บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 1001
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1001
เมื่อรู้สึกถึงร่างสูงที่อยู่ด้านหลังของเธอ หัวใจของลาน่าก็เต้นไม่เป็นจังหวะ
หญิงสาวหันศรีษะไปมองช้า ๆ จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาทว่ามีรังสีน่ากลัวแผ่ออกมาของเจเรมี่ก็สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอ
ชายหนุ่มยืนหันหลังบังแสงสว่างที่ลอดเข้ามา การมีอยู่ของเขากำลังกดดันผู้หญิงสองคนอย่างมหาศาล จนคนมองรู้สึกได้ถึงความสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมา
ลาน่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัว แต่เธอก็สงบลงได้อย่างรวดเร็วและเอ่ยออกมาอย่างอวดดี “เจเรมี่ คุณลักพาตัวฉันมาทำไม? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
น้ำเสียงของเธออวดดีเหมือนเคย แน่นอน ลาน่ารู้ว่าเธอไม่สามารถหลอกเจเรมี่ได้อีกต่อไป เพราะเขาจำทุกอย่างได้แล้ว
ลาน่ามองชายผู้ไร้อารมณ์คนนั้นและเชิดหน้าขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“คุณเป็นคนฉลาดเจเรมี่ แต่คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่าใครที่เข้ากับคุณมากกว่า? เอวลีนไม่เหมาะกับคุณหรอกนะ ตราบใดที่คุณอยู่กับฉันและยอมเป็นผู้ชายของฉัน ฉันจะให้คุณสัมผัสความสุขที่แท้จริงของการเป็น…”
เพียะ! เจเรมี่ตบลาน่าเข้าอย่างแรง
“โอ๊ย!”
ลาน่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทว่าใบหน้าของเจเรมี่ก็ยังไม่มีความรู้สึกใด ๆ
ทว่ายิ่งเขาดูนิ่งเงียบและเย็นชาเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงพายุร้ายที่อาจจะมาหลังความสงบเหล่านั้น
ลาน่าไม่รู้แล้วว่าเธอโดนตบไปกี่ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ใบหน้าสวยของเธอร้อนผ่าวและเธอก็ได้ลิ้มรสเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปากอีกครั้ง
เจเรมี่ใช้แรงจำนวนมากในการตบนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธแค้นผู้หญิงตรงหน้ามากขนาดไหน
ก่อนที่ลาน่าจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด เจเรมี่ก็กระชากคอเสื้อของเธอขึ้นมา
ระยะห่างที่ใกล้กันมากทำให้ลาน่าหัวใจเต้นแรง
ทว่าความเย็นชาในแววตาของเจเรมี่กลับทำให้ต้องตื่นจากฝันหวาน ในวินาทีนั้นลาน่าตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ เจเรมี่ ฉันบงการตอนที่คุณสูญเสียความทรงจำก็จริง แต่ฉันก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตในตอนคุณเกือบตายอยู่บนเรือ…”
เพียะ!
“โอ๊ย!”
เจเรมี่ตบเธออีกครั้งจนเธอรู้สึกชากล้ามเนื้อบนใบหน้า
“เธอกล้าพูดได้ยังไงว่าเธอช่วยชีวิตฉัน?” เจเรมี่กระชากคอเสื้อของลาน่าแน่น จนค่อย ๆ พรากลมหายใจของเธอไปช้า ๆ
แววตาของชายหนุ่มนั้นมืดมนและเย็นชา เมื่อมองเข้าไปในนั้น ลาน่าก็เห็นเพียงเปลวไฟแห่งความโกรธที่ร้อนแรง และความอาฆาตอันน่าสะพรึงกลัวที่อัดแน่นอยู่ในนั้น
“ถ้าเธอไม่พยายามเข้าใกล้ฉันอย่างไร้ยางอายและใช้ความเชื่อใจของเอวลีนที่มีต่ออดัมให้เอวลีนกินยาที่ไม่ควรกิน ฉันก็คงไม่ต้องพาเขาไปที่เกาะ
“ฉันรู้ว่าตอนนั้นเอวลีนไม่พอใจฉัน แต่เขาก็ยังเป็นห่วงฉัน ตราบใดที่เขาให้กำเนิดลูกอย่างปลอดภัย ฉันก็ไม่สนหรอกว่าเขาจะตำหนิฉัน แต่เธอล่ะทำอะไร?”
สายตาของเจเรมี่เฉียบคม
“เธอตั้งใจจะฆ่าเขาให้ตาย”
“เธออยากจะฆ่าลินนี่ของฉัน!”
“เจเรมี่ ปะ ปล่อยฉันนะ…” ลาน่าเริ่มหน้าแดง เมื่อเจเรมี่ใช้มือบีบที่คอระหงแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
“เพื่อความปลอดภัยของเมเดลีนและเด็ก ๆ ฉันจำเป็นต้องให้เธอออกจากเรือไปพร้อมลูก ๆ ฉันรู้ดีว่าลินนี่เจ็บปวดมากแค่ไหนและลังเลแค่ไหนที่จะต้องปล่อยฉันไป แต่เธอก็ต้องทำ ฉันนึกออกด้วยว่ามันจะเจ็บปวดมากขนาดไหน ที่คิดว่าฉันตายไปแล้วในทะเล”
“แต่ฉันไม่ตาย ฉันดันถูกปีศาจร้ายอย่างเธอช่วยชีวิตเอาไว้ นี่น่ะเหรอที่เธอเรียกว่าความเมตตา เธอบงการตอนที่ฉันความจำเสื่อมและทำให้ฉันเชื่อว่าเราเป็นคนรักกัน หึ คนรักงั้นเหรอ?”
มีความเย้ยหยันในแววตาของเจเรมี่
“ลาน่า เธอมันน่าสมเพช ถึงแม้ว่าฉันจะสูญเสียความทรงจำและแม้ว่าฉันจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอคือคนรัก แต่ฉันก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง!”
“…” ลาน่าคิดไม่ถึงว่าเจเรมี่จะเยาะเย้ยและทำให้เธอขายหน้ามากมายขนาดนี้ สำหรับเธอความอับอายก็เป็นการทรมานเธอไม่แพ้กัน
เธอเป็นคนมีความมั่นใจสูงมาตั้งแต่เด็กและคิดว่าผู้ชายทุกคนจะต้องชอบเธอ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนในโลก แต่อย่างน้อยผู้ชายที่เธอคบหาก็จะต้องบูชาเธอราวกับเป็นเทพธิดา
ยกเว้นก็แต่เจเรมี่ ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีการมากมายแค่ไหนเพื่อยั่วยวนเขา เขาก็ยังคงนิ่งสงบเหมือนเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายไม่ว่าจะด้วยเสน่ห์ หรือความเย้ายวนของเธอก็ตาม
นาโอมิที่ได้ยินอย่างนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เธอรู้ดีว่าเป้าหมายของเจเรมี่คือลาน่า จึงแสร้งทำเป็นสลบอยู่เงียบ ๆ
เมื่อลาน่ารู้สึกว่าเจเรมี่กำลังจะทำให้เธอหายใจไม่ออก เขาก็ปล่อยมือ
“แค่ก แค่ก แค่ก!” ลาน่านอนอยู่บนพื้นขณะที่ไออย่างรุนแรง
แต่หลังจากฮุบหาอากาศหายใจอยู่สักพัก เธอก็โดนบุหรี่ซองหนึ่งตบเข้าที่หน้า