บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 165
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 165
เมเรดิธรู้สึกว่าเธอกำลังตเจอเรื่องแย่ ๆ เธอจึงแกล้งทำเป็นข้อเท้าแพลง เธอตั้งใจสร้างเรื่องใหญ่โตจากการที่เธอได้รับบาดเจ็บให้เจเรมี่ฟัง เพื่อที่จะหลอกล่อให้เขามาเยี่ยมเธอที่บ้านตระกูลมอนต์โกเมอรี
ห้องที่ใหญ่โตกว้างขว้างตกแต่งอย่างหรูหรา และสวยงาม แม้กระทั่งห้องน้ำก็ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสุขภัณฑ์ที่ดีและหรูหรา
แน่นอนว่าเมเรดิธเพลิดเพลินไปกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แท้จริงแล้วควรจะเป็นของมาเดลีน เธอไม่เคยรู้สึกสำนึกผิดเลย และการตายของบริทนีย์ก็เช่นกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่เธอจัดการมันสำเร็จได้อย่างเด็ดขาด
มีแค่ผู้หญิงที่ฉลาดและรับมือได้ในทุกสถานการณ์อย่างเธอเท่านั้นแหละที่คู่ควรกับใช้ชีวิตอย่างคนชนชั้นสูงเช่นนี้
มาเดลีนกับบริทนีย์ไม่คู่ควรต่อการเป็นศัตรูของเธอ
แต่แล้ว เธอก็ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับ วีล่า ควินน์ ผู้หญิงที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนนั้น
ในขณะที่กำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เมเรดิธก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจเรมี่ เธอรีบล้มตัวลงนอนราวกับคนป่วยที่แสนอ่อนแอ พร้อมกับทำตาน่าสงสาร “เจเรมี่ คุณมาเยี่ยมฉันแล้ว”
เจเรมี่มองไปที่ขาขวาที่ถูกพันผ้าไว้ของเธอ “คุณเป็นยังไงบ้าง?”
“เพราะคุณมา ฉันก็ดีขึ้นเลยค่ะ” เมเรดิธเอื้อมมือออกไปหาเจเรมี่ อยากสัมผัสเขาใจจะขาด
แต่แล้ว เจเรมี่ไม่ได้จับมือของเธอและเขาหยุดนิ่งไป “ในเมื่อคุณรู้สึกดีขึ้นแล้ว ผมก็คงจะต้องขอตัว ผมยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ”
เมเรดิธหยุดชะงักสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “เจเรมี่ อย่าไปนะ!”
เธอแกล้งตกลงจากเตียงอย่างฉับพลัน สะอึกสะอื้นพร้อมกับเอื้อมมือไปหาเจเรมี่
“เจเรมี่ อย่าไปเลย! ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป!” เธอคร่ำครวญ พร้อมกับทำหน้าราวกับเจ็บปวดเหลือเกิน
“เจเรมี่ ทำไมคุณถึงเย็นชากับฉันนัก? นี่มันก็สามปีแล้วนะ ทำไมคุณยังไม่ยอมแต่งงานกับฉันอีก? คุณไม่รักฉันแล้วหรอ? คุณลืมสัญญาที่คุณเคยให้ไว้กับฉันเมื่อปีก่อน ๆ ว่าคุณจะให้ฉันเป็นภรรยาของคุณไปแล้วเหรอ? หรือว่าการตายของมาเดลีนมันทำให้คุณเชื่อคำใส่ร้ายของเธอ ว่าฉันเป็นคนทำให้เธอตาบอดงั้นเหรอ?”
เจเรมี่ชะงักฝีเท้าของเขา คำพูดของเธอทำให้เขาตัวแข็งทื่อ
ใส่ร้าย
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคำพูดนั้นมันเหมือนเรื่องตลก?
“เจเรมี่…”
เมเรดิธยังคงพยามที่จะพูดต่อในขณะที่โทรศัพท์เจเรมี่ดังขึ้น เมื่อเขารับสาย เสียงใสของผู้หญิงลอดผ่านปลายสายออกมา “ขอบคุณ สำหรับดอกไม้ค่ะคุณวิทแมน ฉันชอบมันมาก”
ห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด เงียบเสียจนเมเรดิธได้ยินเสียงและจำได้ว่าปลายสายคือวีล่า!
หัวใจของเธอระอุไปด้วยความโกรธในขณะที่เธอนั่งฟังเจเรมี่พูดกับผู้หญิงคนนั้นด้วยเสียงที่อบอุ่น เธอรู้สึกราวกับตัวเองเป็นระเบิดที่สามารถปะทุออกมาได้ทุกเลา
“พักผ่อนเถอะ ผมจะกลับไปจัดการงานให้เสร็จ” เจเรมี่พูดด้วยเสียงที่เย็นชาพร้อมกับเดินออกไป
ไม่นานเมเรดิธก็ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านทางหน้าต่าง เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเสียหน้าและโกรธ เธอขว้างปาข้าวของในห้องอย่างหัวเสีย
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงเลือกกระเป๋าใบหรู่ก่อนที่จะรีบพุ่งตัวออกไปที่ร้านเฟิร์สคริสตัลสตรีท
เมื่อเธอไปถึง หน้าร้านก็เต็มไปด้วยดอกไม้ จากนั้นไม่นาน เธอก็สามารถมองเห็นตะกร้าที่เจเรมี่มอบให้ ทำให้ความโกรธของเมเรดิธพุ่งสูงขึ้น
เธอเดินเข้าไปในร้านพลางฝืนยิ้มให้มากที่สุดเธอต้องรักษาภาพลักษณ์ที่สง่างามของเธอต่อหน้าสาธารณชน
ด้านในมีร้านค้ามีมากมายหลายร้านเธอกลัวว่าจะมีใครถ่ายภาพของเธอไป
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจเรมี่ได้ลืมเธอไปแล้วเพราะยัยผู้หญิงคนนี้ เมเรดิธก็พยามที่จะรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเธอเอาไว้อย่างยากลำบาก
“วีล่า ควินน์! ใครคือวีล่า ควินน์? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” เธอตะโกนเรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้างได้อย่างมาก
พนักงานหญิงรีบวิ่งออกมานอกร้านอย่างรวดเร็ว “คุณผู้หญิงคะ คุณมีอะไรกับเจ้านายของเรางั้นหรือคะ?”
“เจ้านายงั้นหรอ?” เมเรดิธยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยความเย่อหยิ่ง “วีล่า ควินน์อยู่ที่ไหน? ไปบอกเธอว่าฉันอยากจะพบเธอ”
สิ้นเสียงตะโกนของเมเรดิธเธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินมาทางด้านหลังของเธอ “คุณครอว์ฟอร์ด เราเจอกันอีกแล้วนะคะ”