บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 143
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 143
เจเรมี่กำพวงมาลัยแน่นยิ่งขึ้น เขาเริ่มสงสัยว่าดวงตาของเขาเสียหรือว่ายังไง แต่อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามาเดลีนเป็นคนที่สูญเสียการมองเห็นที่แท้จริง
เธอตาบอด
เธอตาบอดจริง ๆ
เธอไม่ได้ล้อเล่นก่อนหน้านี้ในตอนที่เธอมีปัญหาในการเซ็นเอกสารการหย่า มันเป็นเรื่องจริง
แต่ก่อนหน้านี้เธอก็สบายดีอยู่ ทำไมตอนนี้ถึงตาบอดได้?
เจเรมี่เฝ้ามองมาเดลีนในขณะที่เธอคลานอยู่ที่พื้นคล้ายเธอกำลังหาบางสิ่งที่หายไปพร้อมกับร้องไห้ออกมา เขารู้สึกว่าตัวเองหายใจได้ยากลำบากและมันรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ
หิมะตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ และฝนเริ่มตกลงมา
ผู้คนรอบตัวเธอเริ่มจากไป ทิ้งไว้เพียงถนนที่ว่างเปล่า กระนั้น มาเดลีนยังคงค้นหาอะไรบางอย่างอย่างไม่ยอมแพ้
เธอร้องไห้ และดูกังวลมาก เหมือนเด็กที่ทำของเล่นชิ้นโปรดหายไป
เจเรมี่ลงจากรถในขณะที่รู้สึกถึงความท้อแท้ เขาค่อย ๆ เดินไปหามาเดลีน ฝีเท้าของเขาหนักอึ้งอย่างผิดปกติ
ถึงอย่างนั้น เธอไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวหรือการมีตัวตนอยู่ของเขา ร่างที่ผอมแห้งของเธอยังคงอยู่บนพื้น ในขณะที่มือของเธอยังคงควานหาบางสิ่งอย่างบ้าคลั่งแม้จะถูกปกคลุมไปด้วยดิน
เจเรมี่มองเธอด้วยสีหน้างุนงง เขาหยิบภาพถ่ายทิวทัศน์ข้างเท้าให้เธอเขาวางมันไว้ตรงหน้ามาเดลีน
เมื่อเธอสัมผัสภาพถ่าย ความเศร้าโศกของมาเดลีนได้กลายเป็นความสุขในตอนนั้น
เธอถือภาพถ่ายและเป่ามันอย่างทะนุถนอม จากนั้น เธอวางมันลงบนริมฝีปากของเธอและจูบมัน ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นยืนในขณะที่ดูโล่งใจ เธอเดินต่อไปตามการสัมผัสพื้นผิวทางเดินเท้า
เจเรมี่ยืนอยู่ตำแหน่งเดิมและปล่อยให้ลมพัดผ่านเขาไป ร่างของมาเดลีนเล็กลงเรื่อย ๆ ในสายตาที่มองเห็นของเขา จู่ ๆ เขารู้สึกแสบที่มุมตาโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและเขากำลังดิ้นรนที่จะหายใจ
…
ข่าวของเจเรมี่และเมเรดิธที่กำลังจะแต่งงานแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เมเรดิธเป็นคนที่โทรหามาเดลีนเพื่อย้ำเตือนเรื่องนี้
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เมเรดิธยิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากที่เธอได้คุยโวโอ้อวด และได้เชิญมาเดลีนไปงานหมั้นของพวกเขาอย่างเปิดเผย
มาเดลีนถือโทรศัพท์ไว้ในมือและตอบอย่างไม่เร็วหรือช้าเกินไป “ฉันจะไปที่นั่น”
เมเรดิธเยาะเย้ยและหัวเราะเบา ๆ เธอรู้สึกว่ามาเดลีนแค่ต้องการโม้อวดให้มันดูสมน้ำสมเนื้อกับเธอ
เธอจ้างคนมาสืบเรื่องมาเดลีน ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าเธอเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว นอกจากนี้ เธอยังตาบอด เธอจะทำอะไรได้?
ความหนาวเย็นในฤดูใบไม้ผลิอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเกลนเดลทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงพิธีหมั้น
เมเรดิธสวมชุดที่สวยงามขณะที่เธอยืนอยู่ข้างเจเรมี่อย่างสง่างาม เธอกำลังเผชิญหน้ากับแสงไฟที่สาดส่องเข้ามาขณะที่ยิ้มหวาน เธอหันกลับมาและเห็นว่าเจเรมี่ไม่มีสีหน้าที่ยินดี
“เจเรมี่ เรากำลังจะหมั้นกันแล้วตอนนี้ คุณไม่มีความสุขเหรอ?”
เจเรมี่ฝืนยิ้มบนใบหน้า “ทำไมผมถึงไม่มีความสุขล่ะ? ผมบอกเธอแล้วว่าผมจะรับเธอมาเป็นภรรยาของผม ดังนั้นผมจะรักษาสัญญานั้นแน่นอน”
เมเรดิธยิ้มหลังจากที่เธอได้ยินสิ่งนั้น แต่ก็ ยังมีความโกรธหลงเหลืออยู่ในใจของเธอ
แม้ว่าเจเรมี่จะปล่อยให้เธอตัดสินใจในเกือบทุกเรื่อง แต่เขาก็ไม่เคยบอกเธอว่าเขารักเธอ เมื่อใดก็ตามที่เขาตอบกลับมา เขาก็มักจะเอาคำสัญญาที่ให้ไว้ตอบกลับคืนมา
แต่ทว่า ผู้หญิงที่เขาสัญญาว่าจะกลับมาหาตอนนั้นคือมาเดลีนและไม่ใช่เธอ!
เจเรมี่ปล่อยให้เมเรดิธจับแขนของเขาขณะที่พวกเขาเดินไปที่กลางเวที เขาเหมือนหุ่นเชิด นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย
พวกเขาแลกเปลี่ยนแหวนหมั้นกัน เพื่อนและครอบครัวของพวกเขาเป็นสักขีพยาน
อย่างไรก็ตาม มันช่วยไม่ได้ที่เขานึกถึงฉากวันที่เขาแต่งงานกับมาเดลีนได้ เธอสวมชุดแต่งงานสีขาวเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ เขาหลงสเหน่ห์เธอจริง ๆ ดวงตาของเธอเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดของเธอ ดูเหมือนว่ามันสามารถสื่อความรักจากดวงตาออกมาได้ เมื่อเธอมองไปที่เขา การจ้องมองของเธอเต็มไปด้วยความเขินอายและความปรารถนา ตอนนั้นเธอยังดูเด็กและสวยมาก
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ …
เขาจำภาพนั้นติดตาที่ว่ามาเดลีนคลานอยู่บนพื้นเพื่อหาอะไรบางอย่าง ดวงตาของเธอสูญเสียจุดรวมของสายตาทั้งหมดไปและมันคงจะมัวมาก เขาไม่พบความร้อนแรงและความรักอันลึกซึ้งที่เธอเคยมีต่อเขาในสายตาอีกต่อไป
“กรุณาแลกแหวนเพื่อเป็นสักขีพยาน”
ความคิดที่หลงทางเรื่อยเปื่อยของเจเรมี่ถูกดึงกลับมาโดยพิธีกร ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเมเรดิธอยู่ตรงหน้าเขา แต่สมองของเขากลับถูกมาเดลีนครอบงำ
เมเรดิธจับมือเขาอย่างดีใจเธอจ่อแหวนเตรียมสวมเข้าที่นิ้วนางของเขา
จู่ ๆ เจเรมี่ดันรู้สึกอยากคัดค้านสิ่งนี้ เมื่อเขากำลังจะดึงมือกลับ ร่างที่คุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นที่มุมตา จากนั้น เสียงที่หนักเเน่นและชัดเจนของมาเดลีนได้เอ่ยขึ้นว่า “เดี่ยวก่อน”