บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 233
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 233
มาเดลีนสามารถลืมสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิตเธอได้ เธอสามารถลืมช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอและความรู้สึกที่สวยงามที่เธอมีขณะที่เธอหลงรักเจเรมี่อย่างสุดซึ้งไปได้ แต่เธอไม่มีทางไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่เห็นอยู่ต่อหน้าเธอไปตลอดชีวิต
ด้วยความงุนงงที่เกิดขึ้น เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบของที่ตกลงมาที่พื้นก่อนจะวางมันลงบนฝ่ามือของตัวเอง
หากใช้สายตามองมันแล้วนั้น มันก็เหมือนกับว่าเธอได้ยินเสียงคลื่นซัดเช่นเดียวกับกลิ่นและรสเค็มของลมทะเล แม้แต่คำสัญญาที่อ่อนโยนของเด็กชายยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอว่า “ลินนี่ เมื่อฉันโตขึ้น ฉันจะให้เธอมาเป็นเจ้าสาวของฉันนะ …”
กระนั้น คำสัญญานี้ได้ปลิดปลิวหายไปกับสายลมและจบลงด้วยการจมลงสู่ก้นทะเลไปในที่สุด สิ่งต่าง ๆ ไม่สามารถย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นได้อีกแล้วในชีวิตนี้ …
“ลินนี่ … ”
มาเดลีนหยุดคิดเรื่องเก่าในความทรงจำของเธอหันไปมองเจเรมี่ที่พึมพำอยู่คนเดียวเขายังคงเรียกหาลินนี่อยู่ไม่ขาด
ทว่าแล้ว ลินนี่ที่เขาเรียกหาไม่ใช่เธอแต่เป็นเมเรดิธ ผู้หญิงร้ายกาจที่เขาชอบเอาใจและรักโดยไม่มีเหตุผลหรือที่ไม้มีที่สิ้นสุด
มาเดลีนเบนสายตาจากเขามองไปที่เปลือกหอยหลากสีในมือของเธอและเย้ยหยันอย่างเย็นชา เธอไม่เคยคิดเลยว่าเจเรมี่ยังคงเก็บเปลือกที่เธอให้เขาครั้นที่ทั้งสองยังเป็นเด็กได้
“เจเรมี่ ทำไมยังต้องมาพวงเรื่องเเบบนี้ในเมื่อคุณมีเพียงเมเรดิธในหัวใจ? ลินนี่ที่รอคุณมานานกว่าสิบปีได้ตายไปนานแล้ว”
สายตาแสดงถึงความเกลียดชังของเธอปัดผ่านใบหน้าที่เมาของเขา ขณะที่เธอกำลังจะโยนเปลือกหลากสีในมือลงถังขยะ เจเรมี่คว้าข้อมือของเธอไว้ในทันใด
“ลินนี่ อย่าไป โปรดอย่าไป โอเค … ”
มาเดลีนมองชายขี้เมาที่หน้าแดงอย่างหนัก ขณะที่กำลังนอนคุยกับตัวเองอยู่ เธอรู้สึกถูกเยาะเย้ยและปัดมือเขาออกไป
“เจเรมี่ ลินนี่ที่รักของคุณกำลังแสดงละครตุ๊กตาทองอยู่ข้างนอกตอนนี้ ถ้าคุณคิดถึงเธอมาก ก็ไปหาเธอข้างนอกสิมานอนพึมพำอยู่ทำไม!”
หลังจากพูดออกมาอย่างไม่แยแสแล้ว มาเดลีนได้ทิ้งเจเรมี่ไว้ที่โซฟาคนเดียวและคว้ากระเป๋าออกมาไว้อย่างแน่วแน่
ทันทีที่เธอเปิดประตูออก เธอเห็นรอยยิ้มประหลาดใจบนใบหน้าของเมเรดิธ ที่ยังคงยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน แต่เมื่อพบว่าคนที่เปิดประตูให้เธอคือมาเดลีน รอยยิ้มของเธอสะพัดหายไปทันที เปลี่ยนเป็นสายตาดุดันได้จ้องตรงมาที่เธอแทน
มาเดลีนชายตาไปที่เมเรดิธด้วยสายตาที่ไม่ให้ค่า เธอกางร่มออกเดินเข้าไปหาและเมเรดิธอย่างสง่างาม โดยงอมุมริมฝีปากที่สวยงามของเธอขึ้นเล็กน้อย
“ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ คุณครอว์ฟอร์ด มันเลยทำให้ฉันเจ็บปวดมากที่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้ท่ามกลางสายฝนเป็นเวลานานเพื่อทำให้คุณวิทแมนเปลี่ยนใจ”
เมเรดิธก็หัวเราะอย่างเย็นชา หลังจากมาเดลีนพูดดังนั้น “จิ๊ วีล่า ควินน์ เธอไม่ต้องมาเสแสร้งต่อหน้าฉัน ให้ฉันบอกเธอกับเรื่องนี้ดีกว่า เธออย่าคิดว่าที่ทำนี่มันจะเพียงพอที่จะแยกเจเรมี่ออกจากฉันงั้นหรอ ทั้งก่อนหน้าและตอนนี้ ฉันคือผู้หญิงคนเดียวที่เจเรมี่รักอย่างสุดหัวใจ!”
เมเรดิธมองข้ามด้วยสายตาที่ยั่วยุและหยิ่งผยอง
“วีล่า ฉันแนะนำให้เธออย่าท้าทายความอดทนของฉันอีกเลย เมื่อเธอทำให้โกรธฉัน ระวังไว้ว่าจะไม่มีโอกาสให้เธอได้เสียใจด้วยซ้ำ! และที่เธอตบฉัน ฉันจะทำให้เธอต้องจ่ายคืนอย่างสาสม!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มาเดลีนก็ยิ้มอย่างร่าเริง “จู่ ๆ ฉันก็อยากจะตั้งหน้าตั้งตารอวันนั้นจังเลย”
“แก-”
“คุณวิทแมน ทำอาหารได้ดีเยี่ยมมาก ๆ เขาเชิญฉันมาชิมอาหารของเขาอีกครั้งในครั้งต่อไปด้วยนะ”
“วีล่า ควินน์ นี่เธอกล้าล้ำเส้น -”
“แต่คุณวิทแมนดื่มไม่ค่อยเก่งเอาซะเลย เขาเริ่มพูดด้วยอาการที่มึนเมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดื่มไปมากขนาดนั้น เขาจับมือฉันไว้และไม่ยอมปล่อยเลยตั้งแต่ไวน์แก้วที่สาม”
มาเดลีนขัดจังหวะเมเรดิธอย่างสบาย ๆ แต่ทันทีที่เธอพูดเรื่องนี้ ท่าทางของเมเรดิธเริ่มกระวนกระวายและวิตกกังวลเล็กน้อย
“เจเรมี่บอกอะไรกับเธอบ้าง?”
“เธออยากรู้ไหม? เธอเข้าไปถามเขาเองได้เลย”
ขณะที่เมเรดิธได้ยินดังนั้น เธอจ้องมาเดลีนอย่างอาฆาตก่อนจะวิ่งไปที่ประตูทันที
มาเดลีนมองไปที่เธออย่างใจเย็น “ฉันปิดประตูไปแล้ว ดูเหมือนว่าเธอต้องรอให้คุณวิทแมนมีสติขึ้นมาก่อนถ้าเธอต้องการเข้าไปข้างใน”
“แก …” เมเรดิธรู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก
เธอรีบเดินหันหลังกลับตามมาเดลีนไปและยกมือขึ้นอีกครั้งหมายจะตบเธอ
มาเดลีนจับข้อมือของเมเรดิธไว้อย่างง่ายดายอีกครั้ง สายตาของเธอคมเฉียบและคำพูดของเธอแข็งเหมือนน้ำในขณะนี้ “เมเรดิธ เธอไม่ควรโชว์ฟันและกรงเล็บต่อหน้าฉันนะ ฉันไม่ใช่มาเดลีน ที่จะถูกรังแกได้!”
เธอเตือนและสะบัดมือของเมเรดิธออกไปอย่างเด็ดขาด
อาจเป็นเพราะเธอยืนอยู่นานเกินไป ประกอบกับตอนนี้ที่เธอรู้สึกหวาดกลัวกับออร่าของมาเดลีน แต่เมื่อมือของเมริดิธถูกเหวี่ยงออกไปแบบนั้น มันก็ทำให้เธอถอยหลังเซออกไปไปหลายก้าว
“ถ้าเธอชอบเปียกฝนมาก ๆ ก็แค่ยืนแช่ไว้อย่างนั้นนะฉันไม่ยืนด้วยหรอก”