บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่135แววตาแห่งการเคารพ
บทที่135แววตาแห่งการเคารพ
เราต้องรีบหนีทันทีจูนจิ่วพูดขึ้นว่า “เพราะข่าวเรื่องหยกทิพย์ ได้ดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศ พวกเราจะให้คนเหล่านั้นเห็นตัวไม่ได้เด็ดขาด”
“แล้วถ้าหากโดนพบเข้าจะเป็นอย่างไร” กู่ซงถามขึ้น
จูนจิ่วเหลือบตามองเขา “หากเป็นนักจิตที่ต่ำกว่าระดับห้าสักสองสามคนก็ยังพอสู้ได้ แต่ถ้ามาเป็นฝูงละ ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นนักจิตที่ระดับมากกว่าห้าขึ้นไป หากโดนพบเข้าเจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
จูนจิ่วไม่รอให้กู่ซงได้ตอบ รีบพูดขึ้น “อย่าหวังให้อาจารย์ของข้าเข้ามาช่วยเลย นี้เป็นบททดสอบสำหรับเรา จะต้องใช้สติปัญญาของเราเอง หนีจากที่นี่ให้ได้ก่อน แล้วข้าจะแบ่งน้ำหยกทิพย์ให้ทุกคน”
“แล้วถ้าหนีไม่พ้นเล่า จะทำอย่างไร”
“หากเจ้าไม่เชื่อใจตัวเอง ก็จงเชื่อใจข้า ข้าจะพาออกไปอย่างปลอดภัย มายังไง ก็ออกไปแบบนั้น” จูนจิ่วยิ้มออกมาอย่างมากใจ ทั้งโอ้อวดและหลงในตัวเอง
ทั้งสามคนรีบผงกหัว พวกเขาเชื่อใจจูนจิ่ว
แล้วจึงรีบออกไปจากที่นั่นทันที
โม่อู่เยว่ไม่ได้ตามไปด้วย แล้วส่งพวกจูนจิ่วทางที่ไกล จูนจิ่วนางพูดถูก นี่เป็นบททดสอบนางและเพื่อนที่นางเลือก ข้าจะรอ ไม่รู้จูนจิ่วจะทำสำเร็จหรือไม่
ถ้าหากสุดท้ายแล้วนางต้องการความช่วยเหลือ นางจะยืนหยัดได้ถึงเมื่อไหร่ ถึงจะขอความช่วยเหลือ นี่เป็นพวกพ้องที่จูนจิ่วเลือกเอง เขาไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยมั่วซั่วได้ ได้แต่ปกป้องนางอย่างลับๆ และเตรียมพร้อมทุกเมื่อ
เหลิ่งยวนที่รีบกลับมารายงาน คุกเข่าเครารพ แล้วพูดว่า “นายท่านจูนหยูนเสี่วยกระโดดลงไปในน้ำตก ข้าตานางไม่ทัน”
“เจ้าจงจำไว้ กลับไปเมื่อไหร่เจ้าค่อยรับโทษ”
“ขอรับ” เหลิ่งยวนหลังเคารพเสร็จจึงลุกขึ้น
ทั้งสองยังไม่ได้ไปไหน จนปรากฏร่างชายชรากำลังเข้ามาทางพวกเขา ชายชราผู้นี้หาหยกทิพย์จนทั่วทะเลสาบแล้วไม่พบ ถึงเหลือบเห็นพวกโม่อู่เยว่ ใมนชั่วพริบตานั้น ชายชราผู้นั้นได้แกว่งดาบเล่มใหญ่ใส่พวกโม่อู่เยว่ “หนุ่มน้อย ของล้ำค่าที่อยู่ที่นี่พวกเจ้าเอาไปใช่หรือไม่ เอาออกมาให้ข้า”
โม่อู่เยว่ยังไม่แม้แต่จะแลชายชราผู้นั้น เหลิ่งยวนวาบหายไป พอวาบกลับอีกที ก็พบว่าชายชราผู้นั้น โดนฟันคอจนขาดหล่นอยู่ที่พื้น
เหลิ่งยวนจึงพูดขึ้น “นายท่าเราควรไปปกป้องพวกจูนจิ่วกันดีหรือไม่”
“ไป”
โม่อู่เยว่กับเหลิ่งยวนจึงมุ่งไปทางที่จูนจิ่วหนีไป แต่เขากลับไม่รีบอะไร อีกทั่งโม่อู่เยว่ยังเอ้อระเหย ทำให้ทั่งสอคนเหมือนประภาคารที่ส่องสว่างในความมืดจนผู้คนเหล่านั้นจ้องมองมายังเขาทั้งสอง
คนเหล่าก็เหมือนกับชายชราผู้นั้น บีบบังคับให้เขาทั้งสองพูด แต่ทุกคนก็ชะตาเดียวกันกับชราอีกไม่มีใครที่รอดไปได้สักคน
เหลิ่งยวนกำลังสะบัดเลือดที่ติดอยู่ที่ดาบออก พรางคิด เขาไม่รู้ว่าระหว่างโม่อู่เยว่กับจูนจิ่วตกลงอะไรกันไว้ เพราะโม่อู่เยว่นั้นไม่ได้ตามจูนจิ่วไป
แต่เหลิ่งยวนรู้ดี ว่านายของตัวเองเป็นพวกที่ชอบคิดอะไรตามใจตัวเอง อย่างเช่นตอนนี้เขาก็คิดที่จะให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่อยู่ในการควบคุมของเขา
ดังนั้นม้ว่าจุนจิ่วจะอยู่ที่อื่นก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ว่าอย่างไรนายของเขาก็ยังคงมองเห็นจูนจิ่ว นายท่านแสดงออกต่อจูนจิ่ว
ตรงไปตรงมาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่านายของตนได้กำจัดกองไฟกองให้กับจูนจิ่ว เห็นเช่นนี้แล้วทำให้เหลิ่งยวนรู้สึกซาบซึ่งใจขึ้นมา
ก็แค่ไม่รู้ว่าจูนจิ่วจะรู้สึกซาบซึ่งหรือเปล่า
แต่เหลิ่งยวนยิ่งไม่แน่ใจว่า ผ่านคืนนี้ไป จะมีข่าวลือเรื่องที่มีปีศาจร้ายฆ่าผู้คนออกไปจากเขาปู้หว่งหรือเปล่า ปีศาจร้ายที่บ้าคลั่งตัวนี้เวลาที่มันฆ่าใครมันก็ทำเพียงฟันคอผู้นั้นเท่านั้น ประชากรหลายสิบแคว้นที่อยู่บริเวณต่างใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพราะเพียงแค่ได้ยินชื่อมันก็กลัวจนตัวสั่น
อีกด้านหนึ่ง จูนจิ่วกับทั้งสามคนและแมวหนึ่งตัว ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ใหญ่ ในระหว่างการหนีนั้นก็ไม่ได้ปะทะกับนักจิตเลยสามคน เพราะด้วยทำตามวิชาล่องหนที่จูนจิ่วเป็นคนสอนแล้วต่อให้เดินอีกหนึ่งชั่วยาม ก็ไม่มีใครหาพวกนางเจอแน่นนอน
ทั้งสามคนพร้อมใจมองสายตาที่มุ่งมั่นของจูนจิ่ว พรางทั้งสามก็เกิดเลื่อมใสในตัวของจูนจิ่วขึ้นมา
“ที่นี่แหละ” จูนจิ่วเขี่ยปีศาจเถาวัลย์ที่อยู่แถวนนั้นออก พรางมันก็ตื่นขึ้นมา ใครที่ทำร้ายมัน มันก็จะโต้ตอบกลับมา
ทั้งหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว ทำให้ได้เห็นถ้ำที่อยู่หลังเถาวัลย์ที่เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ ถ้ำแห่งนี่เสี่ยวอู่พบเข้าโดยบังเอิญจากที่มันโลดแล่นไปมา เหมือนกับที่พบหญ้าชีซวนโลยังไงอย่างนั้น อาจพูดได้ว่านี่คงเป็นพรสวรรค์ของเสี่ยวอู่
พวกเขาทั้งสี่จึงได้เดินเข้าถ้ำไป จูนจิ่วได้หยิบไข่มุกราตรีออกมา ส่องแสงสว่างไปทั่วทิศ
ด้วยแสงของไข่มุกราตรีทำให้ถ้ำที่มืดกลับสว่างละมุนละไม อีกทั้งยังไม่รู้สึกแสบตา บวกเข้ากับที่หน้าถ้ำมีปีศาจเถาวัลย์ค่อยเฝ้าอยู่ ถ้าหากไม่ลองเขี่ยดูดีๆ ก็ไม่มีวันรู้ได้ว่ามีถ้ำอยู่ในนี้
“จูนเสี่ยวเหล่ยถือนี่ไว้” จูนจิ่วยื่นไข่มุกราตรีให้เสี่ยวเหล่ย
พวกเขาไม่รู้ว่าจูนไปเอาของออกมาเทเป็นกองนี้มาจากไหน ดูแล้วราวกับกลอะไรสักอย่าง จากนั้นก็นำไปวางไว้หน้าถ้ำ
กู่ซงจึงถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “นี่มันคืออะไร”
“มันคือ กลอย่างหนึ่ง ถ้าหากใครมามันจะคอยเตือนเรา หากใครที่ไม่คุ้นเคยกับมันแล้วโดนเข้า ก็อาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ต่อให้เป็นนัดจิตระดับสูงยากก็หนีมันพ้นได้” จูนจิ่วรีบอธิบาย
นี่เป็นอาวุธลับที่จูนจิ่วเอาออกมากำไลของนาง มันเล็กมาก ต่อให้ซ่อนเอาไว้บนตัวก็ไม่มีใครสงสัย นับประสาอะไรกับทั้งสามคนที่ตอนนี้นับถือจูนจิ่วอย่างสุดใจ ก็ยิ่งเชื่อใจนางว่ามันใช้การได้
หลังจากวางกับดักเสร็จแล้ว จูนจิ่วจึงถือไข่มุกราตรีและนำหน้าทุกคนไป
แม้ทางเข้าปากถ้ำจะเล็ก แต่ข้างในถ้ำกลับกว้างขวาง เป็นถ้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ภายในถ้ำนั้นมีแอ่งเล็กๆ อยู่หลายแอ่ง มีหินหยดหินย้อยที่ย้อยลงมาเป็นจำนวนมาก ในทุกๆ ก้าวที่เกิดเสียงทำให้ค้างคาวที่หลับกลับแตกตื่น ทั้งสัตว์และแมลงต่างก็พรางกันตื่นตัวไปด้วย
เสี่ยวอู่เดินอยู่หน้าสุด มันหาที่เรียบๆ และยึดพื้นที่นั้นเป็นของตัวเองพรางกวักมือให้จูนจิ่วเข้าไปหามัน
จูนจิ่ว” ที่นี่ปลอดภัยเพียงชั่คราวเท่านั้น รอจนพวกคนที่หาหยกทิพย์กลับกันไปหมดแล้ว แล้วถึงค่อยออกไป แล้วทีนี้เราจะทำอะไรกันดี”
จูนจิ่วจึงนำหยกทิพย์หยกทิพย์ออกมา และทำตามเหมือนโม่อู่เยว่ลูบไล้บนใบในตัวมัน แต่มันกลับเพียงขับไปมาเท่านั้น ไม่ยอมหยดน้ำหยดทิพย์ออกมา
จูนจิ่วใช้สายตาเย็นชาพร้อมขมขู่มัน “ถ้าหากเจ้าไม่หยดน้ำหยกทิพย์ออกมา ข้าจะโยนเจ้าให้แมวกิน”
“เมี้ยว” เสียวอู่ดวงตาเบิกกว้าง
รีบลุกขึ้นทำท่าทางออดอ้อนและคลอเคลียอยู่รอบตัวจูนจิ่ว มันจ้อ
มองไปยังสิ่งที่อยู่ในมือของจูนจิ่ว ทั้งเลียปากและน่ำลายไหล อย่างที่พูดไป หยกทิพย์นั้นยังเย้ายวนสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ทั้งหลายอีกด้วย
ในที่สุดการขมขู่มันก็เป็นผลสำเร็จ หยกทิพย์หยกทิพย์ ค่อยค่อยขยับไปของมันอย่างสั่นเทา ครั้งหนึ่งสองและสาม หยดเพียงสามหยดแล้วจึงหยุดไหล หยกทิพย์หยกทิพย์จึงขดตัวเป็นวงกลมดูแล้วน่าสงสาร
ดวงตาของจูนจิ่วจึงส่องประกายขึ้น “ยังนับว่าฉลาด”
มีแล้วสามหยด บวกกับครั้งแรกอีกสองหยด พอดีกับพวกนางที่มีสี่คนกับแม่ทีตัวได้ดื่ม ทำไมต้องรวมเสี่ยวอู่เข้าไปด้วย หยกทิพย์หยกทิพย์นั้นกลัวจะถูกเสียวอู่กินไปทั้งตัว
เงยหน้าขึ้นมองพวกหยูนเฉียวแล้ว จูนจิ่วจึงพูดขึ้น “น้ำหยกทิพย์คนละหยด มันมีพลังมากกว่าน้ำหยกทิพย์ทั่วไป หลังจากดื่มเข้าไปแล้ว ไม่ว่าไปที่ใดก็จะมีแต่โชคลาภ”
จูนเสี่ยวเหล่ย “ขอบคุณศิษย์พี่จิ่ว”
หยูนเฉียว “ขอบคุณแม่นางจิ่ว”
กู่ซง “จูนจิ่ว ขอบคุณ” “พวกเจ้าสามคนดื่มก่อน เดี๋ยวข้าจะเป็นคนคุ้มกันให้ เจ้าก็เหมือนกันเสี่ยวอู่รีบกินเข้าไป”