บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 225
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 225
เจเรมี่ชายตามองลงไปยังเธอหญิงสาวที่เขาเคยประกาศว่าจะปกป้องเธอไปตลอด และไม่นานรอยยิ้มที่เหน็บแนมได้คืบคลานเข้ามาอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแทน “ฉันไม่พบคนขับอะไรนั่นด้วยซ้ำ”
“…” ไม่มีใครคิดว่าจู่ ๆ เจเรมี่จะพูดออกมาแบบนี้
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นทั้งหมดดูเหมือนจะเย็นลงทันทีเมื่อดวงตาของเมเรดิธเบิกกว้างเหมือนจานรองแก้วกาแฟ เธอช้อนสายตามองใบหน้าหล่อเหลาของเจเรมี่ที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเยาะเย้ยด้วยความตกใจ
เขาหลอกล่อเธอให้ติดกับอย่างแท้จริง!
เธอยอมรับว่าใส้ร้ายมาเดลีนกับแทนเนอร์ด้วยความกลัว!
มาเดลีนในขณะที่กำลังนั่งเงียบ ๆ อยู่อีกด้าน แต่ในหัวใจเธอขณะนี้ไม่สงบเลยสักนิด
วันก่อน เจเรมี่ขอให้เธอช่วยแต่งตัวเหมือนมาเดลีนเพื่อหาหลักฐานจากแทนเนอร์ แต่มันกลับล้มเหลว
ในตอนแรกเธอคิดว่าไม่สามารถค้นเจอหลักฐานจากบุคคลใดหรือทาวัตถุใด ๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงที่ว่าเมเรดิธได้ทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้ลงไป สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงที่สุดคงเป็นเจเรมี่ใช้กลวิธีนี้ในเวลาแบบนี้เพื่อทำให้เมเรดิธสารภาพอย่างจำยอม
หัวใจของเธอสั่นอย่างรุนแรง
เธอไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไร
เฟลิเป้เอื้อมมือไปจับมือเธอเบา ๆ
พวกเขาสบตากัน แม้ว่าจะไม่มีการสื่อสารใด ๆ แต่ก็มีความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยปริยายผ่านการสบตาที่พวกเขาสื่อถึงกัน
“มันเป็นเธอจริง ๆ!” อาวุโสวิทแมนหยิบไม้เท้าของเขาขึ้นมาชี้ไปทางเมเรดิธด้วยความโกรธ “เธอกล้าร่วมมือกับคนนอกและลักพาตัวลูกชายของตัวเองและยังตีกรอบให้มาเดลีนมีความผิด! เธอ…เธอมันน่าขยะเเขยง!”
มือของอาวุโสวิทแมนสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาขึ้นสีอย่างโกรธเกรี้ยว และในขณะที่เขาพูด เขากำลังจะตีเมเรดิธด้วยไม้เท้าในมือของเขา
เมื่อเห็นแบบนั้น เอโลอิสจึงรีบเข้าไปหยุดอาวุโสวิทแมน “ท่านอาวุโส กำลังจะทำอะไร? ท่านจะตีเมเรดิธได้ไงกัน? เธอต้องมีเหตุผลของเธอ!”
เหตุผลเหรอ?
เมื่อเห็นว่าเอโลอิสยังยืนกรานปกป้องเมเรดิธอยู่ กระทั่งในตอนนี้หัวใจของมาเดลีนเหมือนจมลงไปในธารน้ำแข็งอีกแล้ว
ในตอนแรกเธอเคยคิดว่าบางทีในวันที่ความจริงเปิดเผยออกมา เธอจะใจอ่อนและอยากกลับไปสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เธอคงจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลาของมัน
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของเอโลอิสที่ปกป้องเมเรดิธทำให้เธอผิดหวังและขมขื่นอย่างมาก
เมเรดิธน้ำตาไหลอาบแก้มลงบนใบหน้าของเธอ เธอดูเศร้าโศกในขณะนี้ “อาวุโสวิทแมน! ฉันไม่เคยคิดเรื่องการร่วมมือกับคนนอกเพื่อลักพาตัวแจ็คไปจริง ๆ เขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของฉันที่ฉันอุ้มท้องมาตลอดสิบเดือน ฉันจะเต็มใจทำมันได้ไง?!
เธอมองไปที่เจเรมี่ในขณะที่จับแขนเขาไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างในเชิงอ้อนวอน “เจเรมี่ ฉันเองก็ไม่อยากทำเช่นนั้นเหมือนกัน ฉันถูกมาเดลีนบังคับ!”
เมเรดิธเปลี่ยนความผิดทั้งหมดมายกให้มาเดลีนอีกครั้ง
‘บังคับโดยฉันงั้นเหรอ?’
มาเดลีนยิ้มอย่างไร้ร่องรอย
เธอไม่รู้ว่าเธอบังคับให้เมเรดิธ ทำเรื่องเลวทรามพวกนั้นได้ไง
มาเดลีนส่งสายตาไปทางเมเรดิธที่กำลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอได้ยินหล่อนพูดต่อไปว่า “ในตอนนั้น มาเดลีนทำร้ายฉันซ้ำ ๆ เธอทำร้ายแจ็คด้วย แม้ว่าฉันจะอดทนอยู่หลายครั้ง แต่มาเดลีนเองก็ยังคงท้าทายขีดจำกัดความอดทนของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า …”
“และทุกครั้งที่ฉันนึกถึงลูกคนแรกของเราที่ถูกเธอฆ่าไป หัวใจของฉันก็ปวดร้าวยิ่งกว่าเดิม เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันหลงผิดไปชั่วขณะและยุยงเเทนเนอร์ให้ทำเรื่องพวกนี้ …”
“เจเรมี่ ฉันถูกบังคับ มาเดลีนบังคับฉัน! เจเรมี่ คิดถึงลูกคนแรกของเราสิ คิดดูสิว่ามาเดลีนโหดร้ายแค่ไหน! ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเด็กที่แท้งไป หัวใจของฉันเจ็บมาก…”
เมเรดิธอธิบายออกมาเป็นชุด ห้องโถงขนาดใหญ่เงียบมากและเธอเป็นคนเดียวที่ร้องไห้
“เมเรดิธ อย่าร้องไห้ แม่อยู่นี่” เอโลอิสกอดเมเรดิธ ปลอบเธอด้วยความรัก
เห็นดังนั้น ฌอนเองก็ก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่ของเมเรดิธพร้อมกับปลอบใจเธอ “ทุกคนคงได้ยินแล้ว เมเรดิธถูกบังคับจากมาเดลีนผู้หญิงคนนั้น หากคุณต้องการตำหนิใครสักคน ให้โทษ มาเดลีน เธอรังแกเมเรดิธมาตลอด และเมเรดิธก็แค่ตอบโต้!”
มาเดลีนเกิดอาการวูบอีกครั้ง เมื่อได้ยินสิ่งที่ฌอนพูดออกมา หัวใจของเธอเยือกแข็งทันที
หัวใจของเธอดูเหมือนจะแตกสลายเป็นเศษส่วนตอนนี้ ชิ้นส่วนพวกนั้นตกลงไปในอก เธอเหมือนจะระเบิดออกมาจากการโจมตีที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงในคำพูดพวกนั้น
ในเวลานี้ คุณนายวิทแมนยังยืนหยัดอยู่เคียงข้างเมเรดิธอยู่ดี “ท่านคะ สิ่งที่เมเรดิธและพ่อแม่ของเธอพูดมีเหตุผล ทั้งหมดเป็นเพราะมาเดลีนแสวงหาความตายของเธอเอง! เธอฆ่าลูกคนแรกของเมเรดิธกับเจเรมี่ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นผลกรรมของเธอเองทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น!”
“เธอ…เธออย่ามาไร้สาระ!” อาวุโสวิทแมนโกรธมาก เขาชี้ไปที่เมเรดิธด้วยความโกรธ “ถ้าเธอยังพูดพล่อย ๆ ออกมาหลังจากทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นอยู่ และทุกคนยังคงปกป้องเธอแบบนี้งั้นหรอ!”
“แต่มันก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอดไม่ใชหรือไง! อาวุโสวิทแมน ลองคิดดูสิ ถ้าไม่ใช่เพราะมาเดลีนคนโง่ที่รังแกเมเรดิธมาตลอด เมเรดิธจะหันไปทำเรื่องพรรณนั้นได้ไงกัน? คนดีถูกรังแก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาควรถูกรังแก!”
คุณนายวิทแมนยืนอยู่ข้างเดียวกับเมเรดิธอย่างเด็ดเดี่ยว เธอหันหน้าไปมองหน้าเจเรมี่อย่างเย็นชา
“เจเรมี่ เมเรดิธไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของมาเดลีน! และมันก็ผ่านมานานมากแล้วไม่มีเหตุผลอะไรให้รื้อฟื้นมันอีก การหมั้นของแกกับเมเรดิธเป็นที่รู้ไปทั่วเกลนเดลแล้ว นี่แกจะพูดให้ยกเลิกออกไปแบบนั้นมันได้ที่ไหนกัน? อย่าพูดด้วยอารมณ์โกรธเลย”
ทันทีที่คุณนายวิทแมนพูดอย่างนั้นเมเรดิธก็รีบเงยหน้ามองเจเรมี่
“เจเรมี่ ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้วจริง ๆ คุณจะยกโทษให้ฉันไหม? มามีชีวิตที่ดีกันในอนาคต เถอะนะ?”
“ฉันไม่ได้กำลังพูดเล่นกับเธออยู่นะ” เจเรมี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา