บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 1016
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1016
อีฟรู้สึกใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ทว่าเธอก็ยังคงน้ำเสียงและท่าทางเหยียดหยามออกมา “ทำไมฉันต้องกลัวด้วย? จะไล่ฉันออกก็ได้ถ้าต้องการ แต่ก็ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ฉันห้าเท่าของเงินเดือนด้วย!”
หญิงสาวลุกขึ้นกอดอกแล้วกลอกตาเอ่ยว่า “ฉันเป็นถึงตัวแทนของฝ่ายเราในการพูดคุยกับสื่อมวลชนสำหรับงานกาล่าการกุศลประจำปีทุกปี ฉันรับผิดชอบส่วนที่สำคัญ ฉันยังเป็นคนเดียวที่สามารถทำส่วนนี้ได้ เพราะอย่างนั้นใครจะกล้าไล่ฉันออก”
เห็นได้ชัดว่า ‘ใคร’ คนนั้นหมายถึงเมเดลีน
สีหน้าที่แสนเย่อหยิ่งของอีฟแสดงออกอย่างชัดเจนเมื่อพูดถึงงานกาล่าการกุศลประจำปี “ขนาดตอนนั้นมาดามมอนต์โกเมอรีก็ยังไม่ให้ฉันไปไหนเลย แล้วเอวลีนเป็นใครถึงจะทำแบบนั้น? เธอคิดหล่อนเป็นประธานบริษัทจริง ๆ เหรอ แค่เพราะฮุบบริษัทได้นะเนี่ยนะ? พวกเธอคงไม่รู้เรื่องนี้สินะ ว่าเธอเคยเป็นนักโทษมาก่อนน่ะ…”
อีฟลดน้ำเสียงลงเล็กน้อยในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงตรงหน้าเบิกตากว้าง ท่ามกลางวงสนทนาของอีฟ พนักงานคนอื่น ๆ ก็จ้องมองร่างที่อยู่ข้างหลังของเธอด้วยความตกใจ
อีฟยังไม่ตระหนักว่าเมเดลีนปรากฏตัว เธอจึงกระตือรือร้นมากขึ้นในขณะที่พูดถึงอีกฝ่าย “พวกเธอเพิ่งจะเข้ามา คงมีบางเรื่องที่อาจจะยังไม่รู้ ฉันจะบอกให้ก็ได้ ถือว่าเป็นโบนัสก็แล้วกัน”
“…”
“เอวลีน มอนต์โกเมอรีน่ะ เคยชื่อว่าเมเดลีน ครอว์ฟอร์ด แต่เธอดันโง่มากเสียจนพ่อแม่ที่ให้กำเนิดของเธอจำเธอสลับกับผู้หญิงอีกคนที่ชื่อว่า เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด พูดกันตามตรงฉันว่าเมเรดิธฉลาดกว่าเยอะ!”
“…”
“ไม่ได้หมดแค่นั้นนะ รู้หรือเปล่าว่าทำไมเอวลีนถึงติดคุกมาก่อน?” อีฟยิ้มขณะที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่น
กลุ่มเพื่อนร่วมงานกลืนน้ำลายและส่ายหัวขณะก้าวถอยหลังกรูด
มันทำให้อีฟรู้สึกได้ใจมากขึ้น ในขณะที่กำลังจะเอ่ยก็มีเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านหลัง “แล้วเธอรู้ไหมว่าทำไมเธอถึงกำลังจะติดคุก? นี่นับเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเปล่านะ?”
อีฟเคยเจอเมเดลีนมาสองสามครั้งและเคยได้ยินเธอพูดระหว่างการประชุมมาก่อน ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงที่ฟังดูคุ้น ๆ นี้ เธอก็รู้สึกเย็นขึ้นมาทั้งตัว
เมื่อหันไปเห็นเมเดลีนยืนอย่างสง่างามอยู่ตรงหน้า อีฟก็แทบคลั่ง “สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุ… คุณมอนต์โกเมอรี คุณคงมาตรวจดูแผนกต่าง ๆ แต่เช้าตรู่แบบนี้ บริษัทเราคงไปได้ไกลมากเลยนะคะ”
เมเดลีนยิ้มรับรอยยิ้มสวย ๆ จากอีฟ และตอบอย่างใจเย็น “ใจเย็นสิคะ ฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะให้ชีวิตส่วนตัวมากระทบกับงาน แม้ว่าฉันจะไม่ไล่ออกเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าคุณใส่ร้ายฉันให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ฉันจะให้ทนายติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด คุณเองก็รอจดหมายจากทนายของฉันแล้วกัน”
“…”
อีฟฉีกยิ้มค้าง
ส่วนเมเดลีนก็วางเอกสารแล้วเดินจากไป
อีฟใช้เวลาทั้งวันด้วยความกระวนกระวาย และในนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา เธอก็ได้รับจดหมายจากทนายของเมเดลีนจริง ๆ
ด้วยจดหมายในมือ อีฟเดินออกมาจากบริษัทในขณะที่พึมพำด้วยความโกรธเคือง ตอนที่เธอกำลังจะเรียกรถแท็กซี่ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าเธอ “เธอสนใจจะมาเป็นหุ้นส่วนกันไหม?”
เสียงผู้หญิงดังมาจากในรถ
“คุณเป็นใคร? แล้วทำไมฉันถึงต้องเป็นหุ้นส่วนกับคุณด้วย?” อีฟกลอกตาด้วยความรำคาญ
“ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือทำตามคำสั่งของฉัน แล้วเงินสด 100,000 ดอลลาร์ นี่จะตกเป็นของคุณ อีกอย่างฉันยังช่วยให้คุณแก้แค้นเอวลีน มอนต์โกเมอรีได้ด้วยนะ”
เมื่อไม่นานมานี้อีฟกำลังเล็งกระเป๋าแบรนด์ใบหนึ่งเอาไว้ ทว่ามีเงินไม่พอที่จะซื้อมัน ในเมื่อมีคนเสนอเงื่อนไขที่ดีเช่นนี้ให้กับเธอ เธอก็ตกลงทันทีโดยไม่ต้องคิด
ท้องฟ้ามืดครึ้มลง เข้าสู่ช่วงกลางคืน
ทุกคนออกจากบริษัทหมดแล้ว เหลือเพียงเมเดลีนทำงานอยู่ในออฟฟิศเพียงลำพัง
วันงานกาล่าการกุศลประจำปีใกล้มาถึงแล้ว ในฐานะผู้รับผิดชอบงาน เธอก็อยากจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ
เธอไม่ต้องการทำให้ฌอนและเอโลอิสต้องอับอายขายหน้าเพราะเธอ
ในขณะที่เมเดลีนกำลังจะบันทึกงาน ทันใดนั้นไฟทั้งอาคารก็ดับลง
เมเดลีนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรโทรหาผู้จัดการอาคารด้วยความสับสน ในตอนนั้นเองที่เธอได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เธอในออฟฟิศ…