บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 1042
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1042
ฟาเบียนตอบโต้อย่างมีเหตุผล “นี่น้องสาวฉัน ตอนเด็ก ๆ มีใครบ้างที่ไม่อาบน้ำกับพี่น้องของตัวเอง? มองบ้าอะไร?! แล้วฉันก็เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าของลิลลี่ มันไม่ได้อนาจารอย่างที่คิด!”
เอิร์ลและเรดปิดปากยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ภายในห้อง ฟาเบียนจริงจังกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าของลิลลี่ เขายังขอให้เอิร์ลและเรดไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าทันที ในขณะที่ตัวเองก็ค่อย ๆ เช็ดผม เช็ดหน้าของลิลลี่อย่างเบามือ
เมื่อเห็นสีหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยค่อย ๆ กลับมามีเลือดฝาด รอยยิ้มโล่งใจก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟาเบียน
“ฉันอยู่นี่แล้ว เธอจะไม่เป็นไรลิเลียน”
เขาสัญญา แต่มันแปลกมากที่ลิลลี่มาอยู่ในสระน้ำบ้านของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่มีสมองในการทำธุรกิจเหมือนกับโยริค แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะมองอะไรไม่ออก
เขานึกถึงลาน่าทันทีและตัดสินใจว่าจะมุ่งตรงไปขอคำอธิบายจากลาน่าทันทีที่ลิเลียนฟื้น
…
เมเดลีนและไรอันค้นหาลิเลียนในสวนสาธารณะอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบร่องรอยของลิลลี่เลย พวกเขาจึงใช้เส้นสายเพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่พบอะไรน่าสงสัยเช่นกัน
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เมเดลีนออกมาจากทางเข้าสวนสาธารณะอย่างเหนื่อยล้า เธอมองไปที่การจราจรบนท้องถนน แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาเงียบ ๆ
ไรอันเดินเข้าไปหาเธอและหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ
“ไม่ต้องกังวล เราจะตามหาเธอให้เจอ ถ้าเธอถูกลักพาตัวไป อีกฝ่ายจะไม่ทำร้ายลิเลียนแน่ ถ้ายังไม่ได้เงิน”
ไรอันปลอบเธออย่างอ่อนโยน
เมเดลีนมองเสาไฟที่เรียงเป็นแถวต่อหน้า ขณะที่น้ำตาของเธอก็พร่างพรายภายใต้แสงสลัวนั้น
“ลิเลียนมีความหมายกับฉันมาก เด็กคนนี้ทำให้ฉันกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อในช่วงเวลาที่มืดมนและเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของฉัน เธอไม่ใช่แค่ลูกสาวของฉัน แต่เธอคือความหวังของฉัน
“ฉันแค่อยากมีชีวิตที่สงบสุข แต่ทำไมมันยากเหลือเกิน”
“ฉันสูญเสียพ่อแม่อันเป็นที่รักไปแล้ว และฉันก็ไม่สามารถกลับไปอยู่กับผู้ชายที่ฉันเคยอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยได้อีก ทำไมขนาดนี้แล้วถึงยังไม่พอ? เป็นเพราะฉันเกิดมาเป็นตัวซวยจนทำให้คนรอบข้างต้องจากฉันไปทีละคนรึเปล่าคะ?”
เมเดลีนหลั่งน้ำตาออกมา ในขณะที่ไรอันก็เอื้อมมือออกไปคว้าเธอมากอดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เขารู้สึกเสียใจและสงสาร จึงอยากจะปลอบโยนเธอ
“พระเจ้ามักจะมีบททดสอบให้กับคนดีเสมอ บางทีพระองค์อาจจะอยากให้คุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้อีกนะ”
เมดลีนส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการเป็นคนที่ดีขึ้น บางครั้งฉันก็อยากเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและมีอารมณ์อ่อนไหวบ้าง ฉันอยากได้รับการปกป้องจากคนที่ฉันรัก ฉันแค่อยากมีไหล่ให้พิงเวลาที่ฉันเหนื่อย”
“คุณพบมันแล้ว ผมเป็นที่หลบภัยที่คุณสามารถพึ่งพาได้ตลอดชีวิต” ไรอันกอดหญิงสาวแน่นขึ้นและมอบจูบลงที่ศีรษะมนด้วยความรัก
ลาน่าจงใจขับรถพาเจเรมี่ไปที่ทางเข้าสวนสาธารณะ
ตอนแรกเธอต้องการเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเมเดลีนตอนที่หาลูกไม่เจอ แต่กลับได้เห็นไรอันกอดเมเดลีนแทน และตำแหน่งที่พวกเขาสองคนยืนอยู่ก็ดูทำให้ชวนคิด
เธอมองดูการแสดงออกของเจเรมี่และพบว่าชายหนุ่มเพียงแค่เหลือบมอง ก่อนจะมองไปทางอื่นด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม
“เจเรมี่ ภรรยาเก่าของคุณอยู่ตรงนั้น อยากทักทายหน่อยไหมคะ?” ลาน่าถามด้วยท่าทีสบาย ๆ
“พวกเขากำลังเดทกันอย่างหวานชื่น แล้วทำไมเราต้องรบกวนด้วยล่ะ? ไปกันเถอะ” เจเรมี่มองอย่างเมินเฉย แต่ในใจของเขากลับมีความเจ็บปวดที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ความเจ็บปวดนี้ค่อย ๆ กัดกร่อนจิตสำนึกและอารมณ์ของเขาจนผุพังลง
เมื่อเห็นคนที่เขารักกำลังเอนกายอยู่ในอ้อมแขนของใครอีกคน ฉากนั้นทำให้เขาเจ็บปวดทรมานในหัวใจ ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่คุ้นเคยโชยขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง
เขาไม่อยากเผชิญหน้าและต้องการจากไปเงียบ ๆ แต่จู่ ๆ ลาน่าก็ลงจากรถและเดินไปหาคนทั้งสอง