บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 224
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 224
เมเรดิธมีอาการหน้าแดง เธอโน้มตัวเข้าแนบชิดด้านลำตัวของเจเรมี่ด้วยความรัก “ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณแม่และคุณพ่อเองก็ด้วย เจเรมี่จะดูแลหนูอย่างดี ใช่ไหม เจเรมี่?”
เธอมองเจเรมี่และบังเอิญเห็นเขามองลงมาที่เธอเช่นกัน
เพียงแต่สายตาของเขาเย็นชาจนเธอนิ่งค้าง
“เจ – เจเรมี่?”
“สิ่งที่ฉันต้องการที่จะประกาศคือการยุติการหมั้นของเรา”
“….”
“ว่าไงนะ?”
เมเรดิธกลายเป็นหินทันที เอโลอิสและณอน แม้แต่พ่อกับแม่ของเจเรมี่เองทุกคนดูตกใจเหมือนกันหมด
มาเดลีนดูสุขุม แต่เธอก็อดรู้สึกประหลาดใจอยู่ข้างในไม่ได้
เจเรมี่ประกาศว่าเขาต้องการเลิกหมั้นกับเมเรดิธนั่นเป็นความจริง?
นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ
เขาเทิดทูลหญิงสองหน้าเมเรดิธคนนี้จะตาย เขาตามใจและปรนเปรอเธออย่างไร้ขอบเขตมาก็หลายปีแล้ว
จู่ ๆ การตัดสินใจทำเเบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้ไง?
“เจเรมี่ นายพูดออะไรออกมา? จะยกเลิกการหมั้นกับเมเรดิธได้ไงกันในเมื่อเธอเป็นคนให้กำเนิดลูกของนายนะ?!” เอโลอิสพูดด้วยความโกรธ จู่ ๆ เธอก็ชี้ไปที่มาเดลีน “เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม?!”
เจเรมี่ขมวดคิ้ว แสดงสีหน้าไม่พอใจ “มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย”
เขาพูดขณะส่งสายตาไปทางเมเรดิธ “เธอยังจำสิ่งที่ฉันบอกเธอเมื่อเช้าวันนั้นได้ไหม?”
ใบหน้าของเมเรดิธแข็งทื่อเมื่อเธอจำสิ่งที่เจเรมี่พูดในวันนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ‘ถ้าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวแจ็คสันในตอนนั้นล่ะก็ ฉันจะประกาศอย่างเป็นทางการว่าการหมั้นของฉันกับเธอถือเป็นโมฆะ’
ใบหน้าของเธอซีดราวกับหิมะในทันที “เจเรมี่ นี่คุณยังไม่เชื่อฉันอีกงั้นเหรอ? ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับกาหายตัวไปของแจ็ค เขาเป็นลูกของฉันนะ ลูกฉันเอง! ฉันจะร่วมมือกับคนนอกเพื่อลักพาตัวเขาได้ไง? ทำไมฉันต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย” เมเรดิธอธิบายอย่างใจจดใจจ่อ สิ่งนี้ยังทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานณการณ์ปัจจุบันเข้าใจว่าทำไมเจเรมี่ถึงบอกว่าเขาต้องการที่จะยกเลิกการหมั้นครั้งนี้
“ส่วนเหตุผลนั้นก็คือเพื่อตีกรอบใส่ร้ายมาเดลีน เพื่อทำให้ฉันเกลียดเธอ” เจเรมี่บอกเหตุผลอย่างใจเย็น
เมเรดิธตะลึง “เจเรมี่ ฉะ-ฉันไม่ได้ทำ! คุณปฏิเสธที่จะไม่แต่งงานกับฉัน คงไม่ได้เป็นเพียงเพราะสิ่งที่แทนเนอร์พูดหรอกนะ เราอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้ว ทำไมคุณไม่เชื่อฉัน-”
“มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ไอ้ชั่วนั้นพูด” เจเรมี่พูดอย่างเย็นชา
ตอนนี้เมเรดิธสับสนมากยิ่งขึ้น พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ไง? แล้วเขาแน่ใจได้อย่างไร? หรือว่ามีพยานอยู่ตอนนั้น? ไม่นะ นั่นเป็นไปไม่ได้
“ฉันหาคนขับรถที่มาเดลีนและแจ็คนั่งกลับมาในตอนนั้น”
“…” ปากของเมเรดิธกระตุกขณะที่รูม่านตาของเธอหดลง
คนขับ!
คนขับรถคันนั้น!
เธอลืมเรื่องคนขับไปสนิทเลย ๆ !
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในในท่าทางและสีหน้าของเมเรดิธ เจเรมี่มองเธอด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “ชายคนนั้นสารภาพทุกอย่าง เขาเป็นคนวางยามาเดลีนให้หมดสติและพาเธอกลับไปที่หอพัก จากนั้นเขาส่งแจ็คให้แทนเนอร์ตามคำบอกกล่าวของคุณ ส่วนที่เหลือทั้งหมดก็เกิดขึ้นตามความต้องการของคุณ”
“ไม่ เจเรมี่ คนขับโกหก ฉันไม่ได้ -” เมเรดิธเล่นลิ้นด้วยความตื่นตระหนก
เจเรมี่มองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ณ จุดนี้ เธอจะยังยืนกรานไม่ยอมรับอยู่อีกหรอ? เธอต้องการให้ฉันพาคนขับรถมายืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยตัวเองไหม?”
“นำคนขับรถคนนั้นมาที่นี่ เอามาเลย! ฉันไม่เชื่อเลยสักนิดว่าเมเรดิธจะทำแบบนี้! ทุกอย่างถูกใส่สีโดยมาเดลีน! มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมเรดิธ!” เอโลอิสปกป้องเธออย่างแน่วแน่
เจเรมี่ยิ้มและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “โอเค ผมจะโทรให้เขามายืนยันตอนนี้”
“เจเรมี่!” จู่ ๆ เมเรดิธร้องเรียกเขาด้วยความกังวลพร้อมกับน้ำตาไหลอาบใบหน้าเธอ “เจเรมี่ ฉันรักคุณมากเกินไป ฉันไม่อยากเห็นมาเดลีนตอแยคุณต่อไปและนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันหลงผิดไปชั่วขณะ ยกโทษให้ฉันเถอะนะ! เจเรมี่ -”
ในตอนสุดท้าย ใครจะรู้ว่าเมเรดิธจะสารภาพผิดด้วยตัวเอง!
เธอกลัวว่าถ้าเธอไม่ยอมรับในตอนนี้ เธอจะไม่มีแม้โอกาสให้เสียใจด้วยซ้ำ
เอโลอิสและฌอนตกตะลึงทันที เมื่อมองไปที่ลูกสาวที่กำลังขอร้องให้เจเรมี่ให้ความเมตตากับเธอด้วยความไม่เชื่อสายตา
“เจเรมี่ ฉันรู้ว่าฉันทำผิด โปรดยกโทษให้ฉันเถอะนะ อย่าทำลายการความสัมพันธ์ของเราเลย ได้ไหม? เจเรมี่…” เธอขอร้องเจเรมี่ทั้งน้ำตา