่วงเกินข้า ต้องได้รับการตอบแทนกลับเป็นพันเท่า
ตอนนี้ก็ให้ตู๋กูชิงหานางในตำหนักไท่หวงต่อไปเรื่อยๆ นางไปตามหาเสี่ยวอู่ก่อน
จูนจิ่วไม่รีบร้อนที่จะแก้แค้น นางรู้ดีว่าเบื้องหลังพลังของตนเองนั้นสู้ตู๋กูชิงไม่ได้ ต้องการฆ่าเขา ไม่ได้ง่ายดายเหมือนต่อกรกับสำนักศึกษาเทียนซู นางยังต้องผ่านตำหนักไทหวงเพื่อไปยังชั้นกลางสามชั้น ไม่สามารถจะแตกหักเป็นศัตรูกับตำหนักไท่หวงอย่างสิ้นเชิงได้
สายตาหยุดอยู่ที่ร่างของลี่หยุนซู แววตาของจูนจิ่วไหววาบ
ดึงตัวลี่หยุนซูมาเป็นพวกเพื่อรับใช้ตนเอง แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ให้นางรักษาความลับเท่านั้น เรื่องการให้แผนที่ก็แสนจะง่ายดาย ลี่หยุนซูเป็นลูกสาวของเจ้าตำหนัก พ่อของนางเป็นหนึ่งในสามเจ้าตำหนักที่มีอำนาจในตำหนักไท่หวงตอนนี้ เป็นปรปักษ์กับตู๋กูชิงพอดี
ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน จูนจิ่วยังต้องค่อยๆวางแผน ว่าจะสู้กับตู๋กูชิงอย่างไร
ตอนเองนี้ ลี่หยุนซูเอ่ยปากทำลายความคิดของจูนจิ่ว นางพูดว่า “เกรงว่าเจ้าจะไปที่เขาสรรพสัตว์ไม่ได้”
คิ้วดำขมวดขึ้น จูนจิ่วมองไปทางลี่หยุนซูรอให้นางบอกคำตอบ ลี่หยุนซูก็ไม่ได้ปิดบังซ่อนเร้นอะไร นางพูดออกไปตรงๆว่า “เขาสรรพสัตว์เป็นสถานที่ที่ตำหนักไท่หวงใช้จัดการแข่งขันสัตว์ทิพย์ สถานที่นั้น นอกจากจะเปิดในช่วงจัดการแข่งขันสัตว์ทิพย์แล้ว เวลาอื่นๆจะถูกปิดตายเอาไว้ เพราะว่าสัตว์ทิพย์ข้างในนั้นร้ายกาจมาก ถ้าหากพวกมันหนีออกมาได้ อาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น”
“ฉะนั้น แม้เจ้าจะมีแผนที่ก็เข้าไม่ได้ ทำได้เพียงรอให้มีการเปิดการแข่งขันสัตว์ทิพย์ จึงจะเข้าไปได้ อีกอย่างข้าก็ไม่เข้าใจ เขาสรรพสัตว์เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุด นอกจากเหล่าลูกศิษย์ที่สถานะต้อยต่ำเหล่านั้นที่ยอมสู้ตายเพื่อให้ตนเองได้มีความก้าวหน้า ก็ไม่มีใครยินดีจะเข้าไปข้างใน ทำไมเจ้าต้องไปด้วย”
เผชิญหน้ากับคำถามของลี่หยุนซู จูนจิ่วมุมปากกระตุกขึ้น
นางเงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งยวน ใช้สติส่งสัญญาณเสียง “ทำไมเสี่ยวอู่จึงเข้าไปได้ ”
เหลิ่งยวน “แม่นางจูน เสี่ยวอู่เป็นถึงเสือขาวสัตว์เทพในตำนาน ขวางมันไว้ไม่ได้”
จูนจิ่วถอนหายใจหนึ่งเฮือก ยื่นมือออกมานวดเคล้นที่หัวคิ้ว รอให้นางหาตัวเสี่ยวอู่พบแล้วต้องตีก้นสั่งสอนซะหน่อย หลบที่ไหนไม่หลบ จำต้องไปหลบในที่ที่แสนจะยุ่งยากเช่นนี้
จะทำอย่างไรได้ แมวก็เป็นของตนเอง จำเป็นต้องไปหาซินะ
เดี๋ยวก่อน จูนจิ่วนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน เหมือนกับว่าที่สำนักศึกษาเทียนซูกำลังเตรียมกันนั้นก็เพื่อที่จะเตรียมตัวคัดเลือกคนที่จะมาเข้าร่วมการแข่งขันอะไรสักอย่างของตำหนักไท่หวงมิใช่หรือ น่าจะเป็นการแข่งขันนี้ นั่นก็คือการแข่งขันสัตว์ทิพย์ สายตาเย็นชาลง จูนจิ่วมองไปทางลี่หยุนซูอีกครั้ง “การแข่งขันสัตว์ทิพย์จะจัดขึ้นเมื่อไหร่”
ลี่หยุนซูบอกกับนางว่า อีกหนึ่งเดือนให้หลังนี้
แต่ถ้าต้องการเข้าร่วมการแข่งขันสัตว์ทิพย์ จำเป็นต้องทำการสมัครก่อน และยังต้องเป็นคนที่เจ้าตำหนักอนุญาตแล้วเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมการแข่งขันสัตว์ทิพย์ได้ การแข่งขันสัตว์ทิพย์แม้จะโหดเหี้ยมอย่างไร้ที่เปรียบ ทุกครั้งมีคนบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน แต่ขอเพียงสามารถเอาชนะออกมาได้ ก็จะกลายเป็นปลาที่กระโดดข้ามประตูมังกรมีตำแหน่งสถานะที่สูงขึ้น ก้าวเดียวขึ้นสวรรค์ไปเลย
จะแย่แค่ไหน ก็ล้วนเป็นถึงลูกศิษย์หัวกะทิของตำหนักไท่หวง เก่งกาจยอดเยี่ยม กระทั่งสามารถเป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของเจ้าตำหนักได้เลย ภายหน้าอาจจะสามารถกลายเป็นเจ้าตำหนักของตำหนักไท่หวง
เช่นตู๋กูชิง ตอนนั้นเขาขึ้นเป็นผู้นำในการแข่งขันสัตว์ทิพย์ ก้าวเดียวขึ้นสวรรค์ จากลูกศิษย์หัวกะทิ กระโดดไปเป็นผู้สืบทอดของเจ้าตำหนัก จึงได้เป็นเจ้าตำหนักของตำหนักไท่หวงเช่นปัจจุบันนี้ แต่ว่าเขาเป็นกรณีพิเศษในร้อยปีที่ผ่านมานี้ คนอื่นๆไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
ลี่หยุนซู “คนที่เข้าร่วมการแข่งขันสัตว์ทิพย์ ล้วนเป็นลูกศิษย์ของตำหนักไท่หวง จูนจิ่วเจ้าไม่ได้เป็นแม้กระทั่งลูกศิษย์ของตำหนักไท่หวง คิดอยากจะเข้าไปคงต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าตำหนักคนใดคนหนึ่ง เจ้าอย่ามองข้า พ่อข้าเป็นคนหัวดื้อไม่มีทางช่วยเจ้าได้ แต่ว่า ข้ารู้จักคนคนหนึ่ง บางทีอาจจะช่วยเจ้าได้”
“ใคร ”
เดินอยู่ในตำหนักไท่หวง เดินไปยังทิศตะวันออกจากตำหนักของตู๋กูชิง
ถ้าหากไม่ใช่เพราะลี่หยุนซูเอาชีวิตของตนเองมาสาบาน ใครก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย ว่านางอยากจะหลอกจูนจิ่วไปส่งให้กับตู๋กูชิงหรือไม่ ลี่หยุนซูอธิบายว่า นี่คือเส้นทางที่นางจะพาไปพบกับคนที่สามารถช่วยเหลือจูนจิ่วให้เข้าร่วมการแข่งขันสัตว์ทิพย์ได้
“ถึงแล้ว”ลี่หยุนซูหยุดฝีเท้าลง พูดเสียงเบาว่า “ถ้าเข้าไปแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดอะไร ข้าจะลอดพูดคุยดูก่อน ดูซิว่าจะได้หรือไม่”
จูนจิ่วพยักหน้า น่าประหลาดใจที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือห้องหนังสือ