บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 1039
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1039
เมเดลีนเดินไปถึงประตูห้อง แล้วไฟในห้องก็ดับลงกะทันหัน
ชั่วขณะหนึ่งเธอก็รู้สึกถึงเงาดำแวบผ่านดวงตาของเธอ แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่เท่านั้น
เมเดลีนตอบสนองด้วยการเปิดไฟในทันที แต่หลังจากเปิดไฟแล้วกลับไม่มีใครอยู่ในห้องเลย ในห้องมีเพียงอัลบั้มภาพงานแต่งงานที่เปิดอยู่ และถูกวางไว้บนเตียง
เมเดลีนเดินเข้ามา และได้กลิ่นหอมเย็น ๆ ผ่านจมูกของเธอจาง ๆ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง
เมื่อเห็นตัวเองฉีกยิ้มด้วยใบหน้าบึ้งตึงในภาพถ่ายแต่งงานประกอบกับท่าทางเย็นชาและไร้ความร่าเริงของผู้ชายคนนั้น เมเดลีนก็ค่อย ๆ หยิบอัลบั้มภาพขึ้นมาอย่างเบามือ ก่อนจะฉีกครึ่งภาพแต่งงานนั้นอย่างแรง
เจเรมี่ซึ่งยืนอยู่หลังม่านตรงระเบียงเห็นฉากนี้ และรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกแทงด้วยมีดอันแหลมคม
เขาเฝ้าดูเมเดลีนวางกล่องเครื่องประดับที่เธอถือไว้อย่างเบามือ ก่อนที่เธอจะจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
หลังจากที่เขาเห็นเธอขับรถออกไป เจเรมี่ก็กลับมาที่ห้อง
ภาพถ่ายงานแต่งงานที่ขาดวิ่นบนพื้นดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของพวกเขา… คู่รักที่ไม่อาจย้อนกลับไปสู่อดีตได้
เจเรมี่หยิบกล่องเครื่องประดับที่เมเดลีนทิ้งไว้ และเห็นแหวนแต่งงานสองวงอยู่ข้างใน รวมถึงเปลือกหอยหลากสีสันและที่คั่นหนังสือ จากนั้นร่างกายของเขาก็ชาไปทั้งตัวราวกับว่าเขาได้กลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็ง ในขณะที่น้ำตาซึ่งไหลออกมาจากหางตาก็กำลังทำให้หัวใจของเขามอดไหม้
“ลินนี่ คุณต้องมีความสุขนะ”
เขากำแหวนแต่งงานที่ถูกทิ้งไว้และยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความสิ้นหวัง
เปลือกหอยที่สีจางไปแล้วและที่คั่นหนังสือในขณะนี้มันได้กลายเป็นเพียงอดีตไปแล้ว
‘ลาก่อนนะ ลินนี่’
‘ในท้ายที่สุด เจซก็ยังทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้กับคุณไม่ได้ สัญญาที่ว่าเขาจะอยู่กับคุณและปกป้องคุณตลอดไป’
‘ชาติหน้า เจซจะนัดเวลากับคุณล่วงหน้านะ ลินนี่’
…
เมเดลีนและไรอันกำลังเตรียมงานแต่งงาน
แม้ว่าจะมีการตัดสินใจแล้วว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่ไรอันก็ยังอยากจะให้เมเดลีนได้สวมชุดแต่งงาน
เพราะอย่างนั้นเมเดลีนจึงกำลังลองชุดสำหรับงานแต่งงานของเธอในร้านขายชุดเจ้าสาว เอวารีบเข้ามาและได้เห็นว่าเมเดลีนกำลังออกมาจากห้องลองเสื้อในชุดเจ้าสาว
เธอเดินไปหาด้วยสายตาตกตะลึง “แมดดี้ เธอยังดูอ่อนโยนเหมือนเด็กสาวอายุ 20 ต้น ๆ เลย”
เอวาชมอย่างจริงใจ แต่ก็แสดงความกังวลออกมาอย่างจริงจังเช่นกัน “แมดดี้ เธออยากแต่งงานกับไรอันจริง ๆ เหรอ?”
เมเดลีนมองตัวเองในกระจกและพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ไรย์เป็นคนดีที่คู่ควรกับฉัน”
“ถ้าอย่างนั้น เธอจะปล่อยวางเรื่องเจเรมี่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?” เอวาถามเรื่องนี้แล้วบรรยากาศก็เงียบไป
เอวาตบปากของตัวเองทันที เธอรู้สึกว่าพูดอะไรผิดไป
ทว่าเมเดลีนกลับยิ้มอย่างใจเย็น “เวลาสามารถเจือจางทุกสิ่ง แม้กระทั่งความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขาให้ลดน้อยลง
“เอวา ฉันเหนื่อยมามากแล้ว ครั้งนี้ฉันรู้สึกสบายใจกับไรอันมากจริง ๆ ฉันจะจำไว้ด้วยว่าไรอันเป็นคนรักคนเดียวของฉันไปตลอดชีวิต ไม่ใช่เจเรมี่”
เมเดลีนหันไปหาเอวาและพูดว่า “เอวา เธอมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวของฉันในวันแต่งงานนะ ฉันเชิญแดนมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วย พวกเธอสองคนคงเป็นคู่ที่เหมาะสมเลยทีเดียว”
“เอ๋? เธอชวนแดนมาด้วยเหรอ?” เอวารู้สึกประหลาดใจ และดูเหมือนแก้มขาว ๆ ของเธอจะเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วย
เมเดลีนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้นเช่นกัน “เอวา นี่เธอชอบแดนจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย?”
“ฮะ?” เอวาตกใจยิ่งกว่าเก่า ดวงตาที่เย้ายวนใจของเธอเปลี่ยนไปเป็นยุ่งเหยิงในทันที ขณะที่เธอพยายามหลบเลี่ยงการจ้องจับผิดของเมเดลีน
“แดนเองก็เป็นคนดีที่ควรค่าแก่การฝากชีวิตไว้นะเอวา ฉันจะสนับสนุนเธอเอง”
เอวาหน้าแดง เธอไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ใช่การปฏิเสธเช่นกัน
เจเรมี่กำลังพาลาน่าไปพูดคุยเรื่องธุรกิจของเธอ ขณะที่เขากำลังรอสัญญาณไฟแดง เขาก็มองไปข้างทางและเห็นร่างที่คุ้นเคยเดินผ่านหน้าร้านชุดเจ้าสาวตรงหน้าเขาไป
เมเดลีนที่กำลังยิ้มสะท้อนในแววตาของชายหนุ่ม เธอกำลังเดินไปหาชายในชุดสูทก่อนจะจับมือเขาไว้ในที่สุด
แค่ก ๆ
ท้องไส้ของเจเรมี่ปั่นป่วนและมีอาการผิดปกติจนเขาอดไม่ได้ที่จะไอออกมา จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงรสเลือดในปากของตัวเอง