บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 1054
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1054
เจเรมี่เอนหลังพิงเบาะรถอย่างเหนื่อยอ่อน ขณะที่น้ำตาคลออยู่ตรงหางตา
‘แดดดี้ขอโทษ ลิเลียน’
‘แดดดี้หวังว่าก่อนจะจากไป แดดดี้จะยังได้ยินเสียงหัวเราะหวาน ๆ ของหนู และได้ยินหนูเรียกว่า ‘แดดดี้’ อย่างมีความสุข’
เขาสัมผัสภาพครอบครัวที่เขาแอบเก็บมันไว้ลับ ๆ ในขณะที่ปล่อยให้ความเศร้าโศกไหลผ่านร่างกาย ยิ่งความเจ็บปวดชัดเจนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งจำได้ชัดว่าผู้หญิงที่เขารักคือใคร…
เมเดลีนยืนตัวแข็งอยู่กับที่เป็นเวลานานอย่างไม่สามารถเข้าใจในการกระทำของเจเรมี่ได้
เธอยังคงหวังว่าเขาคงจะมีปัญหาของตัวเองที่ต้องฝ่าฟัน แต่การแสดงออกของเขานั้นไร้ความปรานีเกินไป ไร้ความปรานีจนเธอไม่สามารถหาข้อแก้ตัวใด ๆ ให้เขาได้อีก
อีกสามวันเธอจะแต่งงานกับไรอัน
คาเลนเองก็นับวันคอยเช่นกัน สองวันก่อนงานแต่ง เธอไปหาเมเดลีนและจงใจอุ้มพุดดิ้งไว้ในอ้อมแขน “จะแต่งงานกับไรอันจริง ๆ เหรอเอวลีน? เจเรมี่ไม่มีโอกาสแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”
เมเดลีนจัดเรียงเสื้อผ้าลงในกระเป๋าเดินทางพลางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม “เราใช้ชีวิตกันแบบนี้มาก็หลายปี แต่ก็ยังมีเรื่องให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเสมอ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขากับหนูคงไม่ได้ถูกกำหนดมาให้อยู่ด้วยกันจริง ๆ”
“ลูกทั้งสองคนจะไม่ได้ถูกลิขิตมาเพื่อกันและกันได้ยังไง? ถ้าไม่มีพรหมลิขิตเกิดขึ้นระหว่างกัน ลูกก็คงไม่มีพุดดิ้งนะ” คาเลนยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเมเดลีน
ทว่าหญิงสาวไม่ได้สนใจเลย “ที่จริงแล้ว ตอนนี้หนูก็ยังไม่สามารถปล่อยเขาไปได้จริง ๆ แต่หนูก็รู้ดีเช่นกันค่ะ ว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับหนูได้อีก”
เมเดลีนเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางออกมา และรับพุดดิ้งมาจากอ้อมแขนของคาเลน
พุดดิ้งอายุเกือบสามเดือน เด็กน้อยมองผู้เป็นแม่อย่างสับสนและหัวเราะ
“พุดดิ้ง โอ้ พุดดิ้ง แม่จะตั้งชื่อให้หนูว่าอะไรดีนะ? พี่ชายชื่อแจ็คสัน แล้วลูกล่ะจ๊ะ ชื่ออะไรดี?”
เธอถามคนตัวเล็ก แต่ที่จริงกำลังถามตัวเอง เพราะแน่นอนว่าลูกของเธอยังพูดไม่ได้
ตอนแรกเธออยากให้เจเรมี่เป็นคนตั้งชื่อลูก แต่ตอนนี้…
หญิงสาวมองทารกน้อยที่ไร้เดียงสา แล้วก้มลงไปจูบเขา
“แม่คะ พรุ่งนี้เช้าหนูอยากจะเปิดบัญชีธนาคารให้พุดดิ้ง แม่ช่วยหนูติดต่อเจเรมี่ได้ไหมคะ? เพราะว่าจะต้องใช้บัตรประจำตัวของเขา แต่หนูไม่ต้องการพบเขาอีก”
คาเลนพยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “จ้ะ แม่จะโทรหาเจเรมี่ให้”
เธอกดเบอร์ของเจเรมี่แล้วเดินออกไป การโทรเชื่อมต่อหลังจากนั้นไม่นาน คาเลนจึงถามทันทีก่อนที่เจเรมี่จะเอ่ย “ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหนเจเรมี่?”
“ผมอยู่ที่ออฟฟิศ มีอะไรหรือเปล่าครับ? ลิเลียนพูดได้แล้วเหรอ?” เจเรมี่ดูเป็นกังวล
“ลิเลียนยังพูดไม่ได้จ้ะ” คาเลนลดเสียงลงและอธิบายว่า “เอวลีนอยากจะเปิดบัญชีธนาคารให้พุดดิ้งและต้องการบัตรประจำตัวของลูกน่ะ เจเรมี่ เอวลีนกำลังจะแต่งงานกับไรอันในวันมะรืนนี้แล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของลูก แม่ช่วยได้แค่นี้ จำไว้ล่ะว่าอย่าออกจากออฟฟิศเชียว”
คาเลนวางสายก่อนที่เจเรมี่จะมีโอกาสได้พูดอะไร จากนั้นเธอก็กลับเข้าไปในห้องและบอกเมเดลีน “เอวลีน เจเรมี่บอกว่าเขายังยุ่งอยู่ที่ออฟฟิศ ทำไมลูกถึงไม่ไปรับที่ออฟฟิศล่ะ? ส่วนพุดดิ้งเดี๋ยวแม่ช่วยดูแลให้เอง”
เมเดลีนไม่อยากให้การเปิดบัญชีล่าช้าออกไป เธอจึงมอบพุดดิ้งให้คาเลน และมุ่งหน้าไปที่วิทแมน คอร์ปอเรชั่น
เมื่อคาเลนเห็นว่าเมเดลีนออกไปแล้ว เธอก็โทรหาเจเรมี่ทันที “เอวลีนกำลังออกไปแล้วเจเรมี่ ลูกต้องคว้าโอกาสนี้ไว้นะ!”
เจเรมี่รับสายคาเลน เมื่อวางสาย เขาก็มองดูท้องฟ้าที่มืดสลัวนอกหน้าต่างและโทรออกหาใครบางคน
สิบนาทีต่อมา เมเดลีนก็มาถึงวิทแมน คอร์ปอเรชั่น หญิงสาวเดินตรงไปที่ห้องทำงานของเจเรมี่ทันที เพราะในเวลานี้เหล่าพนักงานได้เลิกงานไปหมดแล้วจึงไม่มีใครห้ามเธอในการตามหาเขาได้
แต่เมื่อเมเดลีนไปถึงประตูห้องทำงานและกำลังจะเคาะ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะหวาน ๆ ของผู้หญิงดังมาจากด้านใน
เธอผงะและมองผ่านประตูกระจกใสพลางชำเลืองดูด้วยความอยากรู้ แต่หลังจากเห็นสถานการณ์ข้างใน มือที่ยกขึ้นกำลังจะเคาะประตูก็แข็งทื่อในทันที