บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 211
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 211
เมเรดิธพยักหน้าอย่างซื่อตรง “เจเรมี่ ไม่ว่าคุณจะถามอะไร ฉันสัญญาว่าจะตอบตามความจริงทั้งหมด”
“ได้” ดวงตาสีดำลึก ของเจเรมี่จ้องไปที่เมเรดิธอย่างกดดัน “เธอเคยเห็นไอ้ชั่วแทนเนอร์กับมาเดลีนอยู่ด้วยกันใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันเห็นพวกเขากับตาตัวเอง!” เมเรดิธตอบโดยไม่ต้องคิด
ดวงตาสีดำของเจเรมี่ค่อย ๆ ดิ่งลงและดวงตาคู่นั้นเคลื่อนไหวสั่น ๆ
กระแสลมโดยรอบหนักขึ้นอย่างผิดปกติจนเมเรดิธรู้สึกได้ เธอเริ่มมีอาการตื่นตระหนกแต่ก็ยังยืนกราน “เจเรมี่ ที่ฉันพูดไปทั้งหมดเป็นความจริง! เจเรมี่ คุณต้องเชื่อฉัน …”
“เชื่อเธอ …”
เจเรมี่พูดสองคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่โทนสีแห่งความเย้ยหยันทยานขึ้นในดวงตาของเขา
“เธอพูดกับฉันแบบเดียวกันตอนนั้น แค่อยากให้ฉันเชื่อเธอสักครั้ง”
“อะไรนะ?” เมเรดิธมองไปที่เจเรมี่ที่ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส “เจเรมี่…”
เขาวาดริมฝีปากบางออกเล็กน้อย “ฉันให้โอกาสเธอแล้ว” หลังจบคำพูด เขาหันกหลังจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง
ความหมายพื้นฐานของสิ่งนี้เห็นได้ชัด ๆ เลยว่าเขาไม่เชื่อเธอ!
เมเรดิธไม่สนใจแล้วว่าเธอกำลังแกล้งทำเป็นข้อเท้าเคล็ดอยู่และเธอลุกขึ้นยืนจับเจเรมี่ กอดเขาแน่นจากด้านหลังทันที
“เจเรมี่!”
เธอฝังใบหน้าของเธอเข้าที่หลังของเจเรมี่อย่างแน่น
“เจเรมี่ ฉันเองอยู่กับคุณมาก็หลายปี นี่คุณไม่รู้ว่าฉันเป็นคนแบบไหนหรือไงกัน? ทำไมฉันต้องโกหกด้วย?! ทุกสิ่งที่ฉันพูดคือความจริง มาเดลีนเคยคบกับแทนเนอร์จริง ๆ! ไม่ใช่แทนเนอร์เท่านั้นนะ แดเนียลด้วยอีกคน! โอ้ว ลุงของคุณก็ด้วย เฟลิเป้ มาเดลีนชอบที่จะเข้าไปพัวพันกับผู้ชายพวกนั้น เธอ -”
“พอได้แล้ว!”
เจเรมี่ขัดจังหวะเธอด้วยความโกรธ ใบหน้าที่ดุดันเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
เมเรดิธรีบเอามือปิดปากด้วยความตกใจ
ความดันอากาศเริ่มกดตัวอีกครั้งเมเรดิธรู้สึกถึงความวิตกกังวลครั้งนี้
เธอกอดเจเรมี่แน่นขึ้นแต่ทันใดนั้นได้ยินเสียงคล้ายคำสั่งงจากเจเรมี่ “ปล่อยมือของเธอออกไปซะ”
ดวงตาของเมเรดิธเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอไม่สามารถยอมรับการปฏิเสธและการที่เจเรมี่ต้องการผลักเธอให้ออกเขาได้
“ไม่! ฉันไม่ปล่อย! เจเรมี่ ฉันรักคุณ ฉันแค่อยากอยู่กับคุณตลอดไป อย่าปล่อยให้คนไร้ความหมายพวกนั้นมามีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ของเรา ได้ไหม?”
เมเรดิธกอดเอวของเจเรมี่ด้วยเสียงร้องไห้หนักขึ้น
แต่ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เจเรมี่งัดนิ้วของเธอออกทีละนิ้วอย่างแรง และเร็วมากในที่สุดอ้อมกอดของเธอก็ว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาของเจเรมี่
“เจเรมี่ … ” เมเรดิธมองไปยังชายผู้ไร้สีหน้าด้วยน้ำตาคลอเบ้า
เจเรมี่เหลือบมองเธอ “ถ้าการลักพาตัวของแจ็คสันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอด้วย ฉันจะประกาศการหมั้นกับเธอถือเป็นโมฆะ”
“… ” เมเรดิธเมื่อได้ยินแบบนี้ ก็ตกอยู่ในอาการระส่ำระสายทันที!
พวกเขาหมั้นกันเมื่อสามปีก่อน!
ทุกคนในเกลนเดลรู้เรื่องนี้แล้ว!
แต่ตอนนี้เขากำลังพูดอะไรเกี่ยวกับการประกาศการหมั้นที่เป็นโมฆะ!
ความหมายที่แท้จริงในคำพูดนั้นคืออะไร?
เมเรดิธปฏิเสธอย่างแน่วแน่ที่จะยอมรับสถานะที่พลิกผันแบบนั้น เธอรู้สึกมีสติอีกครั้งตอนเห็นเจเรมี่เตรียมจะขับรถออกไป เธอรีบไปที่รถและคว้าหน้าต่างครึ่งบานด้วยมือทั้งสองข้าง
“เจเรมี่! แจ็คสันเป็นลูกชายแท้ ๆ ของฉัน ฉันจะขอให้ใครมาลักพาตัวลูกชายของเราได้ยังไง?เลือดเนื้อเชื้อไขฉันเองแท้ ๆ นะ? แล้วฉันจะทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ได้ยังไง?!” เมเรดิธกำกระจกรถแน่นขณะที่เธออธิบายกับชายที่ไม่แยแสเธอต่อไป
เจเรมี่ขับรถออกจากลานคฤหาสน์อย่างช้า ๆ พร้อมกับทำหูทวนลมไปกับคำอธิบายของเมเรดิธ
เมเรดิธไล่ตามเพื่ออธิบายต่อ เสียงของเธอดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม เจเรมี่เหยียบคันเร่งออกไปแทนและปิดหน้าต่างจากไป